พ่อเราอายุ50กว่าแล้ว ก่อนหน้าที่จะไปทำงานนี้ ค้าขายกับแม่ มาประมาณ 6-7 ปี หลังๆมาเริ่มขายไม่ค่อยดี เพราะพ่อค้าแม่ค้าเยอะขึ้นทุกวัน รายได้ไม่เพียงพอ น้องอีกคนก็กำลังเข้ามหาวิทยาลัย เราเลยพยายามหางานให้พ่อ ซึ่งอายุขนาดนี้หางานค่อนข้างยาก แต่โชคดีไปเจอบริษัทจัดหางาน เลยลองเสี่ยงพาพ่อไปคุยดู วันรุ่งขึ้นก็ได้งานเลย เป็นงานขับรถผู้บริหาร(ก่อนหน้าที่จะค้าขายก็ทำงานด้านงานขับรถมาตลอดค่ะ) ตกลงกันว่าทดลองงาน1เดือน เริ่มทำเดือนมกรา ผ่านทดลองงานก็ทำเรื่อยๆ 7โมงเช้าต้องถึงที่บ้านนาย ช่วงก่อนมีโควิด บางวันกลับดึกมาก เพราะเจ้านายไปกินเหล้า เล่นไพ่ กลับ3-4ทุ่ม
พ่อเราไม่เคยขาด ลา หรือไปสายเลย พอช่วงปลายๆกุมภา เจ้านายมาบอกว่า คนขับที่เคยขับให้เขาขอกลับมาทำอีกเพราะตกงาน ขอให้พ่อเราย้ายไปทำงานเสมียน ซึ่งออฟฟิศอยู่ไกลแบบข้ามจังหวัด แล้วพ่อเราก็ไม่มีประสบการณ์ทำงานออฟฟิศด้วย ซึ่งเจ้านายเองก็บอกว่า แล้วแต่นะ ตามใจ พ่อกลับมาปรึกษาที่บ้านก็ตกลงกันว่า ขอทำขับรถเหมือนเดิม เจ้านายก็ไม่ได้ว่าอะไร
แต่ช่วงเมษา พ่อเหมือนโดนแกล้งหลายๆอย่าง เช่น เช็ดรถแล้ว แต่หาว่าไม่เช็ด , เมียเจ้านายสั่งให้เอาของขึ้นรถ เอาไปส่งอีกที่ พ่อก็เอาขึ้น แต่เจ้านายมาเอาลง พอไปถึงที่ ไม่มีของ พ่อโดนเมียเจ้านายด่า , หาว่าตัวเหม็น เราก็ไปหาซื้อน้ำหอมให้ , ตะคอกใส่ทุกวัน
เมื่อก่อนกลับมาบ้าน พ่อพูดชมเจ้านายทุกวัน แต่หลังๆมา กลับมาก็มานั่งเครียด นั่งกลุ้ม เมื่อวานเราเพิ่งคุยกับแม่ว่า ให้พ่ออดทนทำไปก่อน เพราะอายุขนาดนี้หางานไม่ใช่ง่ายๆ เขาว่าก็ให้ทำหูทวนลมไป แต่วันนี้เมื่อเช้า พ่อโทรมาบอกแม่ว่า เจ้านายหาว่าพ่อโกงค่าน้ำมันที่เติมรถ ซึ่งมันเป็นไปไม่ได้เลย เพราะพ่อเราไม่ใช่คนคิดอะไรซับซ้อนขนาดนั้นเมื่อก่อนทำงานที่เก่าเจ้านายเคยโอนเงินผ่านบัญชีพ่อครั้งละเป็นแสนๆไม่เคยมีปัญหา ซื้อของเข้าบริษัทวันหนึ่งไม่ใช่น้อย พ่อยังไม่เคยโกง(ออกจากที่เก่าเพราะย้ายบ้าน) หนำซ้ำเป็นเจ้านายเองที่ชอบเอาเปรียบ คือที่ตกลงกันเช้าไปรับเจ้านายที่บ้าน(อยู่ใกล้บ้านเรา) พ่อก็จะขับรถส่วนตัวไปจอดที่บ้านเจ้านาย แต่พักหลังๆมานี้ เจ้านายมักจะให้พ่อขับรถส่วนตัวไปที่โกดัง ระยะทางประมาณ 30 กิโล ไม่เคยมีค่าน้ำมันให้
เราคิดว่าที่เขากล่าวหาแบบนี้ เพราะบีบให้พ่อออก เราควรแนะนำพ่อยังไงดี ถ้าเป็นเราเองคงไม่อยากทำแล้ว แต่ถ้าออก โดยที่เขาไม่ได้บอกให้ออก มันก็เหมือนว่าเราไปยอมรับข้อกล่าวหาของเขาอีก
ปล. พ่อไม่ได้บรรจุเป็นพนักงาน ไม่ได้เข้าระบบประกันสังคมค่ะ
พ่อโดนหาว่าโกงทั้งๆที่ไม่ได้ทำ ทำยังไงดีคะ?
พ่อเราไม่เคยขาด ลา หรือไปสายเลย พอช่วงปลายๆกุมภา เจ้านายมาบอกว่า คนขับที่เคยขับให้เขาขอกลับมาทำอีกเพราะตกงาน ขอให้พ่อเราย้ายไปทำงานเสมียน ซึ่งออฟฟิศอยู่ไกลแบบข้ามจังหวัด แล้วพ่อเราก็ไม่มีประสบการณ์ทำงานออฟฟิศด้วย ซึ่งเจ้านายเองก็บอกว่า แล้วแต่นะ ตามใจ พ่อกลับมาปรึกษาที่บ้านก็ตกลงกันว่า ขอทำขับรถเหมือนเดิม เจ้านายก็ไม่ได้ว่าอะไร
แต่ช่วงเมษา พ่อเหมือนโดนแกล้งหลายๆอย่าง เช่น เช็ดรถแล้ว แต่หาว่าไม่เช็ด , เมียเจ้านายสั่งให้เอาของขึ้นรถ เอาไปส่งอีกที่ พ่อก็เอาขึ้น แต่เจ้านายมาเอาลง พอไปถึงที่ ไม่มีของ พ่อโดนเมียเจ้านายด่า , หาว่าตัวเหม็น เราก็ไปหาซื้อน้ำหอมให้ , ตะคอกใส่ทุกวัน
เมื่อก่อนกลับมาบ้าน พ่อพูดชมเจ้านายทุกวัน แต่หลังๆมา กลับมาก็มานั่งเครียด นั่งกลุ้ม เมื่อวานเราเพิ่งคุยกับแม่ว่า ให้พ่ออดทนทำไปก่อน เพราะอายุขนาดนี้หางานไม่ใช่ง่ายๆ เขาว่าก็ให้ทำหูทวนลมไป แต่วันนี้เมื่อเช้า พ่อโทรมาบอกแม่ว่า เจ้านายหาว่าพ่อโกงค่าน้ำมันที่เติมรถ ซึ่งมันเป็นไปไม่ได้เลย เพราะพ่อเราไม่ใช่คนคิดอะไรซับซ้อนขนาดนั้นเมื่อก่อนทำงานที่เก่าเจ้านายเคยโอนเงินผ่านบัญชีพ่อครั้งละเป็นแสนๆไม่เคยมีปัญหา ซื้อของเข้าบริษัทวันหนึ่งไม่ใช่น้อย พ่อยังไม่เคยโกง(ออกจากที่เก่าเพราะย้ายบ้าน) หนำซ้ำเป็นเจ้านายเองที่ชอบเอาเปรียบ คือที่ตกลงกันเช้าไปรับเจ้านายที่บ้าน(อยู่ใกล้บ้านเรา) พ่อก็จะขับรถส่วนตัวไปจอดที่บ้านเจ้านาย แต่พักหลังๆมานี้ เจ้านายมักจะให้พ่อขับรถส่วนตัวไปที่โกดัง ระยะทางประมาณ 30 กิโล ไม่เคยมีค่าน้ำมันให้
เราคิดว่าที่เขากล่าวหาแบบนี้ เพราะบีบให้พ่อออก เราควรแนะนำพ่อยังไงดี ถ้าเป็นเราเองคงไม่อยากทำแล้ว แต่ถ้าออก โดยที่เขาไม่ได้บอกให้ออก มันก็เหมือนว่าเราไปยอมรับข้อกล่าวหาของเขาอีก
ปล. พ่อไม่ได้บรรจุเป็นพนักงาน ไม่ได้เข้าระบบประกันสังคมค่ะ