จักรวรรดินิยมไม่เคยหายไปเพียงเเต่มันเปลี่ยนรูปเเบบไปจากเดิม จากที่ผมเคยอ่านหนังสือเกี่ยวกับเรื่องนี้หัวข้อว่า จักรวรรดินิยมล่าอาณานิคมสู่จักรวรรดินิยมทางวัฒนธรรม อธิบายว่า กระบวนการเเผร่อำนาจจักรวรรดิมีมาอย่างต่อเนื่องยาวนานเเล้ว อาธิ การเเผร่อำนาจของจักรวรรดิโรมันในยุโรป การเเผร่อำนาจของชาวมองโกลในเอเชียกลาง เเต่ที่เป็นจุดสนใจทางวิชาการของลัทธิจักรวรรดินิยมคือ ภายหลังยุคการปฏิวัติอุตสาหกรรมหรือความสัมพันธ์ระหว่างประเทศที่พัฒนาเเล้วกับประเทศที่ด้อยพัฒนาโดยการเเผร่ขยายอำนาจของประเทศในยุโรปตะวันตกเช่น อังกฤษ ฝรั่งเศส สเปน โปรตุเกศ ฮอลเเลนด์ ไปยังทวีปต่างๆ ทั่วโลกเช่น เอเชีย เเฟริกา อเมริกา ออสเตรเลีย โดยการเข้าไปเเสวงหาผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจเเละการเมืองของประเทศโลกที่สามเหล่านั้น อาธิ การเข้ามาทำสนธิสัญญาเบาร์ริงสมัยรัชกาลที่ 4 เเละการเสียสิทธิสภาพนอกอาณาเขตเเละการศาล การใช้กองทัพเรือปิดล้อมอ่าวไทยสมัยรัชกาลที่ 5
ต่อมาในสมัยศตวรรษที่ 20 จากผลพวงสำคัญของสงครามฌลกครั้งที่สองคือ การที่ประเทศอาณานิคมปลดเเอกออกจากประเทศเเม่ตะวันตก เเละการเสื่อมอำนาจของประเทศมหาอำนาจตวันตกภายหลังสงคราม ประเทศมหาอำนาจอีกฝั่งทวีปหนึ่งคือ สหรัฐอเมริกาได้เเผร่ขยายอำนาจทางการเมือง เศรษฐกิจ สังคม เเละวัฒนธรรม ข้ามพรมเเดน โดนกระบวานการเเผร่อำนาจลัทธิจักรวรรดินิยมเเบบใหม่ ที่มีเอกลัษณ์สำคัญคือ การที่ไม่ใช้กองทัพเเละการโจมตีเข้ายึดพื่นที่ เเต่เป็นการเเผร่อำนาจทางวัฒนธรรมไปยังประเทศโลกที่สาม เพราะประเทศสหรัฐอเมริกาเเละประเทศที่พัฒนาเเล้วอื่นๆ เชื่อว่า การเเผร่อำนาจทางวัฒนธรรมไปครอบคุมประเทศโลกที่สามจะทำให้สามารถควบคุมเศรษฐกิจการเมืองของประเทศเหล่านี้ได้ในที่สุด ทัศนะเหล่านี้จึงเป็นที่มาของ จักรวรรดินิยมทางวัฒนธรรม โดยประเทศมหาอำนาจเหล่านี้ได้สร้างเทคโนโลยีต่างๆ ไปสู่ตลาดของประเทศกำลังพัฒนา อาธิ เครื่องจักร รถยนต์ คานิยม อุดมการณ์ เเละสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ อีกเป็นจำนวนมาก เพราะการเเผรอำนาจทางวัฒนธรรมเเละการทำให้ประเหล่านี้ได้เชื่อถือต่อเทคโนโลยีเเละอุดมการณ์ค่านิยมที่ตนสร้างมาจะทำให้สามารถควบคุมสังคม เศรฐกิจ การเมือง เเละความคิดความเชื่อของประเทศเหล่านี้ได้ในที่สุด
เห็นด้วยหรือมีความคิดเห็นยังไงกับเเนวคิดพัฒนาการลัทธิจักรวรรดินิยมเเนวคิดนี้ยังบ้างครับ
ต่อมาในสมัยศตวรรษที่ 20 จากผลพวงสำคัญของสงครามฌลกครั้งที่สองคือ การที่ประเทศอาณานิคมปลดเเอกออกจากประเทศเเม่ตะวันตก เเละการเสื่อมอำนาจของประเทศมหาอำนาจตวันตกภายหลังสงคราม ประเทศมหาอำนาจอีกฝั่งทวีปหนึ่งคือ สหรัฐอเมริกาได้เเผร่ขยายอำนาจทางการเมือง เศรษฐกิจ สังคม เเละวัฒนธรรม ข้ามพรมเเดน โดนกระบวานการเเผร่อำนาจลัทธิจักรวรรดินิยมเเบบใหม่ ที่มีเอกลัษณ์สำคัญคือ การที่ไม่ใช้กองทัพเเละการโจมตีเข้ายึดพื่นที่ เเต่เป็นการเเผร่อำนาจทางวัฒนธรรมไปยังประเทศโลกที่สาม เพราะประเทศสหรัฐอเมริกาเเละประเทศที่พัฒนาเเล้วอื่นๆ เชื่อว่า การเเผร่อำนาจทางวัฒนธรรมไปครอบคุมประเทศโลกที่สามจะทำให้สามารถควบคุมเศรษฐกิจการเมืองของประเทศเหล่านี้ได้ในที่สุด ทัศนะเหล่านี้จึงเป็นที่มาของ จักรวรรดินิยมทางวัฒนธรรม โดยประเทศมหาอำนาจเหล่านี้ได้สร้างเทคโนโลยีต่างๆ ไปสู่ตลาดของประเทศกำลังพัฒนา อาธิ เครื่องจักร รถยนต์ คานิยม อุดมการณ์ เเละสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ อีกเป็นจำนวนมาก เพราะการเเผรอำนาจทางวัฒนธรรมเเละการทำให้ประเหล่านี้ได้เชื่อถือต่อเทคโนโลยีเเละอุดมการณ์ค่านิยมที่ตนสร้างมาจะทำให้สามารถควบคุมสังคม เศรฐกิจ การเมือง เเละความคิดความเชื่อของประเทศเหล่านี้ได้ในที่สุด