มันอาจจะถึงเวลาที่นักวิทยาศาสตร์ควรจะให้ความสนใจไสยศาสตร์หรือเรียกสากลๆหน่อยก็เวทยมนต์

คนบนโลกนี้ ไม่ว่าจะชนชาติไหนบนโลก ต่างก็โดนทำของใส่กันทั้งนั้น   โดยเฉพาะการทำ เสน่ห์ใส่  เช่น เสน่ห์ยาแฝด อาจจะมีน้ำพรายบ้าง  ผมไม่รู้หลอกนะว่า ทุกวันนี้ยังมีพวกวิชา ดาเมจแรงๆแบบในหนัง ลองของ คนเล่นของ อยู่บ้างมั่ย เช่น เสกตะปูเข้าท้อง ทำหุ่นจำลองใส่ ถ้าหุ่นเป็นไรไป คนๆนั้นก็จะเป็นด้วย แต่ที่แน่ๆ ทุกวันนี้ยังมี พวกวิชาทำ เสน่ห์ใส่อยู่  ที่ผมยกตัวอย่าง การทำเสน่ห์ใส่ เพราะมันหาหลักฐานการมีอยู่ง่ายสุดในวิชาไสยศาสตร์ทั้งหมดละ  และยังเป็นวิชาที่คนโดนมากที่สุดจนมาถึงยุคปัจจุบันนี้ ปี 2020   ไม่เชื่อพวกคุณ ก็รอง ค้นหาใน google ดูดิ แค่พิมพ์ ทำเสน่ย์ ไป ก็ขึ้น โฆษณา รับทำเสน่ย์แล้ว 
มันไม่มีใครโง่ เอาเงินมาลง กับโฆษณา google ให้เปลืองต้นทุนหลอก จิงมั่ย นั้นต้นทุน รายจ่ายเลยนะ
แถมยังคิด ราคา รับทำอีก ถ้าจะหลอก เค้าคงไม่ รับทำและคิดราคาจิงมั่ย ถ้าหลอกและใช้ได้ไม่จริง ลูกค้าก็ต้องคืนเงิน ไม่ก็ลูกค้าจะไม่รับทำอีก ถ้าขาดลูกค้าประจำ คุณไสยจะอยู่ในโลกทุนนิยมได้ยังไง  ต่อให้จิตมีอำนาจในการท่อง คาถาให้ เกิด ฤทธิ์ สักแค่ไหน  ยังไงซะ คุณไสยก็ต้องใช้เงิน ใช้จ่ายเข้าระบบเศรษฐกิจ ออกมาเป็น GDP ของประเทศอยู่ดี  แต่ก็ชังมันเถอะ เรื่องพวกนี้ไม่ต้องพิสูจน์ด้วยกระบวนการวิทยาศาสตร์ก็ได้  แค่ เอานักการตลาด และ นักเศรษฐศาสตร์มาดู ก็รู้แล้วว่า ถ้ามันไม่ได้ผล จะขาย และ ลงโฆษณา ให้ขาดทุนทำไม ยังไงซะ ไสยศาสตร์ ก็ยังอยู่ใน กฏของ supply demand  อยู่ดี ถ้าไม่มีความต้องการ การจัดหาจะเกิด มัย การสนอง want need จะเกิดมั่ย ?  เพราะบนโลกนี้ ยังมีคนที่อยากใช้ วิธีทางลัดใน ในการได้ใครสักคนมาครอบครอง แทนที่จะพัฒนาตัวเอง เพื่อให้คนนั้นๆหันมาชอบ เพราะมีคนอยากใช้ทางลัด  demand เลยเกิด เพราะมีคนอยากสนอง want คุณไสยจึงเกิด เป็น supply และเพื่อให้ทันกับยุคดิจิทัล เค้าจะเป็นต้องลง โฆษณาทำการตลาด เพราะมีคนทื่เดือดร้อน ที่โดนทำของใส่ เลยอยากหาวิธีแก้ของ  แต่ไม่รู้จะแก้ยังไง ก็ต้องพึงวัดเป็นที่พึงสุดท้าย ถ้าเป็นตะวันตก ก็คงพึง บาทหลวง ก็ว่ากันไป แต่ชนชาติ

แค่นี้ก็พอพิสูจน์ ไสยศาสตร์ผ่านกระบวน เศรษฐศาสตร์ได้แล้ว แล้วทำไม เราจะพิสูจน์ไสยศาสตร์ด้วยกระบวนการ วิทยาศาสตร์ ไม่ได้ละ จิงมัย 
พิสูจน์ไปสิว่า ทำไมจิต เมื่อเข้า ฌานแล้ว ถึงสามารถ แสดง ฤทธิ์ ได้ จิตมันมีกลไกการทำงานอะไรถึง แสดง ฤทธิ์ ได้ ถ้าพูดตามภาษา เกมเมอร์ จิต เลเวลถึง สามารถ ปลดล็อค achievement แสดง พลัง  ฤทธิ์ ได้ เป็น ความสามารถพิเศษที่มี เฉพาะสิงมีชีวิตทรงภูมิปัญญา หรือ เหนือกว่า ที่สามารถทำได้ ก็ว่ากันไป 
และ ก็พิสูจน์ด้วยว่า เสน่ห์ยาแฝด น้ำพราย  หรือ มนต์ประเภทสะกด มันทำงานยังไง มี Infinity stone เช่o mind stone เป็นส่วนประกอบรึป่าว หรือว่าของพวกนี้ มันดึงพลังจาก mind stone กันแน้ ผ่าน คาถา รหัส code รึป่าว   ถ้าเราไขความลับ และเข้าใจ ตรงจุดนี้ได้ เราอาจจะทำให้  เสน่ห์ยาแฝด น้ำพราย หรือ  มนต์ประเภทสะกด อ่อนแรงลง จนถึงขั้นที่ทำอะไรเราไม่ได้ เมื่อมันอ่อนแรงลง ก็ทำใส่คนที่ยังไม่เคยโดนทำใส่  และ และเมื่อโดนทำใส่  จิตจะเรียนรู้ และ เมื่อเรียนรู้ จิตก็สร้างภูมิต้านทานจิต จิตมี antibody มีภูมิคุ้มกัน งานนี้เราก็ได้วัคซีน ป้องกัน มนต์ประเภทสะกด เสน่ห์ยาแฝด  น้ำพราย ละ 

อันนี้ผมยกตัวอย่าง เฉยๆ นะ ถ้านักวิทยาศาสตร์ จะพิสูจน์ไสยศาสตร์มันก็จะเกิดกระบวนการณ์ขั้นตอนแบบนี้ ผมไม่ใช้นักวิทยาศาสตร์ก็คงทำได้แค่นี้ละ 

ความฝันของผมคืออยากให้ นักวิทยาศาสตร์พิสูจน์เรื่องนี้ก่อน อย่าพึงด่วนสรุปว่า เรื่องพวกนี้ งมงาย พอเราด่วนสรุปว่าเรื่องพวกนี้ งมงาย เราก็จะไม่เกิดความอยากรู้ พอไม่อยากรู้ ก็ไม่เกิดการ หาหลักฐาน พอไม่เกิดการหาหลักฐาน ก็ไม่เกิดการตั้ง สมมุติฐาน พอไม่มีพวกนี้ ก็ไม่เกิดการค้นพบทางวิทยาศาสตร์ คนที่เรียนวิทยาศาสตร์ คงจะเค้าใจเรื่องพวกนี้ดี 

ขนาดนักวิทยาศาสตร์ยังพิสูจน์ เรื่องการกำเนิดของจักรวาลได้ ถึงจะใช้เวลา หลายร้อยปีก็ตาม ทำไมนักวิทยาศาสตร์จะพิสูจน์การมีอยู่ของ ไสยศาสตร์ ไม่ได้ 
ถึงมันจะโครตยาก ก็ตาม แต่ก็ไม่มีอะไรหยุดความอยากรู้อยากเห็น ของนักวิทยาศาสตร์ได้ ก็หวังว่าจะมี  แต่ถ้านักวิทยาศตร์พิสูจน์แล้วไม่เจออะไร ผลคือ ขาดทุนครับ สูญเปล่า เสียเวลา chip-hai แต่ก็นะ ก็ต้องรองพิสูจน์กันดู อย่าพึงด่วนสรุป และตัดใจไปเสียก่อน จนไม่เกิดการค้นพบ อย่างน้อยถ้าเราไม่ค้นพบ ก็จะ ค้นพบ ว่า ไม่ค้นพบอะไรเลย 5555555555 ก็ยังดี แต่ก็เสียดาย
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่