[CR] ตะลุยเขาจังหวัดเลยยยย !! 4 วัน 3 คืน ฉบับ ขับรถตะลอนทัวร์ ไปเองก็ได้เว้ย!

ตะลุยเขาจังหวัดเลยยยย !! 4 วัน 3 คืน ฉบับ ขับรถตะลอนทัวร์ ไปเองก็ได้เว้ย!

จังหวัดเลยเป็นจังหวัดที่มีสถานที่เที่ยวเยอะมาก อีกทั้งยังสวยงามในหลายๆสถานที่ๆ โดยเฉพาะภูเขาต่างๆ โดยที่คนรู้จักกันจะเป็น ภูกระดึง ที่เป็นที่นิยมไปกันมาก แต่ถ้าใครไม่อยากเหนื่อยมากขับรถชมวิว ไปเรื่อยๆเหนื่อยก็พักจน ตอนแรกเราไม่มีแพลนจะไปไหนกันจึงชวนกันไป โดยตั้งใจจะไปที่ภูบักไดและที่อื่นค่อยว่ากัน จนสุดท้ายเกิดเป็นทริปนี้ขึ้นมาได้ไงก็ไม่รู้ ฮ่าๆ เชิญรับชมกันได้เลย
- จุดหมาย
1. ภูบักได
2. ภูอิเลิศ
3. ภูทอก
4. ภูเรือ
5. ภูป่าเปาะ
6. ผาหินงาม

- ค่าใช้จ่าย
ค่ารถอิแต๊ก + ไกด์ = 3000 /6 = 500 บาทต่อคน
ค่าน้ำ 1800/2 = 900 บาท
ค่ารถอิแต๊กภูมิอีเลิศ = 500 บาท
ค่ารถขึ้นภูทอกคนละ 25 บาท
ค่าเข้าอุทยานแห่งชาติภูเรือ ผู้ใหญ่ 40 เด็ก 20 รถยนต์ 30 บาท = 110 บาท
ค่านั่งรถไปยอดภูเรือ คนละ 10 บาท
ค่ารถอิแต๊กภูป่าเปาะคนละ 60 บาท
ค่าเข้าฝาหินงามกลุ่มละ 100 บาท (ไม่เกิน 10 คน) ค่ารถคนละ 30 บาท
อื่นๆ อีก ค่ากิน ค่าต่างๆ
รวม 5480/2 = 2740 บาทต่อคน อันนี้ไปสองคนนะ ถ้าไปเยอะกว่านี้คงถูกกว่านี้

ที่พัก
1. ชมรมส่งเสริมการท่องเที่ยวโดยชุมชนตำบลปลาบ่า คืนแรก
2. ภูบักได
3. เชียงคาน (บนรถ 5555 ฟรีเสียค่าที่จอด) เนื่องจากไปช่วงปีใหม่คนเยอะมากและค่าที่พักก็ค่อนข้างแพงด้วย เลยนอนในรถดีกว่าเพราะตื่นเช้ามาก็ต้องรีบไปต่อ
การเดินทางโดย "รถยนต์"
กทม.- ชมรมส่งเสริมการท่องเที่ยวโดยชุมชนตำบลปลาบ่า - ภูบักได - ภูอีเลิศ - เชียงคาน - ภูทอก - ภูเรือ - ภูป่าเปาะ - ผาหินนงาม
#ภูบักได #ภูอีเลิศ #ภูทอก #ภูเรือ #ภูป่าเปาะ #ผาหินงาม #ไปเองก็ได้ #theonismjourney

เส้นทางการเดินทางตลอด 4 วัน 3 คืน (ขับรถตะลอนทัวร์)

วันแรก กทม - ชมรมส่งเสริมการท่องเที่ยวโดยชุมชนตำบลปลาบ่า (ถึงช่วงค่ำ)
เนื่องจากเราเดินทางในช่วงเช้าวันแรกที่กทม ไป ชมรมส่งเสริมการท่องเที่ยวโดยชุมชนตำบลปลาบ่า จังหวัด เลย ใช้เวลาประมาณ 7 ชั่วโมงบวกกับตอนนั้นเป็นช่วงวันหยุดยาวปีใหม่ ทำให้วันี้กะเดินทางอยากเดียวถึงแล้วไปพักที่ชุมชนก่อนแล้วค่อยตื่นมาตอนเช้าเพื่อไปภูบักไดต่อ

วันที่สอง ชมรมส่งเสริมการท่องเที่ยวโดยชุมชนตำบลปลาบ่า - ภูบักได
ตื่นขึ้นมาแล้วก็เตรียมตัวจอยรถอีแต๊กกับนักท่องเที่ยวรายอื่นเพื่อประหยัดเงิน ก็เลยออกช่วงสายๆหน่อย โดยรถอีแต๊กนั่งประมาณ 1- 2 ชม. ใครกลัวแดดก็หาไรมาบังด้วยนะ แดดตลอดทางเลย จากนั้นก็เดินอีกประมาณ 3 โลก็จะถึงที่กางเต็นท์และผาหลอกลวง

วันที่สาม ภูบักได - ชมรมส่งเสริมการท่องเที่ยวโดยชุมชนตำบลปลาบ่า - ภูอีเลิศ - เชียงคาน
หลังจากถ่ายรูปอะไรเสร็จแล้วก็เดินลงมารอรถอีแต๊กและก็กลับไปถึงที่ชุมชนประมาณเที่ยง จากนั้นก็ขับไปที่ภูอีเลิศต่อและก็ขึ้นอีแต๊กอีกรอบในการขึ้นภู 55 ประมาณ 50 นาที โดยตอนแรกกะว่าจะพักที่นี่ แต่เนื่องจากเราไปอีกหลายที่เลยไม่ได้พักที่นี้ เลยลุยต่อไปเชียงคานเลยและพักที่นั้น

วันที่สี่ เชียงคาน - ภูทอก - ภูเรือ - ภูป่าเปาะ - ผาหินงาม - กลับกทม.
วันนี้จะค่อนข้างขับยาวๆหน่อยโดนเริ่มจากไปดูพระอาทิตย์ขึ้นที่ภูทอก ต้องจอดรถข้างล่างและจะมีบริการรถขึ้นไปด้านบนอีกที จากนั้นก็ขับไปอุทยานแห่งชาติภูเรือ แต่เนื่องจากเราไปถึงช่วงเที่ยงๆและช่วงนั้นฝุ่นค่อนข้างเยอะเลยไม่เห็นอะไรมาก แนะนำให้มาช่วงเช้าหรือเย็นน่าจะดีกว่า จากนั้นก็ขับยิงยาวไปที่ภูป่าเปาะและผาหินงาม ที่เลือกที่นี้เพราะว่ามันย้อนเป็นทางกลับได้พอดี

ทริปนี้อาจจะเร่งรีบไปหน่อยสำหรับหลายๆที่ แต่หากใครเพิ่มเวลาสัก 1-2 วัน ท่านจะได้ดื่มด่ำกับธรรมชาติในแต่ละที่ได้มากขึ้น ซึ่งเราก็แนะนำแบบนั้น  


ชมรมส่งเสริมการท่องเที่ยวโดยชุมชนตำบลปลาบ่า (ในรูปเป็นลานจอดรถของวัดบ้านกลางนะ)
วันแรกที่เราขับรถมาจากกทม ไปที่ ชมรมส่งเสริมการท่องเที่ยวโดยชุมชนตำบลปลาบ่า
โดยติดต่อ กำนันเชิด เบอร์โทร 087-8668647 และ 095-6587113 ก่อนที่จะมาเพื่อจองรถพี่อีแต๊กไว้ไม่งั้นเขาอาจเตรียมให้ไม่ทัน และในวันแรกเราก็นอนพักที่นี่และพี่เขาใจดีมากเลย ให้เราพักฟรี อันนี้เราไม่ได้ใจว่าเป็นบริการของเขาหรือเป็นน้ำใจ โดยรวมห้องนอนและห้องน้ำ อื่นๆๆ ถือว่าบริการได้ดีมากเป็นกันเองสุดๆเลย ตอนเรามาเป็นช่วงปลายปีจะเข้าปีใหม่ ที่นี้อากาศแบบหนาวมากกกกกกกกก มากๆ ได้สัมผัสตัวเลขตัวเดียว 9 องศา ไอเราก็ไม่นึกว่าจะหนาวขนาดนี้ ถามเขาพี่เขาบอกว่าแบบนี้แหละปกติ ปกติหรอพี่ !


ร้านค้าใกล้ๆของชุมชน มีของสดหลายอย่างเยอะแยะ เลยมาเลือกเอาขึ้นไปทำอาหารบนภูบักไดสะหน่อย


รถอีแต๊กของเราเองนี่แหละสุดมันส์ โดยคันนี้นั่งข้างหน้าได้ 2 คน ข้างหลัง 4 คน
ใช้เวลาประมาณ 1-2 ชม แล้วแต่ความยากของทางและสภาพอากาศ

ดอกนางพญาเสือโคร่ง
หากมาถูกฤดูดอกนางพญาเสือโคร่งจะเต็มเลย แต่เรามานี่ก็ร่วงไปเยอะแล้ว ยังดีที่มีให้เห้นบ้าง


ถึงที่หมายแล้วก็ลงเดินต่ออีก 3 กิโล ชิวๆเดินชมวิวไปเรื่อยๆ สบายๆครับ

ภูบักได ณ ผาหลอกลวง
ทุกคนมาก็เพื่อแกเลยนะเจ้าผาหลอกลวง เป็นผาที่ถ่ายรูปขึ้นมาทุกช่วงเวลา 55 อีกทั้งยังรวมกับท่าการโพสของแต่ละคนด้วย แต่พอมาแล้วเราว่าไม่ได้มีดีแค่ผาหลอกลวงนะ วิวรอบข้างที่ผาก็สวยไม่แพ้กันเลยลองเดินดูอีกสักนิดละจะถ่ายรูปไม่หยุดเลยแหละ
** ใครมาช่วงฤดูฝนก็จะได้หมอกปังๆ แต่ระวังน้องทากด้วยนะ แต่ละคนมาเยอะมากๆ เรามาหน้าหนาว แห้งแล้ง โชคดีไป**


หลังจากลงมาจากภูบักไดและเราก็ขับรถยิงยาวมาต่อที่ภูอีเลิศ โดยเป้าหมายคือมาดูพระอาทิตย์ตกที่นี่ โดยสามารถติดต่อที่เพจ ภูอีเลิศ ได้เลยครับ หรือไม่ก็ไปตาม GPS และถามคนแถวนั้นอีกทีก็ได้ เนื่องจากรถอีแต๊กมีพร้อมบริการนักท่องเที่ยวเกือบตลอด ใช้เวลาเดินทางประมาณ 50 นาที ก็จะถึงยอดภูอีเลิศ เลิศไม่เลิศลองชมดู


ภูอีเลิศ มีความสูง 620 เมตร จากระดับน้ำทะเล
ถือว่าเป็น Unseen เมืองเลยอีกหนึ่งที่ ที่นิยมกันมาดูทะเลหมอกในยามเช้า ซึ่งจะเหมือนทะเลหมอกที่ไปสายทางน้ำเลย แต่เรามาช่วงเย็นก็จะได้ด้านหลังเป็นพระอาทิตย์ตกสวยๆ ก็บรรยากาศด้านล่าง หินที่ยืนอยู่เป็นหินวัดใจ เป็นหินที่แปะอยู่บนผา แต่มีความมั่นคงแข็งแรงดี (เขาน่าจะแปะมันไว้ไม่งั้นอันตรายมาก) โดยรวมแล้วเลิศมาก ใครมาเมืองเลยแล้วต้องแวะมาเลย


ภูทอก
เป็นภูเขาสูงที่อยู่ใกล้เชียงคานซึ่งขับรถมาไม่ใกล้ก็ได้เห็นวิวสวยๆและก็ทะเลหมอก จึงเป็นที่นิยมกันเมื่อใครมาเชียงคานและก็มาดูพระอาทิตย์ขึ้นที่นี้
โดยเรามาพักที่เชียงคานแล้วก็ตื่นมาไปภูทอกเพื่อดูพระอาทิตย์ขึ้นกันก่อนเลย จากนั้นก็ขับไปต่อที่ภูเรือ

ภูเรือ
เนื่องจากผมไม่ค่อยได้ถ่ายรูปเท่าไหร่เพราะมาในตอนเที่ยงจึงไม่ได้นำรูปมาฝากให้ทุกคนดู
แนะนำให้มาช่วงปลายฝนตกหนาวเพราะว่าหมอกกำลังปังรวมทั้งธรรมชาติที่เป้นสีเขียวขจี โดยมาพักผ่อนกับครอบครัว การเดินทางไม่ยากค่อนข้างสะดวก รวมทั้งอุทยานแห่งชาติภูเรือดูเลค่อนข้างดีเลย

ภูป่าเปาะ หรือฟูจิเมืองเลย
จะดูๆไปแล้วก็เหมือนฟูจิจริงๆนะถ้ามีหิมะขาวๆอยู่ข้างบนนี้ใช่เลย ฮ่าๆ เป็นที่คิดว่าจะมาแวะเฉยๆ แต่พอมาจริงๆ เห้ยมันดีกว่าที่คิดจริงๆ ไม่ได้มีแค่ ภูป่าเปาะ แต่เขาแวะสถานที่ต่างๆ ถึง 5 ที่ นับว่าคุ้มเลยเดียวดาย บรรยากาศดี แถมสบายๆด้วยไม่ได้เดินมาก
นั่งรถอีแต๊กขึ้นไปเหมือนเดิม 5555 จากที่ไม่เคยนั่ง มาทริปนี้นั่งจนปวดตูดเลย
แนะนำให้มาเลย


ปิดท้ายด้วย ผาหินงาม หรือ สวนผาหินงาม จ. เลย
ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากภูป่าเปาะ ขับกลับมาสัก 10 นาทีกว่าก็ถึงแล้ว แล้วก็อีกเช่นเคยนั่งรถอีแต๊กต่อและถึงจะเดินชมด้านในอีกที 555 นั่งอย่างเยอะ แต่สนุกดี ใช้เวลาไม่นานมากสำหรับการชมที่นี่ ก็อย่าพลาดภูเขาหินปูนนี้ด้วยแหละ

แล้วหลังจากนี้ผมจะไปเขาไหน ติดตามได้ที่ ไปเองก็ได้ - The Onism Journey