สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 7
ผมเคยเขียนบทความไว้ ว่าทำธุรกิจขายของอย่างไรให้รุ่ง
ขอสรุปดังนี้นะครับ
1. ปรุงสดทุกครั้ง ทุกครก แม่ค้าแถวบ้านทุกผัดกระเพรา จะต้องตำพริกกับกระเทียมสดทุกครั้ง ต้มยำต้องเครื่องปรุงสดเท่านั้น
อย่าใช้เครื่องแกง เครื่องแกงมันทำไว้หลายวันแล้ว บางทีใส่สารกันบูด สู้ตำสดๆให้ อูมามิ ของอาหารออกมาไม่ได้
นึกถึงผัดที่บ้านซิครับ ผัดแล้วกินเลย กับผัดเช้ากินบ่ายต่อให้อุ่นร้อนก็ไม่อร่อยเท่า เพราะความอร่อยที่เป็นกลิ่นระเหยหมดแล้ว
2. อัธยาศัยแม่ค้า ต้องยิ้มเสมอ และที่สำคัญต้องถามลูกค้าแต่ละรายว่าเป็นไงบ้าง เปิดโอกาสให้ลูกค้าบอกความรู้สึกได้ เช่น รสชาติให้ปรับปรุงยังไงบอกได้นะ อย่างนี้เป็นต้น
3. เวลาลูกค้าบ่นอย่าหน้านิ่ว ให้ยิ้มรับ อย่าเถียง ให้บอกว่าขอบคุณที่แจ้ง เดี๋ยวจะปรับปรุง วันหลังมาลองใหม่นะคะ เพราะบางครั้งเค็มไปหวานไป
ลูกค้าแต่ละคนชอบไม่เหมือนกัน ควรปรุงให้รสเค็มอ่อนๆ ไว้ก่อน ลูกค้าเติมความเค็มได้ แต่ถ้าเค็มแล้วเอาความเค็มออกไม่ได้
4. ทำอย่างไรให้ลูกค้าขาจรเป็นขาประจำให้ได้ 3 ข้อข้างบนคือตัวดึงดูด เมื่อไหร่ที่มีลูกค้าประจำเมื่อนั้นแหละร้านจะอยู่รอด
5. เวลาเปิดร้านก่อนจะรุ่ง เตรียมตัวไว้ประมาณ 3 เดือนอย่างต่ำ เพราะความคิดลูกค้าคือยังงี้ครับ
เดือนที่ 1 เห็นร้านใหม่เปิด ก็จะสงสัยว่าอยู่ไม่นาน รอดูไปก่อน ถ้าหลงเข้าไปเกรงใจแม่ค้า ถ้าไม่อร่อยเสียเวลาแวะ ไปเจ้าประจำดีกว่า
เดี๋ยวไม่นานร้านคงเจ้ง รอดูไปก่อนแล้วกัน
เดือนที่ 2 เห็นร้านยังเปิดอยู่ อืมน่าจะอร่อยนะ แต่ยังไม่ค่อยเห็นคนเข้าร้าน คงเปิดอีกไม่นาน เดี๋ยวก็ปิด อย่าเพิ่งไปลองเลย เสียเวลา
เดือนที่ 3 อืมร้านยังเปิด เริ่มเห็นมีคนนั่งในร้าน หรือมีรถจอดรอเยอะ แสดงว่ารสชาติน่าจะใช้ได้ เดี๋ยวจะลองแวะดูซักหน่อย
เห็นไหมครับว่าเราต้องผ่าน ด่าน 3 เดือนให้ได้ ถึงจะรอด ระหว่างนั้นต้องหาอย่างอื่นทำเพื่อเอาตัวรอดให้ได้ เปิดเดือนแรก ยังไงก็ขาดทุน
หลายๆร้านที่เขารู้เทคนิคนี้ เขาเลยทำโปรโมชั่น ซื้อ 1 แถม 1 หรือ ลดราคาพิเศษเหลือ 20 บาท เพื่อให้คนเข้าร้านตั้งแต่เดือนแรก ให้ไปลองเลย
จะได้สร้างลูกค้าประจำได้เร็วขึ้น
บางร้านใช้วิธี เกณฑ์ลูกหลาน ญาติพี่น้อง ให้เอารถมาจอด ให้เดินเข้าๆ ออกๆ ร้าน ให้ดูเหมือนว่าร้านติดแล้ว มีคนเข้าแล้ว
เหมือนลักษณะหน้าม้านั่นแหละครับ เพื่อลดเวลาตัดสินใจของลูกค้าจรให้สั้นลง อาศัยเพื่อนๆมาช่วยนั่งคุย เลี้ยงน้ำฟรีเป็นต้น
ลองเอาไปปรับใช้ดูนะครับ
ขอสรุปดังนี้นะครับ
1. ปรุงสดทุกครั้ง ทุกครก แม่ค้าแถวบ้านทุกผัดกระเพรา จะต้องตำพริกกับกระเทียมสดทุกครั้ง ต้มยำต้องเครื่องปรุงสดเท่านั้น
อย่าใช้เครื่องแกง เครื่องแกงมันทำไว้หลายวันแล้ว บางทีใส่สารกันบูด สู้ตำสดๆให้ อูมามิ ของอาหารออกมาไม่ได้
นึกถึงผัดที่บ้านซิครับ ผัดแล้วกินเลย กับผัดเช้ากินบ่ายต่อให้อุ่นร้อนก็ไม่อร่อยเท่า เพราะความอร่อยที่เป็นกลิ่นระเหยหมดแล้ว
2. อัธยาศัยแม่ค้า ต้องยิ้มเสมอ และที่สำคัญต้องถามลูกค้าแต่ละรายว่าเป็นไงบ้าง เปิดโอกาสให้ลูกค้าบอกความรู้สึกได้ เช่น รสชาติให้ปรับปรุงยังไงบอกได้นะ อย่างนี้เป็นต้น
3. เวลาลูกค้าบ่นอย่าหน้านิ่ว ให้ยิ้มรับ อย่าเถียง ให้บอกว่าขอบคุณที่แจ้ง เดี๋ยวจะปรับปรุง วันหลังมาลองใหม่นะคะ เพราะบางครั้งเค็มไปหวานไป
ลูกค้าแต่ละคนชอบไม่เหมือนกัน ควรปรุงให้รสเค็มอ่อนๆ ไว้ก่อน ลูกค้าเติมความเค็มได้ แต่ถ้าเค็มแล้วเอาความเค็มออกไม่ได้
4. ทำอย่างไรให้ลูกค้าขาจรเป็นขาประจำให้ได้ 3 ข้อข้างบนคือตัวดึงดูด เมื่อไหร่ที่มีลูกค้าประจำเมื่อนั้นแหละร้านจะอยู่รอด
5. เวลาเปิดร้านก่อนจะรุ่ง เตรียมตัวไว้ประมาณ 3 เดือนอย่างต่ำ เพราะความคิดลูกค้าคือยังงี้ครับ
เดือนที่ 1 เห็นร้านใหม่เปิด ก็จะสงสัยว่าอยู่ไม่นาน รอดูไปก่อน ถ้าหลงเข้าไปเกรงใจแม่ค้า ถ้าไม่อร่อยเสียเวลาแวะ ไปเจ้าประจำดีกว่า
เดี๋ยวไม่นานร้านคงเจ้ง รอดูไปก่อนแล้วกัน
เดือนที่ 2 เห็นร้านยังเปิดอยู่ อืมน่าจะอร่อยนะ แต่ยังไม่ค่อยเห็นคนเข้าร้าน คงเปิดอีกไม่นาน เดี๋ยวก็ปิด อย่าเพิ่งไปลองเลย เสียเวลา
เดือนที่ 3 อืมร้านยังเปิด เริ่มเห็นมีคนนั่งในร้าน หรือมีรถจอดรอเยอะ แสดงว่ารสชาติน่าจะใช้ได้ เดี๋ยวจะลองแวะดูซักหน่อย
เห็นไหมครับว่าเราต้องผ่าน ด่าน 3 เดือนให้ได้ ถึงจะรอด ระหว่างนั้นต้องหาอย่างอื่นทำเพื่อเอาตัวรอดให้ได้ เปิดเดือนแรก ยังไงก็ขาดทุน
หลายๆร้านที่เขารู้เทคนิคนี้ เขาเลยทำโปรโมชั่น ซื้อ 1 แถม 1 หรือ ลดราคาพิเศษเหลือ 20 บาท เพื่อให้คนเข้าร้านตั้งแต่เดือนแรก ให้ไปลองเลย
จะได้สร้างลูกค้าประจำได้เร็วขึ้น
บางร้านใช้วิธี เกณฑ์ลูกหลาน ญาติพี่น้อง ให้เอารถมาจอด ให้เดินเข้าๆ ออกๆ ร้าน ให้ดูเหมือนว่าร้านติดแล้ว มีคนเข้าแล้ว
เหมือนลักษณะหน้าม้านั่นแหละครับ เพื่อลดเวลาตัดสินใจของลูกค้าจรให้สั้นลง อาศัยเพื่อนๆมาช่วยนั่งคุย เลี้ยงน้ำฟรีเป็นต้น
ลองเอาไปปรับใช้ดูนะครับ
ความคิดเห็นที่ 12
พูดถึงเฉพาะที่ปอกผลไม้มือซ้ายแล้วกัน
สมมติผมเป็นลูกค้าใหม่ ผมมองหาที่ปอกผลไม้มือซ้าย ผมจะ search เจอทั้งร้านคุณ และอีกร้านที่รับมาขายมั้ยครับ
ถ้าราคาเท่ากัน ผมต้องเลือกร้านที่มีประวัติขายเป็นร้อยอันสิครับ
แล้วของพวกนี้ คนที่จะซื้อก็ต้องน้อยลงเรื่อยๆ เพราะลูกค้าเก่าได้ของไปแล้วจะซื้อเพิ่มทำไม
แปลว่าคุณขายของแข่งกับเจ้าเดิมนะครับ ซึ่งเค้าติดตลาดแล้ว คุณมีอะไรดึงดูดให้เลือกร้านคุณละครับ
อันนี้มุมมองลูกค้านะครับ ผมไม่เคยขายของ แนะนำกลยุทธ์ไม่ได้ครับ
สมมติผมเป็นลูกค้าใหม่ ผมมองหาที่ปอกผลไม้มือซ้าย ผมจะ search เจอทั้งร้านคุณ และอีกร้านที่รับมาขายมั้ยครับ
ถ้าราคาเท่ากัน ผมต้องเลือกร้านที่มีประวัติขายเป็นร้อยอันสิครับ
แล้วของพวกนี้ คนที่จะซื้อก็ต้องน้อยลงเรื่อยๆ เพราะลูกค้าเก่าได้ของไปแล้วจะซื้อเพิ่มทำไม
แปลว่าคุณขายของแข่งกับเจ้าเดิมนะครับ ซึ่งเค้าติดตลาดแล้ว คุณมีอะไรดึงดูดให้เลือกร้านคุณละครับ
อันนี้มุมมองลูกค้านะครับ ผมไม่เคยขายของ แนะนำกลยุทธ์ไม่ได้ครับ
แสดงความคิดเห็น
แบ่งของพี่มาขาย ทำไมพี่ขายดีมาก แต่เราขายไม่ได้เลย เพราะดวงหรือเราพยายามไม่พอ
ประมาณปี 2557 ตัดสินใจออกจากงานประจำอยากทำอาชีพส่วนตัว
➡️ออกมาขายข้าวตามสั่งใต้อพาร์ทเม้นท์ย่านลาดพร้าว ขายได้ 4 เดือนเจ๊งไม่เป็นท่า
➡️ถัดไปอีก 2 เดือนขายส้มตำ ไก่ย่าง พอขายได้ แต่ไม่มีกำไรเลย
➡️จึงตัดสินใจมาประมูลร้านข้าวขาหมูในกระทรวงแห่งหนึ่ง ก็ขายสู้เจ้าอื่นๆไม่ได้ กำไรหักค่าเช่าที่ไม่เหลือพอจ่ายค่าแรง ขายอยู่ได้ 2 เดือนเป็นอันต้องโบกมือลา
ระหว่างนั้นก็มีหนี้สินจากการยืมมาลงทุน จึงหันหน้ากลับไปทำงานประจำ แต่ใจก็ยังเรียกร้องและหาหนทางที่จะกลับมาประกอบอาชีพส่วนตัว จึงไปเรียนทำกาแฟ
➡️เปิดเป็นซุ้มกาแฟเล็กๆต่างจังหวัด ขายได้ 1 เดือน ตลาดเจ๊ง ไม่มีคนเดิน มาตรงจุดนี้เริ่มคิดว่า เรายังอดทนไม่พอ ยังขยันไม่พอ หรืออย่างไร แต่ก็ไม่ท้อจ้า ไปต่อ ช่วงนี้ก็กลับมาทำงานประจำอีกครั้งและหาช่องทางขายของควบคู่กันไป
➡️ขายน้ำผลไม้สมู้ทตี้ เสาร์-อาทิตย์ (วันหยุดงาน) ที่ตลาดนัดเปิดใหม่ และหลังจากนั้นได้ไม่กี่เดือน ตลาดนัดก็เจ๊ง ปิดตัวลง เลยคิดว่า ทำอาชีพส่วนตัวไปไม่รอด ไม่มีเหตุเจ๊ง ก็ตลาดปิด
➡️หลังจากว่างมาได้สัก 4-5 เดือน เลยมาขายลูกชิ้นปิ้งวันหยุด หน้าตึกพี่ชาย วันแรกก็ขายไม่ได้สักไม้ วันต่อๆมาก็เช่นกัน จนบอกตัวเองว่า พักก่อน 555+
➡️ล่าสุดรับของพี่ที่รู้จักมาขายเป็นที่ปอกผลไม้ของคนมือซ้าย (เราถนัดซ้ายและมันใช้ดีมาก) พี่ที่รู้จักขายได้วันละเป็นร้อยชิ้นผ่านช่องทาง FB (ไม่ได้ซื้อโฆษณาแค่ฝากร้านในกลุ่มมหาลัย) เราทำแบยเดียวกันเป๊ะ 3 วันแล้วยังขายไม่ได้สักชิ้นเลย ที่ทำมาทุกอัน ขายมาตลอดๆไม่ท้อ เพราะไม่อยากยอมแพ้ต่อโชคชะตา ทุกครั้งที่เริ่มขายอันใหม่ก็จะเอาอุปสรรคปัญหาเก่าๆมาแก้ไขปรับใช้ เลยอยากได้ความคิดเห็นเพื่อนสมาชิก เราควรไปต่อหรือพอแค่นี้คะ