อยุธยาเคยมีเมืองหลวงที่พิษณุโลกกับลพบุรีหรอฮะ


พอดีอ่านในวิกิอังกฤษ เเล้วผมเเปลกใจที่เมืองหลวง ทำไมฝรั่งเค้าถึงรู้ดีกว่าเราล่ะฮะ ตั้งเเต่เรียนมาผมก็ไม่เคยเจอใครบอกงี้นะ เเต่เท่าที่รู้ก็ตอนมหาธรรมราชา กับพระนารายณ์ใช่มั้ยฮะ ที่ทั้งสองคนก็ไม่ค่อยจะอยู่อยุธยากันซักเท่าไหร่
คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 14
ไม่ได้มีหลักฐานการกำหนดสถานะของเมืองพิษณุโลกและเมืองลพบุรีในช่วงเวลาดังกล่าวเป็น "เมืองหลวง" อย่างชัดเจนครับ  แต่ทั้งสองเมืองเคยเป็นที่ประทับหลักของพระเจ้าแผ่นดินในช่วงเวลาหนึ่ง


เมืองพิษณุโลกในรัชกาลสมเด็จพระบรมไตรโลกนารถ  เคยเป็นศูนย์กลางของอาณาจักรสุโขทัยที่ปกครองโดยพระมหาธรรมราชาราชวงศ์พระร่วง เช่นเดียวกับหัวเมืองเหนือที่สำคัญคือเมืองสุโขทัย เมืองศรีสัชนาลัย เมืองกำแพงเพชร ที่ต่างมีกษัตริย์ปกครอง  ในอดีตดินแดนเหล่านี้เคยเป็นอิสระก่อนที่จะถูกกรุงศรีอยุทธยาผนวกมาเป็นส่วนหนึ่งของอาณาจักร  กษัตริย์กรุงศรีอยุทธยาทรงเกี่ยวดองกับเจ้านายสุโขทัยหลายพระองค์ผ่านการอภิเษกสมรส

ในรัชกาลสมเด็จพระบรมราชาธิราช (เจ้าสามพญา) หัวเมืองเหนือทั้ง ๔ มีสถานะใกล้เคียงกับประเทศราชของกรุงศรีอยุทธยาโดยค่อนข้างเป็นอิสระต่อกัน  มีผู้ปกครองคือพระญาบาลเมืองแห่งสองแคว (พิษณุโลก)  พระญารามราชแห่งสุโขทัย  พระญาเชลียงแห่งสวรรคโลก (ศรีสัชนาลัย)  และพระญาแสนสอยดาวแห่งเมืองกำแพงเพชร  ทั้ง ๔ มีสายสัมพันธ์ใกล้ชิดกับกรุงศรีอยุทธยาและลงมาถวายงานบ่อยครั้ง   ต่อมาสมเด็จพระบรมราชาธิราชจึงทรงสถาปนาพระญาบาลเมือง ซึ่งเป็นพี่น้องของพระราชเทวีของพระองค์เป็นมหาธรรมราชา  คือพระมาตุลาของสมเด็จพระบรมไตรโลกนารถ   ด้วยเหตุนี้สมเด็จพระบรมไตรโลกนารถจึงทรงมีเชื้อสายราชวงศ์พระร่วงผ่านทางพระราชมารดา

ในต้นรัชกาลสมเด็จพระบรมไตรโลกนารถ หัวเมืองฝ่ายเหนือยังปกครองตนเองค่อนข้างเป็นอิสระอยู่ แต่เกิดเหตุว่าเจ้าฝ่ายเหนือได้แปรพักตร์ไปเข้ากับพระเจ้าติโลกราชแห่งเชียงใหม่  ได้แก่พระญายุทธิษฐิระแห่งเมืองสองแควใน พ.ศ. ๑๙๙๕     พญาเชลียงก่อกบฏเทครัวอพยพใน พ.ศ. ๒๐๐๓) และเมืองนครไทยเทครัวอพยพไปเมืองน่านใน พ.ศ. ๒๐๐๕   เป็นการชักนำเชียงใหม่ขยายอำนาจเข้ามาในดินแดนสุโขทัยเดิมจนต้องทำสงครามกับกรุงศรีอยุทธยาเป็นเวลาหลายปี

สมเด็จพระบรมไตรโลกนารถจึงเสด็จไปเสวยราชสมบัติที่เมืองพิษณุโลกตั้งแต่ พ.ศ. ๒๐๐๖ จนเสด็จสวรรคตใน พ.ศ. ๒๐๓๑  โดยให้สมเด็จพระบรมราชาธิราช (พระอินทราชา) พระราชโอรสเสวยราชสมบัติที่กรุงศรีอยุทธยาแทน   สาเหตุหลักเชื่อว่ามีจุดประสงค์ในการรับศึกทางเมืองเชียงใหม่ และเพื่อสะดวกต่อการดูแลสอดส่องหัวเมืองฝ่ายเหนือไปพร้อมกันด้วย   ทั้งนี้ด้วยความที่ทรงมีเชื้อสายราชวงศ์พระร่วง ย่อมทำให้ทรงมีความชอบธรรมมากพอที่จะอ้างสิทธิการปกครองเมืองพิษณุโลกรวมถึงดินแดนสุโขทัยได้

ทั้งนี้พบหลักฐานว่าสมเด็จพระบรมไตรโลกนารถพยายามรวมศูนย์อำนาจการปกครองมากขึ้น ด้วยการลดอำนาจเจ้านายฝ่ายเหนือดั้งเดิมลง  หัวเมืองเหนือทั้ง ๔ ซึ่งเดิมใกล้เคียงกับประเทศราช  ปรากฏในกฎมณเฑียรบาลที่บัญญัติในรัชกาลนี้ว่าถูกเปลี่ยนสถานะเป็น "เมืองพญามหานคร" ที่ต้องถือน้ำพระพิพัฒน์สัตยา  แม้พบว่าพญามหานครในช่วงแรกยังมีอำนาจมากและมักเป็นเชื้อพระวงศ์  แต่มาจากการแต่งตั้งของพระเจ้ากรุงศรีอยุทธยา  ไม่ได้สืบตระกูลโดยอัตโนมัติเหมือนอย่างประเทศราชในอดีต  

กฎมณเฑียรบาลยังกำหนดสถานะของเมืองพิษณุโลก สวรรคโลก และกำแพงเพชรเป็น "เมืองลูกหลวง"   แสดงให้เห็นว่ากรุงศรีอยุทธยาพยายามแทรกแซงการปกครองหัวเมืองเหนือด้วยการส่งเชื้อสายราชวงศ์ของตนเองไปปกครองเมืองแทน    ด้วยเหตุนี้จึงพบว่าในเวลาต่อมาเมืองพิษณุโลกจึงกลายเป็นที่ประทับของพระมหาอุปราชจากกรุงศรีอยุทธยาหลายพระองค์

ถึงกระนั้นการรวมศูนย์อำนาจของกรุงศรีอยุทธยาในเวลานั้นก็ยังไม่มากนัก ยังมีพระราชวงศ์ที่มีอำนาจเต็มเป็นกษัตริย์ปกครองหัวเมืองต่างๆ อยู่จำนวนมาก  เช่นเดียวกับกรุงศรีอยุทธยาในเวลานั้นที่สมเด็จพระบรมราชาธิราชทรงเสวยราชสมบัติเป็นพระเจ้าแผ่นดินพระองค์หนึ่ง  โดยที่อยู่ใต้พระราชอำนาจของพระราชบิดาที่เมืองพิษณุโลกอีกต่อหนึ่งครับ



ลพบุรี เป็นสถานที่ประทับหลักในรัชกาลสมเด็จพระนารายณ์ซึ่งมีบันทึกว่าทรงประทับอยู่ถึงปีละ ๗-๘ เดือน  

ในทรรศนะเดิมมองว่าสมเด็จพระนารายณ์สร้างลพบุรีเป็นราชธานีสำรองเพิ่งป้องกันเอกราชคุกคามจากฮอลันดาที่เคยยกกำลังมาปิดปากน้ำเจ้าพระยาราว พ.ศ.๒๒๐๗  แต่เมื่อพิจารณาตามหลักฐานร่วมสมัยแล้วเรื่องนี้ก็ขัดกับหลักฐานของราชทูตฝรั่งเศสที่ว่าสันดอนปากแม่น้ำเจ้าพระยาก็มากพอที่จะกีดขวางเรือใหญ่ไม่ให้เข้ามาได้แล้ว แล้วแม้ว่าจะมีหลักฐานว่าทรงโปรดไปประทับที่ลพบุรีอยู่ก่อนหน้า แต่ปรากฏหลักฐานว่าพระราชวังลพบุรีเพิ่งกำลังก่อสร้างราว พ.ศ.๒๒๒๓ สอดคล้องกับรายงานราชทูตอิหร่านใน พ.ศ.๒๒๒๕ ที่ว่าเมืองลพบุรีเพิ่งก่อสร้างเมื่อไม่นาน เวลาจึงไม่สอดคล้องกับช่วงที่ฮอลันดาบุกเข้ามา

ข้อสันนิษฐานใหม่คือพระองค์ต้องการหลบเลี่ยงจากสภาวะกดดันที่อยุทธยาตามที่หลักฐานร่วมสมัยหลายชิ้นระบุว่าพระองค์ระแวงว่าจะถูกรัฐประหารซึ่งขุนนางทั้งหลายมีไพร่ในสังกัดที่อยุทธยามาก ส่วนลพบุรีมีหลักฐานที่กล่าวว่าเสมือนเป็น "ฐานอำนาจ" ของสมเด็จพระนารายณ์ที่พระองค์สามารถประทับอยู่อย่างมั่นคงมากกว่า พระองค์โปรดจะประทับอยู่เป็นโวลานานโดยสามารถไว้พระเกียรติได้น้อยกว่าที่อยุทธยา ขุนนางที่ตามเสด็จไม่ได้มีกำลังเหมือนอยู่ที่อยุทธยา สามารถเสด็จออกประพาสล่าสัตว์โดยไม่ต้องมีผู้ติดตามมากเหมือนที่อยุทธยา   จนนิโกลาส์ แฌร์แวส (Nicolas Gervaise) มิชชันนารีชาวฝรั่งเศสร่วมสมัยวิจารณ์ว่าลพบุรีเหมือนกับ "แวร์ซายส์" ของฝรั่งเศส    

"แวร์ซายส์" ไม่ได้เป็นเพียงแค่พระราชวังใหญ่โตหรูหรา แต่เป็นศูนย์กลางพระราชอำนาจของพระเจ้าหลุยส์ที่ ๑๔ ที่ทรงปกครองแผ่นดินในฐานะรัฐสมบูรณาญาสิทธิราชย์อย่างเด็ดขาด และทรงควบคุมขุนนางฝรั่งเศสให้อยู่ใต้อำนาจของพระองค์ไม่ให้กล้าก่อกบฏได้อย่างสมบูรณ์ต่างจากที่ปารีส การเปรียบเปรยลพบุรีเช่นนี้จึงมีนัยยะทางการเมืองอยู่ชัดเจนครับ

ทั้งนี้มีรายงานว่าเมืองลพบุรีมีอากาศดีและเป็นแหล่งคล้องช้างสำคัญ จึงเป็นที่โปรดปรานของสมเด็จพระนารายณ์ในการสำราญพระอิริยาบทด้วยและเสด็จประพาสคล้องช้างเป็นประจำด้วยครับ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่