สวัสดีค่ะ
หลังจากที่รีวิวล่าสุดได้แชร์ชีวิตการทำงานล้มลุกคลุกคลานเป็นระยะเวลา 1 ปีเต็ม ที่ประเทศนิวซีแลนด์
ด้วยวีซ่า Working&Holiday ไปแล้ว
365วันกับประสบการณ์การไป working&holiday ประเทศNew Zealand -> https://pantip.com/topic/39450876
ขับรถเที่ยว9วันเต็ม ณ เกาะใต้ ประเทศนิวซีแลนด์ Road Trip 2018 at South Island, New Zealand -> https://pantip.com/topic/37906916
ไถบอร์ดนอนกลิ้งบนภูเขาหิมะ ณ เกาะใต้นิวซีแลนด์ -> https://pantip.com/topic/37906916

คราวนี้ขอมาประสบการณ์การเดิน Trekking ครั้งแรกในชีวิต (และคงจะเป็นครั้งสุดท้ายTT) ที่ประเทศนิวซีแลนด์ กันบ้าง
 
หากใครที่เป็นสาย Outdoor ชอบกิจกรรมกลางแจ้ง เดินป่า แคมป์ปิ้ง ปีนเขา ตกปลา ดำน้ำ 
แล้วได้มาที่นิวซีแลนด์
น่าจะรู้จักหรือเคยได้ยินชื่อ Tongariro Alpine Crossing อย่างแน่นอน 
ถือเป็นจุดหมายยอดนิยมสำหรับนักผจญภัยทั้งคนพื้นที่และชาวต่างชาติเลยล่ะ
 
สำหรับเราพอได้เดินทางไปถึงที่นิวซีแลนด์แล้ว ก็ไม่เคยคิดเลยว่าจะต้องมาทำกิจกรรมปีนเขา เดินป่า 
ลุย ๆ อะไรเบอร์นั้น
 
แต่เจอใคร ทั้งเพื่อน ญาติ เพื่อนที่แชร์บ้านอยู่ด้วยกัน (flatmates) ก็บอกเป็นเสียงเดียวกันว่า เฮ้ยไหน ๆ มาแล้ว ต้องไปลองซักครั้ง!
 
ขอสาธยายความโหดของเส้นทางนี้คร่าว ๆ
1.เป็นสถานที่ที่เป็นมรดกโลก World heritage
2.ระยะทาง 19.4 Km
3.เดินผ่านภูเขาไฟที่ยังไม่ดับ 3 ลูก
-Mt. Tongariro
-Mt. Ngauruhoe
-Mt. Ruapehu
4.แต่ละฤดูความโหดของอากาศก็ต่างกัน ถ้าไปหน้าร้อน อากาศจะอยู่ที่ประมาณ 20-25 องศาเซลเซียส 
ความโหดคืออากาศที่ร้อนและแสงแดดแผดเผา
ส่วนหน้าหนาว นอกจากอุปสรรคด้านความหนาวที่อากาศอาจลดลงต่ำสุดไปถึง -5 องศาเซลเซียส 
ยังมีเรื่องของพื้นผิวที่โดนปกคลุมไปด้วยหิมะ/น้ำแข็งทำให้เดินลำบากขึ้นอีกด้วย
 
จุดน่าสนใจคือ
Tongariro crossing ถือเป็นเส้นทาง One way ที่เป็น 1 ใน 9 ของเส้นทาง Great walk ประเทศนิวซีแลนด์ที่สามารถเดินจบได้ภายใน1 วัน
แล้วสำหรับใครที่เป็นแฟนหนัง The lord of the rings ก็ยิ่งห้ามพลาด เพราะเป็นหนึ่งในฉากที่โฟรโด้เอาแหวนมาทำลายที่หุบเขา Mordor
 
เราเรียนภาษาอังกฤษที่โรงเรียนสอนภาษา Kaplan ในเมือง Auckland ทางตอนเหนือ 
ทำให้ได้เจอเพื่อนต่างชาติมากมาย ทุก ๆ วีคก็จะมีคนไปเดินแล้วกลับมาเล่าให้ฟังพร้อมอวดรูปเท่ ๆ ว่าเนี่ย ๆ ไปมาแล้ว 
โคตรสวยเลย แต่...ก็เหนื่อยสุด ๆ เหมือนจะตาย ถ้าให้ไปอีกก็ไม่ไปแล้วนะ
 
แหมมมม
 
ฟังแล้วยิ่งฮึกเหิมเลย =”=
 
เราเป็นมนุษย์ที่ปกติไม่ค่อยออกกำลังกายอะไรเป็นพิเศษ แต่จะค่อนข้าง Active ในแง่ที่ว่า จะยุ่งตลอดเวลา 
ทั้งเรียน ทั้งทำงาน (เสิร์ฟ, บาริสต้า) แล้วก็ปาร์ตี้กับเพื่อน ๆ ถ้าถามว่าแข็งแรงเบอร์นั้นไหม!? 
อืม...คิดว่ากลาง ๆ นะ

หลังจากชีวิตวุ่นวายใกล้จบลง ก่อนกลับไทย เราและเพื่อนสนิทอีกคนวางแผน Road trip แบบ 1 เดือนเต็ม 
เที่ยวให้เต็มที่ ชาร์ตพลัง เอาให้หนำใจก่อนกลับ และในแพลนเที่ยวนี้ก็มีโปรแกรม Trekking ด้วย
 
ก็เลยมานั่งคุยกันจริง ๆ จัง ๆ อีกรอบว่าเอาไงดี 
 
ตัดสินใจว่า ลองไปดูก่อนแล้วเช็คอากาศอีกที ถ้าไปไหวก็ไป! ไม่ไหวก็ข้ามเลย
 
แต่ก่อนอื่นเราต้องเตรียมอุปกรณ์กันก่อน (สายอุปกรณ์ 555)
 
สิ่งที่ต้องมี (คร่าว ๆ )
1.     รองเท้าเดินป่า (Trekking shoes)
2.     เสื้อกันแดด, กันลม, กันฝน, กันหนาว (ตามสภาพอากาศของแต่ละฤดู)
3.     กางเกงผ้าระบายอากาศ แห้งเร็ว คล่องตัว (เลคกิ้งออกกำลังกายก็ใช้ได้นะ)
4.     หมวก
5.     เป้ (Day pack)
6.     ครีมกันแดด
7.     น้ำ
8.     เสบียง
คร่าว ๆ ก็น่าจะประมาณนี้นะ ถ้าไปเดินช่วงหน้าร้อนซึ่งถือว่าไม่โหดมาก 
 
เราได้รองเท้า Trekking จาก Outlet มาในราคา 99NZ (ประมาณ 2,000 บาท) แนะนำว่าให้ซื้อที่เป็น water proof
ราคาเริ่มต้นอาจจะมีตั้งแต่ 3,000-6,000บาทเลย แล้วแต่ยี่ห้อและฟังก์ชั่นการใช้งาน
ตอนแรกก็คิดว่าซื้อราคาพอประมาณก็พอ ไม่ถึงกับต้องดีมากหรอก เพราะคงใส่ครั้งเดียว จบ แยก!
 
แต่อยู่ ๆ วันถัดมาเพื่อน ๆ ที่บ้าน (Flatmates) ก็ชวนไปแคมป์ปิ้งปีนเข้ากันซะงั้น
 
อุปกรณ์พร้อมแล้วลุย!
 
ที่แรก (ครั้งแรก)
สถานที่ : The pinnacles, Kauaeranga valley (เกาะเหนือ)
เส้นทาง : Kauaeranga Kauri Trail
ระยะทาง : 13Km.
ระยะเวลา : 6-6.5hrs (ไป-กลับ)
เริ่มเดิน 8.40am.-15.50pm.
ระดับความโหด (สำหรับมือใหม่) : 3.5 กะโหลก (เต็ม5)
https://www.thecoromandel.com/activities/must-do/the-pinnacles/


 ช่วงที่โหดจริง ๆ คือ 1 ชม.แรก ทางเป็นบันไดค่อนข้างชัน ถ้าเจออากาศชื้นก็จะยิ่งลื่นด้วย 
หัวใจเต้นแรงมากเหมือนจะหลุดออกมา ร่างกายยังไม่ทันได้ตั้งตัวอาจจะช็อคหน่อย ๆ
 
แนะนำว่าให้รีบกินอาหารเช้ารองท้องแบบเบา ๆ มาก่อนเวลาเดินซัก 1 ชม. เพราะเพื่อนเรากินนมเข้าไปก่อนเดิน 
เดินไปได้ 30 นาที อ้วกพุ่งจ้า 

ครึ่งทางแล้ว จะเจอป้ายนี้ค่ะ


ต้องปีนเขาด้านหลังนี้กันค่ะ หลังจากเดินมาได้ประมาณ 2ชม.
 
อีกช่วงที่โหดร้ายแบบไม่ทันเตรียมใจคือ ช่วง 50 นาทีก่อนถึงยอดเขา
เป็นบันได ไต่ขึ้นเขาไปเรื่อยๆ
จากนั้นจะเจอทางเป็นหินชันที่ต้องปีนป่าย ย้ำว่าต้องปีนด้วยมือ นี่ยังคิดว่าองค์ทาซานต้องมาแล้วจุดนี้ 

 
ผู้ร่วมทริป เพื่อนคนญี่ปุ่น ฟิลิปปินส์ กีวี่
 

เริ่มปีนป่าย

นอกจากต้องปีนป่ายแล้วยังต้องคอยหลบทางให้คนลงด้วย เพราะทางบางช่วงแคบ 
ใครกลัวความสูงอย่ามองกลับหลัง
เดินหน้าอย่างเดียวพอ

ถึงยอดแล้ว วิวสวยมาก แบบสวยหายเหนื่อยเลย

พักกินแซนวิชกันเรียบร้อยก็เดินกลับ 
ขากลับที่ต้องปีนลงนี่ก็โหด เพราะเห็นด้านล่างด้วย หน้าซีดกันเป็นแถบ ๆ
 
เดินจบด้วยเวลา 6.5 ชม. ถือว่าไม่ขี้เหร่สำหรับการเดินครั้งแรก

ครั้งต่อมา (ครั้งที่ 2)
สถานที่ : Mt. Taranaki, New Plymount (เกาะเหนือ)
เส้นทาง : Mangorei track
ระยะทาง : 12Km.
ระยะเวลา : 5-6hrs. (ไป-กลับ)
ระดับความโหด (สำหรับมือใหม่) : 3 กะโหลก
https://tinytramper.com/mangorei-track-pouakai-ranges-egmont-national-park/
 
Mt. Taranaki มีรูปร่างหน้าตาคล้ายกับภูเขาไฟฟูจิที่ญี่ปุ่นเลย แถมเป็นโลเคชั่นที่ถ่ายทำหนังเรื่อง The last samurai ด้วยนะ
 
ภูเขาทารานากิ สามารถเดินได้หลายเส้นทาง มีความยากง่ายและระยะเวลาต่างกัน 
แน่นอนว่าเราต้องเลือกทางที่สั้นและง่ายที่สุด แต่วันที่ไปถึงอากาศค่อนข้างแปรปรวน ฝนตก ๆ หยุด ๆ ตลอดทั้งวัน
 
เรากับเพื่อนขับรถไปจอดรอจนฝนหยุดแล้วถึงเริ่มเดิน

ระหว่างเดินเจอทั้งลม ฝน และลูกเห็บ 
อุปกรณ์เพิ่มเติมสำหรับเส้นทางนี้คือเสื้อกันฝนค่ะ


ทางขึ้น-ลงเป็นบันไดไม้กว้าง ๆ ไม่สูงมาก เดินเรื่อย ๆ แต่ยากตรงที่ฝนเพิ่งหยุด เลยมีแอ่งน้ำตลอดทาง

แฉะ...

ใกล้แล้ว อีกนิดเดียว..

ฮืออออออ ถึงปุ๊ป หมอกลงปั๊ป! หมดกัน TT เมื่อกี้ฟ้ายังใสอยู่เลย งงมากแม่

แต่พอหันไปด้านขวา อ่าวเมฆบังนี่นา งั้นรออีกหน่อยละกัน ^^

ตั้งใจจะไปให้ถึงวิวทะเลสาบ แต่เจออากาศไม่ดีเลยถอดใจ
ได้รูปวิวแค่นี้ก็ดีใจแล้ว

ขากลับแวะเข้าห้องน้ำที่ camp

จบแทรกนี้ไปแบบชิล ๆ เหมือนวอร์มร่างกาย

ครั้งที่ 3
Mt. Tongariro

มาถึงไฮไลท์ของเราแล้ว ตอนนี้มีความมั่นใจขึ้น หลังจากไปเดินทั้ง 2 ที่มา(เดิน 3ที่ ใน 1อาทิตย์)
สถานที่ : Tongariro crossing (เกาะเหนือ)
ความสูง : 1,886M.
ระยะทาง : 19.4Km.
ระยะเวลา : 8-9hrs.(one way)
ระดับความโหด(สำหรับมือใหม่) : 10กะโหลก (ได้ข่าวว่าเต็ม5)
https://www.tongarirocrossing.org.nz
 
เราจึงทำการหาข้อมูลก่อนไป 2 วัน แล้วพบว่าช่วงเดือนที่ไปเนี่ย ถือว่าเข้า Winter แล้ว (May-October)
ไม่สามารถไปเดินเองได้เพราะจะอันตรายมาก ต้องไปกับไกด์ 
 
ค่าไกด์ : 200NZ/คน(ประมาณ 4,000บาท)
ราคานี้รวมค่า Shuttle bus รับส่งที่ hostel+อุปกรณ์(หมวกHelmet, ที่เจาะน้ำแข็ง, หมุดเจาะน้ำแข็งใส่รองเท้า, เป้)+เสื้อผ้า (รองเท้า, Jacket, กางเกงกันหนาว) แล้ว
 
ไกด์ 1 คนดูแลลูกทัวร์ประมาณ 8-10 คน 
ข้อดีที่มากับไกด์คือ เราแทบไม่ต้องเตรียมอุปกรณ์อะไรเลย เพราะเค้ามีให้หมดและรับรองว่าใช้ได้จริง
รายละเอียดไกด์เพิ่มเติม : https://www.adventureoutdoors.co.nz/category/tongariro-crossing-guided-walks-scenic-highlight-tours
 
แนะนำว่าถ้ามาหน้าหนาว ไม่ต้องแบก Jacket ไปเยอะ เดินไปก็ร้อน มีหนาวแค่ช่วงนั่งพักเท่านั้น 
ที่สำคัญคือ น้ำและเสบียง พวกอาหารให้พลังงาน เช่น ช็อคโกแลต โปรตีนบาร์ กล้วย แอปเปิล ขนมหวาน
 
พยายามทำตัวให้เบาที่สุด
 
รถบัสมารับแต่เช้าตรู่

ในรถมีอุปกรณ์ให้เลือกเพียบ รองเท้ามีทุกไซส์ เสื้อ กางเกง เป้ มีหมด!

แต่งตัว แจกอุปกรณ์ที่จำเป็น และไกด์แนะนำตัวพร้อมอธิบายเส้นทางและข้อควรปฏิบัติ


To be continued...