อาการบ้างาน หรือ Workaholic ไม่ใช่เรื่องใหม่สำหรับคนทำงาน แต่หลายคนก็ยังมีปัญหาเรื่องการบ้างานอยู่ดี ยิ่งในช่วงนี้ก็ยังมีหลายคนที่ยังทำงานที่บ้านมาเป็นเวลานานจนแทบจะแยกเรื่องงานกับเรื่องส่วนตัวไม่ออก ทำงานทุกวัน คิดเรื่องงานอยู่ตลอดเวลา จนทำให้รู้สึกว่าทำงานเท่าไหร่ก็ไม่ทันซักที
ผลเสียของอาการบ้างานนั้นมีตั้งแต่ประสิทธิภาพในการทำงานลดลง ความสัมพันธ์ย่ำแย่เพราะเวลางานเบียดบังเวลาส่วนตัว สุขภาพเสีย บางคนถึงขั้นเสียชีวิตก่อนวัยอันควรเลยก็มี วันนี้ JobThai Tips จึงเอาแนวทางเล็ก ๆ ที่จะช่วยแก้ไขปัญหานี้มาฝากทุกคนกัน
พักระหว่างวันบ้าง
เมื่อถึงเวลาพักควรลุกออกจากโต๊ะทำงาน ไปนั่งกินอาหารกลางวัน แล้วก็หาเวลาสั้น ๆ สัก 5 – 10 นาทีในช่วงบ่าย พักสมอง เดินผ่อนคลาย หรือจะไปหาขนม จิบกาแฟเพื่อให้สมองแล่น ก็จะช่วยให้ความเครียดและความกดดันลดลงได้แล้ว
ปรับมุมมองการทำงาน
อย่าคิดว่าคนที่ใช้เวลาพักผ่อนในวันหยุด หรือใช้วันลาพักร้อนบ่อยจะเป็นคนที่ไม่มุ่งมั่นกับการทำงาน เพราะการไม่ต้องทำงานหนักทุกวันแล้วมีเวลาได้พักสมองบ้างก็น่าจะช่วยให้เรากลับมาทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
ทำสมาธิ
วิธีง่าย ๆ ที่เรารู้จักกันเป็นอย่างดี การทำสมาธิจะช่วยให้เราผ่อนคลาย พยายามฝึกหายใจให้ช้าลงเพื่อที่สมองและหัวใจของเราจะได้พักไปพร้อมกัน เพราะปกติแล้วคนที่บ้างานจะมีความคิดอยู่ในหัวตลอดเวลา ถ้าเราสลัดมันทิ้งไปได้ในช่วงทำสมาธิก็จะช่วยให้จิตใจของเราสงบขึ้น
แบ่งเวลาให้คนรอบตัว
อย่าให้งานกลายมาเป็นทุกอย่างของชีวิตจนลืมครอบครัวและเพื่อน ๆ ควรแบ่งเวลางานและเวลาส่วนตัวให้ชัดไม่แชทเรื่องงาน งดเช็กอีเมล และแบ่งเวลาไปทำกิจกรรมกับครอบครัว พูดคุยกับเพื่อน ๆ บ้าง เพราะคนเหล่านี้จะช่วยให้ทั้งความคิดและจิตใจของเราสดชื่นขึ้น ช่วยให้เรารักษาสมดุลระหว่างชีวิตและการทำงานได้
ถ้าตอนนี้เรากำลังเครียดและกดดันกับอาการบ้างานที่เริ่มกระทบชีวิตด้านอื่น ๆ ไม่ว่าจะเป็นความสัมพันธ์กับครอบครัว สุขภาพกาย และสุขภาพจิต ลองปรับพฤติกรรมในชีวิตทีละเล็กทีละน้อย อาจเริ่มจากวิธีที่ง่ายอย่างการพักระหว่างวันหรือทำสมาธิก่อน แค่นี้ก็เป็นจุดเริ่มต้นที่จะช่วยให้เรากลับมามีชีวิตที่สมดุลและมีความสุขกับการทำงานเพิ่มขึ้น
รู้สึกว่าตัวเองบ้างานเกินไปทำไงดี
ผลเสียของอาการบ้างานนั้นมีตั้งแต่ประสิทธิภาพในการทำงานลดลง ความสัมพันธ์ย่ำแย่เพราะเวลางานเบียดบังเวลาส่วนตัว สุขภาพเสีย บางคนถึงขั้นเสียชีวิตก่อนวัยอันควรเลยก็มี วันนี้ JobThai Tips จึงเอาแนวทางเล็ก ๆ ที่จะช่วยแก้ไขปัญหานี้มาฝากทุกคนกัน
พักระหว่างวันบ้าง
เมื่อถึงเวลาพักควรลุกออกจากโต๊ะทำงาน ไปนั่งกินอาหารกลางวัน แล้วก็หาเวลาสั้น ๆ สัก 5 – 10 นาทีในช่วงบ่าย พักสมอง เดินผ่อนคลาย หรือจะไปหาขนม จิบกาแฟเพื่อให้สมองแล่น ก็จะช่วยให้ความเครียดและความกดดันลดลงได้แล้ว
ปรับมุมมองการทำงาน
อย่าคิดว่าคนที่ใช้เวลาพักผ่อนในวันหยุด หรือใช้วันลาพักร้อนบ่อยจะเป็นคนที่ไม่มุ่งมั่นกับการทำงาน เพราะการไม่ต้องทำงานหนักทุกวันแล้วมีเวลาได้พักสมองบ้างก็น่าจะช่วยให้เรากลับมาทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
ทำสมาธิ
วิธีง่าย ๆ ที่เรารู้จักกันเป็นอย่างดี การทำสมาธิจะช่วยให้เราผ่อนคลาย พยายามฝึกหายใจให้ช้าลงเพื่อที่สมองและหัวใจของเราจะได้พักไปพร้อมกัน เพราะปกติแล้วคนที่บ้างานจะมีความคิดอยู่ในหัวตลอดเวลา ถ้าเราสลัดมันทิ้งไปได้ในช่วงทำสมาธิก็จะช่วยให้จิตใจของเราสงบขึ้น
แบ่งเวลาให้คนรอบตัว
อย่าให้งานกลายมาเป็นทุกอย่างของชีวิตจนลืมครอบครัวและเพื่อน ๆ ควรแบ่งเวลางานและเวลาส่วนตัวให้ชัดไม่แชทเรื่องงาน งดเช็กอีเมล และแบ่งเวลาไปทำกิจกรรมกับครอบครัว พูดคุยกับเพื่อน ๆ บ้าง เพราะคนเหล่านี้จะช่วยให้ทั้งความคิดและจิตใจของเราสดชื่นขึ้น ช่วยให้เรารักษาสมดุลระหว่างชีวิตและการทำงานได้
ถ้าตอนนี้เรากำลังเครียดและกดดันกับอาการบ้างานที่เริ่มกระทบชีวิตด้านอื่น ๆ ไม่ว่าจะเป็นความสัมพันธ์กับครอบครัว สุขภาพกาย และสุขภาพจิต ลองปรับพฤติกรรมในชีวิตทีละเล็กทีละน้อย อาจเริ่มจากวิธีที่ง่ายอย่างการพักระหว่างวันหรือทำสมาธิก่อน แค่นี้ก็เป็นจุดเริ่มต้นที่จะช่วยให้เรากลับมามีชีวิตที่สมดุลและมีความสุขกับการทำงานเพิ่มขึ้น