แพทย์ชาวญี่ปุ่นสองคนถูกตำรวจจับ หลังจากสังหารผู้ป่วยติดเตียงที่ขอร้องให้ช่วยจัดการให้เธอได้จากโลกนี้ไปโดยสงบ
*******
*******
ผู้ป่วยหญิงคนนึงที่ทุกข์ทรมานจากโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรง ( ALS ) มาหลายปี ได้ถูกนำตัวส่งตัวโรงพยาบาลหลังจากที่เธอเสียชีวิตที่บ้าน
" แต่ผลจากการชันสูตรศพที่ออกมา #พบว่าในร่างกายของเธอมียานอนอยู่หลับเป็นจำนวนมาก “
หลังจากนั้น ตำรวจได้ตรวจสอบกล้องวงจรปิดใกล้ที่พักของเธอ และพบว่าก่อนที่เธอจะเสียชีวิต มีหมอสองคนมาเยี่ยมเธอที่บ้าน
ตำรวจจึงอนุมานได้ว่าหมอสองคนนั้น น่าจะเป็นคนที่ฆ่าผู้หญิงคนนี้ โดยวิธีฉีดยานอนหลับจำนวนมากเข้าเส้นเลือด จนเธอเสียชีวิต
#ตำรวจเข้าจับกุมหมอทั้งสองคน ในเช้าวันที่ 23 กรกฎาคม 2020
********
********
หมอที่โดนจับทั้งสองคน คือ
- หมอโอคุโบ ( 42 )
- หมอ ยามาโมโต้ ( 43 )
จากผลการสอบสวนต่อมาทำให้ทราบว่า ทั้งหมดรู้จักกันผ่านทางโซเชี่ยลฯ โดยไม่เคยพบเจอกันมาก่อน
ผู้ตายได้ว่าจ้างให้หมอทั้งสองคนลงมือฆ่าเธอให้ตายอย่างสงบ และได้โอนเงินค่าจ้างเข้าบัญชีของหมอเป็นจำนวน 1 ล้านเยน
*******
*******
#ยูริผู้เสียชีวิต อายุ 51 ปี
เธอเคยอาศัยอยู่ที่ต่างประเทศมาหลายปี ก่อนที่จะกลับมาทำงานเป็นสถาปนิกที่โตเกียว และป่วยเป็น ALS ตั้งแต่ปี 2011 โดยเริ่มจากอาการเล็กๆ น้อยๆ เช่น ล้มบ่อยๆ ควบคุมตัวเองไม่ได้ ต้องใช้ไม้เท้าช่วยพยุง ฯลฯ
อาการป่วยของเธอหนักขึ้นในเวลาไม่นาน ร่างกายขยับไม่ได้ พูดไม่ได้ กินเองก็ไม่ได้ เธอไม่สามารถช่วยเหลืออะไรตัวเองได้ทั้งนั้น
แม้แต่การหายใจก็ยังต้องใช้เครื่องช่วย เธออยู่อย่างสิ้นหวังกับอาการป่วยนี้มานานถึง 7 ปี
แม่ของเสียชีวิตจากอาการป่วยไปเมื่อ 20 ปี ที่แล้ว การที่ได้เห็นแม่ต้องทุกข์ทรมานก่อนตาย เป็นภาพจำฝังใจที่โหดร้ายกับเธอมากๆ
พ่อของเธอยังมีชีวิตอยู่ แต่ไม่ได้อยู่กับเธอ หลังจากแม่ตายพ่อก็มีชีวิตใหม่ในแบบของพ่อ
ส่วนเธออาศัยอยู่กับผู้ดูแลจากสวัสดิการการดูแลคนพิการของทางรัฐ ตลอด 24 ชั่วโมง แต่ในความเป็นจริง #เธอรู้สึกว่าเธออยู่และสู้กับความเจ็บป่วยเพียงลำพังเท่านั้น
เธอบอกกับทุกคนเสมอๆ เรื่องที่ว่าเธออยากไปสวิตเซอร์แลนด์เพื่อขอเข้ารับการุณยฆาต เธอพูดถึงความต้องการที่จะตายอยู่ตลอดเวลา
สุดท้ายเธอได้ทำบล็อกขึ้นมา เพื่อบอกเล่าถึงการปราถนาที่จะตาย และเธอยังโพสต์เกี่ยวกับการอยากจะตายลงในทวิตฯ บ่อยครั้ง
#คนที่เข้ามาตอบทวิตฯ เธอบ่อยๆ ก็คือหมอโอคุโบ
ตอนที่ได้รู้ว่าหมอโอคุโบตกลงยินดีที่จะมอบความตายให้เธออย่างที่เธอปราถนา เธอถึงกับร่ำไห้ด้วยความดีใจและตื้นตัน เธอยังได้โพสต์ขอบคุณหมออีกด้วย
*********
*********
#หมอโอคุโบ ( 42 ) เขาเกิดและเติบโตที่ฮอกไกโดและสำเร็จการศึกษาจากคณะแพทยศาสตร์จากมหาวิทยาลัยแห่งชาติ
พอเรียนจบหมอโอคุโบได้เข้าทำงานที่สำนักงานอนามัยและสวัสดิการกระทรวงสาธารณสุขแรงงานและสวัสดิการ เป็นเวลา 7 ปีครึ่ง
หมอยังทำงานที่โรงพยาบาลอีกหลายแห่ง หลังจากนั้นก็เปิดคลินิกเองในเซ็นได ซึ่งส่วนใหญ่มุ่งเน้นไปที่ระบบทางเดินหายใจ / การดูแลสภาพทางจิต / และการรักษาแบบประคับประคองอาการ
นอกจากนี้หมอโอคุโบยังเขียนมังงะ และ E-BOOk เกี่ยวกับการฆ่าผู้สูงอายุที่มีปัญหาในการใช้ชีวิต โดยใช้วิธีฆ่าในแบบที่โรงพยาบาลไม่ได้สอน
หมอโอคุโบนั้นมี ดร. คิริโกะ เป็นไอดอล เขาอยากจะทำให้ได้แบบ ดร. คิริโกะ
// ( ดร. คิริโกะ :: แบล็กแจ็ก หมอปีศาจ :: คือหมอเถื่อนที่มีความสามารถสูง และช่วยปลดปล่อยคนไข้ที่ทุกข์ทรมานให้ไปสู่ความตาย )
หมอโอคุโบมักโพสต์แนวคิด และความรู้สึกของตนเองลงในทวิตเตอร์ส่วนตัวที่มีคนตามเป็นหมื่นคน
เช่น " ฉันไม่รู้ว่าทำไมการให้ความช่วยเหลือคนที่ต้องการจะตายถึงความผิด "
**********
**********
#ส่วนหมอยามาโมโต้ เขาเปิดคลีนิคอยู่ที่โตเกียว และรับให้คำปรึกษาออนไลน์ทั่วประเทศ รวมทั้งการไปเยี่ยมเยียนผู้ป่วยที่บ้าน
หมอยามาโมโต้มีบุคลิคที่ดี ดูใจดี และอ่อนโยนกับคนไข้เสมอ เขามักพูดถึงการที่ผู้ป่วยมีสิทธิ์ที่จะมีชีวิตอยู่ถึงแม้ป่วยไข้
มันจึงค่อนข้างแปลกและย้อนแย้ง ที่เขาดันเลือกการพรากชีวิตผู้ป่วยเป็นงานเสริม
ก่อนหน้าที่จะโดนจับเขากำลังศึกษาวิจัยเกี่ยวกับการรักษาโรคมะเร็ง และเป็นแกนนำจัดตั้งบริษัทพัฒนาผลิตยารักษาโรคมะเร็ง ซึ่งมีวัตถุดิบคือไอโอดีน
เขายังได้รับทุนจากต่างประเทศเป็นจำนวนหลายร้อยล้านเยน
*******
*******
ตอนนี้ในญี่ปุ่นกำลังถกเถียงร้อนแรง ถึงประเด็นที่ว่า การมีสิทธิ์ที่จะอยู่หรือตายของคนที่ป่วยหนัก มันควรจะเป็นแบบไหน
และสิ่งที่หมอทั้งสองคนทำ มันถูกหรือมันผิดกันแน่ หลายคนยังแตกประเด็นไปอีกหลายเรื่อง ซึ่งต่างคนก็ต่างมีความคิดเห็นแตกต่างกันไป
ที่มาข่าว :: https://www.facebook.com/SakuraInDaDark/posts/177285960477269
แพทย์ชาวญี่ปุ่นสองคนถูกตำรวจจับ หลังจากสังหารผู้ป่วยติดเตียง
*******
*******
ผู้ป่วยหญิงคนนึงที่ทุกข์ทรมานจากโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรง ( ALS ) มาหลายปี ได้ถูกนำตัวส่งตัวโรงพยาบาลหลังจากที่เธอเสียชีวิตที่บ้าน
" แต่ผลจากการชันสูตรศพที่ออกมา #พบว่าในร่างกายของเธอมียานอนอยู่หลับเป็นจำนวนมาก “
หลังจากนั้น ตำรวจได้ตรวจสอบกล้องวงจรปิดใกล้ที่พักของเธอ และพบว่าก่อนที่เธอจะเสียชีวิต มีหมอสองคนมาเยี่ยมเธอที่บ้าน
ตำรวจจึงอนุมานได้ว่าหมอสองคนนั้น น่าจะเป็นคนที่ฆ่าผู้หญิงคนนี้ โดยวิธีฉีดยานอนหลับจำนวนมากเข้าเส้นเลือด จนเธอเสียชีวิต
#ตำรวจเข้าจับกุมหมอทั้งสองคน ในเช้าวันที่ 23 กรกฎาคม 2020
********
********
หมอที่โดนจับทั้งสองคน คือ
- หมอโอคุโบ ( 42 )
- หมอ ยามาโมโต้ ( 43 )
จากผลการสอบสวนต่อมาทำให้ทราบว่า ทั้งหมดรู้จักกันผ่านทางโซเชี่ยลฯ โดยไม่เคยพบเจอกันมาก่อน
ผู้ตายได้ว่าจ้างให้หมอทั้งสองคนลงมือฆ่าเธอให้ตายอย่างสงบ และได้โอนเงินค่าจ้างเข้าบัญชีของหมอเป็นจำนวน 1 ล้านเยน
*******
*******
#ยูริผู้เสียชีวิต อายุ 51 ปี
เธอเคยอาศัยอยู่ที่ต่างประเทศมาหลายปี ก่อนที่จะกลับมาทำงานเป็นสถาปนิกที่โตเกียว และป่วยเป็น ALS ตั้งแต่ปี 2011 โดยเริ่มจากอาการเล็กๆ น้อยๆ เช่น ล้มบ่อยๆ ควบคุมตัวเองไม่ได้ ต้องใช้ไม้เท้าช่วยพยุง ฯลฯ
อาการป่วยของเธอหนักขึ้นในเวลาไม่นาน ร่างกายขยับไม่ได้ พูดไม่ได้ กินเองก็ไม่ได้ เธอไม่สามารถช่วยเหลืออะไรตัวเองได้ทั้งนั้น
แม้แต่การหายใจก็ยังต้องใช้เครื่องช่วย เธออยู่อย่างสิ้นหวังกับอาการป่วยนี้มานานถึง 7 ปี
แม่ของเสียชีวิตจากอาการป่วยไปเมื่อ 20 ปี ที่แล้ว การที่ได้เห็นแม่ต้องทุกข์ทรมานก่อนตาย เป็นภาพจำฝังใจที่โหดร้ายกับเธอมากๆ
พ่อของเธอยังมีชีวิตอยู่ แต่ไม่ได้อยู่กับเธอ หลังจากแม่ตายพ่อก็มีชีวิตใหม่ในแบบของพ่อ
ส่วนเธออาศัยอยู่กับผู้ดูแลจากสวัสดิการการดูแลคนพิการของทางรัฐ ตลอด 24 ชั่วโมง แต่ในความเป็นจริง #เธอรู้สึกว่าเธออยู่และสู้กับความเจ็บป่วยเพียงลำพังเท่านั้น
เธอบอกกับทุกคนเสมอๆ เรื่องที่ว่าเธออยากไปสวิตเซอร์แลนด์เพื่อขอเข้ารับการุณยฆาต เธอพูดถึงความต้องการที่จะตายอยู่ตลอดเวลา
สุดท้ายเธอได้ทำบล็อกขึ้นมา เพื่อบอกเล่าถึงการปราถนาที่จะตาย และเธอยังโพสต์เกี่ยวกับการอยากจะตายลงในทวิตฯ บ่อยครั้ง
#คนที่เข้ามาตอบทวิตฯ เธอบ่อยๆ ก็คือหมอโอคุโบ
ตอนที่ได้รู้ว่าหมอโอคุโบตกลงยินดีที่จะมอบความตายให้เธออย่างที่เธอปราถนา เธอถึงกับร่ำไห้ด้วยความดีใจและตื้นตัน เธอยังได้โพสต์ขอบคุณหมออีกด้วย
*********
*********
#หมอโอคุโบ ( 42 ) เขาเกิดและเติบโตที่ฮอกไกโดและสำเร็จการศึกษาจากคณะแพทยศาสตร์จากมหาวิทยาลัยแห่งชาติ
พอเรียนจบหมอโอคุโบได้เข้าทำงานที่สำนักงานอนามัยและสวัสดิการกระทรวงสาธารณสุขแรงงานและสวัสดิการ เป็นเวลา 7 ปีครึ่ง
หมอยังทำงานที่โรงพยาบาลอีกหลายแห่ง หลังจากนั้นก็เปิดคลินิกเองในเซ็นได ซึ่งส่วนใหญ่มุ่งเน้นไปที่ระบบทางเดินหายใจ / การดูแลสภาพทางจิต / และการรักษาแบบประคับประคองอาการ
นอกจากนี้หมอโอคุโบยังเขียนมังงะ และ E-BOOk เกี่ยวกับการฆ่าผู้สูงอายุที่มีปัญหาในการใช้ชีวิต โดยใช้วิธีฆ่าในแบบที่โรงพยาบาลไม่ได้สอน
หมอโอคุโบนั้นมี ดร. คิริโกะ เป็นไอดอล เขาอยากจะทำให้ได้แบบ ดร. คิริโกะ
// ( ดร. คิริโกะ :: แบล็กแจ็ก หมอปีศาจ :: คือหมอเถื่อนที่มีความสามารถสูง และช่วยปลดปล่อยคนไข้ที่ทุกข์ทรมานให้ไปสู่ความตาย )
หมอโอคุโบมักโพสต์แนวคิด และความรู้สึกของตนเองลงในทวิตเตอร์ส่วนตัวที่มีคนตามเป็นหมื่นคน
เช่น " ฉันไม่รู้ว่าทำไมการให้ความช่วยเหลือคนที่ต้องการจะตายถึงความผิด "
**********
**********
#ส่วนหมอยามาโมโต้ เขาเปิดคลีนิคอยู่ที่โตเกียว และรับให้คำปรึกษาออนไลน์ทั่วประเทศ รวมทั้งการไปเยี่ยมเยียนผู้ป่วยที่บ้าน
หมอยามาโมโต้มีบุคลิคที่ดี ดูใจดี และอ่อนโยนกับคนไข้เสมอ เขามักพูดถึงการที่ผู้ป่วยมีสิทธิ์ที่จะมีชีวิตอยู่ถึงแม้ป่วยไข้
มันจึงค่อนข้างแปลกและย้อนแย้ง ที่เขาดันเลือกการพรากชีวิตผู้ป่วยเป็นงานเสริม
ก่อนหน้าที่จะโดนจับเขากำลังศึกษาวิจัยเกี่ยวกับการรักษาโรคมะเร็ง และเป็นแกนนำจัดตั้งบริษัทพัฒนาผลิตยารักษาโรคมะเร็ง ซึ่งมีวัตถุดิบคือไอโอดีน
เขายังได้รับทุนจากต่างประเทศเป็นจำนวนหลายร้อยล้านเยน
*******
*******
ตอนนี้ในญี่ปุ่นกำลังถกเถียงร้อนแรง ถึงประเด็นที่ว่า การมีสิทธิ์ที่จะอยู่หรือตายของคนที่ป่วยหนัก มันควรจะเป็นแบบไหน
และสิ่งที่หมอทั้งสองคนทำ มันถูกหรือมันผิดกันแน่ หลายคนยังแตกประเด็นไปอีกหลายเรื่อง ซึ่งต่างคนก็ต่างมีความคิดเห็นแตกต่างกันไป
ที่มาข่าว :: https://www.facebook.com/SakuraInDaDark/posts/177285960477269