สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 9
20 ปี มันก็โตพอที่จะใช้ชีวิตคนเดียวได้ละนะครับ
ผม 15 ยังใช้ชีวิตคนเดียวได้เลย (แม่ตาย พ่อมีแฟนใหม่)
ทำงานส่งตัวเองเรียนจนจบมหาลัยของรัฐ
สิ่งหนึงที่พี่อยากแนะนำน้องคือ เลิกหน้าบาง ขี้อาย กล้าเปลี่ยนแปลงตัวเอง
พี่ขอพูดเรื่อง มนุษยสัมพันธ์ พี่ว่าน้องคงซึมซับมาจากคุณแม่ เพราะจากที่อ่านน้องคงเป็นคนขี้กลัว ไม่ชอบการเปลี่ยนแปลง
หลักสำคัญๆ มีข้อเดียว คือความจริงใจ พุ่งชนปัญหา ใช้สติปัญญาแก้ไขปัญหา หัดยอมรับความจริง ธรรมชาติของคน คือการเอาตัวรอด ไม่มีใครสามารถลิขิตชีวิตเราได้ นอกจากตัวเราเอง
ตัดสินใจให้ดีครับ
ผม 15 ยังใช้ชีวิตคนเดียวได้เลย (แม่ตาย พ่อมีแฟนใหม่)
ทำงานส่งตัวเองเรียนจนจบมหาลัยของรัฐ
สิ่งหนึงที่พี่อยากแนะนำน้องคือ เลิกหน้าบาง ขี้อาย กล้าเปลี่ยนแปลงตัวเอง
พี่ขอพูดเรื่อง มนุษยสัมพันธ์ พี่ว่าน้องคงซึมซับมาจากคุณแม่ เพราะจากที่อ่านน้องคงเป็นคนขี้กลัว ไม่ชอบการเปลี่ยนแปลง
หลักสำคัญๆ มีข้อเดียว คือความจริงใจ พุ่งชนปัญหา ใช้สติปัญญาแก้ไขปัญหา หัดยอมรับความจริง ธรรมชาติของคน คือการเอาตัวรอด ไม่มีใครสามารถลิขิตชีวิตเราได้ นอกจากตัวเราเอง
ตัดสินใจให้ดีครับ
ความคิดเห็นที่ 2
โดนตบตีมาตั้งแต่แรก ก็ยังทน เพราะขาด ผข ไม่ได้
เรื่องบ้าน อาจจะต้องลองปรึกษาทนาย แต่ก็มีค่าเท่าเดิม เพราะแม่หย่ากับคนนี้ แม่คุณก็ไปหา ผช ใหม่ ปัญหาใหม่ก็วนเหมือนเดิม
แม่ จขกท คือตัวปัญหา
ทิ้งแกไว้เหอะ ไม่มีประโยชน์ที่จะช่วย ทำตัวเอง ก็ปล่อยให้เค้ารับกรรมไป
ส่วน จขกท โทรหาญาติ แล้ว จขกท ก็ไปขออาศัยกับเค้า เรียนให้จบ หางานทำ และจำไว้ว่า อย่าหา ผญ ที่ไร้ประโยชน์และมักง่ายแบบแม่ ชีวิตจะได้ไม่วุ่นวาย
เรื่องบ้าน อาจจะต้องลองปรึกษาทนาย แต่ก็มีค่าเท่าเดิม เพราะแม่หย่ากับคนนี้ แม่คุณก็ไปหา ผช ใหม่ ปัญหาใหม่ก็วนเหมือนเดิม
แม่ จขกท คือตัวปัญหา
ทิ้งแกไว้เหอะ ไม่มีประโยชน์ที่จะช่วย ทำตัวเอง ก็ปล่อยให้เค้ารับกรรมไป
ส่วน จขกท โทรหาญาติ แล้ว จขกท ก็ไปขออาศัยกับเค้า เรียนให้จบ หางานทำ และจำไว้ว่า อย่าหา ผญ ที่ไร้ประโยชน์และมักง่ายแบบแม่ ชีวิตจะได้ไม่วุ่นวาย
ความคิดเห็นที่ 1
บ้านซื้อมาหลังจดทะเบียนสมรสไม่ใช่เหรอ งั้นมันก็ต้องเป็นสินสมรส
ถึงจะเป็นชื่อของพ่อเลี้ยงคุณคนเดียว แต่มันก็คือสินสมรส ถ้าจะเลิกต้องแบ่งกันคนละครึ่ง
ถ้าเขาดึงดันจะไล่ออกให้ได้ ก็ต้องฟ้องร้องกันแหละค่ะ
ผู้ชายที่ทำร้ายร่างกาย ใช้ความรุนแรง มันมีความเห็นแก่ตัว ความเลวอยู่แทบทุกคน
ถ้าเจอควรจะเลิก ไม่ใช่ไปอยู่กินกับเขาต่อ จดทะเบียนกับเขา แถมยังให้ทรัพย์สินทุกอย่างเป็นชื่อเขา
แม่คุณน่ะคิดอะไรง่าย ๆ พอรักเข้าตาก็ตามใจสามีใหม่อย่างเดียว ครั้งนี้คือบทเรียนราคาแพงค่ะ
ถึงจะเป็นชื่อของพ่อเลี้ยงคุณคนเดียว แต่มันก็คือสินสมรส ถ้าจะเลิกต้องแบ่งกันคนละครึ่ง
ถ้าเขาดึงดันจะไล่ออกให้ได้ ก็ต้องฟ้องร้องกันแหละค่ะ
ผู้ชายที่ทำร้ายร่างกาย ใช้ความรุนแรง มันมีความเห็นแก่ตัว ความเลวอยู่แทบทุกคน
ถ้าเจอควรจะเลิก ไม่ใช่ไปอยู่กินกับเขาต่อ จดทะเบียนกับเขา แถมยังให้ทรัพย์สินทุกอย่างเป็นชื่อเขา
แม่คุณน่ะคิดอะไรง่าย ๆ พอรักเข้าตาก็ตามใจสามีใหม่อย่างเดียว ครั้งนี้คือบทเรียนราคาแพงค่ะ
แสดงความคิดเห็น
แฟนใหม่ของแม่จะไล่เราและแม่เราออกจากบ้าน
ผมอายุ 20 ปีกำลังจะเข้ามหาลัย แม่ผม 49 ไม่มีอาชีพอยู่บ้านเฉยๆ น้าผม(แฟนใหม่แม่) อายุ 34
ท้าวความไปเมื่อ 5 ปีที่แล้ว ตอนนั้นผมและแม่มีบ้านเป็นของแม่ มีแค่แม่อาศัยอยู่กับเราแค่ 2 คน โดยที่แม่ไม่ได้ทำงาน อยู่บ้านเลี้ยงผมไปวันๆ
ได้เงินมาจากพ่อของผม ซึ่งเลิกกันไปแล้วแยกทางกันอยู่ แต่พ่อเขายังส่งเงินให้แม่และผมอยู่ทุกเดือนตั้งแต่แยกทางกัน
หลังจากนั้นแม่ก็เริ่มเล่นเฟสบุ๊ก
ทำให้ไปรู้จักกับน้า จนเริ่มเข้ากันได้ น้าก็เลยย้ายมาอยู่กับแม่ผม ( ก่อนที่น้าจะมาอยู่กับแม่ผมเขาไม่ได้ทำงานอะไรเลย มาตัวเปล่าไม่มีอะไรเป็นของตัวเองเลยนอกจากเสื้อผ้า ) ย้ายชื่อตัวเองมาเข้าทะเบียนบ้านเป็นคนในครอบครัวเรียบร้อย คบหากันไปประมาณ 2 ปีนิดๆก็ได้จดทะเบียนสมรสกัน และอีกไม่นานน้าก็เริ่มมีความคิดอยากซื้อบ้านใหม่ แม่ก็เห็นด้วย แต่ผมเฉยๆมาก เพราะผมอยู่บ้านหลังนี้มาตั้งแต่เกิด ผมก็ผูกพัน จนในที่สุดก็ย้ายบ้านมาอีกจังหวัดนึงจนถึงปัจจุบัน ชีวิตผมก็เปลี่ยนไปเลย หลังจากย้ายเข้าบ้านใหม่ ( บ้านหลังนี้ได้กู้โดยใช้ชื่อน้า และบ้านหลังนี้น้าก็เป็นเจ้าบ้าน ) ทุกอย่างไม่ค่อยมีความสุขตั้งแต่น้าผมเข้ามาเป็นส่วนนึงในครอบครัว ผมต้องดรอปเรียนไป 1 ปี เนื่องจากย้ายบ้านกะทันหัน อยู่ด้วยกันมาสักพักน้าก็เริ่มใช้กำลังกับคนในครอบครัว แต่เขาไม่ทำร้ายผมนะ เขาเตะตีตบแม่ผมสารพัดเลย เตะแมว ทุ่มแมวลงกับพื้น ผมก็ทำได้คอยระงับสติอารมณ์ทั้งคู่ เรื่องก็วนลูปแบบนี้มาตลอด
จนตอนนี้ช่วงต้นปีเริ่มมีโควิท-19 เข้ามาในไทย จึงทำให้น้าต้องออกจากที่ทำงานเพราะเงินเดือนไม่พอใช้จึงตัดสินใจหางานใหม่
จนเมื่อเดือนเมษายน น้ากับแม่ได้มีงานทำด้วยกัน เงินเดือนดีเลยทีเดียว แต่ระหว่างนั้นก็มีเรื่องเกิดขึ้น แม่ชอบเปิดโทรศัพท์น้าดูอยู่บ่อยๆ จนวันที่แม่เปิดโทรศัพท์ดูแม่ก็ไปเจอรูปผู้หญิงในโทรศัพท์เต็มเลย แม่ก็เลยมาปรึกษาผมว่าผู้หญิงในรูปมันเป็นใคร ซึ่งผมก็บอกเขาไปว่าที่ทำงานเก่าของน้า ต้องถ่ายรูปลูกค้าเพื่อเป็นการเชียร์ดื่มและถ่ายรูปให้หัวหน้าดู แต่ทีนี้แม่ไม่เชื่อแม่เลยไปถามน้า น้าก็บอกอย่างที่เราบอกเป๊ะๆ ( แม่เราเป็นคนที่ขี้หึงมากๆ ห้ามให้น้าเล่นเฟสบุ๊กอีกตั้งแต่เจอกันครั้งแรกก็ให้น้าลแอพทิ้งเลย รูปโปรไฟล์ไลน์ก็ต้องเป็นรูปน้าคู่แม่เท่านั้น ) และการทะเลาะเรื่องผู้หญิงเกิดขึ้นบ่อยมากเพราะแม่ชอบคิดไปเอง และน้าไม่ได้เจ้าชู้ด้วย ตั้งใจทำงานหาเงิน จนเรื่องมันไม่จบแม่ผมก็พยายามบอกให้น้าเอ่ยปากยอมรับว่าไปมีผู้หญิงที่ไหนหรือเปล่า
แน่นอนครับน้าเค้าก็หมดความอดทนแล้ว ในวันนั้นเค้าก็รีบเก็บเสื้อผ้าข้าวของออกจากไปพร้อมรถกระบะของแม่ แม่ก็โทรไปขอโทษ ระหว่างคุยกันในสายน้าก็พูดออกมาว่า " กูให้เวลากับลูกเดือนนึง ไปหาที่อยู่ใหม่และอย่ามาให้กูเห็นหน้าอีก ถ้ากูพร้อมเมื่อไหร่กูจะไปหย่ากับและกูจะเอารถคืน "
ตอนนั้นแม่กับผมจิดตกเลย จะกลายเป็นคนไม่มีที่อยู่แล้ว ผมก็หางานทำไม่ได้เพราะเป็นช่วงโควิท แม่ผมก็ทำงานไม่ได้เพราะเข้ากับคนยากและไม่มีวุฒิ
หลังจากวันนั้น น้าก็ได้กลับมาที่บ้านมานั่งพูดคุยทำความเข้าใจกับแม่ จนกับมาอยู่ที่บ้านเหมือนเดิม แต่หลังจากนี้อะไรหลายๆอย่างมันก็ไม่มีเหมือนเดิมแล้วแม่กับผมก็ต้องหาวิธีแล้ว ในอนาคตน้าจะไล่เราออกตอนไหนก็ได้ ตั้งแต่ย้ายมาอยู่บ้านใหม่น้ากร่างมาก ทำตัวเหมือนลืมตัวเองในอดีตว่ามาเกาะแม่ผมกิน พอได้ดีแล้ว ก็จะเขี่ยพวกเราทิ้ง ทุกคนที่อ่านคงสงสัยว่าพ่อผมจะช่วยอะไรได้มั้ย ผมตอบเลยว่าเขาช่วยได้แค่ส่งเงินเดือนให้แค่นั้น เพราะพ่อก็แก่แล้ว ถึงจะมีหน้าที่การงานที่ดี เงินเดือนดีมากก็เถอะ แต่เขาก็มีครอบครัวใหม่ไปแล้ว บวกกับตอนนี้โรคโควิท พ่อก็ส่งเงินให้ผมน้อยลงไป 50% เลย
ตอนนี้พวกเรา 3 คนยังใช้ชีวิตด้วยกันอยู่ แต่ความสัมพันธ์ไม่ได้เป็นเหมือนเดิมแล้ว
ผมเลยอยากได้ความคิดเห็นจากพี่ๆทุกคนว่าผมต้องรับมือกับเหตุการณ์นี้ยังไง ผมขอถาม 2 คำถามสำหรับผู้รู้เรื่องบ้านและรถ
1.ชื่อเจ้าของบ้านสามารถเปลี่ยนได้มั๊ย ตอนนี้ยังผ่อนไม่หมด?
2.ถ้าเกิดเหตุการณ์ที่น้าขับรถของแม่แล้วหายไป ผมและแม่จะทำอะไรได้บ้างครับ?
ขอบคุณทุกคนที่อ่านจนจบนะครับ ถ้างงตรงไหนหรือผมพิมพ์ไม่เข้าใจขอโทษด้วยนะครับ