นศ.ชูแคมเปญยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ เดินหน้าเศรษฐกิจ แนะรัฐใช้ พ.ร.บ.โรคติดต่อฯ แทน
https://prachatai.com/journal/2020/04/87439
กลุ่มนักศึกษาทั่วประเทศเคลื่อนไหวออนไลน์ ชูแคมเปญยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ เดินหน้าเศรษฐกิจ แนะรัฐบาลหันใช้ พ.ร.บ.โรคติดต่อฯ แทน เพื่อคลายล็อคมาตราการ เพราะประชาชนต้องออกทำมาหากินเยียวยาตัวเอง
30 เม.ย. 2563 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กลุ่มนักศึกษาจำนวนหลายกลุ่ม จากหลายมหาวิทยาลัยทั่วประเทศกำลังเคลื่อนไหวกันในโลกออนไลน์ เปิดแคมเปญยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ เดินหน้าเศรษฐกิจ เชิญชวนผู้ได้รับผลกระทบจากมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ถ่ายรูปชูป้ายพร้อมติดแฮชแท็ก #ยกเลิกพรกฉุกเฉินเดินหน้าเศรษฐกิจ เพื่อรณรงค์ให้รัฐบาลยกเลิกมาตราการ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ และหันมาใช้ พ.ร.บ.โรคระบาดฯ แทน หวังคลายล็อคเศรษฐกิจให้ประชาชนสามารถออกมาทำมาหากิน สร้างรายได้เยียวยาตัวเองหลังสถาการณ์โรคระบาดโควิด-19 ลดระดับการแพร่ระบาดลง
ทั้งนี้เพจ
แนวร่วมนิสิตมมส.เพื่อประชาธิปไตย - MSU Democracy Front ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กใจความว่า
ขณะนี้สถานการณ์โรคระบาดโควิด-19 ได้ลดระดับการแพร่ระบาดลงแล้วจากความร่วมมือของประชาชน แต่มาตราการเยียวยาของรัฐบาลยังไม่มีประสิทธิภาพ ไม่ทันท่วงที และไม่ทั่วถึง อีกทั้ง พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ยังคงเป็นมาตราการที่มีปัญหาและปิดกั้นเสรีภาพของประชาชน ทางกลุ่มนักศึกษาจึงเสนอให้รัฐบาลควรยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ และหันมาใช้ พ.ร.บ.โรคระบาดฯแทน เพื่อที่จะให้ประชาชนสามารถออกมาทำมาหากิน และสร้างรายได้เพื่อเยียวยาตัวเองในช่วงสถานการณ์โรคระบาดโควิด-19
โดยมีรายละเอียดดังนี้ :
พวกเรานักศึกษาจากภาคอีสาน ทุกวันนี้เราเห็นการใช้กฎหมายดำเนินคดีกับประชาชนผู้ที่นำอาหารไปบริจาคให้แก่ประชาชนที่เดือดร้อน เราเห็นการจับขังคนงานก่อสร้างที่จำเป็นต้องเดินทางกลับที่พักระหว่างเคอร์ฟิว หรือจับขังคนไร้บ้านเพียงเพราะเขาอาศัยอยู่ในที่สาธารณะ เราเห็นการใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ควบคุมสื่อปิดปากประชาชนที่วิพากษ์วิจารณ์ความผิดพลาดของรัฐบาลในสื่อสังคมออนไลน์ กระทั่งขู่จะจัดการกับนักศึกษาที่ต้องการเรียกร้องขอคืนค่าเทอมและให้ สว.ลาออกจากตำแหน่ง จุดที่ร้ายแรงที่สุดคือเกิดการสูญเสียของพี่น้องประชาชนจากการที่ความช่วยเหลือของรัฐบาลเข้าไม่ถึงทุกคนอย่างเสมอภาค
ก่อนหน้านี้ประชาชนให้ความร่วมมือเป็นอย่างดีกับมาตรการรักษาระยะห่างทางสังคม จนส่งผลให้การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 คลี่คลายลงตามลำดับ แต่สิ่งที่พวกเราได้รับตอบแทนกลับมาคือมาตรการเยียวยาของรัฐบาลที่สับสน ไม่มีประสิทธิภาพ ไม่ทันท่วงที และไม่ทั่วถึง
เรากลุ่มนักศึกษาต้องการจะส่งเสียงและเรียกร้องไปยังรัฐบาลให้กลับมาใช้กลไกการบริหารประเทศตามระบอบประชาธิปไตยเพื่อตรวจสอบการทำงานของรัฐ และนำเสนอข้อมูลทั้งปัญหาและวิธีการเยียวยาแก้ไขสถานการณ์ด้วยการเปิดประชุมรัฐสภาให้ทั้งฝ่ายค้านกับฝ่ายรัฐบาลได้มีโอกาสเข้าร่วมเสนอการแก้ไขปัญหาการแพร่ระบาดของโรคโควิด - 19 ยกเลิกการใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ยกเลิกการควบคุมสื่อ ยกเลิกการรวบอำนาจไว้ที่นายกรัฐมนตรี และปรับเปลี่ยนการใช้อำนาจตาม พ.ร.บ.ควบคุมโรคฯ แทนการใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ เพื่อคลายล็อคกิจกรรมทางเศรษฐกิจให้พี่น้องประชาชนได้ออกมาหารายได้ตามความเหมาะสมเพื่อเยียวยาครอบครัวของตนเองและขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศต่อไปไม่ให้จมดิ่งไปมากกว่านี้
ทั้งนี้พวกเราจึงขอเชิญชวนให้พี่น้องประชาชนทุกคนร่วมกันสนับสนุนแคมเปญนี้ด้วยการติด #ยกเลิกพรกฉุกเฉินเดินหน้าเศรษฐกิจ และเชิญชวนเปลี่ยนกรอบรูปในโปรไฟล์บน Facebook เพื่อเป็นส่งต่อแคมเปญไปยังเพื่อนๆ ของท่านทุกคน หลังสถานการณ์โควิดคลี่คลาย พวกเราจะกลับมาเคลื่อนไหวขับไล่รัฐบาลเงาของ [เผล่ะจัง] คสช. กับภาคประชาชนอีกครั้ง
#ยกเลิกพรกฉุกเฉินเดินหน้าเศรษฐกิจ
#พึงเป็นอยู่เพื่อมหาชนมิใช่เพื่อ [เผล่ะจัง]
อ.ธรรมศาสตร์ ติงรัฐบาล ไม่สนปัญหาคนฆ่าตัวตาย เน้นแก้แต่ไวรัส
https://www.khaosod.co.th/politics/news_4042811
อ.ธรรมศาสตร์ ติงรัฐบาล ไม่สนปัญหาคนฆ่าตัวตาย เน้นแก้แต่ไวรัส
วันที่ 30 เม.ย. ผศ.ดร.
ประจักษ์ ก้องกีรติ อาจารย์ประจำคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการแก้ปัญหาโควิด-19 ที่รัฐบาลมุ่งเน้นที่จะทำให้ตัวเลขผู้ป่วยน้อยลง โดยที่ละเลยผู้คนอีกจำนวนหนึ่งที่ประสบปัญหาความเครียด และปัญหาครอบครัวที่นำไปสู่การฆ่าตัวตายจากการระบาดโควิด ความว่า
รัฐกำลังทำให้สังคมไทยนิยามปัญหาสุขภาพในความหมายแคบ คือ การติดเชื้อไวรัส ส่วนความเครียด ภาวะซึมเศร้า ความรุนแรงในครอบครัว และการฆ่าตัวตาย กลายเป็นปัญหา “ส่วนตัว” ที่รัฐไม่ต้องรับผิดชอบ
ทั้งที่มันคือปัญหาสุขภาพที่ร้ายแรง เป็นผลจากมาตรการของรัฐ และสะท้อนสุขภาพสังคมที่กำลังเสื่อมถอย
https://twitter.com/bkksnow/status/1255347107277484033
JJNY : นศ.ชูเลิกพ.ร.ก.ฉุกเฉินฯแนะใช้พ.ร.บ.โรคติดต่อฯ/อ.มธ.ติงรัฐ/รอโควิดสงบกลุ่มบิ๊กป้อมชิงบัลลังก์/ทั่วโลกติดโควิด3.2ล.
https://prachatai.com/journal/2020/04/87439
30 เม.ย. 2563 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กลุ่มนักศึกษาจำนวนหลายกลุ่ม จากหลายมหาวิทยาลัยทั่วประเทศกำลังเคลื่อนไหวกันในโลกออนไลน์ เปิดแคมเปญยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ เดินหน้าเศรษฐกิจ เชิญชวนผู้ได้รับผลกระทบจากมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ถ่ายรูปชูป้ายพร้อมติดแฮชแท็ก #ยกเลิกพรกฉุกเฉินเดินหน้าเศรษฐกิจ เพื่อรณรงค์ให้รัฐบาลยกเลิกมาตราการ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ และหันมาใช้ พ.ร.บ.โรคระบาดฯ แทน หวังคลายล็อคเศรษฐกิจให้ประชาชนสามารถออกมาทำมาหากิน สร้างรายได้เยียวยาตัวเองหลังสถาการณ์โรคระบาดโควิด-19 ลดระดับการแพร่ระบาดลง
ทั้งนี้เพจ แนวร่วมนิสิตมมส.เพื่อประชาธิปไตย - MSU Democracy Front ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กใจความว่า
ขณะนี้สถานการณ์โรคระบาดโควิด-19 ได้ลดระดับการแพร่ระบาดลงแล้วจากความร่วมมือของประชาชน แต่มาตราการเยียวยาของรัฐบาลยังไม่มีประสิทธิภาพ ไม่ทันท่วงที และไม่ทั่วถึง อีกทั้ง พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ยังคงเป็นมาตราการที่มีปัญหาและปิดกั้นเสรีภาพของประชาชน ทางกลุ่มนักศึกษาจึงเสนอให้รัฐบาลควรยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ และหันมาใช้ พ.ร.บ.โรคระบาดฯแทน เพื่อที่จะให้ประชาชนสามารถออกมาทำมาหากิน และสร้างรายได้เพื่อเยียวยาตัวเองในช่วงสถานการณ์โรคระบาดโควิด-19
โดยมีรายละเอียดดังนี้ :
พวกเรานักศึกษาจากภาคอีสาน ทุกวันนี้เราเห็นการใช้กฎหมายดำเนินคดีกับประชาชนผู้ที่นำอาหารไปบริจาคให้แก่ประชาชนที่เดือดร้อน เราเห็นการจับขังคนงานก่อสร้างที่จำเป็นต้องเดินทางกลับที่พักระหว่างเคอร์ฟิว หรือจับขังคนไร้บ้านเพียงเพราะเขาอาศัยอยู่ในที่สาธารณะ เราเห็นการใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ควบคุมสื่อปิดปากประชาชนที่วิพากษ์วิจารณ์ความผิดพลาดของรัฐบาลในสื่อสังคมออนไลน์ กระทั่งขู่จะจัดการกับนักศึกษาที่ต้องการเรียกร้องขอคืนค่าเทอมและให้ สว.ลาออกจากตำแหน่ง จุดที่ร้ายแรงที่สุดคือเกิดการสูญเสียของพี่น้องประชาชนจากการที่ความช่วยเหลือของรัฐบาลเข้าไม่ถึงทุกคนอย่างเสมอภาค
ก่อนหน้านี้ประชาชนให้ความร่วมมือเป็นอย่างดีกับมาตรการรักษาระยะห่างทางสังคม จนส่งผลให้การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 คลี่คลายลงตามลำดับ แต่สิ่งที่พวกเราได้รับตอบแทนกลับมาคือมาตรการเยียวยาของรัฐบาลที่สับสน ไม่มีประสิทธิภาพ ไม่ทันท่วงที และไม่ทั่วถึง
เรากลุ่มนักศึกษาต้องการจะส่งเสียงและเรียกร้องไปยังรัฐบาลให้กลับมาใช้กลไกการบริหารประเทศตามระบอบประชาธิปไตยเพื่อตรวจสอบการทำงานของรัฐ และนำเสนอข้อมูลทั้งปัญหาและวิธีการเยียวยาแก้ไขสถานการณ์ด้วยการเปิดประชุมรัฐสภาให้ทั้งฝ่ายค้านกับฝ่ายรัฐบาลได้มีโอกาสเข้าร่วมเสนอการแก้ไขปัญหาการแพร่ระบาดของโรคโควิด - 19 ยกเลิกการใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ยกเลิกการควบคุมสื่อ ยกเลิกการรวบอำนาจไว้ที่นายกรัฐมนตรี และปรับเปลี่ยนการใช้อำนาจตาม พ.ร.บ.ควบคุมโรคฯ แทนการใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ เพื่อคลายล็อคกิจกรรมทางเศรษฐกิจให้พี่น้องประชาชนได้ออกมาหารายได้ตามความเหมาะสมเพื่อเยียวยาครอบครัวของตนเองและขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศต่อไปไม่ให้จมดิ่งไปมากกว่านี้
ทั้งนี้พวกเราจึงขอเชิญชวนให้พี่น้องประชาชนทุกคนร่วมกันสนับสนุนแคมเปญนี้ด้วยการติด #ยกเลิกพรกฉุกเฉินเดินหน้าเศรษฐกิจ และเชิญชวนเปลี่ยนกรอบรูปในโปรไฟล์บน Facebook เพื่อเป็นส่งต่อแคมเปญไปยังเพื่อนๆ ของท่านทุกคน หลังสถานการณ์โควิดคลี่คลาย พวกเราจะกลับมาเคลื่อนไหวขับไล่รัฐบาลเงาของ [เผล่ะจัง] คสช. กับภาคประชาชนอีกครั้ง
#ยกเลิกพรกฉุกเฉินเดินหน้าเศรษฐกิจ
#พึงเป็นอยู่เพื่อมหาชนมิใช่เพื่อ [เผล่ะจัง]
อ.ธรรมศาสตร์ ติงรัฐบาล ไม่สนปัญหาคนฆ่าตัวตาย เน้นแก้แต่ไวรัส
https://www.khaosod.co.th/politics/news_4042811
อ.ธรรมศาสตร์ ติงรัฐบาล ไม่สนปัญหาคนฆ่าตัวตาย เน้นแก้แต่ไวรัส
วันที่ 30 เม.ย. ผศ.ดร.ประจักษ์ ก้องกีรติ อาจารย์ประจำคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการแก้ปัญหาโควิด-19 ที่รัฐบาลมุ่งเน้นที่จะทำให้ตัวเลขผู้ป่วยน้อยลง โดยที่ละเลยผู้คนอีกจำนวนหนึ่งที่ประสบปัญหาความเครียด และปัญหาครอบครัวที่นำไปสู่การฆ่าตัวตายจากการระบาดโควิด ความว่า
รัฐกำลังทำให้สังคมไทยนิยามปัญหาสุขภาพในความหมายแคบ คือ การติดเชื้อไวรัส ส่วนความเครียด ภาวะซึมเศร้า ความรุนแรงในครอบครัว และการฆ่าตัวตาย กลายเป็นปัญหา “ส่วนตัว” ที่รัฐไม่ต้องรับผิดชอบ
ทั้งที่มันคือปัญหาสุขภาพที่ร้ายแรง เป็นผลจากมาตรการของรัฐ และสะท้อนสุขภาพสังคมที่กำลังเสื่อมถอย
https://twitter.com/bkksnow/status/1255347107277484033