ขอเกริ่นก่อนนะคะว่าเรามีลูกพี่ลูกน้องที่สนิทกันมากค่ะ เป็นผู้หญิง เรากับเธอมีอะไรก็จะบอกกันเสมอทั้งเรื่องที่ดีแล้วก็เรื่องที่ไม่ดี เรากับเธอจะเจอกันแค่ช่วงปิดเทอมค่ะเพราะอยู่คนละที่กัน เธอแก่กว่าเรา1ปีค่ะ แต่เราก็เป็นเพื่อนกัน
เธอรู้นะคะว่าเรามีอาการซึมเศร้า วันนี้เราก็พูดกับเธอนะคะว่าเราอยากพบจิตแพทย์ เธอก็บอกนะคะว่าถ้าไม่ไหวค่อยไปก็ได้ เธอก็ยังถามอีกนะคะว่า เป็นได้ไง ไม่เห็นมีอะไรจะทำให้เกิดอาการพวกนี้ได้เลย ก็เห็นปกติหนิ ก็เหมือนคนทั่วไป ไม่ได้ดูอะไรเลย เราก็บอกนะคะว่าเราก็มีอาการมาตั้งแต่ช่วงม.1แหละ เธอก็ไม่ได้อะไร
คือเรารู้ตัวค่ะ ว่ามีอาการของโรคซึมเศร้ามาตั้งแต่ช่วงม.1ค่ะ เพราะช่วงม.1เราถูกบูลลี่ เราไม่มีเพื่อนเลย ตอนนั้นเราแย่มากค่ะ อาการหนักมาก พอเรื่องมันเริ่มหนักขึ้นมากๆ จนเราคิดที่จะฆ่าตัวตาย เราอึดอัด เราไม่สามารถบอกใครได้ เราได้แต่เก็บไว้คนเดียว ไปโรงเรียนเราไม่มีเพื่อนค่ะ นอกจากเพื่อนที่มาจากโรงเรียนเดียวกันแต่ส่วนใหญ่อยู่คนละห้องค่ะเลยไม่ได้เจอกันแล้วก็ไม่ค่อยสนิทกัน เราท้อแท้ เราอยากร้องไห้ ก่อนหน้านั้นช่วงป.6 เราก็ได้รู้แหละค่ะว่าพ่อเรามีเมียน้อย เราซึมมาก เพราะก่อนที่แม่จะบอกเรา เราสังเกตเห็นแม่ร้องไห้บ่อยๆ ร้องในทุกๆวัน แอบลูกร้องไห้ เราไม่ชอบเลยเราไม่โอเค แม่เป็นแบบนั้นอยู่หลายเดือน จนแม่มาบอกเรา เราก็ซึมไปอีก ไม่คิดว่าพ่อจะมี เพราะพ่อเป็นพ่อที่ดีมากๆค่ะ ถึงเราจะไม่ค่อยอยู่ด้วยกันหรือเจอกันบ่อย เรื่องนี้ด้วยมั้งคะ พอมาม.1ก็ทับถมกันมาเรื่อยๆ แต่ก็ไม่กล้าบอกแม่บอกคนในบ้านค่ะ ว่าเจออะไรมา ไม่กล้าบอกว่าไม่มีเพื่อน ไม่กล้าบอกว่าโดนบูลลี่ เพราะกลัวแม่และที่บ้านจะคิดมาก เลยเก็บไว้คนเดียวมาตลอด ช่วงม.2ก็มีประปรายบ้างแต่ก็โอเคขึ้นเพราะได้เข้ากลุ่มเพื่อนที่ดี มาม.3งานก็หนักขึ้น จนเราเครียดไปพักใหญ่ๆเลย นี่ก็จะขึ้นม.4แล้ว ที่บ้านก็ให้เรียนวิทย์คณิตค่ะ ซึ่งส่วนตัวเราไม่ชอบวิทย์ แต่ชอบคณิต แล้วก็ชอบภาษา แต่ก็ต้องเรียนค่ะ กังวลมากๆ
คนอื่นชอบมองว่าเราเป็นคนร่าเริง สดใส แต่ข้างในเราโครตจะมีอะไรเยอะแยะไปหมด เพราะแบบนี้หรอคะ เพื่อนเราจึงดูไม่เชื่อว่าเราซึมเศร้า เราโครตเก็บเลยค่ะ เก็บทุกอย่าง ไม่กล้าที่จะบอกใคร อยู่ต่อหน้าแม่ต่อหน้าคนอื่นต่อหน้าที่บ้านเราฝืนตลอดเลย ฝืนทำตัวปกติเหมือนคนทั่วไป ฝืนไปหมดจนเราเหนื่อยเอง
ที่เรามาตั้งกระทู้เพราะอยากรู้ค่ะว่ามีวิธีการพบจิตเเพทย์หรือนักจิตวิทยายังไงบ้างคะ แบบที่ไม่ต้องไปพบ หรือเสียเงินค่ะ
เราอยากที่จะพูดคุยและอยากให้เขาประเมินอาการค่ะ
ขอบคุณนะคะที่อ่านมาจนจบ🙏
พบจิตแพทย์หรือนักจิตวิทยายังไงดี?
เธอรู้นะคะว่าเรามีอาการซึมเศร้า วันนี้เราก็พูดกับเธอนะคะว่าเราอยากพบจิตแพทย์ เธอก็บอกนะคะว่าถ้าไม่ไหวค่อยไปก็ได้ เธอก็ยังถามอีกนะคะว่า เป็นได้ไง ไม่เห็นมีอะไรจะทำให้เกิดอาการพวกนี้ได้เลย ก็เห็นปกติหนิ ก็เหมือนคนทั่วไป ไม่ได้ดูอะไรเลย เราก็บอกนะคะว่าเราก็มีอาการมาตั้งแต่ช่วงม.1แหละ เธอก็ไม่ได้อะไร
คือเรารู้ตัวค่ะ ว่ามีอาการของโรคซึมเศร้ามาตั้งแต่ช่วงม.1ค่ะ เพราะช่วงม.1เราถูกบูลลี่ เราไม่มีเพื่อนเลย ตอนนั้นเราแย่มากค่ะ อาการหนักมาก พอเรื่องมันเริ่มหนักขึ้นมากๆ จนเราคิดที่จะฆ่าตัวตาย เราอึดอัด เราไม่สามารถบอกใครได้ เราได้แต่เก็บไว้คนเดียว ไปโรงเรียนเราไม่มีเพื่อนค่ะ นอกจากเพื่อนที่มาจากโรงเรียนเดียวกันแต่ส่วนใหญ่อยู่คนละห้องค่ะเลยไม่ได้เจอกันแล้วก็ไม่ค่อยสนิทกัน เราท้อแท้ เราอยากร้องไห้ ก่อนหน้านั้นช่วงป.6 เราก็ได้รู้แหละค่ะว่าพ่อเรามีเมียน้อย เราซึมมาก เพราะก่อนที่แม่จะบอกเรา เราสังเกตเห็นแม่ร้องไห้บ่อยๆ ร้องในทุกๆวัน แอบลูกร้องไห้ เราไม่ชอบเลยเราไม่โอเค แม่เป็นแบบนั้นอยู่หลายเดือน จนแม่มาบอกเรา เราก็ซึมไปอีก ไม่คิดว่าพ่อจะมี เพราะพ่อเป็นพ่อที่ดีมากๆค่ะ ถึงเราจะไม่ค่อยอยู่ด้วยกันหรือเจอกันบ่อย เรื่องนี้ด้วยมั้งคะ พอมาม.1ก็ทับถมกันมาเรื่อยๆ แต่ก็ไม่กล้าบอกแม่บอกคนในบ้านค่ะ ว่าเจออะไรมา ไม่กล้าบอกว่าไม่มีเพื่อน ไม่กล้าบอกว่าโดนบูลลี่ เพราะกลัวแม่และที่บ้านจะคิดมาก เลยเก็บไว้คนเดียวมาตลอด ช่วงม.2ก็มีประปรายบ้างแต่ก็โอเคขึ้นเพราะได้เข้ากลุ่มเพื่อนที่ดี มาม.3งานก็หนักขึ้น จนเราเครียดไปพักใหญ่ๆเลย นี่ก็จะขึ้นม.4แล้ว ที่บ้านก็ให้เรียนวิทย์คณิตค่ะ ซึ่งส่วนตัวเราไม่ชอบวิทย์ แต่ชอบคณิต แล้วก็ชอบภาษา แต่ก็ต้องเรียนค่ะ กังวลมากๆ
คนอื่นชอบมองว่าเราเป็นคนร่าเริง สดใส แต่ข้างในเราโครตจะมีอะไรเยอะแยะไปหมด เพราะแบบนี้หรอคะ เพื่อนเราจึงดูไม่เชื่อว่าเราซึมเศร้า เราโครตเก็บเลยค่ะ เก็บทุกอย่าง ไม่กล้าที่จะบอกใคร อยู่ต่อหน้าแม่ต่อหน้าคนอื่นต่อหน้าที่บ้านเราฝืนตลอดเลย ฝืนทำตัวปกติเหมือนคนทั่วไป ฝืนไปหมดจนเราเหนื่อยเอง
ที่เรามาตั้งกระทู้เพราะอยากรู้ค่ะว่ามีวิธีการพบจิตเเพทย์หรือนักจิตวิทยายังไงบ้างคะ แบบที่ไม่ต้องไปพบ หรือเสียเงินค่ะ
เราอยากที่จะพูดคุยและอยากให้เขาประเมินอาการค่ะ
ขอบคุณนะคะที่อ่านมาจนจบ🙏