สวัสดีคะ จขก. ชอบวิ่งออกกำลังกายมากคะ เมื่อก่อนเป็นคนร่างท้วมหน่อยๆ คะ หนัก 54 นน. สูง 161 ซม. เป็นเกี่ยวกับไขมันในเส้นเลือดสูงคะ เลยหันมาวิ่งออกกำลังกายคะ ซึ่งได้ผลดีทีเดียวคะ ตอนนี้ไขมันลดลงมาก น้ำหนัก 48 กก. 555+ แนะนำนะคะ ใครกำลังลดน้ำหนักออกมาวิ่งกันจ้า
เข้าเรื่องกันเลยดีกว่า จขก. ทำงานราชการคะ วันหยุดวันเสาร์ อาทิตย์ จึงได้ไปวิ่งออกกำลังกายที่ศาลากลางจังหวัดเป็นประจำทุกเช้าคะ ช่วงปีแรกๆ ที่เราไปวิ่ง เราก็วิ่งออกกำลังกายแบบไม่สนใครคะ เราก็วิ่งของเราคนเดียว วิ่งเสร็จประมาณไม่เกินแปดโมง จขก. ก็ขับรถกลับบ้าน แค่นั้นคะ ไม่มีอะไรพิเศษ แต่ทุกวันที่มาเนื่องจากเป็นวันหยุด จึงมีคนมาออกกำลังกายกันเยอะคะ ส่วนใหญ่จะมาเป็นคู่ หรือเป็นกลุ่มๆๆ กันคะ แล้วก็วิ่งเป็นกลุ่มๆ กันไปคะ ส่วนเราวิ่งคนเดียว 555+ แต่ก็จะมีกลุ่มคนวิ่งอยู่ 1 กลุ่ม เราก็เห็นเขาวิ่งด้วยกันมานานแล้วอ่ะนะ มีคนหนึ่งเขาก็เคยยิ้มให้เราในช่วงแรกๆ ที่เรามาวิ่ง เขายิ้มให้แต่เราไม่ยิ้มให้คะ 5555+ ตอนนั้นคือเราคิดว่าเรามาวิ่งออกกำลังกายอย่างเดียว ไม่ได้อยากจะมารู้จักใคร เขายิ้มเราก็เฉยคะ (เขาคงหน้าแตกอ่ะน่ะ)
ผ่านมา 2-3 ปี ทุกครั้ง เขาและเราก็ได้แค่มองๆ เห็นๆ กัน เท่านั้น ที่ทำให้เราสนใจหรือประทับใจหรือทำให้เราอยากรู้จักเขา ก็คือ เขากับเราขับยี่ห้อเดียวกัน รุ่นเดียวกันคะ คือ CHR แต่เขาถอยออกมาก่อนเราหลายเดือนน่าจะเกือบปี พอปีที่แล้วเราก็ถอยรถ CHR ออกมาเหมือนกัน (ซึ่งเป็นความชอบ CHR ของเราอยู่แล้วนะคะ ไม่ได้ถอยตามเขา) พอเราถอยออกมา เขาก็เหมือนมองว่ารถคันนี้ของใคร คือคงเป็นเรื่องปกติที่แบบขับรถเหมือนกันก็คงอยากเห็นว่าใครเป็นเจ้าของรถอ่ะน่ะ เราก็เห็นตลอดว่าเขาอยากรู้ว่าเจ้าของรถคือใคร
เราเป็นคนที่นิสัยแย่ อยู่ตรงที่ว่า เราจะนิ่งมาก นิ่งแบบนิ่งมาก ใครแซวอะไรเราก็ไมสนใจ ใครยิ้มให้เรา เราก็ไม่สนใจ นอกจากมันจะมีจุดอะไรที่ทำให้เราสนใจหรือประทับใจที่ทำให้เราอยากรู้จัก เราไม่ใช่ว่าหน้าตาดีหรืออะไรหรอกนะคะ แต่คนชอบยิ้มให้ พอคนอื่นยิ้มให้เราแล้วเรายิ้มตอบก็มักจะคิดไปทางชู้สาว ซึ่งเราไม่ชอบ เราก็เลยนิ่งๆๆ กับทุกคนที่เข้ามา 555+ (นิสัยไม่ดีอ่ะแระ)
พอมา ณ บัดนี้ เราอยากรู้จักผู้ชายคนนั้นมากขึ้น ทำยังไงถึงจะได้คุยกับเนอะ (ก็คิดตลอดเนอะว่าเขาอุตส่าห์ยิ้มให้แล้ว แกไม่ยิ้มตอบเองนี่) เราได้เห็นเขาเกือบทุกเช้าที่เราวิ่ง วันไหนไม่เห็นเขา เราก็จะคอยมองหาตลอด ว่าวันนี้ทำไมไม่เห็นเลย แต่ไม่เคยได้ไปถามเพื่อนๆ เขานะคะ (เราไม่กล้าถาม) ที่ผ่านมาเราได้แอบมองเขา เห็นเขากิจกรรมกับเพื่อนๆ ของเขา คะ บางทีก็เห็นให้เงินค่าขนมเด็ก เราก็แอบมอง 555+ (ก็น่ารักดีเนอะ ให้เงินค่าขนมเด็กแถวนั้นด้วย)
ความประทับใจมันก็มีมากขึ้นเรื่อยๆ คะ เริ่มจากการที่เขากับเรา ตอนเช้า เสาร์ อาทิตย์ ที่จะขับรถออกไปวิ่ง เราจะขับรถออกจากซอยเดียวกันคะ เวลาใกล้ๆ กันบ่อยมาก บางทีก็มาเจอะจ๊ะเอ๋กันโดยบังเอิญ ซึ่งสิ่งทีทำให้เราประทับใจ คือ เขาจะจอดให้ทางให้เราไปก่อนตลอด เขาทำแบบนี้หลายครั้ง จนเรารู้สึกอ่ะ บางทีเขาก็ขับช้า รอเราบ้าง บางทีก็ทำทีมาจอดรถใกล้ๆ เราบ้าง และลงรถมาพร้อมกันบ้าง (แต่ทำไม๊ทำไมฉันถึงไม่ยิ้มออกมาบ้างนะ ทำเป็นเมินมาก)
จนครั้งหลังๆ เราอยากรู้จักเขามากขึ้น เราถึงขนาดเขียนจดหมายน้อยไปแปะหน้ารถเขา 2 รอบ (แอบไปติดตอนที่เขาและเพื่อนๆ เดินไปหาซื้อของที่ตลาดคะ) รอบแรกเราเอาไปติดหน้ารถเขาแล้ว ไม่ได้ติดตามผลงานคะ ว่าเขาอ่านแล้วจะทำยังไงบ้าง
รอบสองเราอยากรู้ว่าเขาอ่านแล้วจะทำอะไรบ้าง เราเอาจดหมายไปติดรถเขาแล้วเราก็แอบในรถเราคะ รถเราติดฟิล์มดำคะ มองไม่เห็นว่าเราอยู่ พอเขากับเพื่อนๆ มา เขาก็หยิบจดหมายหน้ารถเขาไปอ่าน เขาก็อมยิ้มนะคะ แต่ๆๆๆๆๆๆๆ เพื่อนๆ เขาก็แย่งจดหมายในมือเขาไปอ่านด้วย ทีนี้รอบวงเลยอ่ะ เราก็อายสิคะ และถ้าเขารู้ว่าเป็นเรา เราเป็นคนเขียน เราคงไม่กล้าสู้หน้าเขาอีก
(ซึ่งเนื้อความในจดหมายสรุปสั้นๆ นะคะ ว่า "เราเห็นกันมาหลายปีแล้ว แต่ไม่เคยรู้จักกันเลย เสาร์ อาทิตย์นี้ เราเจอ เราวิ่งสวนกัน เราหันมายิ้มให้กันนะ เราจะได้รู้จักกัน")
พอเราเห็นเขาเอาจดหมายให้เพื่อนอ่าน เรากลับมาคิดว่า เราไม่ควรทำแบบนั้นเลย ถ้าเผื่อเขาไม่ชอบเราหล่ะ ถ้าเผื่อเขารู้ว่าเราเป็นคนเขียนหล่ะ และยิ่งเพื่อนๆ เขาอ่านก็ขำหัวเราะกันหมด เรานี่น่าอายจริงๆ เลย
ตั้งแต่วันนั้นมา เราเปลี่ยนสถานที่จอดรถคะ เราเปลี่ยนสถานที่วิ่ง จากเดิมวิ่งริมเขื่อนติดน้ำคะ เปลี่ยนมาวิ่งบริเวณ (หน้าศาลากลาง) แทน (เพราะเราอายมาก เราเดาว่า เขากับเพื่อนๆ เขาเดาได้ว่าเป็นเราคะ) เราก็คิดว่าถ้าเราไม่เจอเขา หรือหลบหน้าไม่เจอเขาเลย ทุกอย่างจะเงียบๆ ลืมๆ ไปเองคะ
หลังจากนั้นก็เกิดโควิด เราไม่ไปวิ่งที่นั่นอีกเลย ประมาณ 1 เดือน พอโควิดเริ่มดีขึ้น เราก็กลับไปวิ่งอีก แต่เห็นเขาเปลี่ยนมาจอดรถใกล้ๆ ตรงที่วิ่งใหม่ (หน้าศาลากลาง) และเราก็เห็นเขาก็ขับรถตามหลังเรา ตอนที่เรากำลังวิ่งคะ และก็พยายามให้เราเห็นเขา แล้วเขาก็พยายามลงจากรถเพื่อจะลงจากรถให้พอดีเพื่อจะสวนกับเราคะ (เพราะในจดหมายครั้งสุดท้าย เราเขียนว่า ถ้าเดิน วิ่ง สวนกัน ให้หันมายิ้มให้กันนะ จะได้รู้จักกัน ตอนที่เขาเดินสวนเราตอนเราวิ่ง เขาก็หันมาเรานะ แต่ๆๆๆๆ อีนี่นิ่งอีกแล้วคะ 555+ เพราะเราอายอ่ะ เราเลยทำเป็นไม่สนใจคะ จน เสาร์ อาทิตย์ หลังๆ เขาก็ไม่มาจอดตรงที่เราจอดแล้วคะ 555+ (สมน้ำหน้าตัวเองจัง)
เราพยายามลืมเรื่องเขาไปแล้วนะคะ เพราะเราอายจากเหตุการณ์แปะจดหมายครั้งที่ 2 แต่พอเขาทำแบบนี้ เหมือนเขาพยายามเข้าหาเรา มันทำให้เรากลับมาคิดอีกครั้ง
ตอนนี้เราอยากรู้จักเขาคะ แต่ไม่รู้ทำยังไงถึงจะได้คุยกันคะ คงไมไ่ด้คาดหวังว่าจะได้พัฒนาเป็นคนรู้ใจหรอกคะ แค่อยากคุยเฉยๆ เท่านั้นก็พอคะ
ขอบคุณเพื่อนๆ ที่เขามาอ่าน และแสดงความคิดเห็นคะ
แอบชอบคนที่มาวิ่งออกกำลังกาย มา 2-3 ปี ได้แต่มองๆกัน ทำยังไงถึงจะได้คุยกันคะ
เข้าเรื่องกันเลยดีกว่า จขก. ทำงานราชการคะ วันหยุดวันเสาร์ อาทิตย์ จึงได้ไปวิ่งออกกำลังกายที่ศาลากลางจังหวัดเป็นประจำทุกเช้าคะ ช่วงปีแรกๆ ที่เราไปวิ่ง เราก็วิ่งออกกำลังกายแบบไม่สนใครคะ เราก็วิ่งของเราคนเดียว วิ่งเสร็จประมาณไม่เกินแปดโมง จขก. ก็ขับรถกลับบ้าน แค่นั้นคะ ไม่มีอะไรพิเศษ แต่ทุกวันที่มาเนื่องจากเป็นวันหยุด จึงมีคนมาออกกำลังกายกันเยอะคะ ส่วนใหญ่จะมาเป็นคู่ หรือเป็นกลุ่มๆๆ กันคะ แล้วก็วิ่งเป็นกลุ่มๆ กันไปคะ ส่วนเราวิ่งคนเดียว 555+ แต่ก็จะมีกลุ่มคนวิ่งอยู่ 1 กลุ่ม เราก็เห็นเขาวิ่งด้วยกันมานานแล้วอ่ะนะ มีคนหนึ่งเขาก็เคยยิ้มให้เราในช่วงแรกๆ ที่เรามาวิ่ง เขายิ้มให้แต่เราไม่ยิ้มให้คะ 5555+ ตอนนั้นคือเราคิดว่าเรามาวิ่งออกกำลังกายอย่างเดียว ไม่ได้อยากจะมารู้จักใคร เขายิ้มเราก็เฉยคะ (เขาคงหน้าแตกอ่ะน่ะ)
ผ่านมา 2-3 ปี ทุกครั้ง เขาและเราก็ได้แค่มองๆ เห็นๆ กัน เท่านั้น ที่ทำให้เราสนใจหรือประทับใจหรือทำให้เราอยากรู้จักเขา ก็คือ เขากับเราขับยี่ห้อเดียวกัน รุ่นเดียวกันคะ คือ CHR แต่เขาถอยออกมาก่อนเราหลายเดือนน่าจะเกือบปี พอปีที่แล้วเราก็ถอยรถ CHR ออกมาเหมือนกัน (ซึ่งเป็นความชอบ CHR ของเราอยู่แล้วนะคะ ไม่ได้ถอยตามเขา) พอเราถอยออกมา เขาก็เหมือนมองว่ารถคันนี้ของใคร คือคงเป็นเรื่องปกติที่แบบขับรถเหมือนกันก็คงอยากเห็นว่าใครเป็นเจ้าของรถอ่ะน่ะ เราก็เห็นตลอดว่าเขาอยากรู้ว่าเจ้าของรถคือใคร
เราเป็นคนที่นิสัยแย่ อยู่ตรงที่ว่า เราจะนิ่งมาก นิ่งแบบนิ่งมาก ใครแซวอะไรเราก็ไมสนใจ ใครยิ้มให้เรา เราก็ไม่สนใจ นอกจากมันจะมีจุดอะไรที่ทำให้เราสนใจหรือประทับใจที่ทำให้เราอยากรู้จัก เราไม่ใช่ว่าหน้าตาดีหรืออะไรหรอกนะคะ แต่คนชอบยิ้มให้ พอคนอื่นยิ้มให้เราแล้วเรายิ้มตอบก็มักจะคิดไปทางชู้สาว ซึ่งเราไม่ชอบ เราก็เลยนิ่งๆๆ กับทุกคนที่เข้ามา 555+ (นิสัยไม่ดีอ่ะแระ)
พอมา ณ บัดนี้ เราอยากรู้จักผู้ชายคนนั้นมากขึ้น ทำยังไงถึงจะได้คุยกับเนอะ (ก็คิดตลอดเนอะว่าเขาอุตส่าห์ยิ้มให้แล้ว แกไม่ยิ้มตอบเองนี่) เราได้เห็นเขาเกือบทุกเช้าที่เราวิ่ง วันไหนไม่เห็นเขา เราก็จะคอยมองหาตลอด ว่าวันนี้ทำไมไม่เห็นเลย แต่ไม่เคยได้ไปถามเพื่อนๆ เขานะคะ (เราไม่กล้าถาม) ที่ผ่านมาเราได้แอบมองเขา เห็นเขากิจกรรมกับเพื่อนๆ ของเขา คะ บางทีก็เห็นให้เงินค่าขนมเด็ก เราก็แอบมอง 555+ (ก็น่ารักดีเนอะ ให้เงินค่าขนมเด็กแถวนั้นด้วย)
ความประทับใจมันก็มีมากขึ้นเรื่อยๆ คะ เริ่มจากการที่เขากับเรา ตอนเช้า เสาร์ อาทิตย์ ที่จะขับรถออกไปวิ่ง เราจะขับรถออกจากซอยเดียวกันคะ เวลาใกล้ๆ กันบ่อยมาก บางทีก็มาเจอะจ๊ะเอ๋กันโดยบังเอิญ ซึ่งสิ่งทีทำให้เราประทับใจ คือ เขาจะจอดให้ทางให้เราไปก่อนตลอด เขาทำแบบนี้หลายครั้ง จนเรารู้สึกอ่ะ บางทีเขาก็ขับช้า รอเราบ้าง บางทีก็ทำทีมาจอดรถใกล้ๆ เราบ้าง และลงรถมาพร้อมกันบ้าง (แต่ทำไม๊ทำไมฉันถึงไม่ยิ้มออกมาบ้างนะ ทำเป็นเมินมาก)
จนครั้งหลังๆ เราอยากรู้จักเขามากขึ้น เราถึงขนาดเขียนจดหมายน้อยไปแปะหน้ารถเขา 2 รอบ (แอบไปติดตอนที่เขาและเพื่อนๆ เดินไปหาซื้อของที่ตลาดคะ) รอบแรกเราเอาไปติดหน้ารถเขาแล้ว ไม่ได้ติดตามผลงานคะ ว่าเขาอ่านแล้วจะทำยังไงบ้าง
รอบสองเราอยากรู้ว่าเขาอ่านแล้วจะทำอะไรบ้าง เราเอาจดหมายไปติดรถเขาแล้วเราก็แอบในรถเราคะ รถเราติดฟิล์มดำคะ มองไม่เห็นว่าเราอยู่ พอเขากับเพื่อนๆ มา เขาก็หยิบจดหมายหน้ารถเขาไปอ่าน เขาก็อมยิ้มนะคะ แต่ๆๆๆๆๆๆๆ เพื่อนๆ เขาก็แย่งจดหมายในมือเขาไปอ่านด้วย ทีนี้รอบวงเลยอ่ะ เราก็อายสิคะ และถ้าเขารู้ว่าเป็นเรา เราเป็นคนเขียน เราคงไม่กล้าสู้หน้าเขาอีก
(ซึ่งเนื้อความในจดหมายสรุปสั้นๆ นะคะ ว่า "เราเห็นกันมาหลายปีแล้ว แต่ไม่เคยรู้จักกันเลย เสาร์ อาทิตย์นี้ เราเจอ เราวิ่งสวนกัน เราหันมายิ้มให้กันนะ เราจะได้รู้จักกัน")
พอเราเห็นเขาเอาจดหมายให้เพื่อนอ่าน เรากลับมาคิดว่า เราไม่ควรทำแบบนั้นเลย ถ้าเผื่อเขาไม่ชอบเราหล่ะ ถ้าเผื่อเขารู้ว่าเราเป็นคนเขียนหล่ะ และยิ่งเพื่อนๆ เขาอ่านก็ขำหัวเราะกันหมด เรานี่น่าอายจริงๆ เลย
ตั้งแต่วันนั้นมา เราเปลี่ยนสถานที่จอดรถคะ เราเปลี่ยนสถานที่วิ่ง จากเดิมวิ่งริมเขื่อนติดน้ำคะ เปลี่ยนมาวิ่งบริเวณ (หน้าศาลากลาง) แทน (เพราะเราอายมาก เราเดาว่า เขากับเพื่อนๆ เขาเดาได้ว่าเป็นเราคะ) เราก็คิดว่าถ้าเราไม่เจอเขา หรือหลบหน้าไม่เจอเขาเลย ทุกอย่างจะเงียบๆ ลืมๆ ไปเองคะ
หลังจากนั้นก็เกิดโควิด เราไม่ไปวิ่งที่นั่นอีกเลย ประมาณ 1 เดือน พอโควิดเริ่มดีขึ้น เราก็กลับไปวิ่งอีก แต่เห็นเขาเปลี่ยนมาจอดรถใกล้ๆ ตรงที่วิ่งใหม่ (หน้าศาลากลาง) และเราก็เห็นเขาก็ขับรถตามหลังเรา ตอนที่เรากำลังวิ่งคะ และก็พยายามให้เราเห็นเขา แล้วเขาก็พยายามลงจากรถเพื่อจะลงจากรถให้พอดีเพื่อจะสวนกับเราคะ (เพราะในจดหมายครั้งสุดท้าย เราเขียนว่า ถ้าเดิน วิ่ง สวนกัน ให้หันมายิ้มให้กันนะ จะได้รู้จักกัน ตอนที่เขาเดินสวนเราตอนเราวิ่ง เขาก็หันมาเรานะ แต่ๆๆๆๆ อีนี่นิ่งอีกแล้วคะ 555+ เพราะเราอายอ่ะ เราเลยทำเป็นไม่สนใจคะ จน เสาร์ อาทิตย์ หลังๆ เขาก็ไม่มาจอดตรงที่เราจอดแล้วคะ 555+ (สมน้ำหน้าตัวเองจัง)
เราพยายามลืมเรื่องเขาไปแล้วนะคะ เพราะเราอายจากเหตุการณ์แปะจดหมายครั้งที่ 2 แต่พอเขาทำแบบนี้ เหมือนเขาพยายามเข้าหาเรา มันทำให้เรากลับมาคิดอีกครั้ง
ตอนนี้เราอยากรู้จักเขาคะ แต่ไม่รู้ทำยังไงถึงจะได้คุยกันคะ คงไมไ่ด้คาดหวังว่าจะได้พัฒนาเป็นคนรู้ใจหรอกคะ แค่อยากคุยเฉยๆ เท่านั้นก็พอคะ
ขอบคุณเพื่อนๆ ที่เขามาอ่าน และแสดงความคิดเห็นคะ