12 สิงหา วันแม่ที่แม่จากไปเป็นปีที่ 13

...เราขอเล่าเรื่องที่ผ่านมาในวันแม่แต่ละปีได้ไหมค่ะ

คือ แม่จากเราไปตั้งแต่เรา ป.3 ตอนนั้นอายุ 8 ขวบ ตอนเด็กๆก็ไม่ได้คิดอะไรเนาะแต่จำความได้ว่าแม่จากไปแล้ว  พอไปโรงเรียนในปีแรกที่แม่จากไปอะ คือ ป.4 พอเพลงค่าน้ำนมแม่ขึ้นเท่านั้นแหละ เราร้องไห้เลยทั้งคิดถึงแม่ทั้งไม่มีแม่ให้กราบเหมือนคนอื่น ความรู้สึกตอนนั้นคือคิดถึง อยากกอด เป็นครั้งแรกเลยที่รู้สึกว่าการสูญเสียมันยากที่จะทำใจ จน ป.5 ก็บอกพี่สาวว่าวันแม่หนูไม่ขอไปโรงเรียนได้ไหม เขาก็เข้าใจ พอขึ้น ม.1 คือมัธยมมันดีตรงที่ เขาให้แค่ ม.3 กับ ม.6 พาแม่ไปโรงเรียน เราม.1เราก็สบายไป เราก็นั่งๆเรียนอยู่พอหอประชุมเปิดเพลง ค่าน้ำนม เราก็ได้ยินใช่ป่ะ โห้วว สตั้นเลยมันรู้สึกคิดถึงแม่ขึ้นมาอะมันจุกอก ต้องนั่งนิ่งๆกลัวน้ำตาไหล จนขึ้นมา ม.3 หัวหน้าระดับประกาศให้ พี่ ม.3 กับ ม.6 พาแม่มาโรงเรียนด้วย เราก็ไปบอกพี่สาวว่าหนูไม่ไปโรงเรียนนะเขาให้พาแม่ไป เราก็หยุดพออีกวันไปเรียนเพื่อนก็ถามทำไมไม่มาเมื่อวาน ก็บอกไปไม่มีแม่ แม่เราเสียนานแล้ว เพื่อนก็ถามคนนั้นไม่ใช่แม่หรอนึกว่าแม่อะ (เราห่างกับพี่สาวคนที่อยู่ด้วยคือคนโต 22ปี)
*นั้นแหละค่ะชีวิตในวันเรียน ประถมศึกษา/มัธยมศึกษา

...คือเราเสียพ่อตั้งแต่ 3ขวบ แม่เสียตั้งแต่เรา 8ขวบ พ่ออายุ 44ปี แม่อายุ 48ปี ...ตั้งแต่แม่เสียเราก็ไปอยู่กับพี่คนนั้นบ้างคนนี้บ้าง เหนื่อยมากๆ ต้องคอยปรับตัวเข้าหาเพื่อนใหม่เรื่อยๆ สมัยประถมเปลี่ยน4ครั้ง มัธยมเปลี่ยน2ครั้ง  จุดพีคมันอยู่ตอนเรา ป.3 เทอม 2 ค่ะพอแม่เสียเราก็ย้ายมาอยู่กับครอบครัวสามีของพี่สาวคนที่2 แต่พี่เขยกับพี่สาวเราไม่ได้อยู่ด้วยหรอกนะ ตอนนั้นเราอยู่หนองคาย อาศัยอยู่กับ สองตายาย เรา ลูกติดพี่สาว และลูกพี่สาวกับพี่เขยคนปัจจุบัน เธอรู้ป่ะตอนที่เราอยู่ที่นั้นเราทรมานมากเหนื่อยสุดๆ ตื่นตี4 มาทำงานบ้านเสร็จปุ๊ปมาอ่านพระคัมภีร์เพราะที่บ้านเขานับถือศาสนาคริสเตียน เสร็จแล้วอาบน้ำแต่ตัวไปเปิดร้านก๋วยเตี๋ยวที่อนู่ห่างออกไป 3 กิโล เราไปโรงเรียนสายทุกวันไปถึงเขาเข้าแถวกันหมดแล้ว ตอนแรกก็อายหลังๆก็ชินแล้วสายประจำ 2 คน ครูจำหน้าได้ เย็นวันศุกร์ต้องรีบทำการบ้านและรีบนอนเพราะวันเสาร์ต้องไปทำไร่ทำสวนยาง เราต้องหิ้วน้ำทารดต้นยางที่กำลังโตอะ ครั้งละ 2 ปูนถัง กับความสูง 144 ซม. กับน้ำน้ำหนักที่เหมือนจะไม่ถึงเกณฑ์มาตรฐาน สวนยางมันเยอะมาก และวันอาทิตย์ก็เข้าโบสถ์ กิจวัตรประจำวันวนอยู่แบบนี้ไปเรื่อยๆ จนมาวันหนึ่งเราเล่นอยู่หลังรถ 6 ล้อ แล้วหลานชายเขาร้องไห้ขึ้นมาเราก็งงและเข้าไปโอ๋ว่าเป็นอะไร สรุปคือดินเข้าตา แล้วมันร้องไห้ไปฟ้องปู่มันอยู่ๆปู่มันเดินมาพร้อมกับหัวข่าแก่ๆที่พึ่งดึงออกจากกอข่าหลังบ้าน แล้วฟาดมาที่หัวเราเต็มแรง เราเจ็บมากจนต้องไห้แต่ร้องเสียงดังไม่ได้กลัวเขาจับมาตีซ้ำ มันทำให้เราไม่สบายเป็นไข้ตัวร้อนเลยเราไม่สบายเข้าวันที่ 3 เรานอนอยู่หลังรถ 6 ล้อ เราปวดหัวมากตัวก็ร้อนเราคิดนะว่าอยากฆ่าตัวตาย นอนทรมานคิดถึงแม่อยากตายไปอยู่กับแม่เลย มันเหนื่อยมากไปอยู่กับคนที่ไม่ใช่ญาติไปเป็นคนรับใช้เขา เราเคลิ้มๆหลับประมาน ห้าโมงเย็นมีรถเก๋งมาจอดไม่มีแม้แต่แรงลุกขึ้นอะมองเห็รเฉยๆ แล้วตืออะไรรู้ป่ะพี่สาวคนโตเรามาเยี่ยมเหมือนจะเป็นวันแม่นี่แหละมาพร้อมกับพี่สาวคนรองและพี่เขย พี่สาวคนโตมาจับตัวเราไปกอดเขาตกใจเลยตัวร้อนมากทำไมมานอนตรงนี้ เราก็ตอบว่าหนูเหนื่อย พี่สาวก็พาเราไปโรงพยาบาลเลยแล้วพี่สาวเราก็ตัดสินใจพาเรามาจากที่นั้นเราดีใจมากได้หลุดพ้นสักที 6เดือนที่ไปอยู่ที่นั้นมันเหมือน 6ปีเลยมีเหตุการณ์มากมายที่เราไม่ได้เล่า มีความทรงจำที่เลวร้ายต่างๆ


ตอนนี้เราอายุ 21ปีแล้วกำลังจะจบปริญญาตรี ขอบคุณพี่สาวคนโตและคนที่ 3 ของเรามากที่ส่งเสียให้เราเรียนจนจบโดยไม่ได้กู้ยืมเลยสักบาท โดยเฉพาะพี่สาวคนที่ 3 ของเราผู้เป็นให้ทุกๆอย่าง ผู้ที่ให้ทุกอย่างกับเราให้เราไม่อายคนอื่น ให้เรามีเหมือนคนอื่น ...ไว้หนูเรียนจบมีงานทำหนูจะให้ทุกอย่างที่สามารถให้ได้กลับคืนนะ รักนะแม่คนที่ 2

สัญญานะหนูจะเป็นคนดีที่ประสบความสำเร็จให้ได้
เป็นกำลังใจให้หนูด้วยนะคะ

*อาจจะไม่เข้าใจบ้างแต่ก็ขอบคุณนะคะที่อ่านเรื่องราวของหนู

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่