สรุปข้อคิดที่ได้จากหนังสือเรื่อง Why Men Love Bitches เขียนโดย Sherry Argov
เพื่อนๆหลายๆคนอาจจะเคยได้ยินชื่อหนังสือเล่มนี้กันมาบ้างแล้ว หนังสือเล่มนี้เคยมีการแปลไทยและได้รับการเรียบเรียงโดยพี่กาละแมร์ พัชรศรี เบญจมาศ มีชื่อไทยว่า “ผู้หญิงร้าย ผู้ชายรัก” นั่นเอง
เจนอยากจะบอกว่า เจนยังไม่มีโอกาสได้อ่านหนังสือเล่มนี้เต็มๆเลยค่ะ เพราะเจนอยากอ่านเล่มที่เป็นเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษ แต่ผลปรากฏว่า Out Of Stock ทุกที่เลย หาซื้อยากมาก เจนเลยลองเข้าไปหา Summary ของหนังสือเล่มนี้ ก็ไปเจอบทความหนึ่งที่สรุปข้อคิดที่ได้จากหนังสือเล่มนี้ทั้งหมด 7 Key Ideas ด้วยกัน ซึ่งพอได้อ่านแล้วรู้สึกว่าหนังสือเล่มนี้มีความเป็นตัวเจนอยู่มากพอสมควรเลย รู้สึกว่า Attitude ของเราตรงกับหนังสือเล่มนี้ทุกอย่าง เลยอยากจะนำสิ่งดีๆเหล่านี้มาแบ่งปันให้ทุกคนได้อ่านกันนะคะ
ก่อนอื่นต้องบอกก่อนเลยว่า คำว่า Bitches ในที่นี้แสดงให้เห็นถึงความเป็นผู้หญิงร้ายๆที่สามารถดูแลตัวเองได้ เป็นตัวของตัวเอง ไม่ต้องพึ่งใครโดยเฉพาะผู้ชาย หรือแปลง่ายๆว่าเป็น “สาวแกร่ง” นั้นเอง
Key Idea #1 : Giving Your All To Your Man Will Only Bore Him (การให้ทุกอย่างกับเขา มีแต่จะทำให้เขาเบื่อหน่าย)
ผู้หญิงส่วนมากมักจะถูกสอนมาว่า สิ่งที่จะดึงดูดและทำให้ผู้ชายเคารพรักเราคือการที่เราทำทุกอย่างตามที่เขาต้องการ ซึ่งนั่นคือความเชื่อที่ผิด จริงอยู่ที่การดูแลเอาใจใส่เป็นเรื่องที่ควรทำ แต่ไม่ใช่มอบถวายทุกสิ่งทุกอย่างให้กับเขาหมดหน้าตัก เราอาจจะคิดว่าเขาจะรู้สึกพิเศษเมื่อได้รับการดูแลเอาใจใส่ แต่นั่นมันก็อาจจะเป็นเพียงแค่ช่วงแรกๆเท่านั้น หลังจากนั้นเขาจะรู้สึกว่ามันก็เป็นเพียงแค่สิ่งๆหนึ่งที่เขาจะต้องได้รับจากเราอยู่แล้ว หมดยุคการเอาใจผู้ชายอย่างเดียวกันแล้วค่ะ แน่นอนว่าการดูแลเอาใจใส่ซึ่งกันและกันเป็นเรื่องที่ดี แต่ทุกอย่างมันต้องมีการ Balance และอย่าสูญเสียความเป็นตัวเองเพียงเพราะเราต้องการความรักจากเขา
สาวแกร่งมักจะไม่ใช่ผู้หญิงที่แสนดีที่จะคอยดูแลหรือแสตนบายรอเขาอยู่ตลอดเวลา พวกเธอจะไม่ตอบแชทกลับทันทีหากไม่เป็นเรื่องด่วนหรือสำคัญจริงๆ ในทางกลับกันพวกเธอจะมีโลกและพื้นที่ส่วนตัว กล่าวคือจะไม่ทิ้งความเป็นตัวเอง ไม่ทิ้งการเรียนการงาน ไม่ทิ้งเพื่อนฝูง หรือแม้กระทั่งงานอดิเรกที่พวกเธอชอบทำ เพราะพวกเธอเชื่อว่าถ้าหากเขาคือคนที่ใช่และรักพวกเธอจริง เขาจะเคารพ ให้เกียรติ และรักในความเป็นตัวของพวกเธอ
Key Idea #2 : Being Needy Will Create Stress For You And Your Partner (การที่เราไม่สามารถดูแลตัวเองได้ มีแต่จะสร้างความตึงเครียดให้กับเขาและตัวเราเอง)
ผู้หญิงส่วนใหญ่มักจะคิดว่าเราเป็นเพศที่อ่อนแอ มักจะต้องได้รับการดูแลจากผู้ชายเสมอ แต่นั่นไม่ใช่ความคิดของสาวแกร่งเลยสักนิด
พวกเธอจะสามารถพึ่งพาและยืนด้วยลำแข้งของตัวเองได้ เพื่อนๆหลายๆคนอาจจะเจอผู้ชายสายเปย์ คอยเอาใจ คอยดูแลอยู่เสมอ แต่เพื่อนๆอย่าลืมนะคะว่าโลกนี้ไม่มีอะไรแน่นอน สิ่งที่แน่นอนที่สุดคือตัวเราเอง เพราะฉะนั้น อย่าหวังพึ่งใคร นอกจากการพึ่งตัวเราเองดีที่สุดค่ะ
และหากเรายังคงเป็นผู้หญิงอ่อนแอ แทนที่เขาจะรู้สึกว่าเราจะสามารถ Supportเขาได้ในวันที่เขาล้มหรือเครียด เขากลับจะรู้สึกว่าเราเป็นภาระเขาซะมากกว่า
Key Idea #3 : Self-Sufficient Women Will Attract The Right Partner (ผู้หญิงที่พึ่งพาตัวเองได้ จะดึงดูดคนที่ใช่เข้ามาในชีวิต)
ผู้หญิงส่วนมาก มักจะเพ้อฝันถึงคนรักที่ร่ำรวย คอยเอาใจ คอยเปย์ คอยซื้อของให้ แน่นอนว่ามันอาจจะเป็นความสัมพันธ์ที่ผู้หญิงเราส่วนใหญ่ต้องการ แต่มักจะไม่ใช่คนที่ใช่หรือคนที่เราต้องการนั้นเอง รู้หรือไม่ว่าการที่เราได้รับการดูแลในเรื่องค่าใช้จ่ายต่างๆเรามักจะสูญเสียความเป็นตัวเอง หลายๆครั้งที่เราต้องมานั้งทบทวนว่า เราอยู่กับเขาเพราะเรารักที่เขาเป็นเขา หรือเพราะเงินของเขากันนะ
สาวแกร่งมักจะไม่ยอมให้เงินมีอำนาจมาควบคุมชีวิตและจะไม่หวังพึ่งเงินของใคร พวกเธอจะถือว่านั่นคือการให้เกียรติตัวเอง และสิ่งนี้แหละจะทำให้พวกเธอรักและไม่สูญเสียความเป็นตัวเอง มากกว่าไปกว่านั้น เมื่อพวกเธอแสดงความเป็นตัวเองออกมาชัดเจน สิ่งเหล่านี้จะเผยเสน่ห์ในตัวของพวกเธอออกมา และดึงดูดคนที่รักในตัวตนของพวกเธอเข้ามานั่นเอง
Key Idea #4 : Men Love To Chase — So Make Them Run (ผู้ชายชอบที่จะเป็นผู้ไล่ล่า เพราะฉะนั้นก็ปล่อยให้เขาได้วิ่งล่าสิคะ)
ผู้ชายมักจะใช้ถ้อยคำหว่านล้อมและหยอดคำหวานเพื่อให้ได้ในสิ่งที่พวกเขาต้องการ คำหวานเหล่านั้นก็เปรียบเสมือนเหยื่อล่อให้ผู้ถูกล่าอย่างเราติดกับ แต่นั่นไม่ใช่สำหรับผู้ถูกล่าที่ขึ้นชื่อว่า Bitches จริงๆแล้วผู้ชายส่วนใหญ่มักจะชอบความท้าทาย เพราะฉะนั้น สิ่งที่สามารถดึงดูดพวกเขาได้จริงๆไม่ได้มีเพียงแค่ความสวย ความฉลาด และความตลกขบขันเท่านั้น
สาวแกร่งจะไม่ใช่คนที่หลงเคลิ้มหรือตกลงปลงใจอะไรง่ายๆ ถึงแม้ว่าพวกเธอจะโดนหยอดคำหวานมาสักเท่าไหร่ก็ตาม พวกเธอมักจะไม่ Availableให้ง่ายๆ ถึงแม่พวกเธอจะมีเวลาว่างทั้งอาทิตย์ แต่พวกเธอก็จะทำตัวยุ่งและหาอะไรทำอยู่เสมอ เพราะพวกเธอไม่ได้ให้ความสำคัญกับผู้ชายมากไปกว่าตัวเองนั่นเอง และนั่นแหละจะทำให้เขา Keep on his toe หรือจะคอยแสตนบายรอพวกเธอว่างอยู่แทบจะตลอดเวลาแทนเสียด้วยซ้ำ
Key Idea #5 : Keep The Relationship Fresh By Making Your Man Wait (ทำให้ความรักมีความสดใหม่ น่าตื่นเต้นอยู่เสมอโดยการทำให้เขาเป็นฝ่ายรอซะบ้าง)
มีหนึ่งประโยคในหนังสือที่ว่า “Men are thrilled by what they can’t have” ผู้ชายมักจะตื่นเต้นไปกับจินตนาการของตัวเองในสิ่งที่พวกเขาทำไม่ได้ในตอนนั้นหรือไม่ได้มันมาในทันที พูดง่ายๆว่า Hard to get นั่นเอง กล่าวคือเราควรจะให้ผู้ชายหัดเป็นฝ่ายรอหรือมีระยะห่างกันซะบ้าง ให้เขาได้รู้ว่าเราเองก็มีชีวิตของเราเช่นกัน ชีวิตของเราไม่ได้มีเพียงแค่เขาเท่านั้น
สาวแกร่งมักจะไม่ตอบสนองความต้องการของผู้ชายในทันที หรือในเวลาอันไม่สมควร จุดนี้จะเป็นอีกจุดหนึ่งที่ทำให้เขาได้รู้สึกว่าเวลาที่จะได้อยู่กับพวกเธอคือเวลาที่มีค่า หรือสื่อง่ายๆคือ ไม่ควรมี Sex หรือปล่อยตัวจนกว่าจะถึงเวลาอันควรนั่นเอง ทฤษฏีนี้อาจจะดูหัวโบราณไปซักหน่อย แต่มักจะใช้ได้ผลอยู่เสมอ นอกจากจะทำให้เขารู้สึกว่ามันควรค่าแก่การรอคอยแล้ว ยังแสดงให้เห็นว่าพวกเธอเห็นคุณค่าของตัวเองอีกด้วย
Key Idea #6 : Always Put Yourself First, But Make Your Man Feel Needed From Time To Time (ให้นึกถึงตัวเองและใส่ใจตัวเราเองก่อนเสมอ แต่ในขณะเดียวกัน ก็ทำให้เขารู้สึกว่าตัวเขาเองยังถูกต้องการจากเราอยู่)
สาวแกร่งมักจะนึกถึงตัวเองก่อนเสมอ พวกเธอไม่คิดว่านั่นคือสิ่งที่เลวร้ายหรือเป็นการเห็นแก่ตัว แต่กลับเป็นการดีซะอีกที่พวกเธอจะมีจุดยืนและทำตามเสียงหัวใจของตัวเองโดยที่ไม่ให้มีใครมามีอิทธิพลต่อชีวิตของเธอมากขนาดนั้น แต่อย่างไรก็ตาม ผู้ชายนอกจากจะชอบเล่นบทเป็นผู้ล่าแล้ว ยังชอบเล่นบทเป็น Protector อีกด้วย เพราะฉะนั้น..
แม้ว่าสาวแกร่งจะสามารถดูแลตัวเองได้ดีแค่ไหน พวกเธอก็จะไม่ยอมเสียแรงเหนื่อยไปกับทุกเรื่อง และนั่นก็ถือว่าเป็นความโรแมนติกอย่างหนึ่งที่ให้เขาได้แสดงความเป็นผู้นำและความเป็นProtector ตามสัญชาตญาณของสัตว์เพศผู้อีกด้วย
บางทีมันก็เป็นการยากของสาวแกร่งเหมือนกันนะคะ ที่จะต้องมาทำตัวอ่อนแอให้ใครดูแล เพราะลักษณะเด่นของสาวแกร่งหรือ Bitches คือจะเป็นคนที่สามารถดูแลตัวเองได้ตลอด แต่ในบางที เราก็ต้องแสดงความอ่อนแอซึ่งเป็นธรรมชาติของสัตว์เพศเมียออกมาบ้าง ตัวอย่างเช่น ในบางครั้งเราเจอแมลง เราก็อาจจะร้องขอให้เขาช่วยถึงแม้ว่าเราจะไม่ได้กลัว.. ขอให้เขาช่วยเปิดขวดน้ำให้ถึงแม้ว่าเราจะมีแรงพอที่จะเปิดเองได้.. หรือแม้กระทั้งขอให้เขาช่วยแบกของหนักๆ ถึงแม้ว่าเราจะถึกพอที่จะแบกสิ่งนั้นได้เป็นตันเลยก็ตาม
Key Idea #7 : Let’s Your Man Feel Like He Is Calling The Shots While You Can Still Running Things Behind The Scenes (ทำให้เขารู้สึกว่าตัวเองเป็นผู้นำในขณะที่เราคือผู้ควบคุมอยู่เบื้องหลัง)
ผู้ชายมักจะชอบความรู้สึกที่ตัวเองได้เป็นสุภาพบุรุษ ได้เป็นผู้นำ เพื่อนๆหลายๆคนอาจจะเคยได้ยินเรื่อง “ช้างเท้าหน้าและช้างเท้าหลัง” ผู้ชายร้อยทั้งร้อย ก็มักอยากจะเป็นผู้นำหรือช้างเท้าหน้าด้วยกันทั้งนั้น แต่อะไรล่ะ คือสิ่งที่ทำให้เขารู้สึกว่าตัวเองเป็นผู้นำหรือช้างเท้าหน้าได้อย่างเต็มภาคภูมิ…
สิ่งนั้นคือ “คำชมหรือคำสรรเสริญจากเรา” นั้นเอง
สาวแกร่งมักจะทำให้เขาได้รู้สึกว่าเขาเป็นผู้นำในการตัดสินใจ และเป็นผู้ควบคุมจากคำชมของพวกเธอ และหลังจากนั้นเขาก็จะแสดงความเป็นช้างเท้าหน้าออกมาอย่างเต็มภาคภูมิ โดยจะเป็นคนนำและรับผิดชอบเรื่องๆนั้นไปโดยปริยาย แต่หารู้ไม่ว่าความจริงแล้ว สาวแกร่งอย่างพวกเธอต่างหากที่เป็นกำกับให้เขาทำในสิ่งที่พวกเธอต้องการอยู่เบื้องหลัง
ยกตัวอย่างให้เห็นกันชัดๆง่ายๆ เช่น การวางแผนจะไปเที่ยวกันซักทริป สาวแกร่งจะเป็นคนคิดสถานที่เป็นตัวเลือกเอาไว้ ซึ่งพวกเธอเองก็อยากไปทุกที่ที่ได้เลือก แต่พวกเธอจะนำตัวเลือกนี้ไปให้ผู้ชายได้เลือกเป็น Final Decision นั่นเอง สิ่งนี้จะทำให้เขารู้สึกว่า เขาคือคนที่ได้นำในการตัดสินใจเลือกสถานที่ในครั้งนี้ และหลังจากที่ได้เลือกแล้ว เพียงแค่พวกเธอเอ่ยปากชมว่า “ฉันรู้สึกดีทุกครั้งที่คุณมักจะเลือกตัวเลือกที่ดีที่สุดเสมอ” แค่นี้ก็ทำให้เขารู้สึกภูมิใจที่ได้เลือกตัวเลือกที่ทำให้พวกเธอHappy โดยที่ความจริงแล้วไม่ว่าเขาจะเลือก Chioce ไหน พวกเธอก็โอเคในทุกๆ Chioce นั้นอยู่แล้ว
เป็นยังไงกันบ้างคะกับ 7 Key Ideas จาก “Why Men Love Bitches” สรุปง่ายๆเลยก็คือ ผู้หญิงเราไม่จำเป็นเลยที่จะไล่ล่าหาความรัก เจนเชื่อว่าพวกเรามีความ Bitches อยู่ในตัวกันทุกคน ซึ่งคุณสมบัติของความเป็น Bitches นั่นก็คือ Independent(เป็นตัวของตัวเอง) Self-Sufficient(สามารถพึ่งพาตัวเองได้) และ Focus On Our Own Lifes(รักตัวเอง) จะดึงดูดนักล่าที่ใช่มาหาเราเองค่ะ
เจนก็หวังว่าบทความที่เจนนำมาแบ่งปันจะสามารถปลุกความเป็น Bitches ในตัวของผู้หญิงทุกคนนะคะ แล้วเจอกันใหม่บทความหน้าค่ะ
แหล่งอ้างอิง
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้https://lifeclub.org/books/why-men-love-bitches-sherry-argov-review-summary?fbclid=IwAR3U1hklrpQd-4jX4x8Y32jScy4ZFZNkjWZASoiM-eB21rEOgFgyHEKfnYs
สาวแกร่ง ใครก็เป็นได้ (Why Men Love Bitches)
เจนอยากจะบอกว่า เจนยังไม่มีโอกาสได้อ่านหนังสือเล่มนี้เต็มๆเลยค่ะ เพราะเจนอยากอ่านเล่มที่เป็นเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษ แต่ผลปรากฏว่า Out Of Stock ทุกที่เลย หาซื้อยากมาก เจนเลยลองเข้าไปหา Summary ของหนังสือเล่มนี้ ก็ไปเจอบทความหนึ่งที่สรุปข้อคิดที่ได้จากหนังสือเล่มนี้ทั้งหมด 7 Key Ideas ด้วยกัน ซึ่งพอได้อ่านแล้วรู้สึกว่าหนังสือเล่มนี้มีความเป็นตัวเจนอยู่มากพอสมควรเลย รู้สึกว่า Attitude ของเราตรงกับหนังสือเล่มนี้ทุกอย่าง เลยอยากจะนำสิ่งดีๆเหล่านี้มาแบ่งปันให้ทุกคนได้อ่านกันนะคะ
ก่อนอื่นต้องบอกก่อนเลยว่า คำว่า Bitches ในที่นี้แสดงให้เห็นถึงความเป็นผู้หญิงร้ายๆที่สามารถดูแลตัวเองได้ เป็นตัวของตัวเอง ไม่ต้องพึ่งใครโดยเฉพาะผู้ชาย หรือแปลง่ายๆว่าเป็น “สาวแกร่ง” นั้นเอง
ผู้หญิงส่วนมากมักจะถูกสอนมาว่า สิ่งที่จะดึงดูดและทำให้ผู้ชายเคารพรักเราคือการที่เราทำทุกอย่างตามที่เขาต้องการ ซึ่งนั่นคือความเชื่อที่ผิด จริงอยู่ที่การดูแลเอาใจใส่เป็นเรื่องที่ควรทำ แต่ไม่ใช่มอบถวายทุกสิ่งทุกอย่างให้กับเขาหมดหน้าตัก เราอาจจะคิดว่าเขาจะรู้สึกพิเศษเมื่อได้รับการดูแลเอาใจใส่ แต่นั่นมันก็อาจจะเป็นเพียงแค่ช่วงแรกๆเท่านั้น หลังจากนั้นเขาจะรู้สึกว่ามันก็เป็นเพียงแค่สิ่งๆหนึ่งที่เขาจะต้องได้รับจากเราอยู่แล้ว หมดยุคการเอาใจผู้ชายอย่างเดียวกันแล้วค่ะ แน่นอนว่าการดูแลเอาใจใส่ซึ่งกันและกันเป็นเรื่องที่ดี แต่ทุกอย่างมันต้องมีการ Balance และอย่าสูญเสียความเป็นตัวเองเพียงเพราะเราต้องการความรักจากเขา
สาวแกร่งมักจะไม่ใช่ผู้หญิงที่แสนดีที่จะคอยดูแลหรือแสตนบายรอเขาอยู่ตลอดเวลา พวกเธอจะไม่ตอบแชทกลับทันทีหากไม่เป็นเรื่องด่วนหรือสำคัญจริงๆ ในทางกลับกันพวกเธอจะมีโลกและพื้นที่ส่วนตัว กล่าวคือจะไม่ทิ้งความเป็นตัวเอง ไม่ทิ้งการเรียนการงาน ไม่ทิ้งเพื่อนฝูง หรือแม้กระทั่งงานอดิเรกที่พวกเธอชอบทำ เพราะพวกเธอเชื่อว่าถ้าหากเขาคือคนที่ใช่และรักพวกเธอจริง เขาจะเคารพ ให้เกียรติ และรักในความเป็นตัวของพวกเธอ
ผู้หญิงส่วนใหญ่มักจะคิดว่าเราเป็นเพศที่อ่อนแอ มักจะต้องได้รับการดูแลจากผู้ชายเสมอ แต่นั่นไม่ใช่ความคิดของสาวแกร่งเลยสักนิด
พวกเธอจะสามารถพึ่งพาและยืนด้วยลำแข้งของตัวเองได้ เพื่อนๆหลายๆคนอาจจะเจอผู้ชายสายเปย์ คอยเอาใจ คอยดูแลอยู่เสมอ แต่เพื่อนๆอย่าลืมนะคะว่าโลกนี้ไม่มีอะไรแน่นอน สิ่งที่แน่นอนที่สุดคือตัวเราเอง เพราะฉะนั้น อย่าหวังพึ่งใคร นอกจากการพึ่งตัวเราเองดีที่สุดค่ะ
และหากเรายังคงเป็นผู้หญิงอ่อนแอ แทนที่เขาจะรู้สึกว่าเราจะสามารถ Supportเขาได้ในวันที่เขาล้มหรือเครียด เขากลับจะรู้สึกว่าเราเป็นภาระเขาซะมากกว่า
ผู้หญิงส่วนมาก มักจะเพ้อฝันถึงคนรักที่ร่ำรวย คอยเอาใจ คอยเปย์ คอยซื้อของให้ แน่นอนว่ามันอาจจะเป็นความสัมพันธ์ที่ผู้หญิงเราส่วนใหญ่ต้องการ แต่มักจะไม่ใช่คนที่ใช่หรือคนที่เราต้องการนั้นเอง รู้หรือไม่ว่าการที่เราได้รับการดูแลในเรื่องค่าใช้จ่ายต่างๆเรามักจะสูญเสียความเป็นตัวเอง หลายๆครั้งที่เราต้องมานั้งทบทวนว่า เราอยู่กับเขาเพราะเรารักที่เขาเป็นเขา หรือเพราะเงินของเขากันนะ
สาวแกร่งมักจะไม่ยอมให้เงินมีอำนาจมาควบคุมชีวิตและจะไม่หวังพึ่งเงินของใคร พวกเธอจะถือว่านั่นคือการให้เกียรติตัวเอง และสิ่งนี้แหละจะทำให้พวกเธอรักและไม่สูญเสียความเป็นตัวเอง มากกว่าไปกว่านั้น เมื่อพวกเธอแสดงความเป็นตัวเองออกมาชัดเจน สิ่งเหล่านี้จะเผยเสน่ห์ในตัวของพวกเธอออกมา และดึงดูดคนที่รักในตัวตนของพวกเธอเข้ามานั่นเอง
ผู้ชายมักจะใช้ถ้อยคำหว่านล้อมและหยอดคำหวานเพื่อให้ได้ในสิ่งที่พวกเขาต้องการ คำหวานเหล่านั้นก็เปรียบเสมือนเหยื่อล่อให้ผู้ถูกล่าอย่างเราติดกับ แต่นั่นไม่ใช่สำหรับผู้ถูกล่าที่ขึ้นชื่อว่า Bitches จริงๆแล้วผู้ชายส่วนใหญ่มักจะชอบความท้าทาย เพราะฉะนั้น สิ่งที่สามารถดึงดูดพวกเขาได้จริงๆไม่ได้มีเพียงแค่ความสวย ความฉลาด และความตลกขบขันเท่านั้น
สาวแกร่งจะไม่ใช่คนที่หลงเคลิ้มหรือตกลงปลงใจอะไรง่ายๆ ถึงแม้ว่าพวกเธอจะโดนหยอดคำหวานมาสักเท่าไหร่ก็ตาม พวกเธอมักจะไม่ Availableให้ง่ายๆ ถึงแม่พวกเธอจะมีเวลาว่างทั้งอาทิตย์ แต่พวกเธอก็จะทำตัวยุ่งและหาอะไรทำอยู่เสมอ เพราะพวกเธอไม่ได้ให้ความสำคัญกับผู้ชายมากไปกว่าตัวเองนั่นเอง และนั่นแหละจะทำให้เขา Keep on his toe หรือจะคอยแสตนบายรอพวกเธอว่างอยู่แทบจะตลอดเวลาแทนเสียด้วยซ้ำ
มีหนึ่งประโยคในหนังสือที่ว่า “Men are thrilled by what they can’t have” ผู้ชายมักจะตื่นเต้นไปกับจินตนาการของตัวเองในสิ่งที่พวกเขาทำไม่ได้ในตอนนั้นหรือไม่ได้มันมาในทันที พูดง่ายๆว่า Hard to get นั่นเอง กล่าวคือเราควรจะให้ผู้ชายหัดเป็นฝ่ายรอหรือมีระยะห่างกันซะบ้าง ให้เขาได้รู้ว่าเราเองก็มีชีวิตของเราเช่นกัน ชีวิตของเราไม่ได้มีเพียงแค่เขาเท่านั้น
สาวแกร่งมักจะไม่ตอบสนองความต้องการของผู้ชายในทันที หรือในเวลาอันไม่สมควร จุดนี้จะเป็นอีกจุดหนึ่งที่ทำให้เขาได้รู้สึกว่าเวลาที่จะได้อยู่กับพวกเธอคือเวลาที่มีค่า หรือสื่อง่ายๆคือ ไม่ควรมี Sex หรือปล่อยตัวจนกว่าจะถึงเวลาอันควรนั่นเอง ทฤษฏีนี้อาจจะดูหัวโบราณไปซักหน่อย แต่มักจะใช้ได้ผลอยู่เสมอ นอกจากจะทำให้เขารู้สึกว่ามันควรค่าแก่การรอคอยแล้ว ยังแสดงให้เห็นว่าพวกเธอเห็นคุณค่าของตัวเองอีกด้วย
สาวแกร่งมักจะนึกถึงตัวเองก่อนเสมอ พวกเธอไม่คิดว่านั่นคือสิ่งที่เลวร้ายหรือเป็นการเห็นแก่ตัว แต่กลับเป็นการดีซะอีกที่พวกเธอจะมีจุดยืนและทำตามเสียงหัวใจของตัวเองโดยที่ไม่ให้มีใครมามีอิทธิพลต่อชีวิตของเธอมากขนาดนั้น แต่อย่างไรก็ตาม ผู้ชายนอกจากจะชอบเล่นบทเป็นผู้ล่าแล้ว ยังชอบเล่นบทเป็น Protector อีกด้วย เพราะฉะนั้น..
แม้ว่าสาวแกร่งจะสามารถดูแลตัวเองได้ดีแค่ไหน พวกเธอก็จะไม่ยอมเสียแรงเหนื่อยไปกับทุกเรื่อง และนั่นก็ถือว่าเป็นความโรแมนติกอย่างหนึ่งที่ให้เขาได้แสดงความเป็นผู้นำและความเป็นProtector ตามสัญชาตญาณของสัตว์เพศผู้อีกด้วย
บางทีมันก็เป็นการยากของสาวแกร่งเหมือนกันนะคะ ที่จะต้องมาทำตัวอ่อนแอให้ใครดูแล เพราะลักษณะเด่นของสาวแกร่งหรือ Bitches คือจะเป็นคนที่สามารถดูแลตัวเองได้ตลอด แต่ในบางที เราก็ต้องแสดงความอ่อนแอซึ่งเป็นธรรมชาติของสัตว์เพศเมียออกมาบ้าง ตัวอย่างเช่น ในบางครั้งเราเจอแมลง เราก็อาจจะร้องขอให้เขาช่วยถึงแม้ว่าเราจะไม่ได้กลัว.. ขอให้เขาช่วยเปิดขวดน้ำให้ถึงแม้ว่าเราจะมีแรงพอที่จะเปิดเองได้.. หรือแม้กระทั้งขอให้เขาช่วยแบกของหนักๆ ถึงแม้ว่าเราจะถึกพอที่จะแบกสิ่งนั้นได้เป็นตันเลยก็ตาม
ผู้ชายมักจะชอบความรู้สึกที่ตัวเองได้เป็นสุภาพบุรุษ ได้เป็นผู้นำ เพื่อนๆหลายๆคนอาจจะเคยได้ยินเรื่อง “ช้างเท้าหน้าและช้างเท้าหลัง” ผู้ชายร้อยทั้งร้อย ก็มักอยากจะเป็นผู้นำหรือช้างเท้าหน้าด้วยกันทั้งนั้น แต่อะไรล่ะ คือสิ่งที่ทำให้เขารู้สึกว่าตัวเองเป็นผู้นำหรือช้างเท้าหน้าได้อย่างเต็มภาคภูมิ…
สิ่งนั้นคือ “คำชมหรือคำสรรเสริญจากเรา” นั้นเอง
สาวแกร่งมักจะทำให้เขาได้รู้สึกว่าเขาเป็นผู้นำในการตัดสินใจ และเป็นผู้ควบคุมจากคำชมของพวกเธอ และหลังจากนั้นเขาก็จะแสดงความเป็นช้างเท้าหน้าออกมาอย่างเต็มภาคภูมิ โดยจะเป็นคนนำและรับผิดชอบเรื่องๆนั้นไปโดยปริยาย แต่หารู้ไม่ว่าความจริงแล้ว สาวแกร่งอย่างพวกเธอต่างหากที่เป็นกำกับให้เขาทำในสิ่งที่พวกเธอต้องการอยู่เบื้องหลัง
ยกตัวอย่างให้เห็นกันชัดๆง่ายๆ เช่น การวางแผนจะไปเที่ยวกันซักทริป สาวแกร่งจะเป็นคนคิดสถานที่เป็นตัวเลือกเอาไว้ ซึ่งพวกเธอเองก็อยากไปทุกที่ที่ได้เลือก แต่พวกเธอจะนำตัวเลือกนี้ไปให้ผู้ชายได้เลือกเป็น Final Decision นั่นเอง สิ่งนี้จะทำให้เขารู้สึกว่า เขาคือคนที่ได้นำในการตัดสินใจเลือกสถานที่ในครั้งนี้ และหลังจากที่ได้เลือกแล้ว เพียงแค่พวกเธอเอ่ยปากชมว่า “ฉันรู้สึกดีทุกครั้งที่คุณมักจะเลือกตัวเลือกที่ดีที่สุดเสมอ” แค่นี้ก็ทำให้เขารู้สึกภูมิใจที่ได้เลือกตัวเลือกที่ทำให้พวกเธอHappy โดยที่ความจริงแล้วไม่ว่าเขาจะเลือก Chioce ไหน พวกเธอก็โอเคในทุกๆ Chioce นั้นอยู่แล้ว
เป็นยังไงกันบ้างคะกับ 7 Key Ideas จาก “Why Men Love Bitches” สรุปง่ายๆเลยก็คือ ผู้หญิงเราไม่จำเป็นเลยที่จะไล่ล่าหาความรัก เจนเชื่อว่าพวกเรามีความ Bitches อยู่ในตัวกันทุกคน ซึ่งคุณสมบัติของความเป็น Bitches นั่นก็คือ Independent(เป็นตัวของตัวเอง) Self-Sufficient(สามารถพึ่งพาตัวเองได้) และ Focus On Our Own Lifes(รักตัวเอง) จะดึงดูดนักล่าที่ใช่มาหาเราเองค่ะ
เจนก็หวังว่าบทความที่เจนนำมาแบ่งปันจะสามารถปลุกความเป็น Bitches ในตัวของผู้หญิงทุกคนนะคะ แล้วเจอกันใหม่บทความหน้าค่ะ
แหล่งอ้างอิง
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้