!!รีวิวนี้เหมาะสำหรับผู้ที่กำลังหาข้อมูลเกี่ยวกับการทำตาสองชั้น และกำลังตัดสินที่จะเลือกทำ เป็นรีวิวที่ยาวหน่อย แต่ข้อมูลละเอียดตั้งแต่วันที่ผ่าตัดจนถึงวันที่ครบ 6 เดือน เข้าที่สวยงามค่ะ ภาพตาก่อนที่จะตัดสินใจทำตาสองชั้น เป็นสองชั้นแบบหลบใน กรีดตาทีนึงหนาเป็นนิ้ว แล้วก็มีปัญหาเรื่องชั้นตาไม่เท่ากัน ยิ่งอายุเพิ่มขึ้น ยิ่งเห็นชัดเจน จุดเปลี่ยนที่ทำให้เราตัดสินใจว่า เอาหล่ะ ฉันจะต้องสวย จะไม่หมวยอีกต่อไป
ตอนยังไม่กรีดตาสังเกตได้จากตาข้างซ้าย ชั้นตาไม่เท่ากัน กรีดตาหนาเท่าไหร่ก็เห็นอยู่แค่เนี้ย
ส่วนตัวเราก่อนจะตัดสินใจทำคิดอยู่นานมากๆ โดนแม่ด่า โดนคนรอบข้างไซโค ว่าคนทำมาแล้วไม่เข้ากับตัวเอง ทำแล้วแผลจะเน่าบ้าง จะหน้าเละบ้าง กังวลหนักมาก หาข้อมูลคลินิกอยู่นานเป็นปีกว่าจะตัดสินใจเลือกทำ เปรียบเทียบทั้งราคา ทั้งคุณภาพรีวิวประกอบ สุดท้ายตัดสินใจเลือก......Clinic เพราะเชื่อมือหมอ เคสแต่ละคนที่ทำตาที่นี่ สวยทุกคน จริงๆ การทำตาสองชั้นเหมือนงานศิลปะ อยู่ที่ว่าเราจะชอบลายเส้นของที่ไหนมากกว่ากัน สำหรับเราชอบลายเส้นของคลินิกนี้ที่สุด
ได้เวลาเริ่มรีวิววินาทีที่นัดทำตาสองชั้นแล้ว
วินาทีแรกที่เข้าไปใจสั่นมากจ่ะแม่จ๋า คนมันกลัวเข็มอ่ะเนอะแค่คิดก็ใจสั่นละ เข้าไปถึงก็จะมี Consultant เข้ามาต้อนรับเรา 1 คน ซึ่ง 1 คนนี้แหละสำคัญมาก เพราะเขาจะคอยเป็นที่ปรึกษาให้กับเราตลอดการทำตา 6 เดือน เข้ามาต้อนรับ ขอเล่าแบบเป็นขั้นตอนเลยแล้วกันเนอะ จะได้เห็นภาพกัน
1. กรอกประวัติ และเซ็นเอกสารยินยอมรับทราบการผ่าตัด และถอดต่างหู สร้อยคอออกทั้งหมดเลย
2. หลังจากนั้นก็เข้าห้องทำความสะอาดหน้า ล้างครีมและเครื่องสำอางทั้งหมด
3. เสร็จแล้วก็ไปถ่ายรูป Before แล้วนำภาพไปให้คุณหมอช่วยวิเคราะห์ว่าจะต้องผ่าตัดยังไงให้สวยและเท่ากัน
4. หลังจากนั้นก็ได้เข้าพบแพทย์เคสเราเป็นเคสของทีมแพทย์นะคะ คุณหมอก็แนะนำและทำชั่นตาคร่าวๆให้ดูว่าตอนทำเสร็จแล้วชั้นตาจะประมาณนี้ ไอ้เราก็ด้วยความที่ดูรีวิวเยอะไง และประสบการตาชั้นเดียวมา 30 ปี เลยถามคุณหมอไปว่าถ้านู๋อยากได้ชั้นตาสูงๆได้ไหมค่ะ อยากให้ตาโตๆ แล้วก็ชัดๆ (เห็นคนอื่นทำแล้วสวยอยากบ้าง) หมอตอบกลับมาว่า เดี๋ยวหมอลองทำให้ดู ...... เท่านั้นหล่ะ เอิ่มมมมม เอาเท่าที่หมอแนะนำดีกว่าค่ะ 555* หมอแนะนำว่าชั้นตาสูงๆ ไม่ได้เหมาะกับตาของทุกคน ถ้าเราทำ ตาเราจะดูโปรนๆ แล้วตาจะปรือๆตลอดๆเวลา ความรู้ใหม่ไปอีกว่า เราควรทำแต่พอดี เอาแค่ที่ทำแล้วเหมาะกับหน้าเรา และยังคงความเป็นตัวเราดีกว่า ทำแล้วมาแก้ใหม่
5. หลังจากฟังคุณหมอเสร็จแล้วก็เข้าไปนั่งรอที่ห้องทำความสะอาดหน้า โดยมีพี่ที่ปรึกษาเข้ามาวัดความดัน อัตราการเต้นของหัวใจ หลังจากนั้นเป้ปนึงก็ได้ยามากิน กินเสร็จพี่เขาก็แนะนำให้นอนพักสักครู่ เพราะหัวใจเราเต้นเร็วมาก ความดันสูง ก็คนในกลัวนี่นา หัวใจจะทะลุออกมานอกอกเลย 555*
6. นอนพักไปสักครู่ตื่นมาก็ยังแอบมีใจสั่นนิดๆ พี่เขาก็กลับมาวัดความดันอีกรอบ ปรากฏว่าความดันลดลงจะแต่ยังถือว่าสูงอยู่ ทำให้ยังไม่สามารถผ่าตัดได้ เพราะเสี่ยงที่เลือดจะออกเยอะ เวลาหัวใจเราเต้นแรงๆ เลือดก็จะสูบฉีดเลือดแรงเช่นกัน เราเลยได้กินยาอีกรอบ
7. สักพักพี่ที่ปรึกษาก็เดินมาตามให้เข้าห้องผ่าตัดแล้ว ตอนนั้นหล่ะ ใจลึกๆ คือกลัวมาก แต่..... ไม่ตื่นเต้นเลย นอนลงให้คุณหมอผ่าตัดแต่ง่ายได้ ขอบคุณยาคลายกังวนที่ได้รับไปทำให้ผ่านช่วงเวลานั้นมาได้ 555* ก่อนที่คุณหมอจะผ่าตัด เขาก็จะเอาปากกามาร์คจุดก่อนว่าจะผ่าตรงไหนออกไปบ้าง และผ่าถึงตรงไหน เสร็จแล้วก็นอนลงฉีดยาชาที่หัวตา เพราะเราเลือกผ่าตัดแบบเปิดหัวตาด้วยค่ะ ฉีดที่หัวตาสัก 3 จุดได้ แล้วก็ฉีดไล่ไปที่หางตาทั้ง 2 ข้าง
8. บอกยาชาได้ที่คุณหมอก็ขอลงมือผ่า นาทีนั้นไม่รู้สึกอะไรเลยค่ะ มันไม่เหมือนที่เราดูรีวิวมาเลย มันน่ากลัว แล้วเราก็จินตนาการไปเองว่ามันจะต้องเจ็บ แสบ ปวด ต่างๆ นานา สิ่งเดียวที่เหมือนรีวิวทั่วไปคือ เจ็บแค่ตอนฉีดยาชา แต่ก็ไม่ได้เจ็บมากขนาดนั้น ขนาดเราเป็นคนโครตกลัวเข็มเลยนะ ยังว่าไม่เจ็บอ่ะ
9. สักเป้ปคุณหมอก็บอกว่าเสร็จแล้วครับ เอ้า.... นอนหลับตาเฉยๆ เป้ปเดียวเสร็จและ แต่นาทีนั้นลืมตาไม่ขึ้นจ่ะ ไม่เจ็บไม่รู้สึกใดๆเลย แค่ตึงๆที่ตา ออกมาเจอแฟนตกใจเลย แฟนกลัว เขาบอกสงสารเรา คิดว่าเราจะเจ็บมาก 555*
10. หลังจากผ่าตัดเสร็จก็ไปกินข้าวต่อได้เลย แล้วก็ได้ยามา 1 ชุดสำหรับล้างตา ทาตา และก็ยากิน
คำแนะนำที่ควรทำบ่อยๆ เพื่อไม่ให้แผลนูนและทำให้หายเร็วคือ
· นอนหมอนสูง เสมือนนั่งเลย จริงๆเขาให้นอนท่านี้แค่ 2-3 วันแรก ของเราทำทั้งสัปดาห์เลยเอาชัวร์
· ทายา และกินยาให้ตรงเวลา
ประคบเย็น 3 วันแรก วันที่ 4-5 ไม่ต้องประคบเพื่อพักผิว แล้ววันที่ 6 ก็ประคบอุ่นจนถึงวันตัดไหม
เอาหล่ะ ภาพนี้อาจจะดูไม่เหมาะสมที่จะเปิดตอนกำลังกินข้าวนะคะ ภาพตอนผ่าตัดเสร็จใหม่ๆเลย
เราทำงานบริษัทเอกชน ได้คิวผ่าตัดวันอาทิตย์ วันจันทร์ไปทำงานจร้า..... สภาพการไปทำงานวันแรก เพื่อนๆต่างตกใจ เพราะแผนมันออกจะดูน่ากลัวไปสักนิด เราแนะนำให้คนที่ผ่าตัดตาสองชั้นใส่แว่นอำพรางจะดีมากนะคะ เพราะมันจะทำให้เราไม่ขยี้ตา หรือเกาบริเวณแผล จากรูปยังเห็นไหมอยู๋เลยสีดำๆที่หางตาชัดสุด อ่อเคสเราออกจะดูตาบอมไปหน่อยเพราะว่าระหว่างการผ่าตัดเกิดรู้สึกเจ็บขึ้นมาจิดนึง หมอเลยฉีดยาชาเพิ่มให้ ทำให้ตาจะดูบวมไปนิด
ครบ 7 วัน คุณหมอนัดไปตัดไหม ตอนตัดไหมก็กลัวจ่ะ กลัวเจ็บ แต่มันเจ็บจิดๆ แค่ตรงหัวตาเพราะมันบอบบางสุด ที่เหลือก็ไม่เจ็บเลยสบายๆ
ในช่วงที่ทำตาอยู่นั้น ยังไม่ครบ 1 เดือนเลย แฟนเรามาขอแต่งงานจ่ะ ไม่เกรงใจชั้นตาที่กะลังบวมเลย 555* เลยขออวดรูปสักนิดก่อนครบ 1 เดือน ตายังตึงๆอยู่เลย แต่งหน้าก็ยังไม่ได้มาก กลัวแผลจะอักเสบ แต่ก็กลัวจะไม่สวย ขอแต่งแบบเว้นตาไว้แล้วกันนะวันนึง
ผ่านไป 1 เดือน คุณหมอก็นัดดูแผลผ่าตัด ระยะหว่างรอหมอก็ทำคอร์สลดรอยแดง + นวดลดบวม
• เริ่มจากการติดแผ่นสื่อที่ด้านหลัง และทาเจลเย็นๆบริเวณรอบดวงตา และเปลือกตา
• หลังจากนั้นก็ใช้เครื่องนวดรอบๆดวงตา และแผลเพื่อลดอาการบวม มันจะรู้สึกอุ่นๆ สบายตามาก เพลินดี
• พอนวดเสร็จ ก็ถึงเวลาเลเซอร์ ก่อนจะทำการเลเซอร์ก็มีการหยอดยาชาเข้าไปในตา ซึ่งเป็ยยาตัวเดียวกับห้องผ่าตัด ปลอดภัยแน่นอน
• หยอดเสร็จปุ๊บมันจะเคืองๆตาสักเป้ปนึง แล้วก็หาย หลังจากนั้นก็ใส่อุปกรณ์ป้องกันกระจกตาจากแสง (จำชื่อไม่ได้แล้ว) แต่ลักษณะเหมือนคอนแทคเลนส์เลย นุ่ม สบายๆ ไม่เจ็บ ไม่เคืองตาเลย
• ใส่เสร็จ 2 ข้างก็จะมองไม่เห็นอะไรแล้ว ก็นอนหลับตา หลังจากนั้นคุณหมอก็เริ่มยิงเลเซอร์ด้วยความสูงมาก ไม่ถึง 1 นาที เสร็จละ ตอนแรกโครตกลัว แต่เอาเขาจริงๆ กลังไม่ทัน เพราะทำไวเกิน
• ความรู้สึกหลังยิงเสร็จ ก็เหมือนยิงเลเซอร์ขนขา หรือรักแร้อ่า มันจะร้อนๆ แป้ปๆ แต่ตกใจนิดหน่อยตอนแรกเพราะเราจะเห็นรำแสงรำไรๆ ตอนที่คุณหมอยิง
• หลังจากทำเสร็จก็ชิวละ ไม่รู้สึกอะไรเลย คุณหมอบอกว่าหลังจากนี้ 2-3 วันแผลจะแดงขึ้น และจะค่อยๆจางลง ซึ่งแปลว่าแผลผ่าตัดก็จะค่อยๆเลือนหายไปแทบมองไม่เห็น
• อดทนรอดูผลงานหน่อยนะ กว่าจะสวยต้องใช้เวลาหน่อย เข้าที่จริง 6 เดือน ตอนนี้พึ่งจะ 1 เดือนเอง
4 เดือนผ่านไป ไวเหมือนโกหกเลย เป้ปเดียวเอง มีแต่คนชมว่าชั้นตาสวย ขนาดยังไม่เข้าที่ดียังดูออกว่าจะสวย รอลุ้นแล้วว่าตอนครบ 6 เดือนจะเป็นยังไง
แบบไม่กรีดขอบตา แต่งหน้ากรีดตาไปทำงาน
ครบ 6 เดือนแล้วจร้า ชั้นตาสวยงาม เหมือนตอนที่คุณหมอลองเอาไม้จิ้มฟันกดให้ดูเลย นี่ถ้าตอนนั้นดื้อจะเอาชั้นตาสูงๆ ป่านนี้หน้าเราคงตลกไปละ ทำออกมาแล้วโอเคมากกกกก มันดูเป็นธรรมชาติสุดๆ รู้สึกดีใจทุกครั้งที่ส่องกระจกว่าเออ เราเลือกคลิกนิคไม่ผิดจริงๆ เขาทำให้ฝันของเราเป็นจริงแล้ว ^-^

.
.
.
.
.
เปรียบเทียบ Before & After อีกครั้ง
[CR] รีวิวทำตาสองชั้นครั้งแรกในชีวิต กับคนที่โครตกลัวเข็ม ในโปรเจคที่ชื่อว่า “กว่าจะสวย เราจะไม่หมวยอีกต่อไป”
ตอนยังไม่กรีดตาสังเกตได้จากตาข้างซ้าย ชั้นตาไม่เท่ากัน กรีดตาหนาเท่าไหร่ก็เห็นอยู่แค่เนี้ย
ส่วนตัวเราก่อนจะตัดสินใจทำคิดอยู่นานมากๆ โดนแม่ด่า โดนคนรอบข้างไซโค ว่าคนทำมาแล้วไม่เข้ากับตัวเอง ทำแล้วแผลจะเน่าบ้าง จะหน้าเละบ้าง กังวลหนักมาก หาข้อมูลคลินิกอยู่นานเป็นปีกว่าจะตัดสินใจเลือกทำ เปรียบเทียบทั้งราคา ทั้งคุณภาพรีวิวประกอบ สุดท้ายตัดสินใจเลือก......Clinic เพราะเชื่อมือหมอ เคสแต่ละคนที่ทำตาที่นี่ สวยทุกคน จริงๆ การทำตาสองชั้นเหมือนงานศิลปะ อยู่ที่ว่าเราจะชอบลายเส้นของที่ไหนมากกว่ากัน สำหรับเราชอบลายเส้นของคลินิกนี้ที่สุด
ได้เวลาเริ่มรีวิววินาทีที่นัดทำตาสองชั้นแล้ว
วินาทีแรกที่เข้าไปใจสั่นมากจ่ะแม่จ๋า คนมันกลัวเข็มอ่ะเนอะแค่คิดก็ใจสั่นละ เข้าไปถึงก็จะมี Consultant เข้ามาต้อนรับเรา 1 คน ซึ่ง 1 คนนี้แหละสำคัญมาก เพราะเขาจะคอยเป็นที่ปรึกษาให้กับเราตลอดการทำตา 6 เดือน เข้ามาต้อนรับ ขอเล่าแบบเป็นขั้นตอนเลยแล้วกันเนอะ จะได้เห็นภาพกัน
1. กรอกประวัติ และเซ็นเอกสารยินยอมรับทราบการผ่าตัด และถอดต่างหู สร้อยคอออกทั้งหมดเลย
2. หลังจากนั้นก็เข้าห้องทำความสะอาดหน้า ล้างครีมและเครื่องสำอางทั้งหมด
3. เสร็จแล้วก็ไปถ่ายรูป Before แล้วนำภาพไปให้คุณหมอช่วยวิเคราะห์ว่าจะต้องผ่าตัดยังไงให้สวยและเท่ากัน
4. หลังจากนั้นก็ได้เข้าพบแพทย์เคสเราเป็นเคสของทีมแพทย์นะคะ คุณหมอก็แนะนำและทำชั่นตาคร่าวๆให้ดูว่าตอนทำเสร็จแล้วชั้นตาจะประมาณนี้ ไอ้เราก็ด้วยความที่ดูรีวิวเยอะไง และประสบการตาชั้นเดียวมา 30 ปี เลยถามคุณหมอไปว่าถ้านู๋อยากได้ชั้นตาสูงๆได้ไหมค่ะ อยากให้ตาโตๆ แล้วก็ชัดๆ (เห็นคนอื่นทำแล้วสวยอยากบ้าง) หมอตอบกลับมาว่า เดี๋ยวหมอลองทำให้ดู ...... เท่านั้นหล่ะ เอิ่มมมมม เอาเท่าที่หมอแนะนำดีกว่าค่ะ 555* หมอแนะนำว่าชั้นตาสูงๆ ไม่ได้เหมาะกับตาของทุกคน ถ้าเราทำ ตาเราจะดูโปรนๆ แล้วตาจะปรือๆตลอดๆเวลา ความรู้ใหม่ไปอีกว่า เราควรทำแต่พอดี เอาแค่ที่ทำแล้วเหมาะกับหน้าเรา และยังคงความเป็นตัวเราดีกว่า ทำแล้วมาแก้ใหม่
5. หลังจากฟังคุณหมอเสร็จแล้วก็เข้าไปนั่งรอที่ห้องทำความสะอาดหน้า โดยมีพี่ที่ปรึกษาเข้ามาวัดความดัน อัตราการเต้นของหัวใจ หลังจากนั้นเป้ปนึงก็ได้ยามากิน กินเสร็จพี่เขาก็แนะนำให้นอนพักสักครู่ เพราะหัวใจเราเต้นเร็วมาก ความดันสูง ก็คนในกลัวนี่นา หัวใจจะทะลุออกมานอกอกเลย 555*
6. นอนพักไปสักครู่ตื่นมาก็ยังแอบมีใจสั่นนิดๆ พี่เขาก็กลับมาวัดความดันอีกรอบ ปรากฏว่าความดันลดลงจะแต่ยังถือว่าสูงอยู่ ทำให้ยังไม่สามารถผ่าตัดได้ เพราะเสี่ยงที่เลือดจะออกเยอะ เวลาหัวใจเราเต้นแรงๆ เลือดก็จะสูบฉีดเลือดแรงเช่นกัน เราเลยได้กินยาอีกรอบ
7. สักพักพี่ที่ปรึกษาก็เดินมาตามให้เข้าห้องผ่าตัดแล้ว ตอนนั้นหล่ะ ใจลึกๆ คือกลัวมาก แต่..... ไม่ตื่นเต้นเลย นอนลงให้คุณหมอผ่าตัดแต่ง่ายได้ ขอบคุณยาคลายกังวนที่ได้รับไปทำให้ผ่านช่วงเวลานั้นมาได้ 555* ก่อนที่คุณหมอจะผ่าตัด เขาก็จะเอาปากกามาร์คจุดก่อนว่าจะผ่าตรงไหนออกไปบ้าง และผ่าถึงตรงไหน เสร็จแล้วก็นอนลงฉีดยาชาที่หัวตา เพราะเราเลือกผ่าตัดแบบเปิดหัวตาด้วยค่ะ ฉีดที่หัวตาสัก 3 จุดได้ แล้วก็ฉีดไล่ไปที่หางตาทั้ง 2 ข้าง
8. บอกยาชาได้ที่คุณหมอก็ขอลงมือผ่า นาทีนั้นไม่รู้สึกอะไรเลยค่ะ มันไม่เหมือนที่เราดูรีวิวมาเลย มันน่ากลัว แล้วเราก็จินตนาการไปเองว่ามันจะต้องเจ็บ แสบ ปวด ต่างๆ นานา สิ่งเดียวที่เหมือนรีวิวทั่วไปคือ เจ็บแค่ตอนฉีดยาชา แต่ก็ไม่ได้เจ็บมากขนาดนั้น ขนาดเราเป็นคนโครตกลัวเข็มเลยนะ ยังว่าไม่เจ็บอ่ะ
9. สักเป้ปคุณหมอก็บอกว่าเสร็จแล้วครับ เอ้า.... นอนหลับตาเฉยๆ เป้ปเดียวเสร็จและ แต่นาทีนั้นลืมตาไม่ขึ้นจ่ะ ไม่เจ็บไม่รู้สึกใดๆเลย แค่ตึงๆที่ตา ออกมาเจอแฟนตกใจเลย แฟนกลัว เขาบอกสงสารเรา คิดว่าเราจะเจ็บมาก 555*
10. หลังจากผ่าตัดเสร็จก็ไปกินข้าวต่อได้เลย แล้วก็ได้ยามา 1 ชุดสำหรับล้างตา ทาตา และก็ยากิน
คำแนะนำที่ควรทำบ่อยๆ เพื่อไม่ให้แผลนูนและทำให้หายเร็วคือ
· นอนหมอนสูง เสมือนนั่งเลย จริงๆเขาให้นอนท่านี้แค่ 2-3 วันแรก ของเราทำทั้งสัปดาห์เลยเอาชัวร์
· ทายา และกินยาให้ตรงเวลา
ประคบเย็น 3 วันแรก วันที่ 4-5 ไม่ต้องประคบเพื่อพักผิว แล้ววันที่ 6 ก็ประคบอุ่นจนถึงวันตัดไหม
เอาหล่ะ ภาพนี้อาจจะดูไม่เหมาะสมที่จะเปิดตอนกำลังกินข้าวนะคะ ภาพตอนผ่าตัดเสร็จใหม่ๆเลย
เราทำงานบริษัทเอกชน ได้คิวผ่าตัดวันอาทิตย์ วันจันทร์ไปทำงานจร้า..... สภาพการไปทำงานวันแรก เพื่อนๆต่างตกใจ เพราะแผนมันออกจะดูน่ากลัวไปสักนิด เราแนะนำให้คนที่ผ่าตัดตาสองชั้นใส่แว่นอำพรางจะดีมากนะคะ เพราะมันจะทำให้เราไม่ขยี้ตา หรือเกาบริเวณแผล จากรูปยังเห็นไหมอยู๋เลยสีดำๆที่หางตาชัดสุด อ่อเคสเราออกจะดูตาบอมไปหน่อยเพราะว่าระหว่างการผ่าตัดเกิดรู้สึกเจ็บขึ้นมาจิดนึง หมอเลยฉีดยาชาเพิ่มให้ ทำให้ตาจะดูบวมไปนิด
ครบ 7 วัน คุณหมอนัดไปตัดไหม ตอนตัดไหมก็กลัวจ่ะ กลัวเจ็บ แต่มันเจ็บจิดๆ แค่ตรงหัวตาเพราะมันบอบบางสุด ที่เหลือก็ไม่เจ็บเลยสบายๆ
ในช่วงที่ทำตาอยู่นั้น ยังไม่ครบ 1 เดือนเลย แฟนเรามาขอแต่งงานจ่ะ ไม่เกรงใจชั้นตาที่กะลังบวมเลย 555* เลยขออวดรูปสักนิดก่อนครบ 1 เดือน ตายังตึงๆอยู่เลย แต่งหน้าก็ยังไม่ได้มาก กลัวแผลจะอักเสบ แต่ก็กลัวจะไม่สวย ขอแต่งแบบเว้นตาไว้แล้วกันนะวันนึง
ผ่านไป 1 เดือน คุณหมอก็นัดดูแผลผ่าตัด ระยะหว่างรอหมอก็ทำคอร์สลดรอยแดง + นวดลดบวม
• เริ่มจากการติดแผ่นสื่อที่ด้านหลัง และทาเจลเย็นๆบริเวณรอบดวงตา และเปลือกตา
• หลังจากนั้นก็ใช้เครื่องนวดรอบๆดวงตา และแผลเพื่อลดอาการบวม มันจะรู้สึกอุ่นๆ สบายตามาก เพลินดี
• พอนวดเสร็จ ก็ถึงเวลาเลเซอร์ ก่อนจะทำการเลเซอร์ก็มีการหยอดยาชาเข้าไปในตา ซึ่งเป็ยยาตัวเดียวกับห้องผ่าตัด ปลอดภัยแน่นอน
• หยอดเสร็จปุ๊บมันจะเคืองๆตาสักเป้ปนึง แล้วก็หาย หลังจากนั้นก็ใส่อุปกรณ์ป้องกันกระจกตาจากแสง (จำชื่อไม่ได้แล้ว) แต่ลักษณะเหมือนคอนแทคเลนส์เลย นุ่ม สบายๆ ไม่เจ็บ ไม่เคืองตาเลย
• ใส่เสร็จ 2 ข้างก็จะมองไม่เห็นอะไรแล้ว ก็นอนหลับตา หลังจากนั้นคุณหมอก็เริ่มยิงเลเซอร์ด้วยความสูงมาก ไม่ถึง 1 นาที เสร็จละ ตอนแรกโครตกลัว แต่เอาเขาจริงๆ กลังไม่ทัน เพราะทำไวเกิน
• ความรู้สึกหลังยิงเสร็จ ก็เหมือนยิงเลเซอร์ขนขา หรือรักแร้อ่า มันจะร้อนๆ แป้ปๆ แต่ตกใจนิดหน่อยตอนแรกเพราะเราจะเห็นรำแสงรำไรๆ ตอนที่คุณหมอยิง
• หลังจากทำเสร็จก็ชิวละ ไม่รู้สึกอะไรเลย คุณหมอบอกว่าหลังจากนี้ 2-3 วันแผลจะแดงขึ้น และจะค่อยๆจางลง ซึ่งแปลว่าแผลผ่าตัดก็จะค่อยๆเลือนหายไปแทบมองไม่เห็น
• อดทนรอดูผลงานหน่อยนะ กว่าจะสวยต้องใช้เวลาหน่อย เข้าที่จริง 6 เดือน ตอนนี้พึ่งจะ 1 เดือนเอง
4 เดือนผ่านไป ไวเหมือนโกหกเลย เป้ปเดียวเอง มีแต่คนชมว่าชั้นตาสวย ขนาดยังไม่เข้าที่ดียังดูออกว่าจะสวย รอลุ้นแล้วว่าตอนครบ 6 เดือนจะเป็นยังไง
แบบไม่กรีดขอบตา แต่งหน้ากรีดตาไปทำงาน
ครบ 6 เดือนแล้วจร้า ชั้นตาสวยงาม เหมือนตอนที่คุณหมอลองเอาไม้จิ้มฟันกดให้ดูเลย นี่ถ้าตอนนั้นดื้อจะเอาชั้นตาสูงๆ ป่านนี้หน้าเราคงตลกไปละ ทำออกมาแล้วโอเคมากกกกก มันดูเป็นธรรมชาติสุดๆ รู้สึกดีใจทุกครั้งที่ส่องกระจกว่าเออ เราเลือกคลิกนิคไม่ผิดจริงๆ เขาทำให้ฝันของเราเป็นจริงแล้ว ^-^
.
.
.
.
.
เปรียบเทียบ Before & After อีกครั้ง
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้