วิธีที่ทุกคนทำตามได้แบบไม่ต้องใช้เงินเยอะ (อยากผิวดีให้ทำแบบนี้)



เทรนผิวตอนนี้ ไม่ได้เน้นที่ผิวขาวแล้ว แต่ เน้นไปที่ผิวแข็งแรง 
การแต่งหน้าแนวใหม่ ก็เน้นไปที่งานผิว คือ แต่งน้อยๆบางเบา ดูผิวโกลว์ ฉ่ำวาว โชว์ผิวสุขภาพดี

แม้ว่าพื้นฐานผิว (ต้นทุนของแต่ละคนไม่เท่ากัน) ส่วนหลักมาจากกรรมพันธุ์
แต่เราสามารถดูแลผิวให้ดีขึ้นกว่าเดิมได้ โดยอาศัยวิธีการต่อไปนี้ค่ะ

วิธีพื้นฐานที่ทำให้ผิวสุขภาพดีแบบไม่ต้องใช้เงินเยอะ 💕
1. การนอนพักเพียงให้เพียงพอ 7-8 ชั่วโมง, ไม่นอนดึก, ไม่โหมงานหนัก, นอนหลับสนิทหลับแบบมีคุณภาพ 
ตรงนี้สำคัญมากๆ สังเกตได้จากตื่นมาแล้วสดชื่น รู้สึกว่านอนเต็มอิ่ม ไม่ปวดหัว

2. การดื่มน้ำเปล่ามากๆ 1-2 ลิตร ต่อวัน หากไม่มีโรคไตหรือโรคหัวใจที่ต้องจำกัดน้ำ

3. เลี่ยงของหวาน เพราะน้ำตาลทำให้ผิวเสื่อมไว มีริ้วรอย และยังกระตุ้นสิว (กระตุ้นการทำงานของต่อมไขมันที่ผิวหนัง)

4. เลี่ยงอาหารขยะและไขมันทราน เพราะกระตุ้นต่อมไขมัน ทำให้เป็นสิว ผิวมัน และยังเกิดผลเสียต่อร่างกายด้วย

5. กินอาหารให้ครบ 5 หมู่ โดยเฉพาะโปรตีนคุณภาพดี เช่น จากอกไก่ เนื้อปลา เนื้อสัตว์ส่วนไม่ติดมัน ถั่ว, 
เน้นผักผลไม้สด ลดแป้ง ลดไขมัน (แป้งและไขมัน กินแต่พอดี)

6. การหลีกเลี่ยงแสงแดด และทาครีมกันแดดที่มีประสิทธิภาพ ทาอย่างถูกวิธีและใช้ปริมาณที่เหมาะสม เพราะแสงแดดทำร้ายผิว ทำให้ผิวเหี่ยว มีริ้วรอยง่าย หมองคล้ำ สีผิวไม่สม่ำเสมอ เกิดฝ้ากระจุดด่างดำ และเสี่ยงเป็นมะเร็งผิวหนัง

7. สวมแว่นตากันแดด เวลาขับรถหรือเจอแดดแรงๆ ช่วยลดริ้วรอยรอบดวงตาได้

8. ทาครีมบำรุงผิวและดูแลผิวให้ชุ่มชื้นอยู่เสมอ เช่น ทาบำรุงทุกครั้งหลังอาบน้ำ​ภายใน​ 3 นาที, ไม่อาบน้ำร้อน,​
 ไม่แช่ตัวในอ่างอาบน้ำนานๆ, ไม่ใช้สบู่ที่มี pH สูงๆ/ฟองเยอะๆ

9. ล้างหน้าวันละ 2 ครั้ง ด้วยสบู่เหลวสำหรับล้างหน้า pH balance หรือ pH 5-5.5 และไม่ล้างหน้าบ่อยเกินไป เพราะทำให้ผิวเสียสมดุล

10. เมื่อกลับบ้านแล้ว ควรอาบน้ำ ล้างหน้า เพื่อลดการสะสมของเหงื่อ เชื้อโรค และมลภาวะบนผิว และยังช่วยไม่ให้เผลอหลับไปทั้งเครื่องสำอางด้วย

11. การใช้ผลิตภัณฑ์ skin care ที่เหมาะสมกับสภาพผิว เช่น คนผิวมัน ผิวแห้ง ผิวผสม จะใช้ texture ที่ต่างกัน 
เช่น ครีม/โลชั่น เหมาะกับผิวแห้ง, เจล/เซรั่ม เหมาะกับผิวมัน ซึ่งสภาพผิวของเราสามารถเปลี่ยนแปลงได้

12. ไม่จำเป็นต้องใช้ skin care หลายตัว (มากเกินไป) (Basic จริงๆที่ต้องทา คือเน้น บำรุงผิวและกันแดด) 
ทาหลายตัวก็ไม่ได้ทำให้ได้ผลดีมากขึ้น แต่เปลืองและอาจจะระคายเคืองผิวมากขึ้น มีเยอะอาจจะใช้ไม่ทันหมดอายุก่อน

13. ไม่ขยี้ตา/เช็ดผิวหน้าแรงๆ เพราะในระยะยาวทำให้เกิดริ้วรอยได้

14. พยายามนอนหงาย เลี่ยงการนอนคว่ำ/นอนตะแคง ช่วยลดริ้วรอยบนใบหน้าได้

15. เลี่ยงการขัดผิว เพราะ ทำให้ผิวระคายเคือง รบกวนผิว และการขัดผิวบ่อยๆในระยะยาวจะทำให้ผิวหนังหนาตัวขึ้นด้วย 
เห็นลายผิวหนังชัดเจนและสาก แทนที่จะเนียนนุ่ม

16. ควบคุมน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ BMI 18.5-22.9 
เพราะถ้าน้ำหนักตัวมากเกินไป จะมีปัญหาผิวแตกลาย ติ่งเนื้อเยอะ 
รอยดำรอบคอรักแร้ขาหนีบ เรียกว่า Acanthosis nigricans (ไม่ใช่ขี้ไคล) จะขัดไม่ออก ถ้าอยากรอยคล้ำนี้หายไปต้องลดน้ำหนักลงค่ะ

17. ไม่สูบบุหรี่ ดื่มเหล้าหรือแอลกฮอล์ เพราะทำให้ผิวเสื่อมสภาพ แผลหายช้า และเกิดริ้วรอยผิวเหี่ยวย่น หย่อนคล้อยเร็วขึ้น

18. หลีกเลี่ยงสิ่งที่ส่งผลเสียต่อผิว เช่น ความเครียด มลภาวะ

19. การแสดงสีหน้าซ้ำๆแบบมีอินเนอร์ในระยะยาว ทำให้เกิดริ้วรอยต่างๆได้ชัดเจน เช่น รอยขมวดคิ้ว รอยตีนกา รอยย่นหน้าผาก

20. ไม่ใช้ครีมหรือเครื่องสำอางที่ไม่ได้มาตรฐาน มักไม่มีอย. หรือใช้ อย.ปลอม เพราะมักมีสารอันตราย อาจจะเห็นผลไวตามคำโฆษณา 
เช่น ครีมเร่งผิวขาว ครีมรักษาสิวฝ้าหายใน 7 วัน แต่ในระยะยาวจะเกิดปัญหาตามมาอีกมาก เช่น ผิวติดสารสเตียรอยด์ ผิวแตกลาย ผิวเป็นรอยด่าง

21. Skin care ที่เปิดใช้นานมากแล้ว หมดอายุ หรือเนื้อครีมเปลี่ยนสภาพหรือเปลี่ยนสี ไม่ควรนำมาใช้ อย่าเสียดาย ตัดใจทิ้งดีกว่าค่ะ

22. อย่าลืมทำความสะอาดแปรงแต่งหน้า พัฟ หรือฟองน้ำแต่งหน้า สัปดาห์ละ 1 ครั้ง

23. เปลี่ยนปลอกหมอน ทุกสัปดาห์ เพราะปลอกหมอนเป็นแหล่งสะสมทั้งคราบน้ำมันจากผิวหน้าและเส้นผม, แบคทีเรีย 
และเซลล์ผิวของเราด้วย อาจจะมีน้ำลายด้วย

.
คำถามที่เจอบ่อยๆ

ลักษณะของผิวสุขภาพดี/ผิวแข็งแรง เป็นยังไง ❓
- ผิวที่มีความชุ่มชื้น ไม่แห้งกร้าน แต่ก็ไม่ใช่ผิวที่มันเยิ้ม 
- ไม่มีริ้วรอยก่อนวัย อาจมีได้บ้างตามวัยหรือน้อยกว่าคนในวัยเดียวกัน 
- มีความยืดหยุ่น พูดง่ายๆ คือ นุ่มเด้งอิ่มฟู กระชับ ไม่หย่อนคล้อยก่อนวัย 
- ผิวไม่แดงแสบลอกเป็นขุย ไม่แพ้ง่าย 
- ผิวเรียบเนียนนุ่มลื่น 
- ไม่มีจุดด่างดำ/ หมองคล้ำ/ผื่น หรือรอยโรค

กินคอลลาเจนจำเป็นมั้ย ❓
ไม่ขอตัดสินว่าจำเป็นหรือไม่จำเป็น อันนี้คงแล้วแต่วิจารณญานของแต่ละคนดีกว่านะคะ
เพราะจากข้อมูลงานวิจัยต่างๆยังไม่ชัดเจน บางงานวิจัยเชื่อว่าน่าจะช่วยได้บ้างในเรื่องความชุ่มชื้นและความยืดหยุ่น แต่ข้อมูลตรงนี้ยังมีน้อยอยู่ คงต้องติดตามข้อมูลต่อไปในอนาคต ส่วนเรื่องความขาวอันนี้คอลลาเจนไม่ช่วยอยู่แล้ว
ส่วนตัวไม่เชื่อเรื่องการกินคอลลาเจนที่อยู่ในรูปอาหารเสริม แต่จะเน้นไปที่กินจากอาหารกลุ่มโปรตีน ซึ่งร่างกายสามารถย่อยและเอาไปสร้างเป็นคอลลาเจนได้อยู่แล้ว

กินวิตามินเสริมจำเป็นมั้ย ❓
จริงๆถ้าร่างกายไม่ได้ขาดวิตามิน ก็ไม่จำเป็นต้องกินเสริมเข้าไป (คนปกติที่กินอาหารครบถ้วน โอกาสขาดวิตามินน้อยมาก) เพราะวิตามินบางชนิดเกินมาก็ขับออก อันนี้ไม่ค่อยมีปัญหานอกจากเปลืองเงิน แต่วิตามินบางชนิดเมื่อได้มาเกินแต่ร่างกายไม่สามารถกำจัดออกได้ จะทำให้มีผลเสียต่อร่างกาย จริงๆแล้วหนังสือต่างๆยังแนะนำการได้รับวิตามินจากอาหารมากกว่าวิตามินแบบเม็ด

เป็นสิวฝ้ากระไม่หายทำยังไงดี ❓
1. สำหรับคนที่มีปัญหาผิว เช่น สิว ฝ้า โรคผิวหนัง ควรใช้ยาหรือใช้วิธีการรักษาที่ตรงกับโรคที่เป็น ถ้าเป็นมากควรพบแพทย์ผิวหนัง ไม่ควรหวังพึ่งแต่สกินแคร์หรือหาข้อมูลจาก internet ลองรักษาตัวเอง เพราะอาจจะทำให้อาการเป็นมากขึ้น หรือว่ารักษาไม่ตรงกับโรคที่เป็น หลายๆคนเสียโอกาสในการรักษาและยังเกิดผลข้างเคียงอีกด้วย
2. หากต้องการรักษาแต่มีข้อจำกัดเรื่องค่าใช้จ่าย (กลัวแพง) พวก สิว ฝ้า และผมร่วงบางชนิด กลุ่มนี้จะจัดในกลุ่มโรคที่เป็นความงาม จะใช้สิทธิ์รักษาฟรีไม่ได้ แต่สามารถรักษาที่แผนกผิวหนัง รพ.ของรัฐได้ค่ะ (ค่าใช้จ่ายไม่สูง) แต่ถ้าเป็นโรคผิวหนังอื่นๆที่ไม่ได้จัดอยู่ในกลุ่มความงามอันนี้จะสามารถใช้สิทธิการรักษาที่มีได้ค่ะ

สรุปผิวสุขภาพดี/ผิวแข็งแรง 
- เน้นไปที่การมี skin barrier หรือโครงสรัางของผิวชั้นนอกที่แข็งแรง คือกักเก็บความชุ่มชื้นได้ดี, จำกัดสารที่จะผ่านเข้าสู่ผิว เช่น สารก่อภูมิแพ้ เชื้อโรคต่างๆ จากภายนอก 
- มีเส้นใยคอลลาเจน อีลาสติน และ ส่วนประกอบๆของผิวในระดับที่พอดี ไม่มากหรือน้อยเกินไป (จริงๆมีอย่างอื่นอีกนอกจากคอลลาเจนและอิลาสติน แต่จะไม่ได้ลงรายละเอียดเพราะจะทำให้อ่านยากเกินไปค่ะ)

ถ้าอยากให้ผิวสวยอยู่กับเราไปนานๆ ต้องหมั่นดูแล ลองทำตามที่หมอแนะนำกันดูนะคะ 
รับรองว่าถ้าทำตามได้หมดทุกข้อ ผิวแข็งแรงแน่นอนค่ะ

หมอยุ้ย เพจ Dr.Yui คุยทุกเรื่องผิว

ทุกคนคิดว่าข้อไหนทำยากที่สุด ลองมาโหวตกันดูนะคะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่