กระทู้รีวิวแรกนะคะ ผิดพลาดตรงไหนบอกกันได้นะ
ถ่ายรูปไม่สวยแต่พยายามนะ 555 ส่วนใหญ่ใช้ iphone ถ่ายนะคะ
เห็นมีคนรีวิวขับรถเที่ยวนิวซีแลนด์เยอะแล้ว
วันนี้เลยอยากมารีวิวเส้นทาง hiking ที่นิวซีแลนด์บ้าง ซึ่งประเทศเขามีเยอะมากจริงๆ และสำหรับเรา ยิ่งเดินเยอะวิวยิ่งสวย
ธรรมชาตินิวซีแลนด์สวยงาม สะอาด น่าสัมผัสมากจริงๆ ซึ่งที่เราไปมานั้น มีทั้งแบบค้างคืน และ เดินไม่กี่ชั่วโมง มีเส้นทางค่อนข้างชัดเจน ไม่หลงง่ายๆแน่นอน ส่วนเรื่องความปลอดภัยนั้น ส่วนใหญ่ไม่อันตรายอะไร แต่ย้ำว่าต้องดูแลตัวเอง เพราะบางที่มีคนผลัดหลง หรือ ตกเขา จนเสียชีวิต
เส้นทางทุกที มี Department of Conservation เป็นผู้ดูแล และถ้าเป็นเส้นทางที่นิยม เค้ามีปูพื้นอย่างดีเชียวแหละ
แต่สถานที่ท่องเที่ยวแทบทุกที่ที่เราไป จะมีทางให้เดินหมด บางที 10 นาที บางที 1 ชั่วโมง บางที 8 ชั่วโมง จะมีป้ายบอก เวลาตามป้ายก็สำหรับคนที่เดินช้าจริงๆ (อย่างเรา) คนส่วนใหญ่เดินได้เร็วกว่านั้น ยอมรับเลยว่าฝรั่งพวกนี้ฟิตกันจริงๆค่ะ เดินเร็วมาก หรือขาเราสั้นก็ไม่รู้ 555
เส้นทางเดินไม่ว่าจะไกลหรือใกล้ สามารถหาข้อมูลได้ที่ www.doc.govt.nz จะมีแผนที่ มีข้อมูล มีเวลาบอก และมี warning บอกด้วย ระดับความยากง่ายที่บอกในเว็บ ตามที่เราประสบมา ไม่ได้เกี่ยวกับว่าเดินเหนื่อยหรือไม่ แต่เป็นความอันตรายของเส้นทางมากกว่า
ตัวอย่างข้อมูลจากเว็บ doc ของ Tongariro Alpine Crossing
Backcountry Hut
นิวซีแลนด์มีระบบ hut system ซึ่งจะอารมณ์ประมาณที่พักระหว่างการ hiking ซึ่งกระจายอยู่ทั้วประเทศเลย ส่วนใหญ่ไม่ฟรีนะคะ ถ้าไม่มี hut warden หรือ คนเฝ้า ก็จะมีกล่องให้ใส่เงิน ใช้ระบบความซื่อสัจ มีฝูกให้ ต้องเอาถุงนอนไปเอง บางที่บางเวลามีแก๊ซมีน้ำ บางที่ไม่มี ห้องน้ำส่วนใหญ่เป็นแบบ septic tank ที่เป็นหลุม แต่มีส้วมนะไม่ต้องนั่งยองๆ แต่ไม่มีที่อาบน้ำ ไปพักแล้วต้องทำอะไรเลอะก็ต้องทำความสะอาดให้เขาด้วยนะ ที่สำคัญ ไม่มีถังขยะ ต้องพกถุงไปใส่ขยะตัวเองด้วย
แต่ที่สำคัญกว่านั้น hut พวกนี้ หลายที่วิวสวยมากกกกกกกกก
New Zealand Great Walks
เป็นเส้นทาง hiking ที่เป็นที่นิยมมาก มีทั้งหมด 9 แห่ง แต่ละที่มีวิวและภูมิประเทศที่แตกต่างกันไป เส้นทางเดินจะมีลูกศรบอกค่อนข้างชัดเจน
ในช่วง great walk season คือช่วง oct - may จำเป็นต้องจองhut เพราะคนเยอะจริง ยิ่งอันที่เป็นที่นิยมเช่น Milford track, Kepler track หรือ Routeburn track จองเต็มค่อนข้างเร็ว (เราจอง 4 เดือนก่อนหน้า) ต้องเตรียมเสื้อผ้า อาหาร อุปกรณ์ทำอาหารไปเองทั้งหมด ไม่มีที่อาบน้ำ แต่มีห้องน้ำและอ่าง
แต่ละที่นั้นค่อนข้างไม่เหมือนกันนะคะ อย่างเช่น
Tongariro - ภูเขาไฟ
Whaganui - เป็นแม่น้ำ ต้องพายเรือไป แทนการเดิน
Abel Tasman - มีเดินผ่านชายหาด ต้องดูน้ำขึ้นน้ำลงอะไรแบบนั้น
ข้อมูลเพิ่มเติมหาได้ที่ www.doc.govt.nz
นี่คือที่ๆเราจะมาแนะนำวันนี้ค่ะ ส่วนใหญ่อยู่ เกาะใต้ เพราะหลงเสน่ห์ภูเขาหิมะมากจริงๆ
Tongariro Northern Circuit หนึ่งใน NZ great walks
อันนี้อยู่ใน Tongariro National Park เกาะเหนือ ค่ะ ดาวเด่นคือ Mt Ngauruhoe (นา อู รู ฮอย ออกเสียงชัดๆนะคะ) หรือ Mt Doom จาก LOTR นั่นเองค่ะ
เราใช้เวลา 4 วันในการเดินค่ะ แต่เห็นมีคนใช้เวลาเดิน 2 วัน หรือ 3 วันก็ได้ค่ะ วันที่หนักที่สุดคือ Alpine crossing
ซึ่ง Tongariro Alpine Crossing สามารถเดินได้ในวันเดียว ไม่ต้องค้าง เป็นที่นิยมมาก หากมาพักที่เมืองใกล้ๆ จะมี shuttle bus หลายเจ้าที่ให้บริการรับส่งค่ะ แต่บางวันก็ปิดไม่สามารถเดินได้เพราะลมแรงเกินไป สามารถเช็คอากาศได้ตามที่พัก information centre, visitor centre ของอุทยาณ หรือถ้าเขาปิด shuttle bus ก็ไม่ไปส่งค่ะ
ไม่ว่าจะเป็นเส้นทางไหน ต้องเตรียมตัวให้พร้อมนะคะ เพราะบนเขาหนาวมาก + ลมแรงมาก วันที่เราไปหิมะตก ต้องมีถุงมือ หมวก รองเท้า แล้วบางส่วนชันและลื่นมาก มีโซ่เส้นนึงให้โหนตัวขึ้นไป
หากมีเวลาน้อย แนะนำให้ไป Alpine crossing ก็คุ้มแล้วค่ะ เป็นไฮไลท์จริงๆ แต่เราไม่เสียใจที่เลือก Northern Circuit เพราะได้เห็นธรรมชาติมันยิ่งใหญ่มากค่ะ รู้สึกตัวเองตัวเล็กนิดเดียว บางทีเหมือนอยู่บนดวงจันทร์ ดาวอังคารอะไรแบบนั้นเลย มันกว้างสุดลูกหูลูกตา แล้วแต่ละวันวิวไม่เหมือนกันเลย
ตอนที่เราไปอากาศดีแค่วันแรก ที่เหลือเมฆหมอกเยอะมาก แต่ก็ให้บรรยากาศที่แตกต่างกันไปค่ะ ดูลึกลับเหมือนในหนัง
สีแดง Tongariro Alpine Crossing - เดิน 19 กิโล (day walk) คนเดินเยอะค่ะ
สีน้ำเงิน Tongariro Northern Circuit - 40 กว่า กิโล 2-4วัน
Routeburn Track หนึ่งใน NZ great walk

สีส้ม Routeburn
สีฟ้า Milford
สีชมพู Kepler
เป็น great walk ทั้งสามอันค่ะ
Routeburn Track ระยะทางประมาณ 32 กิโล เราใช้เวลา 3 วันค่ะ เส้นทางนี้ผ่าน Fiordland National Park ไป Aspiring National Park
เดินผ่านป่าต้นบีชสูงใหญ่ปกคลุมด้วยมอสสีเขียว วิวภูเขาสลับไปมา ทะเลสาปใสเห็นข้างใต้ ได้เห็นทะเลสาปเล็กๆระหว่างซอกเขาไหลลงไปเป็นน้ำตกสูง ไหลไปอีกลงไปเป็นแม่น้ำ ตะลึงมาก มองอยู่นานมาก แต่ถ่ายรูปออกมาไม่ค่อยชัดเพราะฝนตก 555 เลยมาบรรยายให้ฟังค่ะ
มีรูปมาไม่เยอะ เพราะฝนตกทั้งวัน ทางแถบนี้ฝนตกบ่อยมาก เฉลี่ยประมาณ 300วันต่อปีเชียว
รูปเพิ่มเติม google เอาได้นะคะ 555 ไม่มีจริงๆ
สามารถเดินเป็น day trip ได้ด้วยนะคะ เริ่มจาก The divide ไป Key summit และ เราแนะนำให้เลยไป Howden hut ด้วย วิวสวยมากๆ
ดูตามรูปข้างล่าง
Roys Peak - Wanaka 16km ไปกลับทางเดิม ขึ้น ขึ้น และ ขึ้น ตลอด
ได้ยินเขาเล่ามาว่าอันนี้โหด ตอนแรกไม่อยากไปค่ะ ขี้เกียจ 555 แต่ขับรถผ่าน Wanaka รอบที่ 3 จะไม่ไปเดี๊ยวจะหาว่าไปไม่ถึง
เอาก็เอาสิ เอาเข้าจริง เราเดินช้าๆเชื่อยๆไปเรื่อยๆ ไม่เหนื่อยมากนะ ขาขึ้นใช้เวลาไปประมาณ 3 ชั่วโมงแน่ะ วิวสวยมากกกกก สมกับระยะทางจริงๆ ขาลงวิ่งลงบ้างเดินบ้าง เจ็บเข่าจนถึงวันนี้
ใครจะไป ให้ขับรถไปทาง wanaka-aspiring road นะคะ ไปสัก 4 กิโลจะเจอที่จอดรถมีป้ายเล็กๆ เริ่มเดินจากตรงนั้นค่ะ
Mt Cook - หลงเสน่ห์ snow capped mountain ยอดภูเขาที่ปกคลุมด้วยหิมะ จนต้องกลับไปอีก
มีเวลาเหลือ 3 วัน ไม่ลังเล เช่ารถขับไป mt cook โลดค่ะ ก่อนถึงเจอ Lake Pukaki สีฟ้าสวยงามแบบไม่เคยเห็นมาก่อน เพราะที่ไปครั้งแรก ฝนตก มองไม่เห็นอะไรเลย ครั้งที่สองอากาศดีขึ้น แต่ก็ยังไม่มีวาสนาได้เห็น mt cook อยู่ดี ขี้อายจริงๆ
Mt cook มีที่ให้เดินเยอะจริงๆ ไม่เดินคงไม่ได้เห็นวิวสวยๆแน่นอน เพราะรถก็ขับไปได้ถึง Mt Cook village เท่านั้น
แนะนำให้ไปที่ visitor centre ก่อน เพื่อถามสภาพอากาศและสภาพเส้นทางเดิน ตอนที่เราไปหิมะและลูกเห็บตก
ก่อนจะถึง Mt Cook village จะมีป้ายชี้ไป Tasman Glacier ไปจอดรถแล้วเริ่มไต่บันไดกันเลย เดินไม่ไกลมากก็ถึง
ทางเดินมีชี้ไป 2 ทาง คือ glacier view point กับ Tasman River
View point ไปดูจากมุมสูง ถ้าอยากไกลชิด ให้เดินไป Tasman River ด้วย ไม่ไกลเลย
ขับเลยมาอีกนิด ก่อนถึง Mt Cook village จะเจอ ทางไป Hooker Valley ที่จอดรถเรียกว่า white horse hill carpark
จากที่จอดรถตรงนี้ เราสามารถเดินไป:
Hooker Valley - 3 ชั่วโมง เดินเรียบๆง่ายๆ
Kea Point - 30 นาที ชิวมากๆ
Mueller Hut/ Sealy Tarns - Sealy Tarns 2.5 ชั่วโมง ไต่บันไดขึ้นไปๆๆๆๆๆ 2000 กว่าขั้น มันเหนื่อยมาก พอยิ่งสูงมีหิมะ จาก บันไดกลายเป็นเนินลื่นๆ น่ากลัวนะคะ กลัวได้ลงทางลัด แต่อันนี้ชอบที่สุดเลยค่ะ สวยอลังการมาก จากรูปล่างสุด มองไปสีดำๆระหว่างเขานั่นคือธารน้ำแข็ง ละลายมาอยู่ในทะเลสาปเล็กๆ และจาก Sealy Tarns จะเห็นน้ำจากทะเลสาปไหลลงไปสู่ Lake Pukaki เลย
- ส่วน Mueller Hut อยากไปมาก มีคนโชว์รูปให้ดูสวยมากๆ แต่คงไม่มีปัญญา วันที่เราไปเขาไม่ให้ขึ้น เพราะอาจมีหิมะถล่ม และถ้าจะไปถึง Mueller hut ช่วงที่เราไปไกลจะหน้าร้อนแล้ว ยังต้องใช้ crampons(หนามๆใต้รองเท้า) กับ ice axe อยู่เลย ถ้าไม่มีประสบการณ์ ควรจ้างไกด์ อย่าไปตามคนอื่นนะ เพราะบางคนเขารู้จักเส้นทางดีและเคยเดินบนหิมะมาชำนาญแล้ว
ขอย้ำอะไรหน่อยนะคะ
1. ควรศึกษาเส้นทางที่จะไปนิดนึง
2. หากไป National Park ต่างๆ ควรไปสอบถามที่ information centre ก่อน
3. ยิ่งถ้าจะขึ้นที่สูง ยิ่งควรไปสอบถามที่ information centre ก่อน
4. เก็บขยะกลับมาด้วยทุกชิ้น ไม่เฉพาะพลาสติก แต่สิ่งที่ย่อยสลายได้ด้วย เพราะก่อนมันสลาย มันเน่าก่อน อะไรที่เราเอาไปให้เอากลับมาด้วยทุกอย่าง
จบแค่นี้ค่ะ อธิบายไม่ค่อยเก่ง แต่สงสัยอะไรถามได้นะคะ
ชวนไป Hiking ชมวิว ที่ New Zealand
กระทู้รีวิวแรกนะคะ ผิดพลาดตรงไหนบอกกันได้นะ
ถ่ายรูปไม่สวยแต่พยายามนะ 555 ส่วนใหญ่ใช้ iphone ถ่ายนะคะ
เห็นมีคนรีวิวขับรถเที่ยวนิวซีแลนด์เยอะแล้ว
วันนี้เลยอยากมารีวิวเส้นทาง hiking ที่นิวซีแลนด์บ้าง ซึ่งประเทศเขามีเยอะมากจริงๆ และสำหรับเรา ยิ่งเดินเยอะวิวยิ่งสวย
ธรรมชาตินิวซีแลนด์สวยงาม สะอาด น่าสัมผัสมากจริงๆ ซึ่งที่เราไปมานั้น มีทั้งแบบค้างคืน และ เดินไม่กี่ชั่วโมง มีเส้นทางค่อนข้างชัดเจน ไม่หลงง่ายๆแน่นอน ส่วนเรื่องความปลอดภัยนั้น ส่วนใหญ่ไม่อันตรายอะไร แต่ย้ำว่าต้องดูแลตัวเอง เพราะบางที่มีคนผลัดหลง หรือ ตกเขา จนเสียชีวิต
เส้นทางทุกที มี Department of Conservation เป็นผู้ดูแล และถ้าเป็นเส้นทางที่นิยม เค้ามีปูพื้นอย่างดีเชียวแหละ
แต่สถานที่ท่องเที่ยวแทบทุกที่ที่เราไป จะมีทางให้เดินหมด บางที 10 นาที บางที 1 ชั่วโมง บางที 8 ชั่วโมง จะมีป้ายบอก เวลาตามป้ายก็สำหรับคนที่เดินช้าจริงๆ (อย่างเรา) คนส่วนใหญ่เดินได้เร็วกว่านั้น ยอมรับเลยว่าฝรั่งพวกนี้ฟิตกันจริงๆค่ะ เดินเร็วมาก หรือขาเราสั้นก็ไม่รู้ 555
เส้นทางเดินไม่ว่าจะไกลหรือใกล้ สามารถหาข้อมูลได้ที่ www.doc.govt.nz จะมีแผนที่ มีข้อมูล มีเวลาบอก และมี warning บอกด้วย ระดับความยากง่ายที่บอกในเว็บ ตามที่เราประสบมา ไม่ได้เกี่ยวกับว่าเดินเหนื่อยหรือไม่ แต่เป็นความอันตรายของเส้นทางมากกว่า
ตัวอย่างข้อมูลจากเว็บ doc ของ Tongariro Alpine Crossing
Backcountry Hut
นิวซีแลนด์มีระบบ hut system ซึ่งจะอารมณ์ประมาณที่พักระหว่างการ hiking ซึ่งกระจายอยู่ทั้วประเทศเลย ส่วนใหญ่ไม่ฟรีนะคะ ถ้าไม่มี hut warden หรือ คนเฝ้า ก็จะมีกล่องให้ใส่เงิน ใช้ระบบความซื่อสัจ มีฝูกให้ ต้องเอาถุงนอนไปเอง บางที่บางเวลามีแก๊ซมีน้ำ บางที่ไม่มี ห้องน้ำส่วนใหญ่เป็นแบบ septic tank ที่เป็นหลุม แต่มีส้วมนะไม่ต้องนั่งยองๆ แต่ไม่มีที่อาบน้ำ ไปพักแล้วต้องทำอะไรเลอะก็ต้องทำความสะอาดให้เขาด้วยนะ ที่สำคัญ ไม่มีถังขยะ ต้องพกถุงไปใส่ขยะตัวเองด้วย
แต่ที่สำคัญกว่านั้น hut พวกนี้ หลายที่วิวสวยมากกกกกกกกก
New Zealand Great Walks
เป็นเส้นทาง hiking ที่เป็นที่นิยมมาก มีทั้งหมด 9 แห่ง แต่ละที่มีวิวและภูมิประเทศที่แตกต่างกันไป เส้นทางเดินจะมีลูกศรบอกค่อนข้างชัดเจน
ในช่วง great walk season คือช่วง oct - may จำเป็นต้องจองhut เพราะคนเยอะจริง ยิ่งอันที่เป็นที่นิยมเช่น Milford track, Kepler track หรือ Routeburn track จองเต็มค่อนข้างเร็ว (เราจอง 4 เดือนก่อนหน้า) ต้องเตรียมเสื้อผ้า อาหาร อุปกรณ์ทำอาหารไปเองทั้งหมด ไม่มีที่อาบน้ำ แต่มีห้องน้ำและอ่าง
แต่ละที่นั้นค่อนข้างไม่เหมือนกันนะคะ อย่างเช่น
Tongariro - ภูเขาไฟ
Whaganui - เป็นแม่น้ำ ต้องพายเรือไป แทนการเดิน
Abel Tasman - มีเดินผ่านชายหาด ต้องดูน้ำขึ้นน้ำลงอะไรแบบนั้น
ข้อมูลเพิ่มเติมหาได้ที่ www.doc.govt.nz
นี่คือที่ๆเราจะมาแนะนำวันนี้ค่ะ ส่วนใหญ่อยู่ เกาะใต้ เพราะหลงเสน่ห์ภูเขาหิมะมากจริงๆ
Tongariro Northern Circuit หนึ่งใน NZ great walks
อันนี้อยู่ใน Tongariro National Park เกาะเหนือ ค่ะ ดาวเด่นคือ Mt Ngauruhoe (นา อู รู ฮอย ออกเสียงชัดๆนะคะ) หรือ Mt Doom จาก LOTR นั่นเองค่ะ
เราใช้เวลา 4 วันในการเดินค่ะ แต่เห็นมีคนใช้เวลาเดิน 2 วัน หรือ 3 วันก็ได้ค่ะ วันที่หนักที่สุดคือ Alpine crossing
ซึ่ง Tongariro Alpine Crossing สามารถเดินได้ในวันเดียว ไม่ต้องค้าง เป็นที่นิยมมาก หากมาพักที่เมืองใกล้ๆ จะมี shuttle bus หลายเจ้าที่ให้บริการรับส่งค่ะ แต่บางวันก็ปิดไม่สามารถเดินได้เพราะลมแรงเกินไป สามารถเช็คอากาศได้ตามที่พัก information centre, visitor centre ของอุทยาณ หรือถ้าเขาปิด shuttle bus ก็ไม่ไปส่งค่ะ
ไม่ว่าจะเป็นเส้นทางไหน ต้องเตรียมตัวให้พร้อมนะคะ เพราะบนเขาหนาวมาก + ลมแรงมาก วันที่เราไปหิมะตก ต้องมีถุงมือ หมวก รองเท้า แล้วบางส่วนชันและลื่นมาก มีโซ่เส้นนึงให้โหนตัวขึ้นไป
หากมีเวลาน้อย แนะนำให้ไป Alpine crossing ก็คุ้มแล้วค่ะ เป็นไฮไลท์จริงๆ แต่เราไม่เสียใจที่เลือก Northern Circuit เพราะได้เห็นธรรมชาติมันยิ่งใหญ่มากค่ะ รู้สึกตัวเองตัวเล็กนิดเดียว บางทีเหมือนอยู่บนดวงจันทร์ ดาวอังคารอะไรแบบนั้นเลย มันกว้างสุดลูกหูลูกตา แล้วแต่ละวันวิวไม่เหมือนกันเลย
ตอนที่เราไปอากาศดีแค่วันแรก ที่เหลือเมฆหมอกเยอะมาก แต่ก็ให้บรรยากาศที่แตกต่างกันไปค่ะ ดูลึกลับเหมือนในหนัง
สีแดง Tongariro Alpine Crossing - เดิน 19 กิโล (day walk) คนเดินเยอะค่ะ
สีน้ำเงิน Tongariro Northern Circuit - 40 กว่า กิโล 2-4วัน
Routeburn Track หนึ่งใน NZ great walk
สีส้ม Routeburn
สีฟ้า Milford
สีชมพู Kepler
เป็น great walk ทั้งสามอันค่ะ
Routeburn Track ระยะทางประมาณ 32 กิโล เราใช้เวลา 3 วันค่ะ เส้นทางนี้ผ่าน Fiordland National Park ไป Aspiring National Park
เดินผ่านป่าต้นบีชสูงใหญ่ปกคลุมด้วยมอสสีเขียว วิวภูเขาสลับไปมา ทะเลสาปใสเห็นข้างใต้ ได้เห็นทะเลสาปเล็กๆระหว่างซอกเขาไหลลงไปเป็นน้ำตกสูง ไหลไปอีกลงไปเป็นแม่น้ำ ตะลึงมาก มองอยู่นานมาก แต่ถ่ายรูปออกมาไม่ค่อยชัดเพราะฝนตก 555 เลยมาบรรยายให้ฟังค่ะ
มีรูปมาไม่เยอะ เพราะฝนตกทั้งวัน ทางแถบนี้ฝนตกบ่อยมาก เฉลี่ยประมาณ 300วันต่อปีเชียว
รูปเพิ่มเติม google เอาได้นะคะ 555 ไม่มีจริงๆ
สามารถเดินเป็น day trip ได้ด้วยนะคะ เริ่มจาก The divide ไป Key summit และ เราแนะนำให้เลยไป Howden hut ด้วย วิวสวยมากๆ
ดูตามรูปข้างล่าง
Roys Peak - Wanaka 16km ไปกลับทางเดิม ขึ้น ขึ้น และ ขึ้น ตลอด
ได้ยินเขาเล่ามาว่าอันนี้โหด ตอนแรกไม่อยากไปค่ะ ขี้เกียจ 555 แต่ขับรถผ่าน Wanaka รอบที่ 3 จะไม่ไปเดี๊ยวจะหาว่าไปไม่ถึง
เอาก็เอาสิ เอาเข้าจริง เราเดินช้าๆเชื่อยๆไปเรื่อยๆ ไม่เหนื่อยมากนะ ขาขึ้นใช้เวลาไปประมาณ 3 ชั่วโมงแน่ะ วิวสวยมากกกกก สมกับระยะทางจริงๆ ขาลงวิ่งลงบ้างเดินบ้าง เจ็บเข่าจนถึงวันนี้
ใครจะไป ให้ขับรถไปทาง wanaka-aspiring road นะคะ ไปสัก 4 กิโลจะเจอที่จอดรถมีป้ายเล็กๆ เริ่มเดินจากตรงนั้นค่ะ
Mt Cook - หลงเสน่ห์ snow capped mountain ยอดภูเขาที่ปกคลุมด้วยหิมะ จนต้องกลับไปอีก
มีเวลาเหลือ 3 วัน ไม่ลังเล เช่ารถขับไป mt cook โลดค่ะ ก่อนถึงเจอ Lake Pukaki สีฟ้าสวยงามแบบไม่เคยเห็นมาก่อน เพราะที่ไปครั้งแรก ฝนตก มองไม่เห็นอะไรเลย ครั้งที่สองอากาศดีขึ้น แต่ก็ยังไม่มีวาสนาได้เห็น mt cook อยู่ดี ขี้อายจริงๆ
Mt cook มีที่ให้เดินเยอะจริงๆ ไม่เดินคงไม่ได้เห็นวิวสวยๆแน่นอน เพราะรถก็ขับไปได้ถึง Mt Cook village เท่านั้น
แนะนำให้ไปที่ visitor centre ก่อน เพื่อถามสภาพอากาศและสภาพเส้นทางเดิน ตอนที่เราไปหิมะและลูกเห็บตก
ก่อนจะถึง Mt Cook village จะมีป้ายชี้ไป Tasman Glacier ไปจอดรถแล้วเริ่มไต่บันไดกันเลย เดินไม่ไกลมากก็ถึง
ทางเดินมีชี้ไป 2 ทาง คือ glacier view point กับ Tasman River
View point ไปดูจากมุมสูง ถ้าอยากไกลชิด ให้เดินไป Tasman River ด้วย ไม่ไกลเลย
ขับเลยมาอีกนิด ก่อนถึง Mt Cook village จะเจอ ทางไป Hooker Valley ที่จอดรถเรียกว่า white horse hill carpark
จากที่จอดรถตรงนี้ เราสามารถเดินไป:
Hooker Valley - 3 ชั่วโมง เดินเรียบๆง่ายๆ
Kea Point - 30 นาที ชิวมากๆ
Mueller Hut/ Sealy Tarns - Sealy Tarns 2.5 ชั่วโมง ไต่บันไดขึ้นไปๆๆๆๆๆ 2000 กว่าขั้น มันเหนื่อยมาก พอยิ่งสูงมีหิมะ จาก บันไดกลายเป็นเนินลื่นๆ น่ากลัวนะคะ กลัวได้ลงทางลัด แต่อันนี้ชอบที่สุดเลยค่ะ สวยอลังการมาก จากรูปล่างสุด มองไปสีดำๆระหว่างเขานั่นคือธารน้ำแข็ง ละลายมาอยู่ในทะเลสาปเล็กๆ และจาก Sealy Tarns จะเห็นน้ำจากทะเลสาปไหลลงไปสู่ Lake Pukaki เลย
- ส่วน Mueller Hut อยากไปมาก มีคนโชว์รูปให้ดูสวยมากๆ แต่คงไม่มีปัญญา วันที่เราไปเขาไม่ให้ขึ้น เพราะอาจมีหิมะถล่ม และถ้าจะไปถึง Mueller hut ช่วงที่เราไปไกลจะหน้าร้อนแล้ว ยังต้องใช้ crampons(หนามๆใต้รองเท้า) กับ ice axe อยู่เลย ถ้าไม่มีประสบการณ์ ควรจ้างไกด์ อย่าไปตามคนอื่นนะ เพราะบางคนเขารู้จักเส้นทางดีและเคยเดินบนหิมะมาชำนาญแล้ว
ขอย้ำอะไรหน่อยนะคะ
1. ควรศึกษาเส้นทางที่จะไปนิดนึง
2. หากไป National Park ต่างๆ ควรไปสอบถามที่ information centre ก่อน
3. ยิ่งถ้าจะขึ้นที่สูง ยิ่งควรไปสอบถามที่ information centre ก่อน
4. เก็บขยะกลับมาด้วยทุกชิ้น ไม่เฉพาะพลาสติก แต่สิ่งที่ย่อยสลายได้ด้วย เพราะก่อนมันสลาย มันเน่าก่อน อะไรที่เราเอาไปให้เอากลับมาด้วยทุกอย่าง
จบแค่นี้ค่ะ อธิบายไม่ค่อยเก่ง แต่สงสัยอะไรถามได้นะคะ