เราไม่เคยเขียนรีวิว ใดๆมาก่อนเคยแต่ตั้งกระทู้ถาม อาจจะเล่าได้ไม่ดีเท่าไหร่ ยังไงก็ขออภัยไว้ก่อน แต่เราอยากมาแชร์ประสบการณฺ์เพราะก่อนหน้าที่เราจะผ่าตัดเราก็มาหารีวิว ในพันทิพ ว่าอาการเป็นยังไง ผ่าตัดเจ็บมากไหม และที่สำคัญคือ ค่าใช้จ่ายในการผ่าตัดมากน้อยแค่ไหน เราเป็นกังวลมาก เลยอยากเอามาแชร์เผื่อ มีใครสงสัยและกังวลเหมือนเราตอนก่อนผ่าบ้าง
เกริ่นก่อน เราอายุ42 ปี เพศหญิง โรคที่เราเป็นอยู่คือ PCOS ซึ่งเป็นมาหลายปีแล้ว ต้องลดน้ำหนักอาการถึงจะดีขึ้นแต่การลดน้ำหนักของคนเป็นโรคนี้มันยากมากๆ เราลดจาก 95 กก.มา65 กก.โดยใช้เวลา3ปี หลังจากนั้นก็ไม่เคยลดได้อีกเลย แล้วก็ช่วงหลังเด้งขึ้นมา 75-80 ไม่เกินนี้ เราสูง 173 ซม. กินยาคุมมาต่อเนื่องหลายปี เพื่อรักษาอาการนี้
เข้าเรื่องเลย มันเริ่มจากว่า เราคิดเองว่าอายุเยอะแล้วหยุดยาคุมดีกว่า อ่านๆตามโซเชียลแล้วว่าอายุเกิน40 แล้วมันไม่ดี เลยหยุดเอาดื้อๆเลย พอหยุดเท่านั้นแหละ เดือนก.พ.68 เราเริ่มปวดท้องหนัก เราเลยไปหาหมอและตรวจภายใน หมอก็บอกว่า อาการ PCOS มันไม่ดีขึ้นเลย แล้วมีเนื้องอกที่รังไข่ข้างซ้าย เกือบๆ2 ซม. แต่มันผิดเรียบไม่มีอะไร ให้มาตรวจทุกปีพอ แต่หมอบอกว่าอายุเกิน40 แล้วให้ไปดูดชิ้นเนื้อโพรงมดลูกตรวจดู เราก็ไปทำผลออกมาปกติไม่เป็นมะเร็ง แต่ระหว่างที่ทำนั้นเราปวดท้องตลอด ทั้งเดือน ตั้งแต่วันไปตรวจจนรอผล จนหมอต้องตรวจภายในและอัลตร้าซาวน์อีกรอบเพื่อดูให้แน่ใจ แต่มันก็ไม่เจออะไร ก็ได้ยาปรับฮอร์โมนมากิน หลังจากนั้นเราเลยคิดว่าเราตรวจเกี่ยวกับทางด้านนี้หมดแล้วมันไม่เจออะไรทำไมมันยังปวดอีก งั้นคงไม่ใช่เรื่องนี้แล้วแหละ เราเลยตั้งใจว่าจะไปหาหมอเกี่ยวกับทางเดินอาหารต่อ
27/3/68
ยังไม่ทันได้ไปหาหมอตอนเย็นเราไปกินไก่ย่าง4 ไม้ ตอนกินก็ไม่รู้สึกอะไรนะเพราะปกติก็กิน แต่พอประมาณตี4 เราหายใจไม่ออกแน่นหน้าอกแสบร้อน ไม่ไหวเลยต้องให้แฟนพาไปรพ.ตอนนั้นเลย หมอตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจให้ หมอบอกว่าถ้าปกติก็คือจะเป็นกรดไหลย้อน สรุปผลก็ปกติ เลยได้ยาลดกรด และฉีดยากลับบ้าน อาการก็ดีขึ้นนะกินยาตามที่หมอจ่าย เราก็เลยคิดว่าสงสัยเป็นกรดไหลย้อนจริงๆแน่ เพราะช่วงนั้นเรากินของมันกับกาแฟไม่ได้เลย แน่นหายใจไม่ออก ท้องอีด ลืมบอกเราท้องอีดตั้งแต่เดือน ก.พ.แล้ว ก็ไม่หาย จนคิดว่าจะไปตรวจสุขภาพแบบละเอียด
6/04/68
เราไปตรวจสุขภาพ ที่รพ.เกษมราษฎร์ รามคำแหง อันนี้เราจ่ายเงินเอง เพราะเราอยากได้ความเร็วและช่วงนั้นมันมีโปรราคาโอเคร ผลปรากฎว่าตรวจเจอนิ่วในถุงน้ำดี 1.4 ซม. และเจอจุดที่ตับ 1*1.7*1.8 ซม. ตอนนั้นหมอแนะนำว่าให้ทำ CT SCAN เพิ่ม เพื่อดูว่าก้อนที่ตับมันเป็นอะไร แต่ไปทำรพ.ที่เราสังกัดก็ได้ เราเลยกลับไปทำรพ.ที่เรามีสิทธิบัตรทอง
1/5/68
เรากลับไปที่รพ.สิทธิบัตรทอง อีกครั้งเอาผลตรวจไปให้หมอดู ซึ่งระหว่างตั้งแต่เดือน 3 จนถึงวันนี้เราก็ปวดท้อง ท้องอีดตลอดนะ ไปรพ.กลางดึกบ่อยๆจนพยาบาลจำได้อะ ไปฉีดยาแก้ปวดเพราะมันปวดมาก รอบนี้เราได้เจอหมอคนแรกที่เป็นคนจ่ายยาให้ เค้าเลยส่งเราเป็นเคสด่วนแล้วตรวจให้ละเอียด อัลตร้าซาวน์ใหม่ ส่งCT SCAN แบบฉีดสี เพื่อดูจุดที่ตับ (เราเจอกับหมอคนนี้แค่ครั้งแรกแล้วก็วนไปเจอคนอื่น) เค้าเลยบอกไม่ต้องห่วงเดี๋ยวเค้าจัดการให้เอง เราซึ้งน้ำตาไหลเลยเพราะในแต่ละวันเราปวดไม่เคยหายขาดบางวันปวดมากท้องอืดบวมมากจนกลัว ขอบคุณแล้วขอบคุณอีก🥹🥹 แล้วก็ตรวจทุกอย่างเสร็จภายในเดือนนั้น เรามีนิ่วแต่ถุงน้ำดีไม่อักเสบ ค่าตับปกติ ส่วนจุดที่ตับไม่อันตรายเป็นแค่กลุ่มเส้นเลือดไม่เป็นมะเร็ง หมอเลยวินิจฉัยว่าที่ปวดท้องตลอดตั้งแต่เดือน ก.พ.จนถึงตอนนี้น่าจะมาจากนิ่วในถุงน้ำดีเพราะขนาดมันก็ค่อนข้างใหญ่ ตอนแรกเราก็คิดว่า1.4 ซม.ไม่น่าใหญ่ แต่ตอนผ่าใหญ่เหมือนกัน
30/6/68
หมอส่งตัวไปผ่าอีกรพ.นึงเพราะที่รพ.สิทธิเรายังไม่มีแบบส่องกล้องซึ่งหมอเค้าแนะนำให้ผ่าแบบส่องกล้องดีกว่า หมอให้คิวผ่า เดือนกันยา หมอบอกว่าอาการของเรายังไม่หนักถุงน้ำดียังไม่อักเสบ ประมาณนี้รอได้ แต่ถ้าปวดมากๆก่อนให้มาก่อนได้ หมอก็อธิบายให้ฟังว่าการผ่าในปัจจุบันถ้าผ่าแบบไม่เสียเงินเลยจ่าย30 บาทจะต้องผ่าแบบเปิดหน้าท้องซึ่งมันจะใช้เวลาพักฟื้นนานและค่อนข้างอันตราย หมอเค้าอยากให้ผ่าแบบส่องกล้องมากกว่าเพราะมันความสี่ยงน้อยกว่าและฟื้นตัวเร็วแต่มันจะมีค่าใช้จ่ายอยู่ที่10,000-15,000 บาท ระหว่างที่เรารอ เราก็ปวดนะแต่ปวดๆหายๆ บางวันนอนๆอยู่มีปวดไปถึงหลัง แต่ก็ไม่ได้เป็นบ่อย แล้วมันรู้สึกแน่นๆท้อง แน่นแบบกินไรนิดนึงก็แน่นไปหมด อาการท้องอีดเริ่มลดลงมีบ้างแต่ได้ยามาจากช่วงก่อนเลยกินบรรเทาไป ยิ่งใกล้วันผ่าเรายิ่งปวดทุกวัน ก็อย่างที่หมอบอกจริงๆว่าอาการประมาณนี้มันจะรอได้3 เดือนนี่แหละมันอึดอัดและไม่สบายท้องเลย
3/9/25
เราต้องมาทำการตรวจเลือด ตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ X-ray และก็เอารูปอัลตร้าซาวน์กับรูปกับผล CTSCAN จากรพ.แรกมาลง แล้วก็มาจองห้องพิเศษ
จนท.แจ้งว่ามันจะมี 2 ราคาคือ 3,300 กับ 2,300 มีของใข้เหมือนกันหมด ต่างกันที่ขนาดห้อง ถ้านอนห้องพิเศษต้องจ่ายเงินเอง ถ้านอนห้องรวมก็จะเสียแต่ค่าผ่าตัด ของใช้ในห้องก็มี (เราลืมถ่ายรูปในห้องมา) TV, ตู้เย็น, โต๊ะเก้าอี้กินข้าว, น้ำเปล่า2 ขวดหมดไปเติมข้างนอกได้, ตู้เสื้อผ้าไม้แขวนเสื้อ,โซฟานอนสำหรับคนเฝ้าไข้, ระเบียงค่อนข้างกว้างเลย มีที่ล้างจานให้, ที่ตากผ้า ส่วนไมโครเวฟใช้ในส่วนกลาง ห้องค่อนข้างดีเลย เราได้ห้อง 2,300 แต่พอคิดราคาตอนออกกลายเป็นเค้าคิดแค่2,000 ตรงนี้เราก็งงๆ แต่ห้องนี้ยังกว้างเลย เราเคยพาแม่มานอนที่รพ.นี้ห้อง 3,300 ก็กว้างกว่าจริงๆแต่แค่2,300 ก็พอแล้วมันไม่ต่างกันเลยประหยัดไปได้ด้วย จนท.แจ้งว่าเราไม่สามารถเลือกได้เพราะไม่ได้เป็นการจองแบบจองโรงแรม เราแค่ไปลงทะเบียนไว้ว่าเราจะนอนห้องพิเศษถึงวันต้องไปลุ้นเอาเองว่าจะได้ห้องไหน หรืออาจจะเต็มไม่ได้เลยก็ต้องนอนห้องรวม และห้องพิเศษต้องมีคนเฝ้า24ชม.1คน อายุ18ปีขึ้นไป แล้วหลังจากลงทะเบียนห้องเสร็จก็ต้องไปพบวิสัญญี กับจนท.ห้องผ่าตัดเอาเอกสารไปให้ วิสัญญีจะให้เอายาที่เรากินประจำไปให้แต่เราลืมเอามา แต่ยาที่เรากินเป็นยาฮอร์โมนที่รักษาPCOS เค้าเลยบอกไม่เป็นไร มันไม่ได้เป็นยาที่มีผลกับยาสลบหรือการผ่าตัด และก็แจ้งเราว่าเค้าใช้วิธีฉีดยาสลบนะ และตอนที่เราสลบจะต้องมีการสอดท่อเข้าไปทางปากซึ่งตื่นมาอาจจะทำให้เราเจ็บคอได้ และอาจจะมีการคลื่นไส้อาเจียน จากการใช้ยาได้ให้ขอยาแก้คลื่นไส้ถ้าปวดให้ขอยาแก้ปวดได้ ทำเรื่องเสร็จก็กลับบ้าน
24/9/68
เราต้องไปเอาห้องและเข้านอนรพ.ก่อนวันผ่าคือ 25/9/68 วันนี้เกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิดนิดหน่อยเรากว่าจะได้ขึ้นห้อง เราไปรพ.ตั้งแต่7 โมงเช้าได้เข้าห้อง4 โมงเย็นนั่งหลับแล้วหลับอีก คือปกติเราพาแม่นอนรพ.คนแก่ป่วยฉุกเฉินมาถึงก็นอนเตียงถ้าต้องแอดมิดก็คือเข้าห้องเลยแค่รอเตียงวาง แต่อันนี้เราไม่รู้ถ้าเราช่วยเหลือตัวเองได้เดินได้ปกติเราคิดว่ามาเอาห้องแล้วระหว่างรอห้องว่างสามารถออกไปข้างนอกได้ตอนแรกกะว่าจะกลับบ้านเพราะรพ.ไม่ไกลจากบ้าน พยาบาลบอกไม่ได้นะคะถ้ายื่นเอกสารแล้วจะเป็นความรับผิดชอบของรพ.ห้ามออกให้นั่งรอเรียกแถวๆนี้ไปกินข้าวที่โรงอาหารได้แต่ห้ามออกนอกรพ.เรามองนาฬิกาเพิ่ง8 โมงนั่งหลับแน่ สักประมาณบ่ายๆพยาบาลก็มาเรียกให้ไปทำเอกสารแล้วกลับมาจริงๆเราได้ขึ้นห้องตั้งแต่ตอนนั้นได้เลยนะแต๊แต่แต่ กฎที่บอกว่าห้องพิเศษต้องมีคนเฝ้า24ชม.1 คนเราเข้าใจว่าก็คือตอนที่อยู่ในห้องแล้ว แต่จริงๆคือคนเฝ้าต้องมารอขึ้นห้องพร้อมกันเลยถ้าไม่มาก็ยังเข้าไม่ได้ พอดีแฟนเราเห็นว่ามันนานเค้าเลยไปประชุมแปปนึงแล้วจะกลับมาเราทั้งคู่ไม่รู้กฎนี้เลย พยาบาลเลยต้องเลื่อนให้คนถัดไปที่มีคนเฝ้าพร้อมขึ้นไปก่อน เราเลยกว่าจะได้เข้าปาไป4 โมงเย็นนั่งหลับแล้วหลับอีก เราศึกษาไม่ดีเองเผื่อมีคนไม่รู้เหมือนเรา(หรือมีแค่เราที่ไม่รู้😅) ตอนนอนคืนนี้ เราก็ปวดท้องมาก มากแบบเกือบทนไม่ไหวจะเรียกพยาบาลอยู่แล้วแต่ก็คิดว่าเดี๋ยวก็ผ่าแล้ว เลยทนเอา แต่สักพักมันดีขึ้น
25/9/68
พยาบาลแจ้งไว้เมื่อวานว่าต้องอาบน้ำเปลี่ยนชุดผ่าตัดให้เสร็จก่อน 6 โมงเช้า แล้วรอคิว ซึ่งจะบอกไม่ได้ว่าจะได้เข้ากี่โมง ระหว่างนั้น ก็จะมีพยาบาลเข้ามาสอบถามอาการและก็ดูผลตรวจเราบอกว่าคนนี้ร่างกายแข็งแรงดีไม่มีอะไรน่าห่วง (เราออกกำลังกายสม่ำเสมอไม่มีโรคอื่นนอกจากPCOS) และมาคอยแจ้ง ว่าจะไปแล้วนะ เราได้ไปพักรอในห้องผ่าตัดตอน 11 โมงครึ่ง ระหว่างรอก็คิดไปต่างๆนาๆ ตื่นมาจะเจ็บมากไหว ความรู้สึกตอนวูบยาสลบจะเป็นยังไง ระหว่างนั้นก็จะมีพยาบาลมาถามว่าไม่มีอะไรที่เป็นโลหะใช่ไหม ต่างหู มีแพ้ยาอะไรไหม ก็รอไปพักนึงก็เข็นเข้าห้องผ่าตัด บอกตรงๆตื่นเต้นมากกกกก ไม่เคยเป็นอะไรหนักๆเลยในชีวิต เพราะเราออกกำลังกายมาแต่เด็ก แทบไม่เคยป่วยเลยด้วยซ้ำ ก่อนที่จะผ่าเราก็หาข้อมูลในพันทิพแล้วก็ถามจากคนที่เคยผ่านะ ส่วนใหญ่ก็บอกจะแพ้ยาสลบตื่นมาคลื่นไส้ อาเจียน บางคนตื่นมาปวดยาแก้ปวดก็เอาไม่อยู่ เราคิดว่าตื่นมาเราจะปวดขนาดไหน ห้องผ่าตัดคือใหญ่มากกกก มีไฟตรงกลางวงๆใหญ่ๆแบบในที่เห็นในหนังเลย แต่ในห้องคือเปิดเพลงให้ฟังเพลินมาก จนท.ก็เตรียมของไป เค้าขอมัดเรากันตกเตียง แล้วมีที่วางแขนข้างขวาเพื่อที่จะฉีดยาสลบ พอตอนที่ทำจริงๆ เค้าเอาที่ครอบ อ๊อกซิเจนมาวางบนหน้าเราแล้วบอกว่าจะฉีดแล้วนะคะ มันจะเจ็บหน่อยเค้าน่าจะฉีดเข้ากับทางน้ำเกลือเพราะได้ยินหมอพูดว่าจะดันน้ำเกลือนะคะเราไม่กล้าหันไปมองเลยไม่แน่ใจ ตอนฉีดทีแรกก็เจ็บสักพักเจ็บมากขึ้นเรื่อยๆจนเราแทบทนไม่ไหว เริ่มส่ายหัว หมอถามเจ็บเหรอทนหน่อยนะมันจะเจ็บมาก เราพูดเลยเจ็บบบ คิดว่าอยากสลบแล้วทนไม่ไหว พอคิดจบภาพตัดวูบเลย 🥹
มารู้สึกตัวอีกทีคืออยู่ห้องพักฟื้น พยาบาลมาเรียกว่าเสร็จแล้วนะซึ่งตอนนั้นเรารู้สึกตัวแล้วแต่ท่อที่เค้าใส่ทางปากยังคาอยู่เราคลื่นไส้แบบจะอาเจียนรู้สึกได้เลยว่าตัวโยนขึ้นมาเลย เพราะมันใส่ลงไปลึก แล้วพอเค้าดึงออกหมอเราถึงนิ่งสงบลงแต่รู้สึกตัว ตลอดระหว่างทางไปถึงห้อง แล้วก็สั่นไปทั้งตัวเพราะเอาจริงให้สั่นเพราะหนาว 50% คือมันหนาวตั้งแต่ตอนรอในห้องก่อนเข้าผ่าตัด ให้ปวด50% ปวดนะ ปวดมากแต่ก็ไม่มากเท่าที่คิดไว้ หรือเพราะเราคิดก่อนผ่าว่ามันน่าจะปวดมากกว่านี้ก็ไม่รู้ พยาบาลก็ให้เราดูนิ่ว บอกว่านิ่วใหญ่มากอะ ซึ่งเราก็ว่าใหญ่จริงๆ ไม่น่ามันถึงปวดแล้วเราก็รู้สึกอีดอัดมาตลอด ตอนที่ฟื้นมาสิ่งที่เรารู้สึกนอกจากปวดคือ เรารู้สึกโล่งท้อง ไม่รู้สึกแน่นอีดอัดแบบตอนก่อนผ่า แต่ความปวดสำหรับเรามันปวดแบบทนได้ไม่ได้มากอย่างที่คิด พอพยาบาลมาฉีดยาแก้ปวดให้อาการปวดก็ทุเลาลงแบบ คืนทนได้เลยตอนฉีดยาสลบเจ็บกว่า😂 แล้วพยาบาลก็บอกว่าสัก 3ชม.ค่อยลุกเดินนะ แล้วก็จิบๆน้ำเอา หลังจากนั้นเราก็หลับตลอด เราไปห้องรอผ่าตัดตอน 11 โมงครึ่ง แต่เข้าห้องผ่าจริงๆประมาณเกือบๆบ่ายโมง ออกมาถึงห้องพักตอน3 โมง เราตื่นมาประมาณ5 โมงเย็น เราลุกไปห้องน้ำเลย แผลมี4 จุดเราเจ็บแผลเดียวคือตรงบริเวณสะดือ เพราะเราเกร็งท้องตอนลุก แต่อีก3 จุดที่เหลือเราไม่รู้สึกไรเลยไม่รู้สึกถึงขนาดว่าตอนพยาบาลมาดูแผลเราคิดว่ามีแค่3 จุดเพราะเห็นผ้าก๊อตแต่อีกจุดมันอยู่ด้านข้างเราไม่เห็นเลยคิดว่าไม่มีจนพยาบาลบอกมี4 จุด ตรงนี้ด้วยถึงรู้ว่ามีแผล4 จุด แล้วก็รู้สึกหิวมากเพราะไม่ได้กินไรเลยทั้งวัน เรามานั่งกินข้าวแต่กินได้ไม่เยอะ แล้วนอนต่อ แต่กลางคืนก็ลุกไปห้องน้ำ 4 รอบตอนเดินก็เจ็บนะแต่เดินได้อยุ่ พยาบาลเอายาแก้ปวดมาฉีดให้อีก แล้วก็ยาฆ่าเชื้อ เราก็นอนยาวไปจนเช้าเลย
รีวิว ผ่าตัดถุงน้ำดีใช้สิทธิบัตรทอง
เกริ่นก่อน เราอายุ42 ปี เพศหญิง โรคที่เราเป็นอยู่คือ PCOS ซึ่งเป็นมาหลายปีแล้ว ต้องลดน้ำหนักอาการถึงจะดีขึ้นแต่การลดน้ำหนักของคนเป็นโรคนี้มันยากมากๆ เราลดจาก 95 กก.มา65 กก.โดยใช้เวลา3ปี หลังจากนั้นก็ไม่เคยลดได้อีกเลย แล้วก็ช่วงหลังเด้งขึ้นมา 75-80 ไม่เกินนี้ เราสูง 173 ซม. กินยาคุมมาต่อเนื่องหลายปี เพื่อรักษาอาการนี้
เข้าเรื่องเลย มันเริ่มจากว่า เราคิดเองว่าอายุเยอะแล้วหยุดยาคุมดีกว่า อ่านๆตามโซเชียลแล้วว่าอายุเกิน40 แล้วมันไม่ดี เลยหยุดเอาดื้อๆเลย พอหยุดเท่านั้นแหละ เดือนก.พ.68 เราเริ่มปวดท้องหนัก เราเลยไปหาหมอและตรวจภายใน หมอก็บอกว่า อาการ PCOS มันไม่ดีขึ้นเลย แล้วมีเนื้องอกที่รังไข่ข้างซ้าย เกือบๆ2 ซม. แต่มันผิดเรียบไม่มีอะไร ให้มาตรวจทุกปีพอ แต่หมอบอกว่าอายุเกิน40 แล้วให้ไปดูดชิ้นเนื้อโพรงมดลูกตรวจดู เราก็ไปทำผลออกมาปกติไม่เป็นมะเร็ง แต่ระหว่างที่ทำนั้นเราปวดท้องตลอด ทั้งเดือน ตั้งแต่วันไปตรวจจนรอผล จนหมอต้องตรวจภายในและอัลตร้าซาวน์อีกรอบเพื่อดูให้แน่ใจ แต่มันก็ไม่เจออะไร ก็ได้ยาปรับฮอร์โมนมากิน หลังจากนั้นเราเลยคิดว่าเราตรวจเกี่ยวกับทางด้านนี้หมดแล้วมันไม่เจออะไรทำไมมันยังปวดอีก งั้นคงไม่ใช่เรื่องนี้แล้วแหละ เราเลยตั้งใจว่าจะไปหาหมอเกี่ยวกับทางเดินอาหารต่อ
27/3/68
ยังไม่ทันได้ไปหาหมอตอนเย็นเราไปกินไก่ย่าง4 ไม้ ตอนกินก็ไม่รู้สึกอะไรนะเพราะปกติก็กิน แต่พอประมาณตี4 เราหายใจไม่ออกแน่นหน้าอกแสบร้อน ไม่ไหวเลยต้องให้แฟนพาไปรพ.ตอนนั้นเลย หมอตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจให้ หมอบอกว่าถ้าปกติก็คือจะเป็นกรดไหลย้อน สรุปผลก็ปกติ เลยได้ยาลดกรด และฉีดยากลับบ้าน อาการก็ดีขึ้นนะกินยาตามที่หมอจ่าย เราก็เลยคิดว่าสงสัยเป็นกรดไหลย้อนจริงๆแน่ เพราะช่วงนั้นเรากินของมันกับกาแฟไม่ได้เลย แน่นหายใจไม่ออก ท้องอีด ลืมบอกเราท้องอีดตั้งแต่เดือน ก.พ.แล้ว ก็ไม่หาย จนคิดว่าจะไปตรวจสุขภาพแบบละเอียด
6/04/68
เราไปตรวจสุขภาพ ที่รพ.เกษมราษฎร์ รามคำแหง อันนี้เราจ่ายเงินเอง เพราะเราอยากได้ความเร็วและช่วงนั้นมันมีโปรราคาโอเคร ผลปรากฎว่าตรวจเจอนิ่วในถุงน้ำดี 1.4 ซม. และเจอจุดที่ตับ 1*1.7*1.8 ซม. ตอนนั้นหมอแนะนำว่าให้ทำ CT SCAN เพิ่ม เพื่อดูว่าก้อนที่ตับมันเป็นอะไร แต่ไปทำรพ.ที่เราสังกัดก็ได้ เราเลยกลับไปทำรพ.ที่เรามีสิทธิบัตรทอง
1/5/68
เรากลับไปที่รพ.สิทธิบัตรทอง อีกครั้งเอาผลตรวจไปให้หมอดู ซึ่งระหว่างตั้งแต่เดือน 3 จนถึงวันนี้เราก็ปวดท้อง ท้องอีดตลอดนะ ไปรพ.กลางดึกบ่อยๆจนพยาบาลจำได้อะ ไปฉีดยาแก้ปวดเพราะมันปวดมาก รอบนี้เราได้เจอหมอคนแรกที่เป็นคนจ่ายยาให้ เค้าเลยส่งเราเป็นเคสด่วนแล้วตรวจให้ละเอียด อัลตร้าซาวน์ใหม่ ส่งCT SCAN แบบฉีดสี เพื่อดูจุดที่ตับ (เราเจอกับหมอคนนี้แค่ครั้งแรกแล้วก็วนไปเจอคนอื่น) เค้าเลยบอกไม่ต้องห่วงเดี๋ยวเค้าจัดการให้เอง เราซึ้งน้ำตาไหลเลยเพราะในแต่ละวันเราปวดไม่เคยหายขาดบางวันปวดมากท้องอืดบวมมากจนกลัว ขอบคุณแล้วขอบคุณอีก🥹🥹 แล้วก็ตรวจทุกอย่างเสร็จภายในเดือนนั้น เรามีนิ่วแต่ถุงน้ำดีไม่อักเสบ ค่าตับปกติ ส่วนจุดที่ตับไม่อันตรายเป็นแค่กลุ่มเส้นเลือดไม่เป็นมะเร็ง หมอเลยวินิจฉัยว่าที่ปวดท้องตลอดตั้งแต่เดือน ก.พ.จนถึงตอนนี้น่าจะมาจากนิ่วในถุงน้ำดีเพราะขนาดมันก็ค่อนข้างใหญ่ ตอนแรกเราก็คิดว่า1.4 ซม.ไม่น่าใหญ่ แต่ตอนผ่าใหญ่เหมือนกัน
30/6/68
หมอส่งตัวไปผ่าอีกรพ.นึงเพราะที่รพ.สิทธิเรายังไม่มีแบบส่องกล้องซึ่งหมอเค้าแนะนำให้ผ่าแบบส่องกล้องดีกว่า หมอให้คิวผ่า เดือนกันยา หมอบอกว่าอาการของเรายังไม่หนักถุงน้ำดียังไม่อักเสบ ประมาณนี้รอได้ แต่ถ้าปวดมากๆก่อนให้มาก่อนได้ หมอก็อธิบายให้ฟังว่าการผ่าในปัจจุบันถ้าผ่าแบบไม่เสียเงินเลยจ่าย30 บาทจะต้องผ่าแบบเปิดหน้าท้องซึ่งมันจะใช้เวลาพักฟื้นนานและค่อนข้างอันตราย หมอเค้าอยากให้ผ่าแบบส่องกล้องมากกว่าเพราะมันความสี่ยงน้อยกว่าและฟื้นตัวเร็วแต่มันจะมีค่าใช้จ่ายอยู่ที่10,000-15,000 บาท ระหว่างที่เรารอ เราก็ปวดนะแต่ปวดๆหายๆ บางวันนอนๆอยู่มีปวดไปถึงหลัง แต่ก็ไม่ได้เป็นบ่อย แล้วมันรู้สึกแน่นๆท้อง แน่นแบบกินไรนิดนึงก็แน่นไปหมด อาการท้องอีดเริ่มลดลงมีบ้างแต่ได้ยามาจากช่วงก่อนเลยกินบรรเทาไป ยิ่งใกล้วันผ่าเรายิ่งปวดทุกวัน ก็อย่างที่หมอบอกจริงๆว่าอาการประมาณนี้มันจะรอได้3 เดือนนี่แหละมันอึดอัดและไม่สบายท้องเลย
3/9/25
เราต้องมาทำการตรวจเลือด ตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ X-ray และก็เอารูปอัลตร้าซาวน์กับรูปกับผล CTSCAN จากรพ.แรกมาลง แล้วก็มาจองห้องพิเศษ
จนท.แจ้งว่ามันจะมี 2 ราคาคือ 3,300 กับ 2,300 มีของใข้เหมือนกันหมด ต่างกันที่ขนาดห้อง ถ้านอนห้องพิเศษต้องจ่ายเงินเอง ถ้านอนห้องรวมก็จะเสียแต่ค่าผ่าตัด ของใช้ในห้องก็มี (เราลืมถ่ายรูปในห้องมา) TV, ตู้เย็น, โต๊ะเก้าอี้กินข้าว, น้ำเปล่า2 ขวดหมดไปเติมข้างนอกได้, ตู้เสื้อผ้าไม้แขวนเสื้อ,โซฟานอนสำหรับคนเฝ้าไข้, ระเบียงค่อนข้างกว้างเลย มีที่ล้างจานให้, ที่ตากผ้า ส่วนไมโครเวฟใช้ในส่วนกลาง ห้องค่อนข้างดีเลย เราได้ห้อง 2,300 แต่พอคิดราคาตอนออกกลายเป็นเค้าคิดแค่2,000 ตรงนี้เราก็งงๆ แต่ห้องนี้ยังกว้างเลย เราเคยพาแม่มานอนที่รพ.นี้ห้อง 3,300 ก็กว้างกว่าจริงๆแต่แค่2,300 ก็พอแล้วมันไม่ต่างกันเลยประหยัดไปได้ด้วย จนท.แจ้งว่าเราไม่สามารถเลือกได้เพราะไม่ได้เป็นการจองแบบจองโรงแรม เราแค่ไปลงทะเบียนไว้ว่าเราจะนอนห้องพิเศษถึงวันต้องไปลุ้นเอาเองว่าจะได้ห้องไหน หรืออาจจะเต็มไม่ได้เลยก็ต้องนอนห้องรวม และห้องพิเศษต้องมีคนเฝ้า24ชม.1คน อายุ18ปีขึ้นไป แล้วหลังจากลงทะเบียนห้องเสร็จก็ต้องไปพบวิสัญญี กับจนท.ห้องผ่าตัดเอาเอกสารไปให้ วิสัญญีจะให้เอายาที่เรากินประจำไปให้แต่เราลืมเอามา แต่ยาที่เรากินเป็นยาฮอร์โมนที่รักษาPCOS เค้าเลยบอกไม่เป็นไร มันไม่ได้เป็นยาที่มีผลกับยาสลบหรือการผ่าตัด และก็แจ้งเราว่าเค้าใช้วิธีฉีดยาสลบนะ และตอนที่เราสลบจะต้องมีการสอดท่อเข้าไปทางปากซึ่งตื่นมาอาจจะทำให้เราเจ็บคอได้ และอาจจะมีการคลื่นไส้อาเจียน จากการใช้ยาได้ให้ขอยาแก้คลื่นไส้ถ้าปวดให้ขอยาแก้ปวดได้ ทำเรื่องเสร็จก็กลับบ้าน
24/9/68
เราต้องไปเอาห้องและเข้านอนรพ.ก่อนวันผ่าคือ 25/9/68 วันนี้เกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิดนิดหน่อยเรากว่าจะได้ขึ้นห้อง เราไปรพ.ตั้งแต่7 โมงเช้าได้เข้าห้อง4 โมงเย็นนั่งหลับแล้วหลับอีก คือปกติเราพาแม่นอนรพ.คนแก่ป่วยฉุกเฉินมาถึงก็นอนเตียงถ้าต้องแอดมิดก็คือเข้าห้องเลยแค่รอเตียงวาง แต่อันนี้เราไม่รู้ถ้าเราช่วยเหลือตัวเองได้เดินได้ปกติเราคิดว่ามาเอาห้องแล้วระหว่างรอห้องว่างสามารถออกไปข้างนอกได้ตอนแรกกะว่าจะกลับบ้านเพราะรพ.ไม่ไกลจากบ้าน พยาบาลบอกไม่ได้นะคะถ้ายื่นเอกสารแล้วจะเป็นความรับผิดชอบของรพ.ห้ามออกให้นั่งรอเรียกแถวๆนี้ไปกินข้าวที่โรงอาหารได้แต่ห้ามออกนอกรพ.เรามองนาฬิกาเพิ่ง8 โมงนั่งหลับแน่ สักประมาณบ่ายๆพยาบาลก็มาเรียกให้ไปทำเอกสารแล้วกลับมาจริงๆเราได้ขึ้นห้องตั้งแต่ตอนนั้นได้เลยนะแต๊แต่แต่ กฎที่บอกว่าห้องพิเศษต้องมีคนเฝ้า24ชม.1 คนเราเข้าใจว่าก็คือตอนที่อยู่ในห้องแล้ว แต่จริงๆคือคนเฝ้าต้องมารอขึ้นห้องพร้อมกันเลยถ้าไม่มาก็ยังเข้าไม่ได้ พอดีแฟนเราเห็นว่ามันนานเค้าเลยไปประชุมแปปนึงแล้วจะกลับมาเราทั้งคู่ไม่รู้กฎนี้เลย พยาบาลเลยต้องเลื่อนให้คนถัดไปที่มีคนเฝ้าพร้อมขึ้นไปก่อน เราเลยกว่าจะได้เข้าปาไป4 โมงเย็นนั่งหลับแล้วหลับอีก เราศึกษาไม่ดีเองเผื่อมีคนไม่รู้เหมือนเรา(หรือมีแค่เราที่ไม่รู้😅) ตอนนอนคืนนี้ เราก็ปวดท้องมาก มากแบบเกือบทนไม่ไหวจะเรียกพยาบาลอยู่แล้วแต่ก็คิดว่าเดี๋ยวก็ผ่าแล้ว เลยทนเอา แต่สักพักมันดีขึ้น
25/9/68
พยาบาลแจ้งไว้เมื่อวานว่าต้องอาบน้ำเปลี่ยนชุดผ่าตัดให้เสร็จก่อน 6 โมงเช้า แล้วรอคิว ซึ่งจะบอกไม่ได้ว่าจะได้เข้ากี่โมง ระหว่างนั้น ก็จะมีพยาบาลเข้ามาสอบถามอาการและก็ดูผลตรวจเราบอกว่าคนนี้ร่างกายแข็งแรงดีไม่มีอะไรน่าห่วง (เราออกกำลังกายสม่ำเสมอไม่มีโรคอื่นนอกจากPCOS) และมาคอยแจ้ง ว่าจะไปแล้วนะ เราได้ไปพักรอในห้องผ่าตัดตอน 11 โมงครึ่ง ระหว่างรอก็คิดไปต่างๆนาๆ ตื่นมาจะเจ็บมากไหว ความรู้สึกตอนวูบยาสลบจะเป็นยังไง ระหว่างนั้นก็จะมีพยาบาลมาถามว่าไม่มีอะไรที่เป็นโลหะใช่ไหม ต่างหู มีแพ้ยาอะไรไหม ก็รอไปพักนึงก็เข็นเข้าห้องผ่าตัด บอกตรงๆตื่นเต้นมากกกกก ไม่เคยเป็นอะไรหนักๆเลยในชีวิต เพราะเราออกกำลังกายมาแต่เด็ก แทบไม่เคยป่วยเลยด้วยซ้ำ ก่อนที่จะผ่าเราก็หาข้อมูลในพันทิพแล้วก็ถามจากคนที่เคยผ่านะ ส่วนใหญ่ก็บอกจะแพ้ยาสลบตื่นมาคลื่นไส้ อาเจียน บางคนตื่นมาปวดยาแก้ปวดก็เอาไม่อยู่ เราคิดว่าตื่นมาเราจะปวดขนาดไหน ห้องผ่าตัดคือใหญ่มากกกก มีไฟตรงกลางวงๆใหญ่ๆแบบในที่เห็นในหนังเลย แต่ในห้องคือเปิดเพลงให้ฟังเพลินมาก จนท.ก็เตรียมของไป เค้าขอมัดเรากันตกเตียง แล้วมีที่วางแขนข้างขวาเพื่อที่จะฉีดยาสลบ พอตอนที่ทำจริงๆ เค้าเอาที่ครอบ อ๊อกซิเจนมาวางบนหน้าเราแล้วบอกว่าจะฉีดแล้วนะคะ มันจะเจ็บหน่อยเค้าน่าจะฉีดเข้ากับทางน้ำเกลือเพราะได้ยินหมอพูดว่าจะดันน้ำเกลือนะคะเราไม่กล้าหันไปมองเลยไม่แน่ใจ ตอนฉีดทีแรกก็เจ็บสักพักเจ็บมากขึ้นเรื่อยๆจนเราแทบทนไม่ไหว เริ่มส่ายหัว หมอถามเจ็บเหรอทนหน่อยนะมันจะเจ็บมาก เราพูดเลยเจ็บบบ คิดว่าอยากสลบแล้วทนไม่ไหว พอคิดจบภาพตัดวูบเลย 🥹
มารู้สึกตัวอีกทีคืออยู่ห้องพักฟื้น พยาบาลมาเรียกว่าเสร็จแล้วนะซึ่งตอนนั้นเรารู้สึกตัวแล้วแต่ท่อที่เค้าใส่ทางปากยังคาอยู่เราคลื่นไส้แบบจะอาเจียนรู้สึกได้เลยว่าตัวโยนขึ้นมาเลย เพราะมันใส่ลงไปลึก แล้วพอเค้าดึงออกหมอเราถึงนิ่งสงบลงแต่รู้สึกตัว ตลอดระหว่างทางไปถึงห้อง แล้วก็สั่นไปทั้งตัวเพราะเอาจริงให้สั่นเพราะหนาว 50% คือมันหนาวตั้งแต่ตอนรอในห้องก่อนเข้าผ่าตัด ให้ปวด50% ปวดนะ ปวดมากแต่ก็ไม่มากเท่าที่คิดไว้ หรือเพราะเราคิดก่อนผ่าว่ามันน่าจะปวดมากกว่านี้ก็ไม่รู้ พยาบาลก็ให้เราดูนิ่ว บอกว่านิ่วใหญ่มากอะ ซึ่งเราก็ว่าใหญ่จริงๆ ไม่น่ามันถึงปวดแล้วเราก็รู้สึกอีดอัดมาตลอด ตอนที่ฟื้นมาสิ่งที่เรารู้สึกนอกจากปวดคือ เรารู้สึกโล่งท้อง ไม่รู้สึกแน่นอีดอัดแบบตอนก่อนผ่า แต่ความปวดสำหรับเรามันปวดแบบทนได้ไม่ได้มากอย่างที่คิด พอพยาบาลมาฉีดยาแก้ปวดให้อาการปวดก็ทุเลาลงแบบ คืนทนได้เลยตอนฉีดยาสลบเจ็บกว่า😂 แล้วพยาบาลก็บอกว่าสัก 3ชม.ค่อยลุกเดินนะ แล้วก็จิบๆน้ำเอา หลังจากนั้นเราก็หลับตลอด เราไปห้องรอผ่าตัดตอน 11 โมงครึ่ง แต่เข้าห้องผ่าจริงๆประมาณเกือบๆบ่ายโมง ออกมาถึงห้องพักตอน3 โมง เราตื่นมาประมาณ5 โมงเย็น เราลุกไปห้องน้ำเลย แผลมี4 จุดเราเจ็บแผลเดียวคือตรงบริเวณสะดือ เพราะเราเกร็งท้องตอนลุก แต่อีก3 จุดที่เหลือเราไม่รู้สึกไรเลยไม่รู้สึกถึงขนาดว่าตอนพยาบาลมาดูแผลเราคิดว่ามีแค่3 จุดเพราะเห็นผ้าก๊อตแต่อีกจุดมันอยู่ด้านข้างเราไม่เห็นเลยคิดว่าไม่มีจนพยาบาลบอกมี4 จุด ตรงนี้ด้วยถึงรู้ว่ามีแผล4 จุด แล้วก็รู้สึกหิวมากเพราะไม่ได้กินไรเลยทั้งวัน เรามานั่งกินข้าวแต่กินได้ไม่เยอะ แล้วนอนต่อ แต่กลางคืนก็ลุกไปห้องน้ำ 4 รอบตอนเดินก็เจ็บนะแต่เดินได้อยุ่ พยาบาลเอายาแก้ปวดมาฉีดให้อีก แล้วก็ยาฆ่าเชื้อ เราก็นอนยาวไปจนเช้าเลย