สวัสดีครับ
เรื่องมีอยู่ว่า ผมคุยกับผู้หญิงคนนึง ซึ่งระหว่างที่คุยกัน ผมรู้สึกชอบคนนี้มาก จนคิดไปไกลว่าคนนี้แหละคือแม่ของลูก
เราทั้ง2 คนอยู่คนละจังหวัด และด้วยการที่เธอต้องทำงานตามตารางเวลา ทำให้โอกาสในการที่จะเจอกันเป็นไปได้ยากมาก แต่ก็มีการนัดคุย กันเป็นครั้งคราว เพื่อที่จะไปทานข้าว ดูหนัง บลาๆ
หลังจากนั้นก็มากับ Covid ทำให้เราไม่ได้เจอกันอีกเลย เราได้คุยกันเพียงผ่านแชท บอกคิดถึง แพลนว่าจะไปทำนู่นทำนี่ด้วยกัน และด้วยความที่ผมคุยแชทไม่เก่งเท่ากับการคุยแบบซึ่งๆหน้า ทำให้บทสนทนาเริ่มที่จะซ้ำซาก ในแต่ละวันผมจะถามด้วยคำถามซ้ำไปซ้ำมา เช่น ทำไรยัง? กินข้าวยัง? ทำงานเหนื่อยมั้ย? พอเธอเริ่มหายผมเริ่มเยอะใส่เธอ
จนวันนึงหลังจากผ่านไปหลายเดือน อยู่ดีๆเธอก็มาบอกว่าเธอไม่อยากให้ความหวังกับผม คิดกับผมแค่เพื่อน เธอมีคนคุยอยู่และอยากคุยคนเดียว จุดนั้นบอกเลยว่าเศร้ามาก ผมถึงกับทำอะไรไม่ถูกเลย เพราะตั้งความหวังกับคนนี้ไว้สูงมาก จนผมตัดสินใจ ตัดการติดต่อกับเธอ ทำเยอะใส่เธอ บอกเธอว่าขอบล็อคทุกอย่างเพื่อตัดใจ ซึ่งเธอก็โอเค
เชื่อมั้ยครับ ?ผ่านไปแค่อาทิตย์เดียวผมทักไปขอคืนดีกับเธอ แต่การแชทกันไม่เหมือนเดิมแล้ว เหมือนเธอพยายามตัดบทการสนทนา ด้วยการตอบสั้นๆ จนผมนัดเจอกันอีกรอบ ผมบอกกับเธอว่าผมไม่ได้คิดอะไรเกินเลย ผมทำใจได้แล้ว เพื่อให้เธอได้ลบ mindset ที่ว่าไม่อยากคุยกับผมแบบสนิทใจ เพราะไม่อยากให้ความหวังผม แถมเจอครั้งนี้ ผมขอเธอคุยกันแบบเปิดใจถึงเรื่องตอนที่จีบกัน ให้เธอบอกว่าข้อเสียของผมเป็นแบบไหน ซี่งทุกอย่างก็ผ่านไปด้วยดี แถมเราต่างก็สบายใจมากขึ้น
ผมยอมรับว่าผมยังรักเธอ แต่ความรักไม่จำเป็นต้องรักในฐานะแฟนหรือคนรักเสมอไป เราสามารถรัก ห่วงใยในฐานะเพื่อนได้
เกริ่นมาซะยาวขนาดนี้ เลยอยากถามเพื่อน พี่ๆว่า
1) มีใครที่โดนปฏิเสธมาแต่ทำใจกลับมาคุยกับแบบปกติได้มั้ยครับ?
2) การที่ผมนัดเธอมาคุยกัน เพื่อเปิดใจในเรื่องนี้เป็นสิ่งที่ถูก ที่ควรทำมั้ยครับ?
3) อันนี้ถามผญ.นะครับ ถ้าสมมติเกิดมีผช. ทำแบบนี้กับคุณ คุณจะรู้สึกยังไง และมีสิทธิ์ที่คุณจะเปิดใจให้เค้ามั้ย?
หลังถูกปฏิเสธ กลับมาการคุยเป็นเพื่อนและเปิดใจกัน มีใครเคยทำมั้ยครับ?
เรื่องมีอยู่ว่า ผมคุยกับผู้หญิงคนนึง ซึ่งระหว่างที่คุยกัน ผมรู้สึกชอบคนนี้มาก จนคิดไปไกลว่าคนนี้แหละคือแม่ของลูก
เราทั้ง2 คนอยู่คนละจังหวัด และด้วยการที่เธอต้องทำงานตามตารางเวลา ทำให้โอกาสในการที่จะเจอกันเป็นไปได้ยากมาก แต่ก็มีการนัดคุย กันเป็นครั้งคราว เพื่อที่จะไปทานข้าว ดูหนัง บลาๆ
หลังจากนั้นก็มากับ Covid ทำให้เราไม่ได้เจอกันอีกเลย เราได้คุยกันเพียงผ่านแชท บอกคิดถึง แพลนว่าจะไปทำนู่นทำนี่ด้วยกัน และด้วยความที่ผมคุยแชทไม่เก่งเท่ากับการคุยแบบซึ่งๆหน้า ทำให้บทสนทนาเริ่มที่จะซ้ำซาก ในแต่ละวันผมจะถามด้วยคำถามซ้ำไปซ้ำมา เช่น ทำไรยัง? กินข้าวยัง? ทำงานเหนื่อยมั้ย? พอเธอเริ่มหายผมเริ่มเยอะใส่เธอ
จนวันนึงหลังจากผ่านไปหลายเดือน อยู่ดีๆเธอก็มาบอกว่าเธอไม่อยากให้ความหวังกับผม คิดกับผมแค่เพื่อน เธอมีคนคุยอยู่และอยากคุยคนเดียว จุดนั้นบอกเลยว่าเศร้ามาก ผมถึงกับทำอะไรไม่ถูกเลย เพราะตั้งความหวังกับคนนี้ไว้สูงมาก จนผมตัดสินใจ ตัดการติดต่อกับเธอ ทำเยอะใส่เธอ บอกเธอว่าขอบล็อคทุกอย่างเพื่อตัดใจ ซึ่งเธอก็โอเค
เชื่อมั้ยครับ ?ผ่านไปแค่อาทิตย์เดียวผมทักไปขอคืนดีกับเธอ แต่การแชทกันไม่เหมือนเดิมแล้ว เหมือนเธอพยายามตัดบทการสนทนา ด้วยการตอบสั้นๆ จนผมนัดเจอกันอีกรอบ ผมบอกกับเธอว่าผมไม่ได้คิดอะไรเกินเลย ผมทำใจได้แล้ว เพื่อให้เธอได้ลบ mindset ที่ว่าไม่อยากคุยกับผมแบบสนิทใจ เพราะไม่อยากให้ความหวังผม แถมเจอครั้งนี้ ผมขอเธอคุยกันแบบเปิดใจถึงเรื่องตอนที่จีบกัน ให้เธอบอกว่าข้อเสียของผมเป็นแบบไหน ซี่งทุกอย่างก็ผ่านไปด้วยดี แถมเราต่างก็สบายใจมากขึ้น
ผมยอมรับว่าผมยังรักเธอ แต่ความรักไม่จำเป็นต้องรักในฐานะแฟนหรือคนรักเสมอไป เราสามารถรัก ห่วงใยในฐานะเพื่อนได้
เกริ่นมาซะยาวขนาดนี้ เลยอยากถามเพื่อน พี่ๆว่า
1) มีใครที่โดนปฏิเสธมาแต่ทำใจกลับมาคุยกับแบบปกติได้มั้ยครับ?
2) การที่ผมนัดเธอมาคุยกัน เพื่อเปิดใจในเรื่องนี้เป็นสิ่งที่ถูก ที่ควรทำมั้ยครับ?
3) อันนี้ถามผญ.นะครับ ถ้าสมมติเกิดมีผช. ทำแบบนี้กับคุณ คุณจะรู้สึกยังไง และมีสิทธิ์ที่คุณจะเปิดใจให้เค้ามั้ย?