สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 2
เลี้ยงแน่นอนครับ
พ่อแม่ผมเลี้ยงผมมาดี กว่าเราจะหัดพูด กว่าเราจะคลาน กว่าเราจะเดิน กว่าเราจะโตขึ้นมาได้ ก็พ่อแม่ช่วยดูแลทั้งนั้น
กว่าทารกคนนึงจะโตขึ้นมาได้ แม่แทบไม่ได้นอน เพราะหลายครั้งต้องตื่นกลางดึก
พ่อแม่เลี้ยงดูเราขนาดนี้ เราต้องดูแลพ่อแม่ดีแน่นอนครับ
หัวหน้างานคุณ ให้เงินเดือนคุณ คุณยังทำงานทุกวันเพื่อตอบแทนเลย แล้วถ้าพ่อแม่คุณเลี้ยงคุณมาตั้งแต่เรายังเดินไม่ได้ คุณจะตอบแทนมั๊ย ก็ลองคิดดูเองครับ
ปล. ส่วนใครถ้าพ่อแม่ไม่ได้เลี้ยง หรือดูแลไม่ดีก็ต้องแยกเป็นแต่ละกรณีไปครับ
พ่อแม่ผมเลี้ยงผมมาดี กว่าเราจะหัดพูด กว่าเราจะคลาน กว่าเราจะเดิน กว่าเราจะโตขึ้นมาได้ ก็พ่อแม่ช่วยดูแลทั้งนั้น
กว่าทารกคนนึงจะโตขึ้นมาได้ แม่แทบไม่ได้นอน เพราะหลายครั้งต้องตื่นกลางดึก
พ่อแม่เลี้ยงดูเราขนาดนี้ เราต้องดูแลพ่อแม่ดีแน่นอนครับ
หัวหน้างานคุณ ให้เงินเดือนคุณ คุณยังทำงานทุกวันเพื่อตอบแทนเลย แล้วถ้าพ่อแม่คุณเลี้ยงคุณมาตั้งแต่เรายังเดินไม่ได้ คุณจะตอบแทนมั๊ย ก็ลองคิดดูเองครับ
ปล. ส่วนใครถ้าพ่อแม่ไม่ได้เลี้ยง หรือดูแลไม่ดีก็ต้องแยกเป็นแต่ละกรณีไปครับ
ความคิดเห็นที่ 1
คุณคือคนไทยแต่ยังไม่รู้จักคนไทยในประเทศไทยเท่าไหร่
ประเทศไทยมีคนระดับล่างที่หาเช้ากินค่ำ บ้านเช่าข้าวซื้อ
ชาวนาชาวไร่ทำนาหากินไปวัน ๆ ไม่มีรายได้ประจำ
เราคิดว่าประเทศไทยมีคนรากหญ้ามากกว่าคนที่มีอันจะกินและคนรวยนะ
คุณน่าจะเกิดมาในครอบครัวที่มีอันจะกิน พ่อแม่เลยไม่ต้องการให้ลุกมาส่งเสียมาให้เงิน มารับภาระ
แต่คนรากหญ้าหาเช้ากินค่ำ ชาวไรชาวนาที่ไม่มีรายได้ประจำ หากินไปวัน ๆ ถ้ามีลูกส่งเงินให้มันก็เป็นการเลี้ยงดูครอบครัว สืบต่อกันไป
คนรากหญ้าหลายครอบครัวยากจนแต่รักกันและผูกพันธุ์กันดีมาก เขาเลยดูแลกัน เช่นลูก ๆ ส่งเงินให้พ่อแม่ใช้หรือเก็บใว้ยามฉุกเฉิน
และก็มีคนอีกจำนวนหนึ่งที่ขี้เกียจไม่ทำมาหากิน รอแต่เงินจากลูก ๆ ส่งมาให้
ก็มีลูกอีกจำนวนหนึ่งที่เอาลูกไปให้พ่อแม่เลี้ยงให้ที่ต่างจังหวัด เขาเลยต้องหาเงินส่งให้พ่อแม่หรือญาติคนที่เลี้ยงดูลูกให้
สำหรับเราคิดว่า
คนเรามีต้นทุนไม่เท่ากัน คนรวยกับคนจนเลยมองกันคนละมุมค่ะ
ประเทศไทยมีคนระดับล่างที่หาเช้ากินค่ำ บ้านเช่าข้าวซื้อ
ชาวนาชาวไร่ทำนาหากินไปวัน ๆ ไม่มีรายได้ประจำ
เราคิดว่าประเทศไทยมีคนรากหญ้ามากกว่าคนที่มีอันจะกินและคนรวยนะ
คุณน่าจะเกิดมาในครอบครัวที่มีอันจะกิน พ่อแม่เลยไม่ต้องการให้ลุกมาส่งเสียมาให้เงิน มารับภาระ
แต่คนรากหญ้าหาเช้ากินค่ำ ชาวไรชาวนาที่ไม่มีรายได้ประจำ หากินไปวัน ๆ ถ้ามีลูกส่งเงินให้มันก็เป็นการเลี้ยงดูครอบครัว สืบต่อกันไป
คนรากหญ้าหลายครอบครัวยากจนแต่รักกันและผูกพันธุ์กันดีมาก เขาเลยดูแลกัน เช่นลูก ๆ ส่งเงินให้พ่อแม่ใช้หรือเก็บใว้ยามฉุกเฉิน
และก็มีคนอีกจำนวนหนึ่งที่ขี้เกียจไม่ทำมาหากิน รอแต่เงินจากลูก ๆ ส่งมาให้
ก็มีลูกอีกจำนวนหนึ่งที่เอาลูกไปให้พ่อแม่เลี้ยงให้ที่ต่างจังหวัด เขาเลยต้องหาเงินส่งให้พ่อแม่หรือญาติคนที่เลี้ยงดูลูกให้
สำหรับเราคิดว่า
คนเรามีต้นทุนไม่เท่ากัน คนรวยกับคนจนเลยมองกันคนละมุมค่ะ
ความคิดเห็นที่ 13
พ่อแม่ที่มีเงินมาก พอเลี้ยงตัวเองได้ เค้าก็พูดแบบนี้แหล่ะ คือ ให้ลูกเอาเงินไปเลี้ยงตัวเอง ไม่ต้องเอามาเลี้ยงพ่อแม่
แต่คุณรู้ไว้เถอะ ว่าการให้เงินพ่อแม่ แม้เพียงเล็กน้อย .. นี่คือ การเลี้ยงจิตใจ พ่อแม่ มันทำให้เค้ามีความสุขได้
การที่เค้าบอกว่าให้ลูกเลี้ยงดูยามแก่ ... บางครอบครัวที่ไม่มีเงินเก็บ ก็จำเป็นจริง แต่ในบางครั้ง มันไม่ใช่ การเลี้ยงดูด้วยเงิน แต่มันคือ การดูแลกันยามแก่ ยามเจ็บไข้ได้ป่วย การดูแลด้านจิตใจ ลดความเหงา
ถ้าจะเห็นแก่ตัวชนิดที่ไม่มองพ่อแม่เลย เอาแต่ตัวเองอย่างเดียว ... ก็ตามสบาย เพราะขึ้นกับการเลี้ยงดูแล้วละ
แต่คุณรู้ไว้เถอะ ว่าการให้เงินพ่อแม่ แม้เพียงเล็กน้อย .. นี่คือ การเลี้ยงจิตใจ พ่อแม่ มันทำให้เค้ามีความสุขได้
การที่เค้าบอกว่าให้ลูกเลี้ยงดูยามแก่ ... บางครอบครัวที่ไม่มีเงินเก็บ ก็จำเป็นจริง แต่ในบางครั้ง มันไม่ใช่ การเลี้ยงดูด้วยเงิน แต่มันคือ การดูแลกันยามแก่ ยามเจ็บไข้ได้ป่วย การดูแลด้านจิตใจ ลดความเหงา
ถ้าจะเห็นแก่ตัวชนิดที่ไม่มองพ่อแม่เลย เอาแต่ตัวเองอย่างเดียว ... ก็ตามสบาย เพราะขึ้นกับการเลี้ยงดูแล้วละ
แสดงความคิดเห็น
ปัจจุบันยังมีค่านิยมลูกเลี้ยงพ่อแม่อยู่ไหมครับ ในหมู่คนรุ่นใหม่
ส่วนตัวผมก็มองแบบนั้น พ่อแม่ให้กำเนิดเรามาส่งเสียเลี้ยงดูให้เราเติบโต มีการศึกษาที่เพรียบพร้อมเพื่อสรืางชีวิตของตัวเอง แล้วเราก็มีหน้าที่ดูแลตัวเงตั้งแต่แก่ไปจนตายไม่ใช่หน้าที่ของลูกเรา แต่เป็นหร้าที่ของเรา เมื่อเราพร้อม ฐานะมันคงเราถึงจะมีลูกได้และใช้ทุนทรัพย์ ความรักสร้างลูกคนนั้นไม่ให้ขาดอัไรทั้งความรู้ สังคม จิตใจ สุดท้ายลูกก็ออกไปโบยบินในโลกของเขา หน้าที่ของเราก็จบแล้ว ปล่อยให้ตัวเขากำหนดตัวตนของเขาเอง
ทีนี้เรามาพูดถึงค่านิยมที่ผมเคยได้ยินมาบ้าง จริง ๆ คือไม่ได้ยินจากรุ่นผมนะครับ แต่เป็นรุ่นพี่ ๆ หรือกระทู้เก่า ๆ ออกมาพูดเรื่องแนวนี้
บางคนให้เงินกว่า 30% ที่ตัวเองมี ไปจนถึงให้ทั้งหมดเลยก็มี ผมตกใจมากนะครับตอนที่ได้เห็นครั้งแรก แล้วจะใช้ชีวิตยังไงในโลกทุนนิยมแบบนี้ 30% นี้คือมากพอจะเอาไปลงทุนสร้างความมั่นคงในทุกเดิอนได้เลยนะ บางคนยังเก็บเงินไม่ถึง30%ต่อเดือนเลย แต่พอไปสอบถามว่าเขาอยู่อย่างไร หากไม่มีเงินพอบางคนก็ถึงกับกดเงินสดตากบัตรเครดิต เป็นหนี้เป็นสิน สุดท้ายมำงานทั้งชีวิตไม่มีแม้แต่เงินเก็บก็คงให้ลูกรุ่นถัดไปมาเลี้ยงดูตนเองต่อไปเรื่อย ๆ
แต่ถ้าเราเปลี่ยนเป็นนำเงินนั้นมาสร้างความมั่นคงให้กับตัวเอง สำรองเงินยามฉุกเฉิน ให้เท่าที่ควร อาทิ พ่อแม่ประสบอุบัติเหตุต้องผ่าตัดในจำนวนที่ท่านไม่สามารถจ่ายไหว แต่เราไหวก็ช่วยจ่ายให้ มาต่อนะครับเงินพวกนั้นน่าจะช่วยยกระดับฐานะของคน ๆ นั้นได้เลย พอแก่ไปก็ไมทต้องเป็นภาระของลูกรุ่นถัดไปอีกแล้ว เพราะสำรองเงิน อดออมเอาไว้คั้งแต่ยังหนุ่มยังสาว ลูกจะได้มีชีงิตใหม่เป็นของเขาไป คอยเลี้ยงดูลูก ๆ ยกระดับตัวเองไปต่อ ผมคิดว่าหลายครอบครัวล้มเลิกแนวคิดมีลูกไว้ใช้ไปมากแล้ว อย่างน้อย ๆ ก็ในหมู่เดื่อนผม