ผมถูก HR บริษัทเรียกเข้าไปคุยที่ office เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา เรื่องปัญหาจากการทำงาน ซึ่ง HR แจ้งว่าผมหัวดื้อและทำให้บริษัทลำบาก  เรื่องนี้เกิดจากการที่ ในการประชุมระดับ หัวหน้างาน ทาง บริษัทมีนโยบายที่จะไม่จ่ายเงินเดือนให้กับพนักงานขาย  ซึ่งผมได้โต้แย้งและไม่ยินยอมให้บริษัททำ โดยผมได้ส่ง พรบ คุ้มครองแรงงาน มาตราว่าด้วยค้าจ้าง ให้บริษัทดู  ว่าหากบริษัททำ ก็จะเกิดปัญหาตามมา  หลังจากนั้นประมาณ 4-5 วัน บริษัทได้สั่งให้ผมไปเป็นพนักงานขายประจำที่ห้างหนึ่ง  อนึ่งปัจจุบันผมมีตำแหน่ง หัวหน้างาน ทำหน้าที่ดูแลพนักงานขายประจำห้าง ตามเขตที่ได้รับมอบหมาย ซึ่งมีจำนวนหลายห้าง  เบื้องต้นผมได้ปฏิเสธไปว่า เป็นคำสั่งที่ไม่ชอบด้วยกฏหมาย  ทางนายจ้างจึงบอกว่าผมมีความผิด ฐานจงใจขัดคำสั่งนายจ้างโดยชอบ  ดังนั้นผมจึงแจ้งให้ทาง HR ทำตามระเบียบ ว่า หากผมผิดเช่นนั้นจริง ก็ขอให้ลงโทษผมตามกฏหมายได้เลย ไม่ว่าจะไล่ออก หรือจะทำอย่างไร ผมขอเพียงเอกสารแจ้งมาเท่านั้น  อนึ่ง ปัจจุบันผมอายุ 50+แล้ว ร่างกายก็ไม่แข็งแรงเหมือนตอนหนุ่มๆ และยังมีโรคบ้านหมุนอีกในบางครั้ง การจะให้ผมไปเป็นพนักงานขายประจำห้างนั้น ผมไม่อาจทำได้ เนื่องจากเป็นงานที่ต้องยืนเป็นส่วนใหญ่  ทางบริษัทก็หาว่าผมไม่ให้ความร่วมมือ  มีการโต้เถียงกันจนทาง HR ให้ผมเขียนใบลาออก แต่ผมปฏิเสธที่จะเขียน ทาง HR  จึงขอให้หยุดการประชุม  ผมก็ออกจาก office  ต่อมาอีก 2 วัน  หัวหน้างานของผมได้ส่ง mail มาพร้อมแนบเอกสารมาให้ ฉบับหนึ่ง ซึ่งผมอ่านแล้วตกใจมาก  เพราะในเอกสารแจ้งว่าบริษัท จะทำการคืนเงินค้ำประกันการทำงานให้กับผม เนื่องจากผมขอลาออกจากงานในวันที่ .............  แต่ในปัจจุบันยังทำงานอยู่ ด้วยเหตุสุดวิสัย   ผมเห็นว่าเอกสารนี้มีการผูกปมไว้ 2 จุด คือ คืนเงินประกันให้ผมเนื่องจากผมขอลาออก แต่ในปัจจุบันผมยังทำงานอยู่  ดูเผินๆเหมือนจะไม่มีอะไร  แต่ผมมาสะดุดตรงที่ วัน เดือน ปี  ที่ผมขอลาออกตามเอกสารที่บริษัทส่งมาให้พร้อมกับลายเซ็นต์อนุมัติของผู้บริหารสูงสุด   ( ทั้งๆที่ผมไม่ได้มีความคิดที่จะลาออก)   แบบนี้ถ้าผมไม่ดำเนินการอะไร พอถึงวันที่ 1 ในเดือนถัดไป  ผมก็พ้นสภาพไปโดยปริยาย
   ความรู้สึกผม แบบนี้นายจ้างกลั่นแกล้งและไม่เป้นธรรม    ผมขอปรึกษาครับ ว่า แบบนี้จะสามารถนำเรื่องไปฟ้องร้องเรียกค่าชดเชยได้ไหม ถ้าหากผมต้องออกจากงานโดยที่ไม่สมัครใจ