ไดอารี่ลูกแมวน้อยสู้ชีวิต ทั้งอาเจียน ท้องเสีย ไม่กินนม จมูกดับ!

ไดอารี่นี้จริง ๆ แล้วเป็นโพสในเฟสบุคที่เราลงเก็บไว้ตอนที่โซฮี ลูกแมวที่บ้านป่วยค่ะ หลัง ๆ มานี้ เราไม่ค่อยได้โพสอะไรลงเฟสบุคเท่าไหร่ ส่วนมากจะเอาไว้อ่านข่าว แต่ด้วยความจิตตกตอนนั้น เราก็เริ่มเขียนเล่าเรื่อง โดยมีจุดประสงค์เพื่อ "ระบาย" ความอัดอั้นตันใจตอนนั้น แต่สิ่งที่ได้คือกำลังใจ และคำแนะนำต่าง ๆ จากเพื่อน ที่มีส่วนช่วยทำให้น้องรอดมาได้ ตอนนี้จึงตัดสินใจเปิดเป็นพับลิค เพื่อให้คนทั่วไปได้เข้ามาอ่าน เพราะตอนที่ป่วย เราพยายามเซิร์จอาการทั้งในภาษาไทย และภาษาอังกฤษ แต่มีน้อยเคสมากที่กล่าวถึงลูกแมวที่ดมกลิ่นไม่ได้ เพราะจมูกคือประสาทสัมผัสแรกที่จำเป็นต่อการดำรงชีวิตของลูกแมว ที่ต้องมีก่อนที่จะลืมตาเสียอีก กระทู้นี้อาจจะยาวสักหน่อย (เพราะเราชอบเขียนเยอะ) แต่จะพยายามเขียนให้น่าอ่านค่ะ

อ่ะ เริ่มเรื่องกระทู้แมว ก็ต้องเริ่มด้วยรูปแมวตามธรรมเนียมค่ะ

***แรกเกิด***

(ดำ กับลูก ๆ เรียงจากบนลงล่าง โซฮี มูนัค ตาหวาน มายา)

ในวันที่ 24 มีนาคม 2563 แมวจรที่เรานำเข้ามาในบ้านเพื่อรอทำหมันแต่ดันท้องซะก่อน ก็คลอดลูกในบ้าน วันนั้นเป็นวันที่เรา Work from home วันแรก ซึ่งคอมพิวเตอร์เราอยู่ชั้น 2 ตอนพักกลางวันขณะที่กำลังเดินออกมาเข้าห้องน้ำ จู่ ๆ ก็ได้ยินเสียง "มิ้ว ๆ" แผ่ว ๆ มาจากชั้นล่าง เราซึ่งไม่เคยเลี้ยงแมวที่อายุต่ำกว่า 2 เดือนเลย (ที่บ้านเก็บมาตอนอายุราว ๆ 2 เดือนขึ้นไปทั้งนั้น มีอยู่แล้ว 9 ตัว) ในตอนนั้นตกใจมาก เพราะไม่มีประสบการณ์ทำคลอดแมว และแม่ที่มีประสบการณ์ก็ไม่อยู่บ้านกับเราด้วย

พอลงมาชั้นล่าง พบว่าเจ้าดำ แมวจรที่นำเข้ามาในบ้านหลบอยู่ใต้ตู้โชว์ โดยมีลูกที่กำลังคลอดคาก้นอยู่ด้วย! ปกติเราเป็นพวกไม่ชอบเลือด ไม่ชอบอะไรแหยะ ๆ อยู่แล้ว ลมแทบจับค่ะ กลิ่นคาวเลือดคลุ้งบ้านเลย เราไม่รอช้ารีบหากาละมังกับผ้าสะอาดมาวาง แล้วโทรเรียกน้าสาวที่อยู่อีกหมู่บ้านอย่างฉับไว (ในใจคิดว่าทำเองคนเดียวไม่รอดแน่) น้าสาวพอได้รับสายก็พยายามอธิบาย แต่สุดท้ายถามเราว่า "ให้ไปช่วยมั้ย" ตอนนั้นตอบแบบไม่คิดเลยว่า "มาที!" หลังจากวางสายไป เราก็เริ่มเรียกให้ดำมาหา ตอนนั้นดำก็ค่อย ๆ ย่องมาโดยที่มีลูกคาก้นอยู่แบบนั้น เราก็ทำอะไรไม่ถูก ไปเอาถุงมือพลาสติกมาใส่แล้วจับดำวางในกาละมัง ดำก็พยายามเบ่งเจ้าตัวที่ติดก้นอยู่ออกมา แต่ตอนนั้นคิดได้ว่า "เอ เจ้าตัวนี้ยังติดอยู่กับก้นแม่อยู่เลย เพิ่งออกมาสด ๆ แต่ก่อนหน้านี้ได้ยินเสียงแล้วนี่หว่า" คิดได้ซักพัก เสียงก็มาค่ะ "มิ้ว ๆ" แผ่ว ๆ ปรากฎว่า ก่อนหน้านี้นางดำได้คลอดลูกทิ้งไว้ใต้ตู้รองเท้าตัวนึง ใต้เตียงไม้ตัวนึง เราต้องไปตามเก็บเจ้าสองตัวเล็กมาใส่กาละมังค่ะ 5555 ซักพักเจ้าตัวที่ 3 ก็คลอดออกมาสำเร็จ ส่วนดำก็จัดแจงกินรกและเลียตัวลูก คือถึงจะเคยอ่านมาเยอะแล้วเรื่องแมวกินรกลูก แต่ ณ วินาทีนั้นคือพะอืดพะอมมาก อยากจะร้องไห้ คือจมูกค่อนข้างไวต่อกลิ่น เพราะงั้นกลิ่นคาวเลยมาเต็ม ๆ ทำเอาหลอนกลิ่นเลือดไปหลายวัน

หลังจากที่คลอดออกมาครบ 3 ตัว เราก็เตรียมทำความสะอาด น้าสาวก็เพิ่งมาถึง แต่ดำดูค่อนข้างกระสับกระส่ายเอามาก ๆ เราก็ไม่เข้าใจว่าทำไมเค้าเป็นแบบนั้น จนกระทั่งผ่านไปราว 10 นาที ดำก็เดินออกจากกาละมัง และเริ่มทำการคลอดลูกตัวที่ 4! (ตอนซาวน์หมอบอกมี 2 ตัว งอกได้อีก 2 5555) ตอนนี้น้าสาวอยู่ด้วย เลยช่วยดำทำคลอดได้ง่ายหน่อย เจ้าตัวที่ 4 นี้ออกมาตัวเล็กจิ๋วเดียว เล็กกว่า 3 ตัวที่คลอดก่อนหน้ามา แถมออกมาแล้วไม่ร้องด้วย ในใจก็คิดว่าตัวสุดท้องนี้อาจจะรรอดยาก แต่สุดท้ายตัวที่ด่วนจากไปคือตาหวานค่ะ เป็นตัวผู้ตัวเดียวในครอก ปกติเราจะเช็คลูกแมวในคอกประจำ วันนั้นเราหยิบลูกแมวมาเช็คทีละตัวหลังเลิกงาน พบว่าตาหวานจากไปซะแล้ว คิดว่าอาจจะถูกแม่ทับ 

***สัญญาณของอาการป่วย***


(มูนัค มายา กับโซฮี อายุประมาณ 1 เดือน)

หลังจากผ่านไป 1 สัปดาห์ เราเริ่มสังเกตว่า โซฮีก็ยังตัวเล็กกว่าเพื่อนอยู่ และกินนมไม่ค่อยทัน ทั้ง ๆ ที่มีกันแค่ 3 ตัว เราเคยลองจับน้องไปจ่อที่นมแม่ แต่น้องหานมแม่ไม่เจอเลยค่ะ ขนาดจ่อไปที่เต้าแล้ว น้องก็พยายามควานหาแล้วไม่เจอ ในขณะที่อีก 2 ตัวคือวางปุ๊บ หาเจอปั๊บ

เวลาผ่านไปราว ๆ 1 เดือน โซฮีน้อยก็ยังตัวจิ๋วกว่าชาวบ้าน ยังหานมไม่เก่งเหมือนเดิม ตอนนี้แม่เริ่มทักแล้วว่า โซฮีดูผอมลงไปรึเปล่า ตอนแรกเห็นไม่ชัด ก็คิดว่าอาจเพราะมันอยู่กับตัวพี่ ๆ ที่ตัวใหญ่กว่าเยอะ เลยดูตัวจิ๊ดเดียว แต่ผ่านมาอีกวันสองวัน พบว่าน้องเริ่มผอมจนกระดูกเริ่มโผล่ จึงเป็นวันแรกที่เริ่มพาเด็ก ๆ ไปหาหมอ

***ไทม์ไลน์อาการป่วยของโซฮีน้อย***

- 27 เม.ย. 2563
โซฮีมีอาการอาเจียนในช่วงกลางวัน ตอนนั้นเรากับน้องทำงานที่บ้าน จึงตัดสินใจว่าจะพาเด็ก ๆ ไปหาหมอตอนเย็น ประกอบกับแม่มาถึงแล้วทักว่ามูนัคพุงป่องมาก อาจจะท้องอืดก็ได้

ในเย็นวันนั้น เราพาเด็ก ๆ ไปร้านสัตวแพทย์ร้านประจำแถวถนนราชพฤกษ์ เราเอาโซฮีให้หมอตรวจเป็นตัวแรก ด้วยความที่น้องยังเด็กมาก ๆ หมอจึงวินิจฉัยอาการไม่ได้มาก ตอนนั้นก็รู้แค่ว่าน้องอาเจียน หมอเลยฉีดยาลดอาการอาเจียนให้ แล้วบอกว่าโซฮีอาจอาเจียนเพราะเล่นกันแล้วตกใจ ซึ่งเป็นไปได้ในเคสของลูกแมว จากนั้นก็ให้คุณหมอตรวจมูนัค กับอาการพุงป่องมาก ๆ คุณหมอลองบีบ ๆ พุงน้องซักพัก แล้วบอกว่า "น้องพุงป่องน่าจะเพราะทานเยอะนะคะ" สรุปว่ามูนัคไม่ได้ป่วย แต่มูนัค "อ้วน" เขิลหมอเลยตอนนั้น

เพี้ยนเพลีย

- 29 เม.ย. 2563
โซฮียังมีอาการอาเจียน ควบคู่ไปกับถ่ายเหลว ร่างกายก็ผ่ายผอมเอามาก ๆ เริ่มเล่นน้อยลง เลยพาไปหาหมออีกรอบ ผลตรวจพบโปรโตซัวในอุจจาระ คุณหมอเลยให้ยาฆ่าเชื้อมาทาน พร้อมกับยากระตุ้นภูมิ ในตอนนั้นที่บ้านเริ่มเครียดแล้ว เพราะเวลาเจอเด็ก ๆ อยู่กับแม่ มูนัค และมายาจะดูดนม แต่โซฮีจะนอนหันหัวออกมาอีกด้าน 

- 30 เม.ย. 2563
อาการโซฮียังไม่ดีขึ้น เหมือนว่ายาที่ทานไปนั้นไม่ได้ผลเลย วันนี้น้องนอนทั้งวัน  ไม่เล่น พยายามถ่ายหลายครั้งแต่ถ่ายไม่ออก น้องชายเลยพาไปหาหมออีกรอบ รอบนี้หมอบอกว่าโซฮีขาดน้ำ ต้องพยายามป้อนอาหารให้เยอะ ๆ แต่ถ้าไม่ยอมทานต้องป้อนด้วยการฉีกไซริงใส่ปาก กลับบ้านมาก็อาเจียนอีก แต่หนนี้ถ่ายเหลวออกมานิดนึง วันนี้อุ่นนมแพะให้ จ่อให้ที่ปากก็ไม่กิน เลยสงสัยว่าอาจจะจมูกไม่ดี ก็จับฉีดนมไปได้ประมาณ 2 ซีซี

วันนี้ตอนกำลังขึ้นนอน จู่ ๆ โซฮีก็ร้องดังมาก ไปถึงเห็นนอนกับแม่ มีมูนัคกินนมอยู่ พอเห็นหน้าเราโซฮีก็ร้องเรียก เราเลยพยามจัดท่าให้เค้าดูดนมแม่ โซฮีพยายามหาเต้าแล้วแต่หาไม่เจอเหมือนเดิม สุดท้ายต้องจับแม่มันนอนให้ถนัด ๆ แล้วจับไปจ่อใหม่ รอบนี้หาเจอ แต่พอเดินไปล้างจานซักพัก กลับมามูนัค กับมายากินนมอยู่ ส่วนโซฮีนั่งจ๋อง ๆ หันหลังให้

พอเดินไปน้องก็เงยหน้ามามองแล้วทักเรา แล้วก็หันหัวไปหานมแม่อีก แต่มันไม่มีที่แล้ว น้องก็นั่งเฉย ๆ ดูตัวอื่นกิน เราเลยไปอุ่นนมแพะมาอีก พยายามจับป้อนได้ไปอีก 1 ซีซี ครบตามที่หมอแนะนำพอดี 3 ซีซี พอวางลงในกรง โซฮีก็จัดแจงเลียตัว ไม่เดินหาแม่แล้ว

นอนหลับวันนี้ กลัวอย่างเดียวว่าตื่นมาโซฮีจะไม่อยู่แล้ว น้องยังเล็กมาก ทางเลือกของน้องมีไม่มาก แต่น้องก็สู้มาก ๆ พยายามทั้งเข้าห้องน้ำ แล้วก็กินนมแม่ แล้วก็พยายามขอความช่วยเหลือจากเรา

- 1 พ.ค. 2563
หลังจากที่แม่บ่นว่าหมอที่โรงพยาบาลสัตว์เก่าไม่ค่อยเก่ง วินิจฉัยไม่ค่อยได้ เราเลยปรึกษาพี่ที่ทำงานที่อยู่แถวบ้าน เค้าเองก็มีความทรงจำที่ไม่ดีกับร้านหมอที่เราไปประจำ เลยเปลี่ยนไปร้านอื่น แล้วพบว่าดี แต่จะไกลจากบ้านหน่อย 

วันนี้เด็กโดนฉีดยา หลังจากพาไปหาหมออีกที่ (น้องกับแม่หยุดพอดีเลยพากันไป ส่วนเราทำงานที่บ้าน) หมอขอยาที่เก่าดู บอกว่ายังขาดยาฆ่าเชื้อแบคทีเรีย และอาการอาเจียนก็น่าจะมาจากเชื้อแบคทีเรียตัวนี้ แล้วน้องมีพยาธิซึ่งน่าจะมาจากตัวแม่ที่เป็นแมวจรด้วย (ก่อนหน้านี้ท้อง ถ่ายพยาธิให้ไม่ได้) เบื้องต้นหมอเลย ให้น้ำเกลือก่อน (แน่นอนว่าโซฮีแหกปากกระจาย) แล้วให้ยามาป้อน รอดูอาการดีขึ้นค่อยถ่ายพยาธิ (หมอให้ยาถ่ายพยาธิลูกแมวมาเผื่อมูนัคกับมายา และแม่ดำด้วย) ตอนนี้น้องบอกแม่กำลังเลือกนมลูกแมวอยู่ รอบนี้มีขวดนมมาพร้อม หมอแนะนำนมแมวนำเข้ากระป๋องละ 250 บาท ให้ทานแทนนมแพะ รอบนี้เป็นสาวน้อยพันล้านของจริง พันล้านนี่ยานะคะ 555 ดูภาพยาในสปอยล์ค่ะ คุณหมอแนะนำมาอย่างละเอียดเลย

ช่วงนี้โซฮีเริ่มติดคนมาก แล้วนอนกับคนได้ ไม่ร้องกลัวเหมือนแต่ก่อนแล้ว ค่อนข้างติดแม่จขกท.เลยค่ะ 5555
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
- 2 พ.ค. 2563
อัพเดตอาการจิ๋วโซฮี เมื่อเช้านี้อาเจียนเป็นน้ำลายออกมานิดหน่อย เลยจับไปหาหมออีกรอบ หนนี้หมอบอกต้องงดนม เพราะจะได้หายท้องเสีย แล้วก็ให้อาหารของแมวท้องเสียโดยเฉพาะของรอยัลคานิน อาหารเหลว กับยาอีกถุงนึง คุยกับหมอแล้วว่าปกโซฮีไม่ค่อยกินนม ขนาดเอาตัวไปจ่อที่นมแม่ก็ทำท่าจะหานมไม่เจอ อาหารก็ไม่ดม หมอก็สันนิษฐานว่าน่าจะมีการรับกลิ่นอาจมีปัญหา คือเป็นเด็กจมูกบอด

กลับมาจากอาหมอก็ถ่ายเหลว แต่ไม่อาเจียนแล้ว ตอนกลางคืนเล่นกับแม่นิดหน่อยด้วย ขอให้อาการดีขึ้น ๆ แบบนี้ทุกวัน
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
- 3 พ.ค. 2563
หลังจากที่โพสเรื่องของจิ๋วโซฮีมาเรื่อย ๆ เพื่อน ๆ ในเฟสก็เริ่มเข้ามาให้คำแนะนำค่ะ โดยคอมเม้นท์ช่วยชีวิตไว้คือคอมเม้นท์ด้านล่างนี้ สาบานเลยว่าตอนที่น้องยอมเลียขนมนี้ ใจแล้วพองเลยค่ะ คือช่วงนี้ได้นอนน้อยมาก ๆ เพราะต้องตื่นมาป้อนอาหารให้น้องกิน คุณหมอบอกว่าจะหายได้ก็ต้องกินเยอะ ๆ ซึ่งมันเป็นงานหินมากที่จะทำให้โซฮีกินในตอนนั้น เรารู้สึกสงสารทุกครั้งที่ต้องยัดนม ยัดอาการเข้าปากน้อง น้องพยายามหุบปากสนิทมาก แม่ก็บอกว่าบางทีปากโซฮีก็บวมหน่อย ๆ แต่เราไม่มีทางเลือกแล้วจริง ๆ เพื่อจะให้น้องรอด ตอนนั้นแม่ของน้องเองก็เริ่มจะมีอาการทิ้งลูกที่คิดว่าไม่รอดด้วย ส่วนโซฮีก็ติดแม่กับเรามาก ตอนกลางคืนต้องอุ้มมานอนด้วยในห้อง พอกล่อมเค้าหลับก็เอาไปไว้ในตะกร้าที่มีทราบแมว บางทีตีสามตีสี่ น้องตื่นมาร้องเพราะหาใครไม่เจอ เราต้องไปนั่งลูกหัวให้เค้าหลับ 
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
- 4 พ.ค. 2563
วันนี้วิ่งเล่นได้ กินอาหารเองด้วย แต่ยังถ่ายเหลว แล้วก็ตื่นมาช่วงตีสอง กับตีสี่ให้พี่มันกล่อมนอน นี่ลูกอ่อนหรือแมว แม่ กับพี่ ๆ คือเพลียมาก อ้อนวัวตายควายล้ม (ก็หนูป่วยนี่คะ) 
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
- 5 พ.ค. 2563
พอเริ่มทานอาหารได้ อาการก็ดีขึ้นเรื่อย ๆ เลยค่ะ หลังจากไปพบหมออีกรอบ ก็เล่าให้ฟังว่าเค้ากำลังทานขนมแมวเลียอยู่ หมอบอกว่าทานได้ไม่มีปัญหา แต่อาหารปกติก็ต้องทานต่อ เพราะสารอาหารในขนมแมวเลียมีไม่เท่าอาหารจริง ๆ วันนี้โซฮีหยุดอาเจียนแล้ว เลยจัดแจงป้อนยาถ่ายพยาธิให้ ตกบ่ายโซฮีพยายามจะถ่ายหลายรอบมาก แต่ถ่ายไม่ออก ตอนแรกก็กังวลว่า เอ ท้องผูกแทนท้องเสียรึเปล่านะ แต่พอเข้าไปเช็คก็พบว่า น้องถ่ายไม่ออกเพราะพยาธิค่ะ ทีนี้ล่ะค่ะ ที่เคยเล่าว่าจขกท.ไม่ชอบพวกเลือด หรืออะไรแหยะ ๆ นึกสภาพว่าต้องมาจับลูกแมว ให้น้องชายดึงพยาธิออกจากก้นน้อง คือแบบสยองมากกก เพราะเป็นคนเดียวทั้งครอบครัว ที่มีปัญหาเห็นอะไรแหวะ ๆ แล้วทานข้าวไม่ได้ แม่กับน้องนี่คือชิว ๆ มาก ตอนดึงน้องบอก "เจ๊ ๆ ถั่วงอก" คือดีนะเป็นคนไม่กินถั่วงอก
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่