[CR] พ่อโบกมือลาโรคหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท รักษากับ Spine and Nerve Hospital

กระทู้นี้จะขอเล่าเกี่ยวกับโรคหมอนรองกระดูทับเส้นประสาทซึ่งเราก็มีความรู้น้อยมาก แทบคิดไม่ถึงว่าวันนึงต้องมารู้จักกับโรคนี้ จนวันนึงมันมาเกิดกับคนที่เรารัก ซึ่งก็คือ พ่อ ของเราเอง
1) จุดเริ่มต้นเรื่อง มันเกิดจากพ่อของเราอายุ 58 ปี เป็นช่างซ่อมรถยนต์ เวลาทำงานก็จะมีการก้ม ๆ เงย ๆ บ่อย ๆ และเมื่อกลับถึงบ้านชอบมีอาการปวดหลังบ่อยครั้ง  ตอนแรกก็ไปหาหมอที่โรงพยาบาลประกันสังคมและมีการ X-Ray ก็พบว่าพ่อมีอาการของหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท แต่เป็นแค่ระยะเริ่มต้นหมอได้ยาแก้ปวดมากินเพื่อรักษาตามอาการรวมถึงต้องใส่เข็มขัดพยุงแทบจะตลอดเวลา และเมื่อกินยาจากโรงพยาบาลที่ไปหา อาการก็หายไป แต่เมื่อเวลาผ่านไปมันก็เกิดอาการปวดหลังกับพ่อเราต่อเนื่องกันมากกว่า 10 ครั้ง และหาหมอวนไป ได้ยามากินวนไป และก็หาย แล้วมันเกิดขึ้นแบบนี้เรื่อยๆ จนครั้งสุดท้ายพ่อกลับจากทำงานแล้วมาถึงบ้าน เดินแทบไม่ไหว เดินโก้งโค้งเลยทีเดียว (ถ้าลองนึกภาพการเดินของพ่อเราเหมือนคนแก่ที่หลังค่อม ที่เห็นภาพใน TV ประจำ) เรากลับจากทำงานมาเห็นอาการของพ่อก็ตกใจมากเพราะครั้งนี้เพราะแทบไม่ลุกเดินและขยับตัว ทุกครั้งที่มีการเคลื่อนไหวพ่อจะพ่นเสียงเบา ๆ เพื่อผ่อนคลายอาการเจ็บ (อาการของคนกลัวลูกเป็นห่วง)
2) สืบหา ที่เราใช้คำว่าสืบหาเพราะเราเริ่มสงสัยว่ามันคงไม่ใช่แค่หลังอาการหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาทระยะเริ่มต้นแล้วเพราะอาการมันเริ่มหนักขึ้น เราเลยเริ่มศึกษาโรคนี้อย่างจริงจัง หาข้อมูลการผ่าตัด เพราะรู้ว่าโรคนี้สักวันพ่อก็ต้องผ่าตัดเพื่อให้หายขาดจากอาการ หลังจากที่อ่านข้อมูลของโรคต่าง ๆ ใน Google และก็ Facebook ก็พบว่าการผ่าตัดนั้นมีหลายแบบมาก 
- แบบแรกคือการผ่าตัดหมอนกระดูกสันหลังแบบเก่าที่เป็นการผ่าตัดใหญ่เพื่อที่จะตัดเอาส่วนกระดูกทับเส้นประสาทออก หรืออาจจะมีการเปลี่ยนหมอนรองกระดูกใหม่ ซึ่งแผลใหญ่มากและมีผลข้างเคียงสำหรับคนที่มีอายุเยอะ ๆ 
- การผ่าตัดหมอนกระดูกสันหลังโดยการส่องกล้อง (Endoscopic Spine Surgery) ซึ่งแผลเล็กมากเท่าปลายนิ้วก้อย รวมถึงผ่าตัดแล้วค้างคืนเดียวสามารถกลับบ้านได้เลย ซึ่งคนไข้สามารถเดินได้ปกติหลังจากผ่าตัด
แน่นอนว่าหลังจากที่อ่านและศึกษาข้อมูลเราก็คงเลือกแบบที่ 2 คือการผ่าตัดตัดหมอนกระดูกสันหลังโดยการส่องกล้อง เพื่อให้พ่อเราเจ็บน้อยที่สุด และหายดีในเร็ววัน 
3) เลือก พอได้ข้อมูลของการผ่าตัดเราก็ต้องเลือกแล้วสิ ว่าไปรักษาที่โรงพบายาลไหนดี เราก็มีวิธีการเลือกจากหลายเหตุผลเหมือนกันนะ (เป็นคนเยอะนิดนึง ^^) เช่น ประสบการณ์ของหมอ, เทคโนโลยีของเครื่องมือในการรักษา, การเดินทางไปที่โรงพยาบาล, การบริการจากสถานพยาบาลต่อคนไข้, Review ของคนที่เคยรักษาและหายขาด เป็นต้น สุดท้ายเราก็เลือกได้คือที่โรงพยาบาลเฉพาะทางด้านกระดูกสันหลังและระบบประสาท - Spine and Nerve Hospital เหตุผลที่เลือกที่นี่เกิดจากหลายอย่างเหมือนกัน เช่น
- แพทย์ที่ทำการรักษาท่านจบมาเฉพาะทางเรื่องกระดูกสันหลังโดยเฉพาะ
- ดูเทคโนโลยีเครื่องมือที่ทำการรักษาก็เป็นอุปกรณ์ที่ทันสมัย 
- การเดินทางไปโรงพยาบาลก็ไปง่ายขึ้นทางด่วนแล้วลงโชคชัย 4 ก็ถึงแล้ว
- ที่ขาดไม่ได้คือ Review จาก Facebook ของผู้ที่เคยไปรักษาและหายขาด ต้องขอบคุณที่มาแชร์ข้อมูลที่เป็นประโยชน์กับเราและเราก็จะแชร์ข้อมูลที่เป็นประโยชน์แบนี้ให้กับคนอื่น ๆ ด้วยเช่นกัน 
4) รักษา เมื่อเลือกโรงพยาบาลได้แล้วก็พาพ่อไปเลยถึงโรงพยาบาลตอนบ่ายโมง เมื่อถึงโรงพยาบาลสิ่งแรกที่ประทับใจคือ การบริการของพี่ ๆ พยาบาลที่ดูแลคนไข้เหมือนญาติตัวเอง นี่คือรูปของคนที่กำลังจะเข้าพบหมอ และแอบหวั่น ๆ กับการผ่าตัด

เมื่อพบคุณหมอแนะนำให้ทำ MRI ก่อนเพื่อหาต้นตอของอาการที่เจ็บปวดและเราก็ทำ MRI จนเสร็จและรอฟังผลได้เลย รวดเร็วมาก ผลคือเป็นหมอนรองกระดูกแตกทับเส้นประสาท ต้องทำการผ่าตัดเท่านั้นอาการถึงจะหาย คุณหมอบอกว่า หมอนรองกระดูกมันยื่นมาทับเส้นประสาททำให้เกิดอาการปวดหลัง หากทิ้งเอาไว้อาการอาจจะหนักขึ้นเรื่อง ๆ เช่น ชาที่ขาและเดินไม่ได้ เราเลยตัดสินใจว่าจะให้พ่อผ่าตัดในวันรุ่งขึ้นทันที
5) ผ่าตัด เมื่อมาถึงวันผ่าตัด หมอให้งดน้ำ งดอาหารก่อนทำการผ่าตัด 8 ชั่วโมง และนอนที่ห้องพักที่โรงพยาบาลก่อนถึงเวลาเข้าห้องผ่าตัด นี่คือความพร้อมของคนไข้ในห้องพัก ห้องพักที่นี่ค่อนข้างใหญ่แบ่งเป็น 2 ส่วนใน 1 ห้องส่วนนึงคือห้องสำหรับคนไข้ และด้านนอกคือของญาติ มีอุปกรณ์ครัวครบครัน เช่น จาน ชาม ช้อน ส้อม ไมโครเวฟ


คุณหมอใช้เวลาในการผ่าตัดประมาณ 3 ชั่วโมง และอยู่ในห้องเฝ้าระวัง ประมาณ 1 ชั่วโมง และมีวิสัญญีแพทย์ช่วยในเรื่องการดมยาสลบก่อน และคุณหมอผ่าตัดโดยการส่องกล้องเข้าไปแล้วใช้เลเซอร์ในการผ่าตัดหมอนรองกระดูก เมื่อคุณพ่อเริ่มรู้สึกตัวก็พาตัวมาส่งที่ห้องพัก หลับปุ๋ยเลยมีตื่นมาเข้าห้องน้ำ  1 ครั้ง

>> ภาพนี้เป็นหมอนรองกระดูกที่ยื่นมาทับเส้นประสาท ทำให้พ่อเราเกิดอาการปวด

6) กลับบ้าน คำว่า “ผ่าตัด 1 วัน วันรุ่งขึ้นกลับบ้านเดินได้เลย” มันเกิดขึ้นจริง เพราะเราตื่นเช้ามาหลังจากพ่อพักฟื้นมาทั้งคืน พ่อนอนเต็มอิ่มตื่นขึ้นมาลุกจากเตียงและเดินไปเข้าห้องน้ำได้ เราก็เริ่มใจชื้นว่า พ่อจะดีขึ้นแบบนี้ขึ้นเรื่อย ๆ เมื่อได้คุยกับพ่อซึ่งเป็นคนไข้ในตอนเช้า 
เรา: พ่อเป็นไงบ้าง เจ็บแผลไหม
พ่อ: ไม่เจ็บเลย แค่รู้สึกตึงแผลเท่านั้น 
เรา: พ่อหิวข้าวไหม
พ่อ: หิวมาก เพราะเมื่อคืนผ่าตัดเสร็จไม่ได้ลุกขึ้นมากินข้าวเลย คงเพราะฤทธิ์ยาสลบจึงทำให้อยากนอนให้ร่างกายได้พักฟื้น
>> ตื่นมาต้องเล่น Facebook

หลังจากได้คุยกับพ่อก็มั่นใจว่าพ่อดีขึ้นจริง ๆ หมอเก่งจริง ๆ พ่อไม่ต้องทรมานละ อีกหน่อยคงเดินตัวปลิวเลย แล้วคุณหมอก็เข้ามาตรวจแผลก็บอกว่าปกติดี คุณหมอก็แนะนำวิธีการทำกายภาพบำบัดเมื่ออยู่ที่บ้าน และบอกพวกเราว่าพาพ่อกลับบ้านได้ 
>> รูปตอนคุณหมอมาตรวจแผลเล็กนิดเดียวเอง

>> แผลหลังคุณหมอเปิดให้

>> รูปยืนยันว่าหลังจากผ่าตัดหนึ่งอาทิตย์เราพาพ่อไปเที่ยวเขาใหญ่เดินตัวปลิวมากค่ะ

ใครที่ดู Review นี้แล้วอยากทำการรักษา อยากจะเข้าไปปรึกษาอาการ หรือพบคุณหมอ สามารถตามแผนที่นี้ได้เลยแนะนำว่าต้องโทรจองก่อนนะคะ เข้าไปไม่นัดอาจจะต้องเพราะคนเยอะมากค่ะ 
ชื่อสินค้า:   Spine and Nerve Hospital
คะแนน:     

CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้

  • - จ่ายเงินซื้อเอง หรือได้รับจากคนรู้จักที่ไม่ใช่เจ้าของสินค้า เช่น เพื่อนซื้อให้
  • - ไม่ได้รับค่าจ้างและผลประโยชน์ใดๆ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่