สวัสดีค่ะ เราจะเล่าเหตุการณ์ให้ฟังคร่าวๆ นะคะ
ปกติ แม่ เรา และพี่สาว จะสนิทกันอยู่ด้วยกัน จนเรามีครอบครัวพี่ก็อยู่กับแม่ จนมาถึงช่วงกลางๆปี2019 แม่กลับเมืองไทยพี่จึงได้อยู่คนเดียว ปกติแม่จะไปๆมาๆ แต่กลับรอบนี้นานเพราะมีปัญหาการเดินทางจากไวรัสโคโรน่า
ช่วงหลังๆมา พี่สาวติดต่อยากมาก ไม่ค่อยรับสายไม่ค่อยได้เจอหน้า ปกติจะมีกินข้าวไปช้อปปิ้งด้วยกันบ่อยๆ จนวันหนึ่งแม่เริ่มไม่สบายใจจึงให้เราไปหาที่ห้องเราไปกดที่ห้องหลายรอบ4-5รอบก็เปิดประตูให้เรา แต่เราดูท่าทางของพี่ก็แปลกๆแต่เราไม่คิดอะไรมาก
อาการแปลกที่ว่าคือพี่เป็นเม่อๆเบลอๆลอยๆ ลกๆลนๆ เราเลยชวนมาที่บ้านเรามากินข้าวเย็นกันพอถึงบ้านเราพี่บอกว่าอยากกลับแล้ว เพิ่งจอดรถที่หน้าบ้านเลย เรา งง นิดนึง แต่ด้วยความเรามีลูกชาย6ขวบอยู่ด้วย ด้วยนิสัยของเด็กก็ดื้อตามประสาเด็ก เราเลยคิดว่าคงอึดอัดแต่ในใจก็งง บวกหงุดหงิดนิดนึงที่ต้องขับรถกลับไปกลับมา พอไปถึงหน้าบ้านพี่ลูกชายก็ร้องไห้อยากให้พี่เรามาด้วยไม่อยากให้กลับ พี่ก็เป็นลังเลๆ บอกจะกลับมากับเรา พูดวกไปวนไปอยู่แบบนั้น มาไม่มา มาไม่มาอยู่ 10-20นาทีได้ เราเลยตัดสินใจว่ายังไงก็ได้มาส่งที่บ้านแล้ว ไว้วันหลังค่อยเจอกันก็ได้ พร้อมอาการงุดหงิดใจกับคำพูดกับไปกับมาของพี่ที่ไม่ตัดสินใจอะไรสักอย่าง
เรามีความรู้สึกแปลกๆแต่ไม่ได้คิดอะไร มีคุยกันกับแม่กลัวพี่จะติดยารึป่าวแค่สงสัย หลังจากกลับมาบ้านแม่กับเราก็พยายามโทรหาแต่ก็ติดต่อไม่ได้
ตกดึกมาประมาณ สี่ทุ่มเรากำลังจะปิดโทรศัพท์นอน แต่มีสายพี่โทรเข้ามา เสียงแบบตกใจสั่นๆ บอกว่า “มารับกูหน่อย มีคนกำลังตามฆ่ากู “ พร้อมเสียงวิ่งๆๆ และพูดวกไปซ้ำๆอยู่แบบนั่น เราก็พยามถามว่าอยู่ไหน พี่ก็บอกสถานที่แบบกว้างๆมา และสายก็ตัดไป ติดต่อไม่ได้เลย ด้วยความตกใจมากๆ ปลุกสามีที่หลับอยู่ สามีโทรแจ้งตำรวจให้ช่วยตามหา
เรากับสามีและลูกก็รีบขับรถไปตามหา ตามหาอยู่ประมาณ30นาที ตำรวจโทรมาบอกว่าเจอแล้วเราเลยตามไป เห็นนอนข้างถนน พร้อมตำรวจเราเลยรีบวิ่งลงไปกอดพี่ ถามว่าเป็นอะไรพี่ตาลอยๆไม่พูดตัวเกร็งแข็ง ตำรวจเลยบอกว่าให้รอรถพยาบาลมาอย่าเพิ่งจับตัว สักพักพี่ก็เริ่มพูดบอกว่าโอเคแล้วจะกลับกับเรา
แต่ดูจากอาการแล้วยังไม่ปกติ พอรถพยาบาลมาเรานั่งไปกับพี่ไปโรงพยาบาล จนถึงตี5 เราจึงขอกลับบ้านเพราะเหนื่อยและง่วงมาก อาการที่พี่เป็นคือ ไม่เหมือนเดิม พูดจาไม่รู้เรื่อง คุยเรื่องหนึ่งอยู่ก็ถามไปอีกเรื่องหนึ่ง จำวันเวลาไม่ได้ เช่นเราชวนไปร้านไทยไปซื้อของกันพี่บอกว่าไม่ได้ไปเพราะนัดกับเพื่อนแล้ว อีก 2-3 วันมาถามเราว่าไปร้านไทยรึยังทั้งๆที่เราก็ไปมาแล้ว
หลังจากอยู่โรงพยาบาลได้ 2-3วัน ผลตรวจออกมาว่าพี่มีสารเสพติดในร่างกายซึ่งอาการที่เป็นอยู่เป็นอาการทางจิตที่เป็นผลมาจากการเสพยา ซึ่งเราก็ยังรับไม่ได้ และไม่เข้าใจในโรคนี้ คิดว่าพี่ไม่ได้เป็นแบบนั้นอยากพามารักษาที่บ้าน ด้วยที่คิดว่าพี่เราจะเป็นจิตจริงๆหรอวะ แต่หมอก็ยังยืนยันว่ายังออกไม่ได้ต้องดูอาการและให้ยาไปก่อนสักพัก
จากที่เราไปเยี่ยมเห็นอาการของพี่คือก็ไม่ปกติจริงๆ พี่ไม่ยอมอาบน้ำแต่งตัว มีกลิ่นเหม็น พูดจาวกวนไปวนมา ลกๆลน ๆ ลุกนั่งๆ เป็นพักๆ เดินไปหยิบของ เอากลับไปไว้ที่เดิม แล้วก็กลับไปหยิบซ้ำๆ ถามคำถามซ้ำๆ เรารู้สึกสงสารพี่เรามากที่ต้องเป็นแบบนี้ พี่อยู่โรงพยาบาลได้10วัน อาการก็ยังคงเป็นอยู่เราเริ่มไม่สบายใจอยากให้กลับบ้านเพราะคิดว่าอาจเป็นเพราะยาหมอแรงไปรึป่าว เราไปเยี่ยมพี่ตลอด พี่ถามว่ามาทางไหนออกทางไหนจะไปด้วย แต่เราพยายามบอกว่ายังออกไม่ได้
วันที่12 พี่แอบออกมาจากโรงพยาบาลเองและโทรให้เราไปรับข้างนอกเราตกใจมากรีบขับรถออกไปรับกลัวพี่จะเป็นอันตราย 1-2วันอาการไม่ค่อยดียังเหมือนอาการที่อยู่โรงพยาบาล แต่วันที่3อาการทุกอย่างเริ่มปกติดีมาก 99.99%เลย กินข้าว อาบน้ำแต่งตัวเอง คือ1-2วันแรกเราต้องไปยืนเฝ้าเข้าห้องน้ำตลอดทั้งอาบน้ำและทุกอย่างเหมือนมีอาการหวาดกลัว
ก็อยู่ปกติดีมาได้ 7วัน จนตำรวจโทรมาหาเป็นคนหายเพราะโรงพยาบาลแจ้งเราก็พาไปรายงานตัวกับทางตำรวจ สักพักมีรถพยาบาลมารับไปโรงพยาบาลอีกเพื่อตรวจเช็คว่าทุกอย่างโอเคปลอดภัย1คืน เราก็ไปเถียงกับหมออยากให้พี่กลับบ้าน จนวันรุ่งขึ้นพี่ได้กลับบ้าน มาอยู่บ้านได้
อีก3-4วัน เราสังเกตุว่าพี่มีอาการหงุดหงิดๆ เราเลยทักว่า ปจด.จะมาหรอออกแนวแซวๆ ก็เลยชวนไปเก็บของที่ห้องเพราะแม่บอกให้ย้ายออกแล้วมาอยู่กับเราเลยจนสามารถเดินทางกลับไทยได้ค่อยกลับ พี่ก็มีอาการไม่อยากกลับไปที่ห้องแต่ด้วยความจำเป็นก็ต้องไปเพราะรถขนของจะมาขนของออกเราต้องไปแพ้คของไว้ให้
หลังจากกลับจากที่ห้องพี่ พี่เปลี่ยนแปลงไปทุกอย่างเหมือนคนละคนเริ่มจากอาการเข้าห้องน้ำกลับมาอีกคือให้เราไปเฝ้าหน้าห้องทุกครั้งและไม่ปิดประตู แต่ก็เหมือนนั่งเฉยๆแล้วก็ลุกออกมา ตกกลางคืนมาไม่หลับไม่นอนเราเริ่มไม่สบายใจกังวลและเครียดมากๆ ไม่รู้ว่าพี่เป็นอะไร และมีอาการที่หนักขึ้นเรื่อยๆคือ คุยคนเดียว ยิ้มหัวเราะ ทำไม้ทำมือเหมือนหยอกเล่นกับใครอยู่ เป็นแบบนั้นทั้งวัน เราพยายามเรียกคุยด้วยก็เม่อๆ คุยคนเดียว
สักพักเหมือนจะเศร้ามากๆร้องไห้แบบกลั้นๆน้ำตา แล้วก็เดินไปยิ้มไปคุยคนเดียว กัดปากกัดฟัน พูดคุยกับเราไม่รู้เรื่องมีอาการหวาดกลัวเดินไปข้างล่าง จะออกไปข้างนอกแล้วก็ร้องไห้เหมือนกลัวมากๆๆเราก็ไปจับมือพากลับเข้ามาในบ้าน จะพานอน สักพักลุกขึ้นนั่ง กลางดึกๆ ลุกๆนั่งๆ นอนๆ อยู่แบบนั้นทั้งคืน น้ำไม่อาบน้ำ กินข้าวน้อยลงใช้มือหยุบหยิบๆกับข้าวผลไม้แกะๆ แล้ววางไว้ 2วันจนที่3 ก็ไม่หลับไม่นอนเราเริ่มรู้สึกกลัวและกังวลมากๆ
มีคำพูดหนึ่งที่เรากลัวมากคือ พี่พูดว่า “กูรู้สึกว่าเหมือนกูจะตายแต่ไปไม่ได้ “ พูดๆซ้ำๆ หลายๆรอบ เราตัดสินใจพาไปโรงพยาบาลเดิมอีกรอบเข้าแอดมิท
ตอนนี้ก็อยู่โรงพยาบาลได้ 5วันแล้ว กังวลใจและเครียดมากๆ เพราะมีเสียงคนหนึ่งบอกว่าเราพาพี่ไปกักขังที่โรงพยาบาลจะทำให้เป็นหนักกว่าเดิมเพราะยาโรงพยาบาลแรง ทำให้เราหนักใจเหนื่อยและวิตกกังวลมากถึงมากที่สุดทั้งหลายหลายอย่างมากจนเครียดมากๆ อยากขอคำแนะนำจากคนที่เคยมีประสการณ์ตรงแบบเรา และขอความรู้เกี่ยวกับโรคและอาการแบบนี้ด้วยค่ะเป็นห่วงและสงสารพี่ใจก็อยากให้พี่ออกจากโรงพยาบาลมากๆแต่หมอก็ยังไม่ให้ออก เราตั้งใจว่าจะเอายากับหมอมารักษาที่บ้านถ้ามีนัดจะพาไปทุกครั้งอยากรู้ว่าใครที่เคยเป็นต้องรักษาตัวที่โรงพยาบาลนานแค่ไหน และจะหายไหมขอบคุณค่ะ
มีใครที่มีคนใกล้ชิดอาการแบบนี้ ขอคำแนะนำหน่อยค่ะ เพราะตอนนี้พี่สาวแท้ๆกำลังเป็นอยู่
ปกติ แม่ เรา และพี่สาว จะสนิทกันอยู่ด้วยกัน จนเรามีครอบครัวพี่ก็อยู่กับแม่ จนมาถึงช่วงกลางๆปี2019 แม่กลับเมืองไทยพี่จึงได้อยู่คนเดียว ปกติแม่จะไปๆมาๆ แต่กลับรอบนี้นานเพราะมีปัญหาการเดินทางจากไวรัสโคโรน่า
ช่วงหลังๆมา พี่สาวติดต่อยากมาก ไม่ค่อยรับสายไม่ค่อยได้เจอหน้า ปกติจะมีกินข้าวไปช้อปปิ้งด้วยกันบ่อยๆ จนวันหนึ่งแม่เริ่มไม่สบายใจจึงให้เราไปหาที่ห้องเราไปกดที่ห้องหลายรอบ4-5รอบก็เปิดประตูให้เรา แต่เราดูท่าทางของพี่ก็แปลกๆแต่เราไม่คิดอะไรมาก
อาการแปลกที่ว่าคือพี่เป็นเม่อๆเบลอๆลอยๆ ลกๆลนๆ เราเลยชวนมาที่บ้านเรามากินข้าวเย็นกันพอถึงบ้านเราพี่บอกว่าอยากกลับแล้ว เพิ่งจอดรถที่หน้าบ้านเลย เรา งง นิดนึง แต่ด้วยความเรามีลูกชาย6ขวบอยู่ด้วย ด้วยนิสัยของเด็กก็ดื้อตามประสาเด็ก เราเลยคิดว่าคงอึดอัดแต่ในใจก็งง บวกหงุดหงิดนิดนึงที่ต้องขับรถกลับไปกลับมา พอไปถึงหน้าบ้านพี่ลูกชายก็ร้องไห้อยากให้พี่เรามาด้วยไม่อยากให้กลับ พี่ก็เป็นลังเลๆ บอกจะกลับมากับเรา พูดวกไปวนไปอยู่แบบนั้น มาไม่มา มาไม่มาอยู่ 10-20นาทีได้ เราเลยตัดสินใจว่ายังไงก็ได้มาส่งที่บ้านแล้ว ไว้วันหลังค่อยเจอกันก็ได้ พร้อมอาการงุดหงิดใจกับคำพูดกับไปกับมาของพี่ที่ไม่ตัดสินใจอะไรสักอย่าง
เรามีความรู้สึกแปลกๆแต่ไม่ได้คิดอะไร มีคุยกันกับแม่กลัวพี่จะติดยารึป่าวแค่สงสัย หลังจากกลับมาบ้านแม่กับเราก็พยายามโทรหาแต่ก็ติดต่อไม่ได้
ตกดึกมาประมาณ สี่ทุ่มเรากำลังจะปิดโทรศัพท์นอน แต่มีสายพี่โทรเข้ามา เสียงแบบตกใจสั่นๆ บอกว่า “มารับกูหน่อย มีคนกำลังตามฆ่ากู “ พร้อมเสียงวิ่งๆๆ และพูดวกไปซ้ำๆอยู่แบบนั่น เราก็พยามถามว่าอยู่ไหน พี่ก็บอกสถานที่แบบกว้างๆมา และสายก็ตัดไป ติดต่อไม่ได้เลย ด้วยความตกใจมากๆ ปลุกสามีที่หลับอยู่ สามีโทรแจ้งตำรวจให้ช่วยตามหา
เรากับสามีและลูกก็รีบขับรถไปตามหา ตามหาอยู่ประมาณ30นาที ตำรวจโทรมาบอกว่าเจอแล้วเราเลยตามไป เห็นนอนข้างถนน พร้อมตำรวจเราเลยรีบวิ่งลงไปกอดพี่ ถามว่าเป็นอะไรพี่ตาลอยๆไม่พูดตัวเกร็งแข็ง ตำรวจเลยบอกว่าให้รอรถพยาบาลมาอย่าเพิ่งจับตัว สักพักพี่ก็เริ่มพูดบอกว่าโอเคแล้วจะกลับกับเรา
แต่ดูจากอาการแล้วยังไม่ปกติ พอรถพยาบาลมาเรานั่งไปกับพี่ไปโรงพยาบาล จนถึงตี5 เราจึงขอกลับบ้านเพราะเหนื่อยและง่วงมาก อาการที่พี่เป็นคือ ไม่เหมือนเดิม พูดจาไม่รู้เรื่อง คุยเรื่องหนึ่งอยู่ก็ถามไปอีกเรื่องหนึ่ง จำวันเวลาไม่ได้ เช่นเราชวนไปร้านไทยไปซื้อของกันพี่บอกว่าไม่ได้ไปเพราะนัดกับเพื่อนแล้ว อีก 2-3 วันมาถามเราว่าไปร้านไทยรึยังทั้งๆที่เราก็ไปมาแล้ว
หลังจากอยู่โรงพยาบาลได้ 2-3วัน ผลตรวจออกมาว่าพี่มีสารเสพติดในร่างกายซึ่งอาการที่เป็นอยู่เป็นอาการทางจิตที่เป็นผลมาจากการเสพยา ซึ่งเราก็ยังรับไม่ได้ และไม่เข้าใจในโรคนี้ คิดว่าพี่ไม่ได้เป็นแบบนั้นอยากพามารักษาที่บ้าน ด้วยที่คิดว่าพี่เราจะเป็นจิตจริงๆหรอวะ แต่หมอก็ยังยืนยันว่ายังออกไม่ได้ต้องดูอาการและให้ยาไปก่อนสักพัก
จากที่เราไปเยี่ยมเห็นอาการของพี่คือก็ไม่ปกติจริงๆ พี่ไม่ยอมอาบน้ำแต่งตัว มีกลิ่นเหม็น พูดจาวกวนไปวนมา ลกๆลน ๆ ลุกนั่งๆ เป็นพักๆ เดินไปหยิบของ เอากลับไปไว้ที่เดิม แล้วก็กลับไปหยิบซ้ำๆ ถามคำถามซ้ำๆ เรารู้สึกสงสารพี่เรามากที่ต้องเป็นแบบนี้ พี่อยู่โรงพยาบาลได้10วัน อาการก็ยังคงเป็นอยู่เราเริ่มไม่สบายใจอยากให้กลับบ้านเพราะคิดว่าอาจเป็นเพราะยาหมอแรงไปรึป่าว เราไปเยี่ยมพี่ตลอด พี่ถามว่ามาทางไหนออกทางไหนจะไปด้วย แต่เราพยายามบอกว่ายังออกไม่ได้
วันที่12 พี่แอบออกมาจากโรงพยาบาลเองและโทรให้เราไปรับข้างนอกเราตกใจมากรีบขับรถออกไปรับกลัวพี่จะเป็นอันตราย 1-2วันอาการไม่ค่อยดียังเหมือนอาการที่อยู่โรงพยาบาล แต่วันที่3อาการทุกอย่างเริ่มปกติดีมาก 99.99%เลย กินข้าว อาบน้ำแต่งตัวเอง คือ1-2วันแรกเราต้องไปยืนเฝ้าเข้าห้องน้ำตลอดทั้งอาบน้ำและทุกอย่างเหมือนมีอาการหวาดกลัว
ก็อยู่ปกติดีมาได้ 7วัน จนตำรวจโทรมาหาเป็นคนหายเพราะโรงพยาบาลแจ้งเราก็พาไปรายงานตัวกับทางตำรวจ สักพักมีรถพยาบาลมารับไปโรงพยาบาลอีกเพื่อตรวจเช็คว่าทุกอย่างโอเคปลอดภัย1คืน เราก็ไปเถียงกับหมออยากให้พี่กลับบ้าน จนวันรุ่งขึ้นพี่ได้กลับบ้าน มาอยู่บ้านได้
อีก3-4วัน เราสังเกตุว่าพี่มีอาการหงุดหงิดๆ เราเลยทักว่า ปจด.จะมาหรอออกแนวแซวๆ ก็เลยชวนไปเก็บของที่ห้องเพราะแม่บอกให้ย้ายออกแล้วมาอยู่กับเราเลยจนสามารถเดินทางกลับไทยได้ค่อยกลับ พี่ก็มีอาการไม่อยากกลับไปที่ห้องแต่ด้วยความจำเป็นก็ต้องไปเพราะรถขนของจะมาขนของออกเราต้องไปแพ้คของไว้ให้
หลังจากกลับจากที่ห้องพี่ พี่เปลี่ยนแปลงไปทุกอย่างเหมือนคนละคนเริ่มจากอาการเข้าห้องน้ำกลับมาอีกคือให้เราไปเฝ้าหน้าห้องทุกครั้งและไม่ปิดประตู แต่ก็เหมือนนั่งเฉยๆแล้วก็ลุกออกมา ตกกลางคืนมาไม่หลับไม่นอนเราเริ่มไม่สบายใจกังวลและเครียดมากๆ ไม่รู้ว่าพี่เป็นอะไร และมีอาการที่หนักขึ้นเรื่อยๆคือ คุยคนเดียว ยิ้มหัวเราะ ทำไม้ทำมือเหมือนหยอกเล่นกับใครอยู่ เป็นแบบนั้นทั้งวัน เราพยายามเรียกคุยด้วยก็เม่อๆ คุยคนเดียว
สักพักเหมือนจะเศร้ามากๆร้องไห้แบบกลั้นๆน้ำตา แล้วก็เดินไปยิ้มไปคุยคนเดียว กัดปากกัดฟัน พูดคุยกับเราไม่รู้เรื่องมีอาการหวาดกลัวเดินไปข้างล่าง จะออกไปข้างนอกแล้วก็ร้องไห้เหมือนกลัวมากๆๆเราก็ไปจับมือพากลับเข้ามาในบ้าน จะพานอน สักพักลุกขึ้นนั่ง กลางดึกๆ ลุกๆนั่งๆ นอนๆ อยู่แบบนั้นทั้งคืน น้ำไม่อาบน้ำ กินข้าวน้อยลงใช้มือหยุบหยิบๆกับข้าวผลไม้แกะๆ แล้ววางไว้ 2วันจนที่3 ก็ไม่หลับไม่นอนเราเริ่มรู้สึกกลัวและกังวลมากๆ
มีคำพูดหนึ่งที่เรากลัวมากคือ พี่พูดว่า “กูรู้สึกว่าเหมือนกูจะตายแต่ไปไม่ได้ “ พูดๆซ้ำๆ หลายๆรอบ เราตัดสินใจพาไปโรงพยาบาลเดิมอีกรอบเข้าแอดมิท
ตอนนี้ก็อยู่โรงพยาบาลได้ 5วันแล้ว กังวลใจและเครียดมากๆ เพราะมีเสียงคนหนึ่งบอกว่าเราพาพี่ไปกักขังที่โรงพยาบาลจะทำให้เป็นหนักกว่าเดิมเพราะยาโรงพยาบาลแรง ทำให้เราหนักใจเหนื่อยและวิตกกังวลมากถึงมากที่สุดทั้งหลายหลายอย่างมากจนเครียดมากๆ อยากขอคำแนะนำจากคนที่เคยมีประสการณ์ตรงแบบเรา และขอความรู้เกี่ยวกับโรคและอาการแบบนี้ด้วยค่ะเป็นห่วงและสงสารพี่ใจก็อยากให้พี่ออกจากโรงพยาบาลมากๆแต่หมอก็ยังไม่ให้ออก เราตั้งใจว่าจะเอายากับหมอมารักษาที่บ้านถ้ามีนัดจะพาไปทุกครั้งอยากรู้ว่าใครที่เคยเป็นต้องรักษาตัวที่โรงพยาบาลนานแค่ไหน และจะหายไหมขอบคุณค่ะ