สวัสดีค่ะ ขอคำปรึกษาหน่อยค่ะ เรากับแฟนอายุ 29 ค่ะ
ปัญหาคือ ช่วงนี้สถานการณ์โควิทค่ะ เราอยู่เมืองท่องเที่ยว ส่วนตัวมีงานประจำทำ รายได้ไม่เยอะค่ะ แต่ แฟน ทำงานกับแม่ เขาค่ะ อายุ 50 ปีเปิดร้านอาหารและร้านขายของฝาก ปิดร้านตั้งแต่เดือนมีนา ตอนนี้รายได้ของแม่แฟนขาดสภาพคล่องค่ะ มีหนี้สินอยู่จำนวนล้านต้นๆค่ะ แต่แกจะมีรายได้จากค่าเช่าที่ค่ะ (ซึ่งไม่พอใช้) มีน้องอีก 2 คน จนตอนนี้แกก็ยังไม่ทำงาน หรือหารายได้ทางอื่นเพิ่ม หวังจะรอ การท่องเที่ยวกลับมา แต่ต้องเสียค่าเช่าร้านอาหารและร้านขายของอยู่ค่ะ และหวังเงินจากการขายที่ดิน ตั้งแต่ปีที่แล้วซึ่งจนตอนนี้ก็ยังขายไม่ได้
เรากับแฟน ยังมีรายได้มาจากค่าเช่าตึกของแฟน และงานประจำของเราเอง ถือว่าเรา 2 คนยังอยู่พอได้ค่ะ
และเพิ่งผ่อนรถหมดไป เดือนที่แล้วค่ะ รถยนต์คันนี้เช่าซื้อ ชื่อแฟน ค่ะ แต่หลังจากผ่อนหมด ได้โอนมาเป็นชื่อเรา ซึ่งแม่แฟนยังไม่รู้
สถานการณ์การเงินของแม่แฟนตอนนี้ไม่ไหวแล้วค่ะ แม่กู้เพิ่มไม่ได้ค่ะ เนื่องจากเป็นหนี้เก่าอยู่ แม่แฟนเลยมาขอให้แฟน ไปทำเรื่องกู้ร่วมกับแม่มา แต่มีแน้วโน้มจะไม่ผ่านค่ะ เพราะต้องให้พ่อไปเซ้นชื่อรับทราบที่ธนาคาร แต่พ่อเขาไม่ยอมไปเซ็น (พ่อกับแม่แฟน อยู่กันคนละบ้านนะคะ แต่ยังไม่จดทะเบียนหย่า ) พ่อแฟนบอกว่า ให้มาจดทะเบียนหย่าสิ จะไปเซ็นชื่อให้ ซึ้งแม่แฟนก็ไม่ยอมหย่าค่ะ (เนื่องจากพ่อแฟนแกมีสมบัติเป็นที่ดินที่มีมูลค่ามากอยู่ค่ะ)
แล้วแม่แฟน ได้มาคุยกับแฟน ประมาณว่าจะขอให้ช่วยแม่ เอารถยนต์ที่เราผ่อนกับแฟนไปเข้าไฟแนนซ์ค่ะ ทั้งๆที่เราเพิ่งผ่อนหมดเดือนที่แล้วเองค่ะ แฟนเลยมาคุยกับเรา แต่ใจเราก็คือ ไม่ได้ คิดว่าจะไม่ให้ค่ะ เพราะได้โอนมาเป็นชื่อเราแล้ว และตอนนี้ แกก็เป็นหนี้สินอยู่เยอะ ถ้าเอาไปเข้าอีกก็เป็นหนี้เพิ่มอีก จะเอาเงินที่ไหนไปผ่อน ส่วนผู้เช่าตึกของแฟนก็ดูท่าจะไม่ค่อยไหว จะออกไปวันไหนก็ยังไม่รู้ เราเลยบอกแฟนไปว่า ไม่ให้ ค่ะ แฟนเลยบอกว่า เด่วจะลองคุยกับแม่อีกทีนึง
(ส่วนแม่แฟนนั้น เคยพูดทวงบุญคุญกับแฟนเราไว้ว่า ตึกของนั้นที่ได้มาก็เป็นเพราะกู ที่ไปขอพ่อให้โอนมาให้ แล้วกูก็เสียค่าโอนให้)
มาขอคำแนะนำ ค่ะเราเองก็กลัวจะถูกมองว่าเห็นแก่ตัวเหมือนกันที่ทำแบบนี้ แต่รถกว่าจะผ่อนหมด ก็ต้องประหยัดเงินมาตั้งนานนึกว่าผ่อนหมดแล้วจะสบายใจซะที
จะทำยังไงดีคะ
ขอปรึกษาปัญหาค่ะ ครอบครัวแฟนจะเอารถ
ปัญหาคือ ช่วงนี้สถานการณ์โควิทค่ะ เราอยู่เมืองท่องเที่ยว ส่วนตัวมีงานประจำทำ รายได้ไม่เยอะค่ะ แต่ แฟน ทำงานกับแม่ เขาค่ะ อายุ 50 ปีเปิดร้านอาหารและร้านขายของฝาก ปิดร้านตั้งแต่เดือนมีนา ตอนนี้รายได้ของแม่แฟนขาดสภาพคล่องค่ะ มีหนี้สินอยู่จำนวนล้านต้นๆค่ะ แต่แกจะมีรายได้จากค่าเช่าที่ค่ะ (ซึ่งไม่พอใช้) มีน้องอีก 2 คน จนตอนนี้แกก็ยังไม่ทำงาน หรือหารายได้ทางอื่นเพิ่ม หวังจะรอ การท่องเที่ยวกลับมา แต่ต้องเสียค่าเช่าร้านอาหารและร้านขายของอยู่ค่ะ และหวังเงินจากการขายที่ดิน ตั้งแต่ปีที่แล้วซึ่งจนตอนนี้ก็ยังขายไม่ได้
เรากับแฟน ยังมีรายได้มาจากค่าเช่าตึกของแฟน และงานประจำของเราเอง ถือว่าเรา 2 คนยังอยู่พอได้ค่ะ
และเพิ่งผ่อนรถหมดไป เดือนที่แล้วค่ะ รถยนต์คันนี้เช่าซื้อ ชื่อแฟน ค่ะ แต่หลังจากผ่อนหมด ได้โอนมาเป็นชื่อเรา ซึ่งแม่แฟนยังไม่รู้
สถานการณ์การเงินของแม่แฟนตอนนี้ไม่ไหวแล้วค่ะ แม่กู้เพิ่มไม่ได้ค่ะ เนื่องจากเป็นหนี้เก่าอยู่ แม่แฟนเลยมาขอให้แฟน ไปทำเรื่องกู้ร่วมกับแม่มา แต่มีแน้วโน้มจะไม่ผ่านค่ะ เพราะต้องให้พ่อไปเซ้นชื่อรับทราบที่ธนาคาร แต่พ่อเขาไม่ยอมไปเซ็น (พ่อกับแม่แฟน อยู่กันคนละบ้านนะคะ แต่ยังไม่จดทะเบียนหย่า ) พ่อแฟนบอกว่า ให้มาจดทะเบียนหย่าสิ จะไปเซ็นชื่อให้ ซึ้งแม่แฟนก็ไม่ยอมหย่าค่ะ (เนื่องจากพ่อแฟนแกมีสมบัติเป็นที่ดินที่มีมูลค่ามากอยู่ค่ะ)
แล้วแม่แฟน ได้มาคุยกับแฟน ประมาณว่าจะขอให้ช่วยแม่ เอารถยนต์ที่เราผ่อนกับแฟนไปเข้าไฟแนนซ์ค่ะ ทั้งๆที่เราเพิ่งผ่อนหมดเดือนที่แล้วเองค่ะ แฟนเลยมาคุยกับเรา แต่ใจเราก็คือ ไม่ได้ คิดว่าจะไม่ให้ค่ะ เพราะได้โอนมาเป็นชื่อเราแล้ว และตอนนี้ แกก็เป็นหนี้สินอยู่เยอะ ถ้าเอาไปเข้าอีกก็เป็นหนี้เพิ่มอีก จะเอาเงินที่ไหนไปผ่อน ส่วนผู้เช่าตึกของแฟนก็ดูท่าจะไม่ค่อยไหว จะออกไปวันไหนก็ยังไม่รู้ เราเลยบอกแฟนไปว่า ไม่ให้ ค่ะ แฟนเลยบอกว่า เด่วจะลองคุยกับแม่อีกทีนึง
(ส่วนแม่แฟนนั้น เคยพูดทวงบุญคุญกับแฟนเราไว้ว่า ตึกของนั้นที่ได้มาก็เป็นเพราะกู ที่ไปขอพ่อให้โอนมาให้ แล้วกูก็เสียค่าโอนให้)
มาขอคำแนะนำ ค่ะเราเองก็กลัวจะถูกมองว่าเห็นแก่ตัวเหมือนกันที่ทำแบบนี้ แต่รถกว่าจะผ่อนหมด ก็ต้องประหยัดเงินมาตั้งนานนึกว่าผ่อนหมดแล้วจะสบายใจซะที
จะทำยังไงดีคะ