ขอปรึกษา และกึ่งๆ บ่นนะคะ
ตอนนี้เราทำงานที่บ้านได้ 4 เดือนแล้วค่ะ เนื่องจากสถานการณ์โควิด
ที่ทำงานเราประชุมบ่อยมากค่ะ เรื่องปกติของงานเราเลยช่วงอยู่บ้านคือประชุมซูมไม่เว้นแต่ละวัน
ประชุมบ่อยกว่าประชุมปกติตอนทำที่ออฟฟิตด้วยค่ะ เนื่องจากว่าเป็นช่วงที่ยุ่ง + ไม่ได้เจอหน้ากัน มันเลยเกิดการพยายามสื่อสารกันเยอะขึ้น
บางวันคุย 3-4 นัด หมดวันแล้วค่ะ พอประชุมเสร็จเลยมานั่งทำงานตัวเองต่อ สรุปคือวันนึงทำงานมากกว่าที่ทำอยู่ที่ออฟฟิตมาก
แฟนเราเขาเป็นฟรีแล๊น รายได้มากกว่าเรามากแต่ไม่ได้ถือเป็นรายได้หลัก เพราะเราแชร์กันออก ยังแบ่งคนละกระเป๋า ช่วงปกติเขาก็อยู่บ้านเยอะกว่าเรา งานบ้านส่วนใหญ่ก็สลับกันทำ เรากลับบ้านมาเห็นเราก็ทำ บางครั้งเขาก็ทำไปก่อนแล้วไม่มีปัญหาอะไร แต่งานหลักๆ คือเขาทำตลอดคือจะเป็นคนซักผ้าเพราะเราซักเครื่องหยอดเหรียญ เรากลับบ้านดึกร้านซักผ้ามักปิดไปแล้วเสาร์อาทิตย์ก็ออกไปพักผ่อนนอกบ้าน เขาเลยไม่อยากให้เราซักวันหยุด
แต่ตั้งแต่ทำงานที่บ้าน แฟนเราเขาก็ไม่ได้ทำงานอะไรเพราะว่าเขาไม่สามารถเดินทางได้ เราไม่ได้มีปัญหาเรื่องเงินกันเลยไม่ใช่ประเด็นหลัก
เนื่องจากแฟนเราชอบให้เราทำอาหาร เราก็ทำให้กินทุกวันเพราะเราอยู่บ้าน คือเช้ามาทำงาน 11 โมงทำข้าวให้กิน เย็นทำให้กิน อย่างนี้ทุกวัน
แต่เราก็ยังไม่มีเวลาทำงานบ้านเหมือนเดิม
บวกกับงานที่ยิ่งกว่าเดิม จากที่เราเลิกงานแล้วกลับมายังพอมีแรงกวาดบ้าน ช่วงทำงานที่บ้านเราเวลาน้อยลงกว่าเดิม บวกกับเราทำอาหารให้เขากินตอนเลิกงานแล้ว เราเลยแทบไม่ได้แตะงานบ้านเลย (แต่อาหารบางวันก็ไม่ได้ทำนะคะ ถ้ายุ่งและเบื่อผีมือตัวเองก็สั่งมาทาน)
ปกติเราก็ไม่ได้สะอาดกันมากทั้งคู่ กวาดบ้านนี่ยังแทบอาทิตย์ละครั้ง แต่กลายเป็นว่าบางวันที่เราไม่มีประชุม นั่งทำงานอื่นๆ ที่ค้างไว้(ประชุมทุกวัน ว่างจากประชุมก็งานบานเบอะอยู่แล้ว) เขาก็มาชวนไปตากผ้า ชวนไปกวาดบ้าน ชวนทำนู่นทำนี่
จนเราเริ่มหงุดหงิดว่า ต่อให้ทำงานที่บ้านเวลางานก็คือเวลางาน ทำไมต้องมากดดันให้ทำโน่นทำนี่
เราหงุดหงิดที่พอเขาเห็นเราอยู้บ้านเขาก็คาดหวังมากขึ้น ทั้งที่ตอนเราทำงานออฟฟิตไม่ได้มีปัญหาอะไร
เขาแทบไม่ได้ทำงานเลย สี่เดือนนี้ออกไปทำงานน่าจะประมาณ 10 วัน อยู่บ้านก็ทำงานบ้าง พวกทำรีเสิช อ่านหนังสือ เล่นเกม อ่านเนท
เราโมโหที่เขามาคาดหวังจ้ำจี้ให้เราทำงานบ้าน
เราไม่ได้บอกว่าเพราะเขาไม่ได้ทำงานเขาจึงต้องทำงานบ้าน
แล้วเราก็รู้สึกผิดเหมือนกันที่เราทำงานบ้านน้อยลงกว่าเดิม
เรารู้สึกอายและคิดว่าไม่ถูกที่เราจะบอกกับเขาว่า ถ้าเขามีเวลามากกว่าเดิม เรามีเวลาน้อยกว่าเดิม เขาก็ควรจะช่วยทำในส่วนที่เราเคยทำหน่อยได้ไหม เพราะเรารู้สึกว่านั่นมันเป็นการผลักภาระให้เขา แต่ในขณะเดียวกันเราก็รู้สึกว่า ปล่อยเราไปได้ไหม แค่นี้เราก็แย่แล้ว
ทุกวันนี้ตื่นมาหมดแรงค่ะ ไม่มีที่จะไป กดดันมาก หงุดหงิดตลอดเวลา รู้สึกเหมือนทำอะไรก็ไม่ดีไปหมด
อยากแม้กระทั่งจะเลิกๆ ไป เพราะว่าถ้ามันกดดันมากเราก็ควรจะอยู่กับตัวเองดีไหม อย่างน้อยก็ไม่ต้องมีนั่งเครียด และหงุดหงิดกับเรื่องเล็กๆ น้อยๆ
ไม่รู้จะทำไงดี
เราคบกันมาสามปี เรื่องที่จะทะเลาะกันมันก็มีเยอะ แต่ไม่ได้ใหญ่โตอะไร เรื่องทำความสะอาดบ้านก็ไม่ค่อยมีปัญหา แต่วันนี้มันมีปัญหามาก ไม่เข้าใจเลยค่ะ
เรื่องมีเท่านี้แหละค่ะ
ทำงานที่บ้านแล้วแฟนคาดหวังให้ทำงานบ้าน รำคาญค่ะ
ตอนนี้เราทำงานที่บ้านได้ 4 เดือนแล้วค่ะ เนื่องจากสถานการณ์โควิด
ที่ทำงานเราประชุมบ่อยมากค่ะ เรื่องปกติของงานเราเลยช่วงอยู่บ้านคือประชุมซูมไม่เว้นแต่ละวัน
ประชุมบ่อยกว่าประชุมปกติตอนทำที่ออฟฟิตด้วยค่ะ เนื่องจากว่าเป็นช่วงที่ยุ่ง + ไม่ได้เจอหน้ากัน มันเลยเกิดการพยายามสื่อสารกันเยอะขึ้น
บางวันคุย 3-4 นัด หมดวันแล้วค่ะ พอประชุมเสร็จเลยมานั่งทำงานตัวเองต่อ สรุปคือวันนึงทำงานมากกว่าที่ทำอยู่ที่ออฟฟิตมาก
แฟนเราเขาเป็นฟรีแล๊น รายได้มากกว่าเรามากแต่ไม่ได้ถือเป็นรายได้หลัก เพราะเราแชร์กันออก ยังแบ่งคนละกระเป๋า ช่วงปกติเขาก็อยู่บ้านเยอะกว่าเรา งานบ้านส่วนใหญ่ก็สลับกันทำ เรากลับบ้านมาเห็นเราก็ทำ บางครั้งเขาก็ทำไปก่อนแล้วไม่มีปัญหาอะไร แต่งานหลักๆ คือเขาทำตลอดคือจะเป็นคนซักผ้าเพราะเราซักเครื่องหยอดเหรียญ เรากลับบ้านดึกร้านซักผ้ามักปิดไปแล้วเสาร์อาทิตย์ก็ออกไปพักผ่อนนอกบ้าน เขาเลยไม่อยากให้เราซักวันหยุด
แต่ตั้งแต่ทำงานที่บ้าน แฟนเราเขาก็ไม่ได้ทำงานอะไรเพราะว่าเขาไม่สามารถเดินทางได้ เราไม่ได้มีปัญหาเรื่องเงินกันเลยไม่ใช่ประเด็นหลัก
เนื่องจากแฟนเราชอบให้เราทำอาหาร เราก็ทำให้กินทุกวันเพราะเราอยู่บ้าน คือเช้ามาทำงาน 11 โมงทำข้าวให้กิน เย็นทำให้กิน อย่างนี้ทุกวัน
แต่เราก็ยังไม่มีเวลาทำงานบ้านเหมือนเดิม
บวกกับงานที่ยิ่งกว่าเดิม จากที่เราเลิกงานแล้วกลับมายังพอมีแรงกวาดบ้าน ช่วงทำงานที่บ้านเราเวลาน้อยลงกว่าเดิม บวกกับเราทำอาหารให้เขากินตอนเลิกงานแล้ว เราเลยแทบไม่ได้แตะงานบ้านเลย (แต่อาหารบางวันก็ไม่ได้ทำนะคะ ถ้ายุ่งและเบื่อผีมือตัวเองก็สั่งมาทาน)
ปกติเราก็ไม่ได้สะอาดกันมากทั้งคู่ กวาดบ้านนี่ยังแทบอาทิตย์ละครั้ง แต่กลายเป็นว่าบางวันที่เราไม่มีประชุม นั่งทำงานอื่นๆ ที่ค้างไว้(ประชุมทุกวัน ว่างจากประชุมก็งานบานเบอะอยู่แล้ว) เขาก็มาชวนไปตากผ้า ชวนไปกวาดบ้าน ชวนทำนู่นทำนี่
จนเราเริ่มหงุดหงิดว่า ต่อให้ทำงานที่บ้านเวลางานก็คือเวลางาน ทำไมต้องมากดดันให้ทำโน่นทำนี่
เราหงุดหงิดที่พอเขาเห็นเราอยู้บ้านเขาก็คาดหวังมากขึ้น ทั้งที่ตอนเราทำงานออฟฟิตไม่ได้มีปัญหาอะไร
เขาแทบไม่ได้ทำงานเลย สี่เดือนนี้ออกไปทำงานน่าจะประมาณ 10 วัน อยู่บ้านก็ทำงานบ้าง พวกทำรีเสิช อ่านหนังสือ เล่นเกม อ่านเนท
เราโมโหที่เขามาคาดหวังจ้ำจี้ให้เราทำงานบ้าน
เราไม่ได้บอกว่าเพราะเขาไม่ได้ทำงานเขาจึงต้องทำงานบ้าน
แล้วเราก็รู้สึกผิดเหมือนกันที่เราทำงานบ้านน้อยลงกว่าเดิม
เรารู้สึกอายและคิดว่าไม่ถูกที่เราจะบอกกับเขาว่า ถ้าเขามีเวลามากกว่าเดิม เรามีเวลาน้อยกว่าเดิม เขาก็ควรจะช่วยทำในส่วนที่เราเคยทำหน่อยได้ไหม เพราะเรารู้สึกว่านั่นมันเป็นการผลักภาระให้เขา แต่ในขณะเดียวกันเราก็รู้สึกว่า ปล่อยเราไปได้ไหม แค่นี้เราก็แย่แล้ว
ทุกวันนี้ตื่นมาหมดแรงค่ะ ไม่มีที่จะไป กดดันมาก หงุดหงิดตลอดเวลา รู้สึกเหมือนทำอะไรก็ไม่ดีไปหมด
อยากแม้กระทั่งจะเลิกๆ ไป เพราะว่าถ้ามันกดดันมากเราก็ควรจะอยู่กับตัวเองดีไหม อย่างน้อยก็ไม่ต้องมีนั่งเครียด และหงุดหงิดกับเรื่องเล็กๆ น้อยๆ
ไม่รู้จะทำไงดี
เราคบกันมาสามปี เรื่องที่จะทะเลาะกันมันก็มีเยอะ แต่ไม่ได้ใหญ่โตอะไร เรื่องทำความสะอาดบ้านก็ไม่ค่อยมีปัญหา แต่วันนี้มันมีปัญหามาก ไม่เข้าใจเลยค่ะ
เรื่องมีเท่านี้แหละค่ะ