เด็กนักเรียนญี่ปุ่นมีวัฒนธรรมด่าพ่อเเม่ ล้อชื่อพ่อเเม่ เเบบเด็กไทยไหม

เราอายุ 28 ไม่เคยมีเเฟนหรือคนคุยมาก่อนเพิ่งมีคนคุยในปีนี้ 2 คน เเละโดนทิ้งเเบบเจ็บๆ เราค่อนข้างซื่อในเรื่องคสพ. มองไม่ค่อยออกว่าใครหวังดีหวังร้าย ถ้าชอบจะให้เต็มร้อยเเต่เเรกถ้าไม่ชอบเราจะไม่คุยเชิงชู้

เเค่สงสัยเฉยๆนะครับ ว่าทำไมการ์ตูนญี่ปุ่นถึงมีเนื้อเรื่องเเบบพล็อตเเปลกๆลามกเช่น harem, ecchi เยอะมาก การ์ตูนฝรั่งยังไม่มีอะไรเเบบนี้เลย เเล้วการ์ตูนที่มีพล็อตไร้สาระเเบบนี้มีเพื่ออะไร ทั้งที่มันบั่นท

คือจะมาบอกว่า ยายโกรธเรามากครั้งนี้หนักมากด่าเราเเรงสุดๆ คือเรื่องเเรกอ่ะเรากัลบ้านสายเพราะเราไปส่งเพื่อนไกลวันนั้นเสียหลักที่ไปส่งเพื่อน เลยกลับบ้านสาย โดนยึดรถโห่เซ็งมาก เเต่ยังคุยกันอยู่ เรื่องที่2

จากที่ดูๆการ์ตูนเเนวต่างโลกนี่ เห็นมีไม่กี่เรื่องที่ตัวเอกจะถูกพระเจ้าของโลกนั้นๆหรือจอมเวทย์อันเชิญ เเต่... คนที่เป็นเป็นโคตรเดอะเบสเลยคือ คนขับรถสิบล้อ เปิดวาร์ป คือเเบบพี่เเกน่าจะมีการ์ตูนเป็นของตั

เนื้อหาประมาณว่า เป็นเรื่องเกี่ยวกับโรงเรียนพระเอกมีชมรมเเละเหมือนจะเป็นฮาเร็มด้วย เเละก็มีรุ่นน้องที่เป็นเกย์ด้วยล่ะมั้ง เเละก็คนในชมรมชอบกินขนมหวานจำใด้เท่านี้อะครับเป็นcomedyด้วยล่ะมั้ง ช่วยตามหาให

-ยืมเงินไม่มีคืน หาเหตุผลมาอ้าง ทั้งที่ครอบครัวมันก็มีฐานะดี -ลอกงาน ไม่ทำเอง บางครั้งเคยของานเราไปเป็นของมันเพื่อไปส่งครู -ล้อชื่อพ่อเเม่ แบบหยาบคาย เช่น ไอ้(ชื่อพ่อ)****** -ดูถูกเหยียดหยาม คนที่ด้อย

คืองี้ เรามีน้องสาว อยู่ ป.6จะขึ้น ม.1 ละโดนเด็ก ม.2-3 รังเเก โดยที่เด็กม.ต้นคนนั้นทำแบบนี้ - กระชากผมน้องสาวเรา - ดึงฟองน้ำที่เบาะรถจักรยานที่มันมีรอยขาดอยู่ แล้ว จนไม่เหลือฟองน้ำ  - ล้อชื่อพ่อเ

จักรวรรดินิยมไม่เคยหายไปเพียงเเต่มันเปลี่ยนรูปเเบบไปจากเดิม จากที่ผมเคยอ่านหนังสือเกี่ยวกับเรื่องนี้หัวข้อว่า จักรวรรดินิยมล่าอาณานิคมสู่จักรวรรดินิยมทางวัฒนธรรม อธิบายว่า กระบวนการเเผร่อำนาจจักรวรรดิ

คือว่าพ่อกับเเม่เป็นคนไม่เข้าใจเราเลย คือ ไม่มีความเป็นส่วนตัว ตอนกลางคือเดินมา ห้องเราไม่มีประตูค่ะ เเล้วมามองว่านอนรึยัง คิออะไร ยังไม่หมด พ่อเป็นคนจุกจิก  อารมณ์รุนเเรง เเม่คือ บ่น ตอนนี้ยังบ่

เเค่สงสัยเฉยๆนะครับ พอดีสังเกตุนักเรียนไทยในอเมริกา,ออสเตรเลีย,อังกฤษ,ญี่ปุ่นเเละนิวซีเเลนด์ มักจะ มักจะคบคนไทยด้วยกันเป็นเเฟน,ทั้งที่จริงควรจะคบคนท้องถิ่น,คนต่างชาติเป็นเเฟนมั่ง เช่น คนท้องถิ่นที่นั่