อ.ธรรมศาสตร์ ยกกม.อาญาแจง ถ่ายภาพม็อบ ตามหมอเหรียญทอง มีความผิด!
https://www.khaosod.co.th/update-news/news_4596279
อ.ธรรมศาสตร์ ยกกม.อาญาแจง ถ่ายภาพม็อบ ตามหมอเหรียญทอง มีความผิด!
กรณี พล.ต.นพ.
เหรียญทอง แน่นหนา เจ้าของโรงพยาบาลมงกุฎวัฒนะ โพสต์เฟซบุ๊ก ระบุว่า ให้คนแฝงตัวเข้าไปในม็อบนักศึกษา แล้วถ่ายภาพส่งมาที่เฟซ
เหรียญทอง แน่นหนา หรือ e-mail ชื่อ nanna@mongkutwattana.co.th โดยจะนำแจกจ่าย'
บัญชีบุคคลที่บริษัทห้างร้าน หน่วยงานรัฐ สถานศึกษา ห้ามรับเข้าทำงานหรือเข้าศึกษาต่อหรือให้ทุน' ไปยังหน่วยงานรัฐและเอกชนต่างๆ
ต่อมา ผศ.
สาวตรี สุขศรี อาจารย์ประจำคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ โพสต์ข้อกฎหมาย ตอบโต้กรณี
เหรียญทอง ความว่า
ผู้ไปร่วมชุมนุมท่านใด พบว่าตัวเองถูกถ่ายรูปจนเห็นใบหน้าอย่างชัดเจน โดยคนถ่ายไม่ขออนุญาต และรู้สึกเดือดร้อนรำคาญ หรือรู้สึกถูกคุกคาม มีข้อควรทราบ และแนวทางปฏิบัติตามกฏหมาย ดังนี้นะฮะ
1) ไอ้คนใดก็ตาม ที่ดันมาเที่ยวถ่ายรูปคนอื่น เพราะหลงเชื่อตามคำประกาศของนายเหรียญทอง ผู้ถ่ายรูปนั้นมีความผิดลหุโทษ ตามมาตรา 397 ประมวลกฎหมายอาญา ...ดังนั้น
2) หากผู้ร่วมชุมนุมท่านใด พบเห็นการกระทำ โดยเฉพาะอย่างยิ่งพบว่าตัวเองตกเป็นเหยื่อ ถูกถ่ายรูปในลักษณะดังกล่าว แนะนำว่า สะกิดบอกเพื่อนๆ หรือคนที่อยู่ใกล้เคียง ให้ช่วยกันเข้าไปห้ามปรามหรือตักเตือนเขาคนนั้น หากไม่เชื่อ หรือดึงดัน ให้จับตัวบุคคลดังกล่าวไว้ “โดยสุภาพ” ...ขอย้ำว่า ควรกระทำโดยสุภาพที่สุดเท่าที่จะทำได้ ...ไม่ต้องไปหยาบคายด้วย หรือใช้กำลังกับเขา
(นอกจากเพื่อเหตุผลว่าให้สามารถจับตัวไว้ หรือเอาพยานหลักฐานยืนยันการกระทำผิดของเขามาได้เท่านั้น) ทั้งนี้ เพื่อป้องกันตัวเอง ไม่ให้เขาแจ้งความกลับท่านได้ ในฐานอื่นๆ เช่น ดูหมิ่นซึ่งหน้า หรือ ใช้กำลังทำร้าย อันเป็นลหุโทษตามป.อาญาเหมือนกัน
3) เมื่อจับตัวเขาได้ หรือได้พยานหลักฐานเพื่อยืนยันการกระทำผิดของเขามาแล้ว ให้นำตัว หรือหลักฐานนั้นไปแจ้งความดำเนินคดีที่ สน.ใกล้เคียง โดยแจ้งข้อหาคุกคาม หรือทำให้เดือดร้อนรำคาญตาม มาตรา 397 ป.อาญา วรรคแรก
4) มาตรา 397 ป.อาญา วรรคแรก นั้น เป็นความผิดลหุโทษ ซึ่งมี "โทษปรับสถานเดียว" ไม่เกิน 5000 บาท ดังนั้น พนักงานสอบสวน ประจำสน. มีอำนาจเปรียบเทียบปรับได้เลยทันที (มาตรา 38 ป.วิอาญา) เพื่อให้ “คดีอาญาเลิกกัน” โดยไม่ต้องยุ่งยากถึงโรงถึงศาล (มาตรา 37 ป.วิอาญา)
5) ถ้าตำรวจไม่ยอมรับแจ้งความ ให้ท่านไต่ถามเหตุผลจากเจ้าหน้าที่นายนั้นอย่างเป็นเรื่องเป็นราว (ถ่ายคลิปไว้ด้วยก็ได้) แล้วยืนยันความเดือดร้อนของท่านไปว่า รู้สึกถูกคุกคามอย่างไร โดยเอาโพสต์ของ นายเหรียญทองฯ นี่แหละโชว์ประกอบ ..ถ้าตำรวจยังไม่ยอมรับแจ้งความ ไม่ดำเนินคดีให้ หรือไม่เปรียบเทียบปรับใดๆ อีก..จึงค่อยแจ้งความตำรวจหรือเจ้าหน้าที่นายนั้นด้วยเลย ในข้อหา “ละเว้นไม่ปฏิบัติหน้าที่” เพื่อให้ผู้อื่นเสียหายหรือไม่ได้รับความเป็นธรรม ตามมาตรา 157 ป.อาญา
ปล.
1) ข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้องทั้งหมดอยู่ในภาพด้านล่างนี้ ขอให้เอาไปใช้ให้เป็นประโยชน์เลย
2) การกระทำของนายเหรียญทอง เอง ตามโพสต์ อาจยังไ/ม่เข้าข่าย หรือทำอะไรเขาไม่ได้ ตามกฎหมายอาญา (ดู มาตรา 85 ผู้โฆษณาให้ผู้อื่นกระทำผิด)
ดังนั้น ใครก็ตามที่อยากคุกคามคนอื่นเพียงเพราะเขาเห็นต่างจากคุณ คลั่งชาติหรือคลั่งอะไรก็ไม่รู้ แล้วหลงเชื่อตามคำบอกกล่าว อยาก "จิตอาสา" นักกับนายคนนี้ ...คุณเองจะถูกปรับ 5000 ตามกม. อย่างโดดเดี่ยว และเดียวดาย
https://www.facebook.com/sawatree.suksri/posts/3423763714309536
"ทิชา" ถามกสม.พฤติกรรมหมอเหรียญทอง เข้าข่ายคุกคาม เสรีภาพนร.-คนหนุ่มสาวหรือไม่
https://www.matichon.co.th/politics/news_2284008
“ทิชา” ถามกสม.พฤติกรรมหมอเหรียญทอง เข้าข่ายคุกคาม เสรีภาพนร.-คนหนุ่มสาวหรือไม่
เมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม นาง
ทิชา ณ นคร ผู้อำนวยการศูนย์ฝึกและอบรมเด็กและเยาวน(ชาย) บ้านกาญจนาภิเษก ออกมาโพสต์เฟซบุ๊กพร้อมภาพพล.ต.นพ.
เหรียญทอง แน่นหนา ผู้อำนวยการโรงพยาบาลมงกุฎวัฒนะว่า
ถามคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ .พฤติกรรมแบบนี้ของนายแพทย์คนนี้เข้าข่ายคุกคามต่อการ
แสดงออกของนักเรียน คนหนุ่มสาว ที่เป็นสิทธิ เสรีภาพตามระบบอบประชาธิปไตย ตามอนุสัญญาว่าด้วยสิทธิเด็กหรือไม่
ถามแพทยสภา …
ในฐานะแพทย์ซึ่งน่าจะเป็นอาชีพที่มีความเป็นสากลต่อมนุษยชาติสูงกว่าอาชีพอื่นๆ พฤติกรรมแบบนี้ข้ามเส้นจริยธรรมแล้วหรือยัง ถามประชาชนที่อาจเป็นคนไข้ของแพทย์ท่านนี้ …
นี่คือแพทย์ที่ประชาชนอย่างเรา พร้อมจะมอบชีวิตของเราให้เขารับผิดชอบหรือไม่
ถามนักเรียนที่ร่วมเคลื่อนไหว …
นี่คือแบบอย่างของแพทย์ที่เหล่านักเรียนควรจะทบทวนกันหรือไม่ อย่างไร โดยเฉพาะในฐานะผู้ผ่านการร่ำ
เรียน เล่าเรียนในสถาบันการศึกษาที่มาจากภาษีของประชาชน
https://www.facebook.com/photo.php?fbid=4303269109746778&set=a.209924755747921&type=3
'หมอพรทิพย์'ลั่นคดี'บอส' ถึงเวลาปฏิรูปกระบวนการยธ.
https://www.dailynews.co.th/crime/787061
"หมอพรทิพย์" ชี้คดี"บอส อยู่วิทยา" ต้องปฏิรูปกระบวนการยุติธรรม ตั้งข้อสงสัยการสั่งของอัยการ และผู้บังคับบัญชาตำรวจ ทำไมเหมือนเป็นการตัดสินใจโดยลำพัง
เมื่อวันที่ 28 ก.ค.แพทย์หญิง คุณหญิง
พรทิพย์ โรจนสุนันท์ สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก "
Porntip Rojanasunan" เกี่ยวกับคดีของ"
บอส อยู่วิทยา" โดยมีเนื้อหาว่า
ในที่สุดสถานการณ์ก็เดินเข้าสู่เส้นทางกรรม แผนปฏิรูปประเทศถูกกำหนดกรอบไว้ว่าต้องสร้างระบบรวบรวมพยานหลักฐานใหม่
เจ้าหน้าที่ต้องมีความรู้ มีอำนาจในการเก็บหลักฐาน ส่งตรวจ ทำรายงาน ไม่ใช่ปล่อยให้ใช้ดุลพินิจ เลือกเก็บ เลือกตรวจ เลือกทำสำนวนโดยพนักงานสอบสวน พยานหลักฐานจะเข้าสู่สำนวนทั้งหมด อัยการและศาลจะได้เห็นในสำนวน ผู้ตรวจพิสูจน์ทางนิติวิทยาศาสตร์ต้องมีระบบประกันคุณภาพ มีความรู้มีความสามารถมีคุณธรรม ความเร็วรถจะแตกต่างกันขนาดนี้ไม่ได้
การปฏิรูปกระบวนการยุติธรรมเดินหน้าไม่ได้เลย เพราะไม่มีเจ้าภาพและยังมีหน่วยต่อต้าน แต่กรณีนี้มีประเด็นเรื่องการสั่งของอัยการ และผู้บังคับบัญชาตำรวจ ที่ทำไมจึงดูเหมือนเป็นการตัดสินใจโดยลำพัง ที่หนักสุดเห็นจะเป็นกรรมาธิการทางการเมืองทั้งระดับสส.และสว.ที่ต้องโปร่งใสตรวจสอบได้
JJNY : อ.ยกกม.แจง ถ่ายภาพตามเหรียญทองมีความผิด!/ทิชาถามกสม./หมอพรทิพย์ลั่นถึงเวลาปฏิรูปยธ./คลังเตรียมลดจีดีพี63ใหม่
https://www.khaosod.co.th/update-news/news_4596279
กรณี พล.ต.นพ.เหรียญทอง แน่นหนา เจ้าของโรงพยาบาลมงกุฎวัฒนะ โพสต์เฟซบุ๊ก ระบุว่า ให้คนแฝงตัวเข้าไปในม็อบนักศึกษา แล้วถ่ายภาพส่งมาที่เฟซ เหรียญทอง แน่นหนา หรือ e-mail ชื่อ nanna@mongkutwattana.co.th โดยจะนำแจกจ่าย'บัญชีบุคคลที่บริษัทห้างร้าน หน่วยงานรัฐ สถานศึกษา ห้ามรับเข้าทำงานหรือเข้าศึกษาต่อหรือให้ทุน' ไปยังหน่วยงานรัฐและเอกชนต่างๆ
ต่อมา ผศ.สาวตรี สุขศรี อาจารย์ประจำคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ โพสต์ข้อกฎหมาย ตอบโต้กรณี เหรียญทอง ความว่า
ผู้ไปร่วมชุมนุมท่านใด พบว่าตัวเองถูกถ่ายรูปจนเห็นใบหน้าอย่างชัดเจน โดยคนถ่ายไม่ขออนุญาต และรู้สึกเดือดร้อนรำคาญ หรือรู้สึกถูกคุกคาม มีข้อควรทราบ และแนวทางปฏิบัติตามกฏหมาย ดังนี้นะฮะ
1) ไอ้คนใดก็ตาม ที่ดันมาเที่ยวถ่ายรูปคนอื่น เพราะหลงเชื่อตามคำประกาศของนายเหรียญทอง ผู้ถ่ายรูปนั้นมีความผิดลหุโทษ ตามมาตรา 397 ประมวลกฎหมายอาญา ...ดังนั้น
2) หากผู้ร่วมชุมนุมท่านใด พบเห็นการกระทำ โดยเฉพาะอย่างยิ่งพบว่าตัวเองตกเป็นเหยื่อ ถูกถ่ายรูปในลักษณะดังกล่าว แนะนำว่า สะกิดบอกเพื่อนๆ หรือคนที่อยู่ใกล้เคียง ให้ช่วยกันเข้าไปห้ามปรามหรือตักเตือนเขาคนนั้น หากไม่เชื่อ หรือดึงดัน ให้จับตัวบุคคลดังกล่าวไว้ “โดยสุภาพ” ...ขอย้ำว่า ควรกระทำโดยสุภาพที่สุดเท่าที่จะทำได้ ...ไม่ต้องไปหยาบคายด้วย หรือใช้กำลังกับเขา
(นอกจากเพื่อเหตุผลว่าให้สามารถจับตัวไว้ หรือเอาพยานหลักฐานยืนยันการกระทำผิดของเขามาได้เท่านั้น) ทั้งนี้ เพื่อป้องกันตัวเอง ไม่ให้เขาแจ้งความกลับท่านได้ ในฐานอื่นๆ เช่น ดูหมิ่นซึ่งหน้า หรือ ใช้กำลังทำร้าย อันเป็นลหุโทษตามป.อาญาเหมือนกัน
3) เมื่อจับตัวเขาได้ หรือได้พยานหลักฐานเพื่อยืนยันการกระทำผิดของเขามาแล้ว ให้นำตัว หรือหลักฐานนั้นไปแจ้งความดำเนินคดีที่ สน.ใกล้เคียง โดยแจ้งข้อหาคุกคาม หรือทำให้เดือดร้อนรำคาญตาม มาตรา 397 ป.อาญา วรรคแรก
4) มาตรา 397 ป.อาญา วรรคแรก นั้น เป็นความผิดลหุโทษ ซึ่งมี "โทษปรับสถานเดียว" ไม่เกิน 5000 บาท ดังนั้น พนักงานสอบสวน ประจำสน. มีอำนาจเปรียบเทียบปรับได้เลยทันที (มาตรา 38 ป.วิอาญา) เพื่อให้ “คดีอาญาเลิกกัน” โดยไม่ต้องยุ่งยากถึงโรงถึงศาล (มาตรา 37 ป.วิอาญา)
5) ถ้าตำรวจไม่ยอมรับแจ้งความ ให้ท่านไต่ถามเหตุผลจากเจ้าหน้าที่นายนั้นอย่างเป็นเรื่องเป็นราว (ถ่ายคลิปไว้ด้วยก็ได้) แล้วยืนยันความเดือดร้อนของท่านไปว่า รู้สึกถูกคุกคามอย่างไร โดยเอาโพสต์ของ นายเหรียญทองฯ นี่แหละโชว์ประกอบ ..ถ้าตำรวจยังไม่ยอมรับแจ้งความ ไม่ดำเนินคดีให้ หรือไม่เปรียบเทียบปรับใดๆ อีก..จึงค่อยแจ้งความตำรวจหรือเจ้าหน้าที่นายนั้นด้วยเลย ในข้อหา “ละเว้นไม่ปฏิบัติหน้าที่” เพื่อให้ผู้อื่นเสียหายหรือไม่ได้รับความเป็นธรรม ตามมาตรา 157 ป.อาญา
ปล.
1) ข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้องทั้งหมดอยู่ในภาพด้านล่างนี้ ขอให้เอาไปใช้ให้เป็นประโยชน์เลย
2) การกระทำของนายเหรียญทอง เอง ตามโพสต์ อาจยังไ/ม่เข้าข่าย หรือทำอะไรเขาไม่ได้ ตามกฎหมายอาญา (ดู มาตรา 85 ผู้โฆษณาให้ผู้อื่นกระทำผิด)
ดังนั้น ใครก็ตามที่อยากคุกคามคนอื่นเพียงเพราะเขาเห็นต่างจากคุณ คลั่งชาติหรือคลั่งอะไรก็ไม่รู้ แล้วหลงเชื่อตามคำบอกกล่าว อยาก "จิตอาสา" นักกับนายคนนี้ ...คุณเองจะถูกปรับ 5000 ตามกม. อย่างโดดเดี่ยว และเดียวดาย
https://www.facebook.com/sawatree.suksri/posts/3423763714309536
"ทิชา" ถามกสม.พฤติกรรมหมอเหรียญทอง เข้าข่ายคุกคาม เสรีภาพนร.-คนหนุ่มสาวหรือไม่
https://www.matichon.co.th/politics/news_2284008
“ทิชา” ถามกสม.พฤติกรรมหมอเหรียญทอง เข้าข่ายคุกคาม เสรีภาพนร.-คนหนุ่มสาวหรือไม่
เมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม นางทิชา ณ นคร ผู้อำนวยการศูนย์ฝึกและอบรมเด็กและเยาวน(ชาย) บ้านกาญจนาภิเษก ออกมาโพสต์เฟซบุ๊กพร้อมภาพพล.ต.นพ.เหรียญทอง แน่นหนา ผู้อำนวยการโรงพยาบาลมงกุฎวัฒนะว่า
ถามคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ .พฤติกรรมแบบนี้ของนายแพทย์คนนี้เข้าข่ายคุกคามต่อการ
แสดงออกของนักเรียน คนหนุ่มสาว ที่เป็นสิทธิ เสรีภาพตามระบบอบประชาธิปไตย ตามอนุสัญญาว่าด้วยสิทธิเด็กหรือไม่
ถามแพทยสภา …
ในฐานะแพทย์ซึ่งน่าจะเป็นอาชีพที่มีความเป็นสากลต่อมนุษยชาติสูงกว่าอาชีพอื่นๆ พฤติกรรมแบบนี้ข้ามเส้นจริยธรรมแล้วหรือยัง ถามประชาชนที่อาจเป็นคนไข้ของแพทย์ท่านนี้ …
นี่คือแพทย์ที่ประชาชนอย่างเรา พร้อมจะมอบชีวิตของเราให้เขารับผิดชอบหรือไม่
ถามนักเรียนที่ร่วมเคลื่อนไหว …
นี่คือแบบอย่างของแพทย์ที่เหล่านักเรียนควรจะทบทวนกันหรือไม่ อย่างไร โดยเฉพาะในฐานะผู้ผ่านการร่ำ
เรียน เล่าเรียนในสถาบันการศึกษาที่มาจากภาษีของประชาชน
https://www.facebook.com/photo.php?fbid=4303269109746778&set=a.209924755747921&type=3
'หมอพรทิพย์'ลั่นคดี'บอส' ถึงเวลาปฏิรูปกระบวนการยธ.
https://www.dailynews.co.th/crime/787061
"หมอพรทิพย์" ชี้คดี"บอส อยู่วิทยา" ต้องปฏิรูปกระบวนการยุติธรรม ตั้งข้อสงสัยการสั่งของอัยการ และผู้บังคับบัญชาตำรวจ ทำไมเหมือนเป็นการตัดสินใจโดยลำพัง
เมื่อวันที่ 28 ก.ค.แพทย์หญิง คุณหญิง พรทิพย์ โรจนสุนันท์ สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก "Porntip Rojanasunan" เกี่ยวกับคดีของ"บอส อยู่วิทยา" โดยมีเนื้อหาว่า
ในที่สุดสถานการณ์ก็เดินเข้าสู่เส้นทางกรรม แผนปฏิรูปประเทศถูกกำหนดกรอบไว้ว่าต้องสร้างระบบรวบรวมพยานหลักฐานใหม่
เจ้าหน้าที่ต้องมีความรู้ มีอำนาจในการเก็บหลักฐาน ส่งตรวจ ทำรายงาน ไม่ใช่ปล่อยให้ใช้ดุลพินิจ เลือกเก็บ เลือกตรวจ เลือกทำสำนวนโดยพนักงานสอบสวน พยานหลักฐานจะเข้าสู่สำนวนทั้งหมด อัยการและศาลจะได้เห็นในสำนวน ผู้ตรวจพิสูจน์ทางนิติวิทยาศาสตร์ต้องมีระบบประกันคุณภาพ มีความรู้มีความสามารถมีคุณธรรม ความเร็วรถจะแตกต่างกันขนาดนี้ไม่ได้
การปฏิรูปกระบวนการยุติธรรมเดินหน้าไม่ได้เลย เพราะไม่มีเจ้าภาพและยังมีหน่วยต่อต้าน แต่กรณีนี้มีประเด็นเรื่องการสั่งของอัยการ และผู้บังคับบัญชาตำรวจ ที่ทำไมจึงดูเหมือนเป็นการตัดสินใจโดยลำพัง ที่หนักสุดเห็นจะเป็นกรรมาธิการทางการเมืองทั้งระดับสส.และสว.ที่ต้องโปร่งใสตรวจสอบได้