เรื่องสั้น: ครั้งแรก

กระทู้สนทนา
คำเตือน: ผู้ที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปีควรได้รับคำแนะนำ เป็นความเชื่อส่วนบุคคลค่ะ โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่านค่ะ

➖➖➖➖➖➖➖➖➖➖➖➖➖➖➖➖

ครั้งแรก

“ตัวเองเค้าค้างบ้านตัวเองนะ นะ ๆ ” เปรียวคุยโทรศัพท์กับแป้ง ออดอ้อนออเซาะไม่ยอมลดราวาศอก คบกันมาหลายปีให้ไปบ้านได้แต่ไม่เคยได้นอนค้างสักที ครั้งนี้หมั้นกันแล้วขอค้างบ้างจะได้มั้ย

“ตัวเค้าไม่กล้า” แป้งใจหนึ่งใจสอง ก็จริงพวกเธอหมั้นกันแล้ว แต่จะมานอนค้างที่บ้านด้วยมันจะดีเหรอ ถึงเปรียวจะเข้าออกบ้านของเธอเป็นว่าเล่น ก็ไม่เคยได้นอนค้างสักคืน

“นะตัวเอง! ไม่นอนบ้านเปรียวนอนบ้านแป้งนะ เพื่อนบ้านไม่สนใจหรอกน่า”

“จะลองขอแม่ดูก็ได้”

เปรียวพยายามออดอ้อนแฟนสาวจนสำเร็จ ก็แค่รอลุ้นว่า ว่าที่แม่ยายกับพ่อตาจะอนุญาตหรือเปล่า เขาเตรียมใจไว้รอถ้าไม่อนุญาตก็ไม่เป็นไร ตอนเช้ามากลับเย็นก็ได้ เหมือนที่เคย ๆ ทำมาตลอด

คืนนี้เปรียวจะเดินทางกลับจากกรุงเทพมาหาแฟนสาวที่ต่างจังหวัด เนื่องในพรุ่งนี้มีงานบุญกฐิน เขาได้วันลาประจวบเหมาะพอดี จึงกลับบ้านอย่างไม่ต้องลังเล ด้วยความคิดถึงแฟนด้วย  เขาแพลนไว้ว่าถ้าแป้งไม่ให้ค้าง ก็คงเป็นบ้านเขาเอง

“เปรียวเค้าขอแม่แล้ว แม่อนุญาต ยกแม่น้ำทั้งห้ามาอ้างอ่ะ กลัวแม่ไม่อนุญาต” เขาคุยกับแฟนสาว เป็นข่าวที่ดีมาก ว่าที่พ่อตาแม่ยายอนุญาตให้ค้างที่บ้านได้

“ครับโผ๊ม! พรุ่งนี้เจอกัน” เปรียวดีใจมากที่สุด ตื่นเต้นอยากให้ถึงพรุ่งนี้เร็ว ๆ อยากเลิกงานเร็ว ๆ กระเป๋าสัมภาระเก็บเรียบร้อย ตั๋วก็ซื้อเรียบร้อย

....

เช้าวันนี้เปรียวถึงบ้านอย่างปลอดภัย ลงบ้านตัวเองก่อนค่อยมาบ้านแป้ง ซึ่งเธอรออยู่ที่บ้านรอเจอเขาเหมือนกัน

“ขับรถดี ๆ นะลูก” แม่ของเปรียวเดินมาส่ง ก่อนจะออกรถบึ่งมาหาแป้งที่บ้าน  ที่หมู่บ้านของเธอครึกครื้นด้วยเสียงเพลงเพราะมีงานบุญ ตามถนนหนทางมีเชือกผูกด้วยผ้าสามเหลี่ยมหลากสีทั่วทั้งหมู่บ้าน เป็นสัญลักษณ์บ่งบอกว่าเป็นงานบุญ เสียงเพลงที่วัดเปิดเสียงดังมาถึงที่บ้านของเธอ

ยายพร้อมญาติ ๆ ของแป้งออกมาต้อนรับขับสู้เป็นอย่างดี เปรียวยกมือไหว้อย่างคุ้นเคยและมีมารยาท เขานำกระเป๋าบางส่วนที่นำมาด้วยไปเก็บไว้ในห้องนอนที่แป้งเตรียมไว้ให้ แล้วออกมารับประทานขนมจีนน้ำยาที่ยายเตรียมต้อนรับ บุญกฐินก็ต้องมีขนมจีนน้ำยา ยายเตรียมไว้สองน้ำยาคือ น้ำยาป่ากับกระทิ ทุกคนรับประทานขนมจีนกันอย่างเอร็ดอร่อย มีแอลกอฮอล์บ้างเล็กน้อยตามประสาผู้ชาย

“บ่ายสามไปแห่กฐินรอบหมู่บ้าน รถแห่คันใหญ่มาก” ยายบอกและนั่งมองดูห่าง ๆ หวงหลานสาวมากหรือไงก็ไม่รู้ แต่เปรียวก็ไม่เกร็ง ยายของแป้งใจดีกับเขามาก

“กลองยาวหรือรถแห่ครับยาย” เขาถาม

“รถแห่ลูก กลองยาวหาจ้างยาก ผู้ใหญ่บ้านเขาจ้างรถแห่ พูดถึงยายก็ชอบกลองยาวแห่มันจังม่วน กิน ๆ ลูกตามสบาย ยายทำไว้เยอะ”

“ครับ” เขาตอบรับยาย

เวลาผ่านไปเริ่มอิ่มเมาด้วย ความง่วงก็เริ่มก่อตัวขึ้น แป้งนำขนมจีนจานชามไปเก็บเรียบร้อย จัดห้องให้เขานอน แต่เปรียวไม่อยากนอนในห้อง อยากนอนหน้าทีวีมากกว่า

“ตัวเองเปิดทีวีหน่อย เปิดกล่อมสักหน่อย เค้าง่วงเค้าของีบแป๊บนะ ถ้าจะไปแห่ปลุกเค้า เคมั้ย” แล้วเปรียวก็ล้มหัวนอนด้วยความเพลีย   แป้งนอนลงข้าง ๆ เขา

กำลังจะหลับสะลึมสะลือเขาเห็นยายแก่ ๆ คนหนึ่งร่างท้วม หัวหงอก ใส่โจงกระเบน นุ่งผ้าปิดหน้าอกเหมือนเกาะอก ยืนมองเขาอยู่ไกล ๆ อยู่ตรงเสาหน้าบ้านของแป้ง สายตาจ้องมองเขานอน  ในบ้าน พอเขาจะลุกขึ้นมองว่าเป็นใครยายคนนั้นก็หายไป

“เปรียว! ลุก! ตื่นได้แล้วบ่ายสองแล้วเนี่ย ไปแห่ไหวมั้ยหรือจะนอนต่อ” เขาสะดุ้งตื่นขึ้นมาด้วยเสียงปลุกของแป้ง เขาหันมองไปยังหน้าบ้านเสาต้นนั้นไม่มีใคร ยายของแป้งก็ไม่ได้แต่งตัวเช่นนั้น เขาฝันงั้นหรือ ก็แค่ฝันไม่มีอะไรหรอก แต่ภาพยายในฝันมันชัดเจนมาก

“ตื่น! เปรียวไหวมั้ย ไปอาบน้ำไป บ่ายแล้วนอนไม่ได้ มืดค่อยนอนต่อ” แป้งไม่ยอมให้เขานอนต่อ เปรียวลุกขึ้นเปิดกระเป๋าเสื้อผ้าหยิบผ้าเช็ดตัวและเสื้อผ้าไปอาบน้ำ ภายในหัวคิดถึงแต่หน้ายายคนนั้น จะว่าน่ากลัวก็ไม่เชิง

“ไปแห่กันมั้ย จะไปก็ออกไปรอที่หน้าบ้านป้านะ “ ยายแนะนำ เมื่อเขาอาบน้ำเสร็จ ออกมาหน้าบ้าน แอบเนียนเดินไปยังเสาต้นนั้น ภาพในฝันก็ยังชัดเจน ยายคนนั้นยืนมองเขาที่เสาต้นนี้ เปรียวเก็บไว้ในใจไม่บอกแป้ง หรือใคร

“ไม่ครับยาย”

เขาปฏิเสธ ไม่ได้อยากมาดู จุดประสงค์แค่อยากมาหาแฟน อยากอยู่กับแป้ง สุดท้ายก็แค่ไปยืนดูรถแห่ ๆ ผ่านหน้าบ้านไปเท่านั้น วัยรุ่นเต้นเข้าจังหวะเพลงอย่างสนุกสนาน จากนั้นก็กลับมาเตรียมข้าวเตรียมปลาตอนเย็น ญาติของแป้งก็มาทานข้าวด้วย เพราะว่าที่หลานเขยมาค้างที่บ้านทั้งคน

“ไปเอาไก่อยู่นาป้าไป ลุงอยู่นาให้ลุงจับให้” ป้าบอกให้เขาไปเอาไก่มาทำอาหารเย็น ตอนนี้แค่บ่ายสามโมง

“ปะเปรียว! เอามอไซค์ดีกว่า ไม่ต้องเอารถยนต์หรอก” เขาไปกับแป้ง ขับมอเตอร์ไซค์ของป้านั่นแหละไป พอมาถึงนาลุงก็จัดการหาจับไก่ให้ ระหว่างรอเขาดันปวดฉี่ขึ้นมาดื้อ ๆ กว่าลุงจะจับมาให้ท่าจะนาน ปวดฉี่ก็ปวดมาก

“แป้งเค้าปวดฉี่อ่ะ” สุดท้ายแล้วเขาก็บอกแป้ง ที่บอกคือ กลัวเรื่องเจ้าที่เป็นความเชื่อส่วนบุคคล

“ปวดมากมั้ย” แป้งถามเขาพยักหน้าตอบรับ “ฉี่แถวนี้ก็ได้เปรียว ไม่ต้องเข้าไปในป่านะ บัง ๆ แถวนี้ ตรงเถียงเนี่ย แป้งไม่มองหรอกน่า” แป้งพูดล้อเขาให้หัวเราะ เขายิ่งปวดฉี่มากอยู่แล้ว ยังจะพูดให้ขำ

เขามองหาที่ยืนฉี่ สุดท้ายก็ไปจบที่ต้นมะกอกใกล้ ๆ เถียงนาของแป้งนี่แหละ แล้วไม่นานลุงก็ถือไก่มาให้ “ลุงตอนเย็นมากินต้มไก่เด้อครับ” เขาพูดส่งท้ายก่อนกลับ

“เอ้อ ๆ ลุงสิไปหรอก”

เมื่อได้ไก่แล้วพวกเขาทั้งสองคนก็ขับรถกลับบ้าน เปรียวจัดการเข้าครัวทำเมนูไก่บ้านต้ม เป็นพ่อครัวจำเป็น ซึ่งเขาก็ทำได้อร่อยมาก ญาติสองสามคนมานั่งเล่นพูดคุยที่บ้านด้วย ไม่ใช้คนแปลกหน้าเพราะคุ้นเคยกันอย่างดี แค่ครั้งนี้เป็นการมาค้างบ้านแป้งครั้งแรกเท่านั้น

ไป ๆ มา ๆ เปรียวก็ไม่อยากไปดูหมอลำ แต่ก็ไปสักหน่อยได้มาแล้ว ทุกคนพากันไปนั่งดูหมอลำ แต่อีกนั่นแหละ เพราะความง่วงจึงพากันกลับ ซึ่งแค่ห้าทุ่มเท่านั้นเอง เขาเองก็ง่วงเหมือนกัน ทุกคนเดินทางกลับบ้านของแป้ง เขานอนในห้องนอนที่แป้งเตรียมไว้ให้ซึ่งก็คือห้องนอนของแป้งนั่นแหละ ส่วนแป้งนอนกับยายกับน้องสาว

แค่ไม่กี่นาทีที่เข้าล้มหัวถึงหมอน เพราะความง่วงบวกความเพลียก็ไม่แน่ใจ เขาหลับไปในทันที เปรียวฝันอีกแล้ว ฝันเห็นผู้หญิงผมยาวมาก ยาวถึงก้นใส่ชุดสีขาวยืนมองเขาที่ประตูบ้าน แต่ก่อนนอนเขาปิดประตูห้องหนิ แล้วเปิดออกตั้งแต่เมื่อไหร่ หรือแป้งแอบเปิดเข้ามาดูเขาแล้วลืมปิด แต่ผู้หญิงคนนั้นก็ไม่ยอมไปไหน ยืนมองเขาอยู่อย่างนั้น สักพักก็เลื่อนมาหยุดยืนมองเขาที่ประตูห้องนอน ทั้งที่เขายังนอนอยู่ที่เดิม เขาตกใจมาก เมื่อกี้ยังอยู่ประตูบ้าน ตอนนี้เข้ามายืนที่ประตูห้องได้อย่างไร เปรียวมองด้วยสายตาไม่กะพริบ หากกะพริบกลัวว่าเธอคนนั้นจะขยับเข้ามาจ่อที่หน้า แล้วก็เป็นอย่างนั้นจริง ๆ

หญิงชุดขาวค่อย ๆ คลานเข้ามาหาเขาบนที่นอน ค่อย ๆ คลานเข้ามาเรื่อย ๆ สายตาของเธอจ้องมองหน้าเขาไม่กะพริบตาเช่นกัน แต่มองเห็นลูกตาของเธอไม่ชัด เปรียวรู้สึกกลัวมาก! หน้าของหญิงชุดขาวกำลังใกล้เข้ามาหาใบหน้าเขาเรื่อย ๆ เหมือนจะนอนทับตัวของเขา หญิงชุดขาวค่อย ๆ โน้มตัวลงมา โน้มใบหน้าลงมาจ้องหน้าจ้องตาเขา หน้าจะชนกันอยู่แล้ว เปรียวกลัวมาก ด้วยสัญชาตญาณการเอาตัวรอดจากที่เรียนมา ฝึกมาเป็นอย่างดี เขาร้องตะโกนโวยวายในฝันใช้เท้าถีบหญิงชุดขาวกระเด็นออกไปติดประตูห้องเสียงดังโครม แต่เธอก็ยังไม่ยอมไป ยังคลานเข้ามาหาเขาอีกรอบที่สอง

“มา! มืงเข้ามา! มืงคิดว่ากูกลัวมืงเหรอ” เขากัดฟันพูดด้วยความโกรธ โมโห เมื่อเขามีสติในฝัน เปรียวลุกขึ้นตามไปเตะถีบหญิงชุดขาวรอบสอง สุดท้ายเธอก็หายไป แล้วเปรียวก็สะดุ้งตื่น เขาจับหน้าตัวเอง เปิดไฟโทรศัพท์มันพึ่งเที่ยงคืนเองหรือ นี่เขานอนไม่กี่นาทีเองเหรอที่ฝันเมื่อกี้ เพราะกลับจากดูหมอลำห้าทุ่มสี่สิบ ตอนนี้เที่ยงคืนห้านาทีเอง

ก็แค่ฝันไป! เขาคิด ทำไมฝันแบบนี้ แปลกสองครั้งแล้ว เมื่อตอนกลางวันก็ฝันเห็นยายแก่ ๆ เมื่อกี้ฝันเห็นหญิงชุดขาว เปรียวไม่เคยกลัวอะไร ไม่สนใจกับฝัน กำลังจะนอนต่อ

แคร่ก ๆ .... แคร่ก ๆ เขาได้ยินเสียงคนคดขี้เถ้าเตาถ่าน จำได้ว่ายายของแป้งนำเตาถ่านเข้ามาเก็บในบ้าน เปรียวนอนฟังเสียงนั้นอยู่นานก็ยังไม่หยุด หรือว่ายายจะลุกมานึ่งข้าว เขาลืมเสียสนิทเลยว่าตอนนี้พึ่งจะเที่ยงคืนเอง พอเสียงคดขี้เถ้าเงียบลงก็เป็นเสียงคนจุดไม้ขีดไฟ เสียงจ๊วดของไฟที่ติดแต่ดับไป เป็นอยู่อย่างนั้นน่าจะหมดไปเป็นกล่องนู่นแหละที่เขานอนฟัง เขานึกในใจยายจุดไฟยากขนาดนั้นเลยเหรอ แล้วทำไมไม่เปิดไฟ ถึงเขาจะปิดห้องนอนแต่ถ้าเปิดไฟห้องโถงไฟมันก็จะแยงเข้ามาในห้องเช่นกัน แต่นี่มันมืดไปหมด แถมยายยังจุดไฟไม่ติดอีก เสียงจุดไฟก็ยังดังอยู่อย่างนั้น เปรียวกำลังจะเรียกยายและลุกเอาไฟแช็กไปให้ ทันใดนั้นสมองเขาก็จำขึ้นมาได้ว่าพึ่งดูนาฬิกาไป เที่ยงคืนสิบนาทีเอง แล้วยายจะมาจุดไฟนึ่งข้าวอะไรตอนนี้ พอเขานึกได้แบบนี้ก็เริ่มกลัวขึ้นมา ความกล้าหายไปเป็นปิดทิ้ง เหงื่อออกท่วมตัว ทั้งที่ไม่ร้อน พัดลมเปิด เหมือนบางอย่างรับรู้ว่าเขากลัวแล้ว เสียงคนจุดไม้ขีดไฟหายไป แต่กลับเป็นเสียงเคาะเหมือนเคาะฝาหม้อแทน ป๊อก ๆ ๆ ช้า ๆ สามครั้ง โครม!  แปร๊ง! เหมือนจานชามในครัวล่วงหล่นลงพื้นแตกกระจายหากฟังจากเสียงของมัน เขาไม่ไหวแล้ว กลัวมากรีบเอาผ้าห่มคลุมหัว หันหน้าไปเข้าฝาผนังห้องหลับตาปี๋ภายใต้ผ้าห่มจนเช้า ไม่รู้เขาหลับไปตั้งแต่ตอนไหน

หกโมงเช้าเปรียวและแป้งตื่นขึ้นมารับอากาศยามเช้ามันสดชื่นมาก เขาจำเรื่องเมื่อคืนได้ดี เปรียวยังไม่เล่าให้ใครฟัง เขาเดินไปสำรวจเตาถ่าน ต้องตกใจเมื่อเห็นขี้เถ้ายังเต็มเตาอยู่เลย ไม่มีรอยคด และไม้ขีดก็ไม่มีสักอัน มีเพียงไฟแช็กเก่า ๆ ของยายวางอยู่บนขาเตา ทันใดนั้นเขาเดินเนียน ๆ เข้าไปดูในครัว ร่องรอยจานแตก ถ้วยแตกก็ไม่มีให้เห็น แล้วเสียงเมื่อคืนคืออะไร หรือว่าจะเป็นสิ่งที่มองไม่เห็นทำ ทั้งเรื่องฝันตั้งแต่กลางวันของเมื่อวานแล้วด้วย

“อย่าคิดว่าจะทำให้ผมกลัวได้ แต่ผมก็ไม่ได้ลบหลู่นะครับ” เขายืนนึกในใจภายในครัว

“เปรียวมาทานข้าวทำอะไร”

“กำลังไป หาจานใส่ผักอ่ะแป้ง” แล้วเขาก็เดินออกจากในครัว นำจานไปใส่ผักที่ยายเก็บมา ทานข้าวเช้าอย่างกับเมื่อคืนไม่มีอะไรเกิดขึ้น

....

“น้อง! มันกลับกรุงเทพนะมันถึงถามพี่ เล่าให้พี่ฟังพี่ถึงรู้” แป้งนั่งคุยเรื่องความเหนือธรรมชาติกับพนักงานใหม่ คุยไปคุยมาดันคุยถึงเรื่องผีซะงั้น

“แล้วพี่เค้าทำยังไงอ่ะ ยายพี่รู้มั้ย” น้องใหม่ก็ทำท่าอยากรู้มาก เธอก็เล่าแบบไม่กั๊ก มันเป็นเรื่องที่ไม่น่าเชื่อก็เชื่อ หลังจากยายจัดธูปบอกกล่าวเจ้าที่ เปรียวก็ไม่เจอแบบนี้อีกเลย

“รู้! ตอนแรกมันเล่าให้พี่ฟังใช่มั้ย พี่ยังไม่กล้าบอกยาย พี่โทรไปเล่าให้แม่พี่ฟัง ว่าเปรียวมันเจอแบบนี้มานอนบ้านเราครั้งแรกอ่ะ แม่พี่โมโหไม่ได้โมโหยายนะโมโหอะไรก็ไม่รู้ แม่พี่ก็เลยโทรหายายบ่นยายว่าไม่บอกไม่กล่าวตา ไม่บอกเจ้าที่ว่าหลานเขยมา ว่าเป็นเขยของบ้าน”

“ใช่ แฟนหนูก็เหมือนกัน”

“แฟนพี่มาบ้านพี่บ่อยมากน้องสมัยคบกันอ่ะ แต่ไม่เคยค้างไง วันนั้นน่ะครั้งแรกเลยที่นอนบ้านพี่ พี่ก็อะไรวะขอเจ้าของโฉนดยังไม่พออีกเหรอ” แล้วเธอก็ขำตลกคำพูดตัวเอง “ขอพ่อแม่แล้วไงยังจะต้องขออะไรอีกก็ไม่รู้”

“ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อนะพี่ แฟนหนูก็โดน แม่หนูก็ต้องจุดธูปบอกกล่าว”

“พี่ก็เลยว่า ทำไมเธอไม่บอกเค้าว่าเจออะไร มันว่าจะให้เค้าเข้าไปบอกตัวเองได้ไง นอนอยู่ในห้องยายนู่น ขืนเข้าไปนะจากหมั้นไว้แต่งปีหน้าจะได้แต่งพรุ่งนี้เลยน่ะสิ มันว่าแบบนี้” แล้วพวกเธอก็หัวเราะด้วยความตลกกับคำพูดของตัวเอง “ยายพี่ว่าอีกแล้วเหรอ ยังไม่ไปไหนอีกเหรอ ผู้หญิงชุดขาวอ่ะ ตั้งแต่ลูกเขยคนยันหลานเขย ยายพี่ว่าลุงของพี่มาเป็นเขยใหม่ ก็เจอคนนี้ ถ้าเป็นผู้หญิงชุดขาวนะ “

“อุ้ย! เหรอพี่น่ากลัวอ่ะ “

"ยายพี่ว่าคนแก่ที่เจอคนแรกอ่ะไม่รู้เป็นใครนะ พี่ล่ะขำมัน ๆ ว่าตอนผีผู้หญิงรู้ว่าเป็นผีเตะไม่ยั้งเลยทีนี้"  น้องใหม่หัวเราะกับคำพูดของเธอ ว่าง ๆ พวกเธอก็จับคุยกันรอเลิกงาน

จบ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่