ตามหัวข้อหัวกะทู้.....
เรื่องมีอยู่ว่า
เราพึ่งเรียนจบเดือนเมษายน ติดช่วงโควิด 19 เลยทำให้ว่างงานจนถึงเดือนมิถุนายน ต้นเดือนมิถุนายน เราทำงานร้านกาแฟ จนกระทั่งเดือนกรกฎาคม มีโรงเรียนแห่งนึงติดต่อให้เป็นครูพิเศษช่วยสอน เพราะครูคนเก่าออกกะทันหัน โดยความที่ทางครอบครัวเราฝากงานให้กรอกใบสมัครทิ้งไว้ เราก็เอ่ออ่อตาม เพราะคิดว่ายังไงก็คงไม่ได้เป็นครู (ไม่ได้จบสายตรงครู ไม่มีใบประกอบวิชาชีพ แค่จบสายภาษา)
ซึ่งเราเคยตั้งใจตั้งเป้าหมายไว้ว่า จะทำงานร้านกาแฟไปเรื่อยๆ จนถึงปีหน้า ค่อยไปหาสอบเรื่อยๆเพื่อสมัครงานที่อยากทำ
แต่ทางรร. ติดต่อโทรมาให้ไปสอนอย่างกะทันหัน โดยไม่มีการสัมภาษณ์อะไรเลย เพราะ เปิดเทอมวันแรกให้ไปสอนเลย เราก็ งง มาก ตั้งตัวไม่ทัน
และพ่อแม่ก็รู้แล้ว เราก็ทำอะไรไม่ได้ เขาบังคับให้เราเลือกเป็นครู เราก็เลือกอะไรไม่ได้ไง ใจนึงโครตอยากทำงานร้านกาแฟ อีกใจก็ไม่อยากขัดพ่อแม่ (ในใจนี่คิดว่า กูไม่น่าไปสมัครไว้เลย ได้ง่ายขนาดนั้นเลยหรอ?) เอาแล้วไงก็ต้องทำ (ขัดพ่อแม่ไม่ได้ด้วย อาศัยบ้านเขาอยู่ เขาเคยบอก ถ้าอยากทำงานอื่นก็ไปอยู่ต่างจังหวัดซะ แล้วต่างคนต่างอยู่เลย) บวกกับยอมรับเลยว่า สถานการณ์แบบนี้ ไปที่อื่นคงยาก เลยจำยอมเป็นครู พอมาสอน วันแรก เราร้องไห้เลยหลังสอนเสร็จ ในใจเราเจ็บมาก เจ็บตรงที่เราไม่เคยอยากทำอาชีพนี้เลย เราโครตไม่อยากทำ เราเคยบอกแม่ไว้ว่าเราไม่อยากเป็นครูนะ เรารู้ว่าอาชีพดีมั้นคง เป็นหน้าเป็นตาของครอบครัว แต่....อาชีพอื่นไม่มั่นคงหรอ ? มันดูด้อยกว่าอาชีพนี้หรอ ?
จริงๆ การเป็นคุณครูต้องไปสอนนักเรียนตั้งมากมาย ต้องทำด้วยใจจริง และมีวิชาความรู้ ที่จะฝึกฝนเด็กได้ แต่เราไม่!!! แค่ใจเราก็ไม่เอาแล้ว อย่าถามหาวิชาความรู้เลยไม่มากพอที่จะสอนคนอื่นได้แน่นอน
เราทำงานได้ 2 อาทิตย์แล้ว แต่ก็ยังคงไม่มีความสุขเช่นเดิม ตื่นเช้าด้วยหน้าตาบึ้งตึง หน้าตาอมทุกข์ ที่ต้องตื่นเช้าแสนเช้าเพื่อไปทำงานที่ใจไม่รักไม่อยากทำ และตอนนี้เราคิดว่าเราตัดสินใจดีแล้วที่จะลาออก!
และทะเลาะกับพ่อแม่อย่างรุนแรง จนเราอยากหนีมาก แต่ก็ไม่กล้าไป เป็นห่วงพ่อแม่อยากอยู่ใกล้ๆ แต่พออยู่ใกล้ก็โดนบังคับแบบนี้ ก็ไม่ไหวเหมือนกัน ร่างกายเหนื่อยยังพอทน แต่ใจเหนื่อยทนไม่ไหวเลย
เราไม่รู้จะทำยังไงดี ไม่รู้จะเลือกทางไหน จะไปตามทางที่ใจเราต้องการ หรือไปตามทางที่พ่อแม่คิดว่าดี ???
ปล. ตั้งแต่เด็กจนโตพ่อแม่ไม่เคยบังคับเรื่องเรียน จนเข้ามหาวิทยาลัย ก็มีพูดทุกครั้งเลยว่า อยากให้เรียนครูเพิ่มนะ แต่เราส่ายหัว ยืนยันคำขาดว่าไม่เป็น! เราก็คืดว่าพ่อแม่คงเข้าใจ ที่ไหนได้ พอจบมาเท่านั้นแหละ ให้เป็นตามเขาต้องการเลย แถมจะให้ไปเรียนต่อโทครูอีกกกก
เรารู่ว่าเป็นทางเลือกที่โครตดีเลยแหละ แต่ลองมองลึกๆเข้าไป การจะเป็นคุณครู ต้องทำด้วยใจรักจริงๆ ใจไม่รักทำไม่ได้หรอก
ปล. พอเราเถียงกับแม่เรื่องอยากลาออกเป็นครูทีไร แม่ม้กจะเอาเรื่องงานร้านกาแฟมาบ่น ประมาณว่า คนไม่เรียนจบมหาลัยก็ยังทำได้ ทำเมื่อไหร่ก็ได้ แต่เป็นครูสิ เป็นยากกก แต่เอ๊ะ เราเข้าง่ายมากไม่มีสัมภาษณ์ สอนเลย แบบ งงๆ
ฝากอีกนิสนึงง ... พ่อแม่ไม่ได้ไปฝากทางโรงเรียนแบบจริงจังนะ แค่ให้เรากรอกใบสมัคร แต่ดวงมันดันได้ 😞 และเพื่อนเก่าเราที่ไปเจอกันโรงเรียนบังเอิญก็เป็นครูมาสอนใหม่เหมือนเราเลย แต่ลาออกไปละ! เพราะใจไม่รักจริงๆ ทั้งๆที่พ่อแม่มาฝากถึงที่ด้วยซ้ำ แต่พ่อแม่กลับเข้าใจว่าลูกทำไม่ได้จริงๆ
เรา งง ว่า เราผิดมากเลยหรอ? แค่ใจเราไม่รักการเป็นครู เลยอยากออกไปทำอะไรที่อยากทำ แต่มันดันไม่ใช่สิ่งที่พ่อแม่ชอบ ต้องทำแต่สิ่งที่เขาคิดว่าดี ถึงแม้มันจะดีมากๆก็ตาม แต่...คนไม่ไหวก็คือไม่ไหว คนไม่ชอบก็คือไม่ชอบ เราผิดมากใช่ไหม ?
เศร้าแบบจริงจัง
นอนไม่หลับ
กินข้าววันละมื้อ กินข้าวไม่ลง เครียด ไม่อยากไปโรงเรียน
ร้องไห้มาสองคืนล่ะ
พ่อแม่บังคับให้ทำงานที่เขาต้องการ แต่เป็นงานที่เราไม่อยากทำมากที่สุด ! ทำไงดี ?
เรื่องมีอยู่ว่า
เราพึ่งเรียนจบเดือนเมษายน ติดช่วงโควิด 19 เลยทำให้ว่างงานจนถึงเดือนมิถุนายน ต้นเดือนมิถุนายน เราทำงานร้านกาแฟ จนกระทั่งเดือนกรกฎาคม มีโรงเรียนแห่งนึงติดต่อให้เป็นครูพิเศษช่วยสอน เพราะครูคนเก่าออกกะทันหัน โดยความที่ทางครอบครัวเราฝากงานให้กรอกใบสมัครทิ้งไว้ เราก็เอ่ออ่อตาม เพราะคิดว่ายังไงก็คงไม่ได้เป็นครู (ไม่ได้จบสายตรงครู ไม่มีใบประกอบวิชาชีพ แค่จบสายภาษา)
ซึ่งเราเคยตั้งใจตั้งเป้าหมายไว้ว่า จะทำงานร้านกาแฟไปเรื่อยๆ จนถึงปีหน้า ค่อยไปหาสอบเรื่อยๆเพื่อสมัครงานที่อยากทำ
แต่ทางรร. ติดต่อโทรมาให้ไปสอนอย่างกะทันหัน โดยไม่มีการสัมภาษณ์อะไรเลย เพราะ เปิดเทอมวันแรกให้ไปสอนเลย เราก็ งง มาก ตั้งตัวไม่ทัน
และพ่อแม่ก็รู้แล้ว เราก็ทำอะไรไม่ได้ เขาบังคับให้เราเลือกเป็นครู เราก็เลือกอะไรไม่ได้ไง ใจนึงโครตอยากทำงานร้านกาแฟ อีกใจก็ไม่อยากขัดพ่อแม่ (ในใจนี่คิดว่า กูไม่น่าไปสมัครไว้เลย ได้ง่ายขนาดนั้นเลยหรอ?) เอาแล้วไงก็ต้องทำ (ขัดพ่อแม่ไม่ได้ด้วย อาศัยบ้านเขาอยู่ เขาเคยบอก ถ้าอยากทำงานอื่นก็ไปอยู่ต่างจังหวัดซะ แล้วต่างคนต่างอยู่เลย) บวกกับยอมรับเลยว่า สถานการณ์แบบนี้ ไปที่อื่นคงยาก เลยจำยอมเป็นครู พอมาสอน วันแรก เราร้องไห้เลยหลังสอนเสร็จ ในใจเราเจ็บมาก เจ็บตรงที่เราไม่เคยอยากทำอาชีพนี้เลย เราโครตไม่อยากทำ เราเคยบอกแม่ไว้ว่าเราไม่อยากเป็นครูนะ เรารู้ว่าอาชีพดีมั้นคง เป็นหน้าเป็นตาของครอบครัว แต่....อาชีพอื่นไม่มั่นคงหรอ ? มันดูด้อยกว่าอาชีพนี้หรอ ?
จริงๆ การเป็นคุณครูต้องไปสอนนักเรียนตั้งมากมาย ต้องทำด้วยใจจริง และมีวิชาความรู้ ที่จะฝึกฝนเด็กได้ แต่เราไม่!!! แค่ใจเราก็ไม่เอาแล้ว อย่าถามหาวิชาความรู้เลยไม่มากพอที่จะสอนคนอื่นได้แน่นอน
เราทำงานได้ 2 อาทิตย์แล้ว แต่ก็ยังคงไม่มีความสุขเช่นเดิม ตื่นเช้าด้วยหน้าตาบึ้งตึง หน้าตาอมทุกข์ ที่ต้องตื่นเช้าแสนเช้าเพื่อไปทำงานที่ใจไม่รักไม่อยากทำ และตอนนี้เราคิดว่าเราตัดสินใจดีแล้วที่จะลาออก!
และทะเลาะกับพ่อแม่อย่างรุนแรง จนเราอยากหนีมาก แต่ก็ไม่กล้าไป เป็นห่วงพ่อแม่อยากอยู่ใกล้ๆ แต่พออยู่ใกล้ก็โดนบังคับแบบนี้ ก็ไม่ไหวเหมือนกัน ร่างกายเหนื่อยยังพอทน แต่ใจเหนื่อยทนไม่ไหวเลย
เราไม่รู้จะทำยังไงดี ไม่รู้จะเลือกทางไหน จะไปตามทางที่ใจเราต้องการ หรือไปตามทางที่พ่อแม่คิดว่าดี ???
ปล. ตั้งแต่เด็กจนโตพ่อแม่ไม่เคยบังคับเรื่องเรียน จนเข้ามหาวิทยาลัย ก็มีพูดทุกครั้งเลยว่า อยากให้เรียนครูเพิ่มนะ แต่เราส่ายหัว ยืนยันคำขาดว่าไม่เป็น! เราก็คืดว่าพ่อแม่คงเข้าใจ ที่ไหนได้ พอจบมาเท่านั้นแหละ ให้เป็นตามเขาต้องการเลย แถมจะให้ไปเรียนต่อโทครูอีกกกก
เรารู่ว่าเป็นทางเลือกที่โครตดีเลยแหละ แต่ลองมองลึกๆเข้าไป การจะเป็นคุณครู ต้องทำด้วยใจรักจริงๆ ใจไม่รักทำไม่ได้หรอก
ปล. พอเราเถียงกับแม่เรื่องอยากลาออกเป็นครูทีไร แม่ม้กจะเอาเรื่องงานร้านกาแฟมาบ่น ประมาณว่า คนไม่เรียนจบมหาลัยก็ยังทำได้ ทำเมื่อไหร่ก็ได้ แต่เป็นครูสิ เป็นยากกก แต่เอ๊ะ เราเข้าง่ายมากไม่มีสัมภาษณ์ สอนเลย แบบ งงๆ
ฝากอีกนิสนึงง ... พ่อแม่ไม่ได้ไปฝากทางโรงเรียนแบบจริงจังนะ แค่ให้เรากรอกใบสมัคร แต่ดวงมันดันได้ 😞 และเพื่อนเก่าเราที่ไปเจอกันโรงเรียนบังเอิญก็เป็นครูมาสอนใหม่เหมือนเราเลย แต่ลาออกไปละ! เพราะใจไม่รักจริงๆ ทั้งๆที่พ่อแม่มาฝากถึงที่ด้วยซ้ำ แต่พ่อแม่กลับเข้าใจว่าลูกทำไม่ได้จริงๆ
เรา งง ว่า เราผิดมากเลยหรอ? แค่ใจเราไม่รักการเป็นครู เลยอยากออกไปทำอะไรที่อยากทำ แต่มันดันไม่ใช่สิ่งที่พ่อแม่ชอบ ต้องทำแต่สิ่งที่เขาคิดว่าดี ถึงแม้มันจะดีมากๆก็ตาม แต่...คนไม่ไหวก็คือไม่ไหว คนไม่ชอบก็คือไม่ชอบ เราผิดมากใช่ไหม ?
เศร้าแบบจริงจัง
นอนไม่หลับ
กินข้าววันละมื้อ กินข้าวไม่ลง เครียด ไม่อยากไปโรงเรียน
ร้องไห้มาสองคืนล่ะ