สวัสดีค่ะ อยากจะขอความคิดเห็นและขอความช่วยเหลือจากทุกคนค่ะ ตอนนี้ทุกข์ใจมากทั้งเราและแฟน อยู่ด้วยกันยากมากค่ะ โดนระรานทุกวัน.
เรื่องอาจจะยาวนิดนึงนะคะ เพราะอยากให้ทุกคนเข้าใจเรื่องราว รู้ความเป็นมาของมันจริงๆ และเรื่องที่จะเล่าตอไปนี้จะเป็นความจริงทุกประการ ไม่ได้บิดเบือนข้อเท็จจริงแต่อย่างใด เริ่มเลยนะคะ!
จะขอเล่าว่าเรากับแฟนคบกันได้ 3 ปี ผ่านเรื่องราวอะไรด้วยกันมามากมาย เราเรียนอยู่มหาลัยเดียวกัน คนละคณะ และคนละชั้นปี (เราอยู่ปีสูงกว่าเค้า 1 ปี) แต่ด้วยความบังเอิญต่างๆ จึงทำให้ได้รู้จักกัน ด้วยความที่เราไม่เคยมีแฟนมาก่อนเลยอ่อนประสบการณ์เรื่องนี้มาก ส่วนตัวแฟนเองก็เคยมีแฟนมา 2 คน แต่ก็เป็นแนวรักม.ต้นไรงี้อ่ะค่ะ เราจึงใช้เวลาศึกษากันเกือบปี ถึงจะตกลงเป็นแฟนกัน
โดยทางบ้านของแฟนรับรู้และโอเคมาโดยตลอด ส่วนทางบ้านของจขกท.ไม่รับรู้
กลับมาที่ครอบครัวแฟนนะคะพวกเค้าเข้าใจมาตลอด เราจะได้มีโอกาสเข้าบ้านแฟนก็ตอนพักเที่ยงของมหาลัย แวะไปทานข้าว แล้วก็ไปเรียนต่อ หรือบางครั้งในวันหยุดเรามาทำกิจกรรมในมอก็ได้มาบ้านแฟนมาคุยเล่นกับแฟนบ้าง กับครอบครัวแฟนบ้างดูมีความสุขดีทุกอย่างนะคะ จากนั้นถึงเวลาก็กลับค่ะ ไม่เคยนอนค้าง ส่วนแม่ตอนแรกแฟนดูจะชอบเรามากพาเราเข้าบ้านไปทานข้าว พาไปเที่ยว ให้ของต่างๆ ทำกับข้าวที่เราชอบ ด้วยนิสัยที่เราเป็นคนขี้อ้อนอยู่แล้ว ทุกครั้งที่ไปบ้านแฟนเราจะกระตือรือร้นมากค่ะ อย่างเช่น อยู่บ้านตัวเองก็จะเฉื่อยๆหน่อย แต่พอไปบ้านแฟนก็จะช่วยแฟนทำความสะอาดบ้าน ทานข้าวเสร็จก็ช่วยล้าง แต่ส่วนใหญ่แฟนจะไม่ให้ล้างค่ะ เลยช่วยทุกอย่างเท่าที่จะช่วยได้ เพราะไม่อยากทำตัวน่าเกลียดค่ะ จนเราสนิทกันมากขึ้นเรื่อยๆ แต่เรามีแอะใจเล็กน้อย ว่าทำไมเค้าดีกับเราแปลกๆ ด้วยความที่เป็นคนไว้ใจใครยากอยู่แล้ว แต่ก็ไม่ได้คิดอะไรมากค่ะ ก็ใช้ชีวิตตามปกติมาเรื่อยๆ
ด้วยความที่เราสนิทกันมากถึงขั้นพูดคุยให้คำปรึกษากันได้ทุกเรื่อง แล้วแฟนก็มักจะเล่าเรื่อวเรื่องราวในชีวิตของเค้าให้ฟัง เราจึงได้รับรู้ตลอดค่ะ ว่าแฟนเป็นที่น่าสงสารมาก บ้านเค้าจะอยู้ด้วยกัน 4 พ่อ แม่และมีลูกชาย 2 คน แฟนเป็นพี่คนโต และมีน้องชายอีกคนต่างกัน 5 ปี.
ตั้งแต่เด็กแฟนจะเป็นคนช่วยเหลืองานที่บ้านมาโดยตลอด ไม่ว่าจะเป็นดูแลคุณย่าที่ป่วยหนัก ทำความสะอาดบ้าน ออกไปซื้อของ ซ่อมนู่นนี่ ทำกับข้าวช่วยแม่เค้าตลอดเวลา ตกกลางคืนก็จะนวดให้แม่ เป็นประจำ ตอนแรกที่ได้ฟัง โอ้โห ผู้ชายอะไรจะทำได้มากขนาดนั้น โม้แล้วมั้ง55 แต่ไม่เลยค่ะ เค้าทำอย่างงั้นจริงๆ
ได้ฟังไปฟังมา เค้าไม่มีความสุขเลยค่ะ เค้าไม่มีเวลาส่วนตัวเลย พอได้นั่งพักแม่เค้าก็เรียกตลอด ให้ทำนู่นทำนี่ เล็กๆน้อยๆก็พอเข้าใจค่ะ แต่แฟนบอกว่า แม่ไม่เคยให้พื้นที่ส่วนตัว หรือเวลาเลย เหมือนแม่เค้าไม่สนเลยค่ะ ว่าเค้าว่างมั้ย ติดธุระอะไรรึเปล่า ไอ้เราก็ไม่เห็นว่าเป็นเรื่องใหญ่เลยได้แต่ปลอบๆไป และก็เข้าใจฝั่งแม่เค้ามากกว่า แต่พอวันนึ้งมีโอกาสได้คอลสายค้างกันไว้ในคอม จะได้ยินเสียงแม่แฟนเรียกตลอดเลยจริงๆค่ะ พอแฟนกลับมาในคอมได้แปปนึง ก็เรียกอีก แบบเรียกได้เรื่อยๆไม่มีลิมิตอ่ะค่ะ เราก็แอบๆรำคาญนะเอาจริงๆ แค่คิดว่าคนเราจะธุระเยอะอะไรขนาดนั้น แต่ที่มันสำคัญเลยก็คือน้ำเสียงที่แม่แฟนใช้อ่ะค่ะ เป็นน้ำเสียงแบบจิกใช้เลย แบบไม่ได้! จะเอาเดี๋ยวนี้! ตอนนี้! เราก็เริ่มตะหงิดๆง่ะ เรียกแต่ละครั้งก็สะดุ้งทุกครั้งเลย ก็มีบางครั้งที่แม่แฟนเข้ามาเจอเราเปิดกล้องกับแฟนก็จะเข้ามาทักเรา แล้วบอกคิดถึงนู่นนี่ เรียกเราว่าลูกสาว ลูกสะใภ้ไรงี้ เราก็รู้สึกดีๆมากๆ เจอที่ไรก็เข้าไปก่อน เราก็รักและเคารพเหมือนแม่คนนึงเลย
-เวลาแฟนอยากไปไหน แม่แฟนก็ไม่ค่อยให้ไปบอกว่าอยู่ช่วยงานบ้านแม่ก่อน
-ไปเดินห้างกับแม่ ไม่เคยได้ซื้อหรือได้ดูของอะไรที่ตัวเองสนใจ
-ได้ไปห้างทีนึงก็ไปได้แค่ทำธุระธนาคารให้แม่
-เชื่อมั้ยคะ ว่าแฟนเป็นคนทำงานหาเงินมาตั้งแต่เด็ก แต่ตอนนี้ไม่มีเงินในบัญชีเลย เพราะแม่ขอหมด ส่วนจะเอาไปทำอะไรนั้นเราไม่ทราบค่ะ แต่รับรู้แค่ว่า แล้วแฟนจะเอาเงินที่ไหนเก็บเพื่ออนาคตตัวเอง ตั้งใจเรียนเพื่อกู้เงิน ก.ย.ศ พยามรักษาเกรดตลอด อย่างที่รู้ว่าการกู้เงิน กยศ คือเราไม่ต้องจ่ายค่าเทอม แล้วในแต่เดือนละเค้าก็จะโอนเงินมาให้ใช่มั้ยคะ แฟนไม่เคยมีโอกาสได้แตะต้องเงินส่วนนั้นเลย แตะแปปนึงคือออกไปกดมาให้แม่
-เวลาแฟนมีปัญหา จะไม่ได้คำปรึกษาอะไรเลย มีแต่จะได้แต่การซ้ำเติมให้ยิ่งเจ็บ โดนด่าว่าโง่อย่างนู่นนี้ แฟนเลยเลือกที่จะไม่พูด
นับวันแฟนเริ่มเก็บกดขึ้นเรื่อยๆ เริ่มอยากมีอิสระมากขึ้น เริ่มอยากเป็นตัวของตัวเอง จนมาเจอเรา เราคอยบอกเสมอว่า ชีวิตเป็นของเรา เราเลือกได้ แต่เราแค่ต้องทำให้มันถูกต้อง เราให้แรงบรรดาลใจเค้า ให้คุณค่าเค้า เพราะคิดเสมอเลยว่าชีวิตเค้าไม่มีค่า ไม่รู้เกิดมาทำไม ไม่มีจุดหมาย ไม่มีอนาคต จนเราเข้าไปเติมเต็มทุกอย่าง เราช่วยกันเรียนเราไม่ถนัดวิชาคำนวณเค้าก็ช่วย เค้าไม่ถนัดภาษาเราก็ช่วยสอน เป็นแบบนี้ตลอดค่ะ มีทะเลาะกันบ้างตามประสา.
ทุกคนพอนึกภาพออกมั้ยคะ ว่าคนเราต้องมีการเปลี่ยนแปลง จากเด็กสู่วัยรุ่น ช่วงเวลาวัยรุ่นของแฟนได้หายไปแล้วค่ะ ตอนนี้แฟนกำลังจะก้าวเข้าสู่การเป็นผู้ใหญ่ เราช่วยหาที่ฝึกงานให้แฟน เพราะเคยมีประสบการณ์มาก่อน ส่วนตัวเราก็เรียนใกล้จบ จึงเจอกันน้อยลง จากเมื่อก่อนที่เจอกันทุกวัน กินข้าวด้วยกันทุกวัน ปกติแล้วแฟนจะขี่มอไซค์ไปเรียน ไปทำงานเป็นประจำ แฟนก็เริ่มมีความพยามอยากเจอเรามากขึ้น พวกเราเลยไปสมัครเข้ายิมกันหลังแฟนเลิกงาน จ่ายตังค์เรียบร้อย แม่แฟนมาบอกว่า ไม่โอเค ห้ามไป เด็ดขาด ทำไมต้องไปรับ-ส่ง เราด้วย แฟนจึงอธิบายว่าเราอ่ะช่วยแฟนมาหลายเรื่องแล้ว แล้วที่รับส่งอ่ะ เราช่วยค่าน้ำมันนะ (คือบ้านเรากับแฟนห่างกันประมาณ 15 นาที และยิมอยู่ระหว่างบ้านเราสองคน) แม่แฟนคือไม่ยอมเลย ขึ้น-กู พร้อมทิ้งท้ายว่าห้ามไปเด็ดขาด และแม่แฟนก็ออกจากบ้านไปทธุระข้างนอก ส่วนแฟนก็ไม่สนใจแล้ว เพราะไม่ได้ทำอะไรผิด เราก็เข้ายิมกันได้ 1 วันถ้วน
วันรุ่งขึ้น แฟนโดนยึดรถเรียบร้อย แม่แฟนจะเป็นคนขับรถรับ-ส่ง แฟนเอง โดยมีเหตุผลที่กลัวว่าแฟนจะมารับเราอีก เป็นอย่างงี้ประมาณอาทิตย์นึง ทางเรานี่วุ่นวายเลย ต้องโทรไปขอร้องทางยิมให้รักษาสิทธิไว้ให้เพราะช่วงนี้ไม่สะดวก เครียดกันมาก หลังๆแม่แฟนเริ่มเบื่อ ก็ให้น้องชายแฟนทำหน้าที่แทน จนเราสงสารแฟนมาก จะไปไหนก็ไม่ได้ไปเลย เหมือนโดนล่ามโซ่ แล้วจากนั้นแม่แฟนก็ไม่อะไรกับเราเลยนะ ไม่คุยด้วย เราก็งงๆ แต่ก็ทำตัวเฉยๆ เราก็เลยให้แฟนโกหกแม่ว่าเราไปต่างจังหวัด 2 อาทิตย์ แต่จริงๆเราไปแค่วันเดียว เพื่อจะให้แม่แฟนคืนรถให้ จากนั้นก็คืนจริงๆ
เรางงมากนะกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นพยามหาสาเหตุ จนวันนึงแฟนมาเล่าให้ฟังว่า แกไม่ชอบและไม่อยากให้แฟนมาหาเราที่บ้าน เพราะคนเราเจ็บแล้วต้องจำ ครอบครัวเราเกลียดแฟนมาก อย่าไปเลย ทั้งๆที่ความจริงแล้วแกก็รู้แล้วนะคะว่าครอบครัวเราทุกคนโอเคกับแฟนมาก เหมือนเป็นครอบครัวไปแล้ว เราส่าเหตุผลนี่น่าจะฟังไม่ขึ้น เราคิดอีกแบบมากกว่า เราคิดว่า แกคงไม่อยากเสียแฟนเราไปให้กับครอบครัวเรา กลัวแฟนเราจะมาทำอะไรดีๆให้ครอบครัวเรา เหมือนที่แฟนทำที่บ้าน ก็คือ หวง นั่นแหละค่ะ แต่เค้าไม่เคยสนใจเลยอ่ะ ว่าแฟนเรามีความสุขมั้ย
จากนั้นแฟนก็ไม่ยอมแพ้นะคะ ยังแอบมาหาเราเรื่อยๆ แต่ไม่บ่อยเพราะแทบไม่มีโอกาสเลย แต่พอช่วงอีไวรัสมหาภัยนี่สิคะ พอต้องกักตัวแฟนก็ Work from home สบายเลย อยู่บ้านทั้งวัน ปรากฎว่าหนักกว่าเดิมค่ะ แฟนนั่งทำงานทั้งวัน โดยมีเราคอลค้างกันไว้ในคอมตลอดเพราะรู้แล้วว่าคงไม่ได้เจอกันอีกแน่นอน ทั้งเรื่องแม่และเรื่องปิดตำบลในจังหวัด เราก็มีสิทธิอยู่ด้วยกันแค่นี้
มีอยู่วันนึงค่ะ แม่กับแฟนมีปากเสียงกันหนักมาก จำสาเหตุไม่ได้เหมือนกันค่ะ แต่รู้แน่ๆเลยว่าไม่เกี่ยวกับเราโดยสิ้นเชิง แต่อยู่ๆแกก็ด่ามาถึงเรา ว่าคบกับเราทำไมไม่เห็นจะดีขึ้น ตั้งแต่คบกับเรานี่เปลี่ยนไป เริ่มเถียงแม่ (แต่จริงๆแล้วบ้านนี้เค้าพูดกันแรงอยู่แล้วนะคะ แฟนเองก็เถียงแม่อยู่ๆบ่อยๆ เราเองก็ยังทั้งเตือน ทั้งด่า) แล้วก็เริ่มด่าหนักขึ้น ด่าว่าแฟนเห็น -ี ดีกว่าแม่ และขนมาทั้งสวนสัตว์เลยค่ะ แฟนทนไม่ไหว เดินออกจากบ้านเลยค่ะ แล้วโทรหาเรา เล่าทุกอย่างให้ฟัง ทันใดนั้นแม่แฟนก็โทรหาเรา เราเลยกดรวมสายแล้วให้แฟนเงียบเพื่อแอบฟัง เล่านู่นนี่เหมือนกัน ด่าแฟนสารพัด แต่พูดกับเราดี ปกดิ ในใจคือคิด อ้าว แล้วที่ด่ากูเมื่อกี้นี่ร่างไหน? จุดประสงค์คือแค่ต้องการโทรมาถามค่ะ ว่ารู้มั้ยแฟนอยูไหน แฟนบอกให้บอกไปว่าไม่รู้ พอแฟนกลับบ้านไป น้องชายบอกว่า แม่แฟนได้ฉีกรูปเราที่อยู๋หน้าคอมแฟนไปแล้ว พอเราร็อ่ะเราเจ็บมาก แค้นมาก ว่าเห้ย เราทำไรผิดว้ะ ทำไมต้องทำขนาดนี้ แฟนก็คือยิ่งรู้สึกแย่กับแม่ตัวเองมากขึ้น ที่อยู่ทุกวันคือเหมือนแฟนแค่ทนอยู่ แต่จะไปไหนก็ไม่ได้ ในเมื่อเอาเงินแฟนไปหมดแล้ว รถก็ชื่อแม่แฟน คือไม่มีไรติดตัวเลย และหลังจากนั้นค่ะ เราและแฟนโดนด่าเรื่อยๆเลย ทุกวันๆ เราเองที่อยู่กับแฟนในสายคือได้ยินตลอดว่าเค้าด่าอะไรเราบ้าง เราเจ็บมาก พ่อแม่เรา ยังไม่เคยด่าขนาดนี้ ในใจถามตลอดว่า เราแย่ขนาดนั้นเลยเหรอ เราทำอะไรผิด จนได้มารู้ว่าแฟนเก่า 2 คนของแฟนก็โดน แต่โโนสั่งให้เลิกเลย ตอนนั้นแฟนยังเด็ก และเพราะกลัวแม่มาก เลยยอมเลิก ทั้งๆที่ยังรัก ส่วนอีกคนคือให้ญาติผญ ปลอมเสียงเป็นแฟนใหม่ของแฟน แล้วบอกให้เลิกกัน แฟนก็ยอมเหมือนเคย
แต่ครั้งนี้แฟนไม่ยอมแล้วไงคะ เพราะเราเหมือนเป็นทุกอย่างของแฟนไปแล้ว สิ่งที่เราให้แฟนอ่ะ มันมากกว่าที่แม่เค้าให้เยอะ ถ้าลงรายละเอียดคือ ต้องตั้งอีกสัก 2-3 กะทู้
ทุกคนอาจจะคิดว่า ทำไมต้องคอลสายทั้งสันทั้งคืนขนาดนั้น ไม่มีไรทำรึไง ตัวเราอ่ะตอนเช้าสอนภาษาอังกฤษให้แฟน ตอนบ่ายแฟนก็ทำงาน ส่วนเราก็ว่าง และนั่งเล่นไรไปเรื่อยๆ คือเอาๆตรงๆนะ มันก็เหมือนแฟนฝึกงานที่ออฟฟิศเลย แค่มีเราแปะไว้แต่ไม่ยุ่ง ไม่กวนกัน แค่มีพออุ่นใจ แต่แม่แฟนอ่ะ รู้ทั้งร็ว่าลูกทำงานอ่ะ แกก็ยังใช้ไม่หยุดเลย เชื่อมั้ยว่าในขณะที่พิมอยู่ แกกำลังตะโกนเรียกแฟนอยู่ โคตรหลอนเลย
ต่อมาเราเก็บแฟนก็ทนใช้ชีวิตกันแบบนี้มาเรื่อยๆ อยู่ด้วยกันก็ยิ้มแฮปปี้ดี แต่ทุกคนเชื่อมั้ยคะว่าเราเครียดมาก นอนไม่หลับเลย นอนเช้าตลอด เพราะคิดแต่เรื่องนี้ กินข้าวก็ไม่ค่อยลง ไม่ค่อยเป็นเวลา และก็ยังได้ยินเสียงด่า แบบนี้ทุกวันเลย เราเลยออกไปเดินข้างนอกบ้าง หานู่นนี่ทำบ้าง กลับมาก็ได้ยินอีก มันวนอยู่แบบนี้เรื่อยๆ ถ้ามันเป็นอารมณ์แบบแม่บ่นไรงี้อ่ะ เราจะไม่อะไรเลย แต่นี่คือด่าเราเสียๆ หายๆเลย ดูถูกเรา อย่างนู้นนี้ ใช่ เราไม่ได้เป็นแบบนั้น แต่มันก็ค้านในใจ ไปทำไรให้ว้ะ แล้วทำไมต้องมาทน
แล้วล่าสุดเมื่อไม่มีวันก่อนก็มีปากเสียงกันอีกด้วยเรื่องอื่นที่ไม่เกี่ยวกับเรา แต่สุดท้ายก็แว้งมาด่าเราจนได้ ครั้งนี้แม่แฟนยึดรถแฟน ตัดเน็ตบ้าน คือแกทำทุกอย่างเลยเพื่อให้เราเลิกกัน เนื่องจากสองแม่ลูกเริ่มสัมพันธ์แย่ลงรื่อยๆ เราเลยคุยกับแฟนว่าเราลองห่างกันดูมั้ย เผื่อแฟนจะดีกับครอบครัวมากขึ้น เราก็คิดว่าที่เป็นแบบนี้เพราะเราคนเดียวเลย เรายอมถอยมาคนเดียวมันน่าจะดีที่สุด แต่ก็คิดว่า ตอนเรากับครอบครัวอ่ะ แฟนเรายังสู้เลย แต่ครอบครัวเราไม่ได้แรงขนาดนี้ไง ฮัลโหล คำตอบที่ได้จากแฟนคือ นางไม่ยอมห่าง นางบอกทำไมเราต้องยอมด้วย เราสอนภาษอังกฤษแฟนตอนเช้าแกก็ไม่ยอมแล้ว เดินมาแซะ มาด่า แล้วสั่งแฟนว่าห้ามเรียน แล้วดูถูกเราว่า ไม่มีประสบการณ์ ไม่เคยเจอฝรั่ง ทั้งๆที่สาขาที่เราเรียนอยู่เป็นอินเตอร์ เรียนเป็นอิ้งค์หมดเลย และเราเคยผ่านการฝึกงาน หน้าฟร้อน เอฟบี แม่บ้าน ในครัว คือฝึกมาหมดแล้ว เจอฝรั่งเป็นพันๆคน
ประเด็นคือตอนนี้เรากับแฟนไม่มีความสุขเลยค่ะ โดนกีดกันตลอด โดนตัดทุกทาง ล่าสุดแฟนโดนสั่งห้ามเปิดคอมอีกอีก อ้างว่าค่าไปขึ้นเพราะแฟนเปิดคอม ทั้งๆที่แฟนเปิดโดน๊ตบุ้คมันกินไปไม่เท่าไหร่เลย แต่คือแกพยามมากๆจริงค่ะ เพื่อให้เราเลิกกัน ใครพอจะมีทางออกมั้ยคะ เราสองคนทรมานมาก ขอบคุณล่วงหน้านะคะ
ช่วยด้วยค่ะ! โดนแม่แฟนกีดกัน ทั้งๆที่เคยรักเรามากๆ
เรื่องอาจจะยาวนิดนึงนะคะ เพราะอยากให้ทุกคนเข้าใจเรื่องราว รู้ความเป็นมาของมันจริงๆ และเรื่องที่จะเล่าตอไปนี้จะเป็นความจริงทุกประการ ไม่ได้บิดเบือนข้อเท็จจริงแต่อย่างใด เริ่มเลยนะคะ!
จะขอเล่าว่าเรากับแฟนคบกันได้ 3 ปี ผ่านเรื่องราวอะไรด้วยกันมามากมาย เราเรียนอยู่มหาลัยเดียวกัน คนละคณะ และคนละชั้นปี (เราอยู่ปีสูงกว่าเค้า 1 ปี) แต่ด้วยความบังเอิญต่างๆ จึงทำให้ได้รู้จักกัน ด้วยความที่เราไม่เคยมีแฟนมาก่อนเลยอ่อนประสบการณ์เรื่องนี้มาก ส่วนตัวแฟนเองก็เคยมีแฟนมา 2 คน แต่ก็เป็นแนวรักม.ต้นไรงี้อ่ะค่ะ เราจึงใช้เวลาศึกษากันเกือบปี ถึงจะตกลงเป็นแฟนกัน
โดยทางบ้านของแฟนรับรู้และโอเคมาโดยตลอด ส่วนทางบ้านของจขกท.ไม่รับรู้
กลับมาที่ครอบครัวแฟนนะคะพวกเค้าเข้าใจมาตลอด เราจะได้มีโอกาสเข้าบ้านแฟนก็ตอนพักเที่ยงของมหาลัย แวะไปทานข้าว แล้วก็ไปเรียนต่อ หรือบางครั้งในวันหยุดเรามาทำกิจกรรมในมอก็ได้มาบ้านแฟนมาคุยเล่นกับแฟนบ้าง กับครอบครัวแฟนบ้างดูมีความสุขดีทุกอย่างนะคะ จากนั้นถึงเวลาก็กลับค่ะ ไม่เคยนอนค้าง ส่วนแม่ตอนแรกแฟนดูจะชอบเรามากพาเราเข้าบ้านไปทานข้าว พาไปเที่ยว ให้ของต่างๆ ทำกับข้าวที่เราชอบ ด้วยนิสัยที่เราเป็นคนขี้อ้อนอยู่แล้ว ทุกครั้งที่ไปบ้านแฟนเราจะกระตือรือร้นมากค่ะ อย่างเช่น อยู่บ้านตัวเองก็จะเฉื่อยๆหน่อย แต่พอไปบ้านแฟนก็จะช่วยแฟนทำความสะอาดบ้าน ทานข้าวเสร็จก็ช่วยล้าง แต่ส่วนใหญ่แฟนจะไม่ให้ล้างค่ะ เลยช่วยทุกอย่างเท่าที่จะช่วยได้ เพราะไม่อยากทำตัวน่าเกลียดค่ะ จนเราสนิทกันมากขึ้นเรื่อยๆ แต่เรามีแอะใจเล็กน้อย ว่าทำไมเค้าดีกับเราแปลกๆ ด้วยความที่เป็นคนไว้ใจใครยากอยู่แล้ว แต่ก็ไม่ได้คิดอะไรมากค่ะ ก็ใช้ชีวิตตามปกติมาเรื่อยๆ
ด้วยความที่เราสนิทกันมากถึงขั้นพูดคุยให้คำปรึกษากันได้ทุกเรื่อง แล้วแฟนก็มักจะเล่าเรื่อวเรื่องราวในชีวิตของเค้าให้ฟัง เราจึงได้รับรู้ตลอดค่ะ ว่าแฟนเป็นที่น่าสงสารมาก บ้านเค้าจะอยู้ด้วยกัน 4 พ่อ แม่และมีลูกชาย 2 คน แฟนเป็นพี่คนโต และมีน้องชายอีกคนต่างกัน 5 ปี.
ตั้งแต่เด็กแฟนจะเป็นคนช่วยเหลืองานที่บ้านมาโดยตลอด ไม่ว่าจะเป็นดูแลคุณย่าที่ป่วยหนัก ทำความสะอาดบ้าน ออกไปซื้อของ ซ่อมนู่นนี่ ทำกับข้าวช่วยแม่เค้าตลอดเวลา ตกกลางคืนก็จะนวดให้แม่ เป็นประจำ ตอนแรกที่ได้ฟัง โอ้โห ผู้ชายอะไรจะทำได้มากขนาดนั้น โม้แล้วมั้ง55 แต่ไม่เลยค่ะ เค้าทำอย่างงั้นจริงๆ
ได้ฟังไปฟังมา เค้าไม่มีความสุขเลยค่ะ เค้าไม่มีเวลาส่วนตัวเลย พอได้นั่งพักแม่เค้าก็เรียกตลอด ให้ทำนู่นทำนี่ เล็กๆน้อยๆก็พอเข้าใจค่ะ แต่แฟนบอกว่า แม่ไม่เคยให้พื้นที่ส่วนตัว หรือเวลาเลย เหมือนแม่เค้าไม่สนเลยค่ะ ว่าเค้าว่างมั้ย ติดธุระอะไรรึเปล่า ไอ้เราก็ไม่เห็นว่าเป็นเรื่องใหญ่เลยได้แต่ปลอบๆไป และก็เข้าใจฝั่งแม่เค้ามากกว่า แต่พอวันนึ้งมีโอกาสได้คอลสายค้างกันไว้ในคอม จะได้ยินเสียงแม่แฟนเรียกตลอดเลยจริงๆค่ะ พอแฟนกลับมาในคอมได้แปปนึง ก็เรียกอีก แบบเรียกได้เรื่อยๆไม่มีลิมิตอ่ะค่ะ เราก็แอบๆรำคาญนะเอาจริงๆ แค่คิดว่าคนเราจะธุระเยอะอะไรขนาดนั้น แต่ที่มันสำคัญเลยก็คือน้ำเสียงที่แม่แฟนใช้อ่ะค่ะ เป็นน้ำเสียงแบบจิกใช้เลย แบบไม่ได้! จะเอาเดี๋ยวนี้! ตอนนี้! เราก็เริ่มตะหงิดๆง่ะ เรียกแต่ละครั้งก็สะดุ้งทุกครั้งเลย ก็มีบางครั้งที่แม่แฟนเข้ามาเจอเราเปิดกล้องกับแฟนก็จะเข้ามาทักเรา แล้วบอกคิดถึงนู่นนี่ เรียกเราว่าลูกสาว ลูกสะใภ้ไรงี้ เราก็รู้สึกดีๆมากๆ เจอที่ไรก็เข้าไปก่อน เราก็รักและเคารพเหมือนแม่คนนึงเลย
-เวลาแฟนอยากไปไหน แม่แฟนก็ไม่ค่อยให้ไปบอกว่าอยู่ช่วยงานบ้านแม่ก่อน
-ไปเดินห้างกับแม่ ไม่เคยได้ซื้อหรือได้ดูของอะไรที่ตัวเองสนใจ
-ได้ไปห้างทีนึงก็ไปได้แค่ทำธุระธนาคารให้แม่
-เชื่อมั้ยคะ ว่าแฟนเป็นคนทำงานหาเงินมาตั้งแต่เด็ก แต่ตอนนี้ไม่มีเงินในบัญชีเลย เพราะแม่ขอหมด ส่วนจะเอาไปทำอะไรนั้นเราไม่ทราบค่ะ แต่รับรู้แค่ว่า แล้วแฟนจะเอาเงินที่ไหนเก็บเพื่ออนาคตตัวเอง ตั้งใจเรียนเพื่อกู้เงิน ก.ย.ศ พยามรักษาเกรดตลอด อย่างที่รู้ว่าการกู้เงิน กยศ คือเราไม่ต้องจ่ายค่าเทอม แล้วในแต่เดือนละเค้าก็จะโอนเงินมาให้ใช่มั้ยคะ แฟนไม่เคยมีโอกาสได้แตะต้องเงินส่วนนั้นเลย แตะแปปนึงคือออกไปกดมาให้แม่
-เวลาแฟนมีปัญหา จะไม่ได้คำปรึกษาอะไรเลย มีแต่จะได้แต่การซ้ำเติมให้ยิ่งเจ็บ โดนด่าว่าโง่อย่างนู่นนี้ แฟนเลยเลือกที่จะไม่พูด
นับวันแฟนเริ่มเก็บกดขึ้นเรื่อยๆ เริ่มอยากมีอิสระมากขึ้น เริ่มอยากเป็นตัวของตัวเอง จนมาเจอเรา เราคอยบอกเสมอว่า ชีวิตเป็นของเรา เราเลือกได้ แต่เราแค่ต้องทำให้มันถูกต้อง เราให้แรงบรรดาลใจเค้า ให้คุณค่าเค้า เพราะคิดเสมอเลยว่าชีวิตเค้าไม่มีค่า ไม่รู้เกิดมาทำไม ไม่มีจุดหมาย ไม่มีอนาคต จนเราเข้าไปเติมเต็มทุกอย่าง เราช่วยกันเรียนเราไม่ถนัดวิชาคำนวณเค้าก็ช่วย เค้าไม่ถนัดภาษาเราก็ช่วยสอน เป็นแบบนี้ตลอดค่ะ มีทะเลาะกันบ้างตามประสา.
ทุกคนพอนึกภาพออกมั้ยคะ ว่าคนเราต้องมีการเปลี่ยนแปลง จากเด็กสู่วัยรุ่น ช่วงเวลาวัยรุ่นของแฟนได้หายไปแล้วค่ะ ตอนนี้แฟนกำลังจะก้าวเข้าสู่การเป็นผู้ใหญ่ เราช่วยหาที่ฝึกงานให้แฟน เพราะเคยมีประสบการณ์มาก่อน ส่วนตัวเราก็เรียนใกล้จบ จึงเจอกันน้อยลง จากเมื่อก่อนที่เจอกันทุกวัน กินข้าวด้วยกันทุกวัน ปกติแล้วแฟนจะขี่มอไซค์ไปเรียน ไปทำงานเป็นประจำ แฟนก็เริ่มมีความพยามอยากเจอเรามากขึ้น พวกเราเลยไปสมัครเข้ายิมกันหลังแฟนเลิกงาน จ่ายตังค์เรียบร้อย แม่แฟนมาบอกว่า ไม่โอเค ห้ามไป เด็ดขาด ทำไมต้องไปรับ-ส่ง เราด้วย แฟนจึงอธิบายว่าเราอ่ะช่วยแฟนมาหลายเรื่องแล้ว แล้วที่รับส่งอ่ะ เราช่วยค่าน้ำมันนะ (คือบ้านเรากับแฟนห่างกันประมาณ 15 นาที และยิมอยู่ระหว่างบ้านเราสองคน) แม่แฟนคือไม่ยอมเลย ขึ้น-กู พร้อมทิ้งท้ายว่าห้ามไปเด็ดขาด และแม่แฟนก็ออกจากบ้านไปทธุระข้างนอก ส่วนแฟนก็ไม่สนใจแล้ว เพราะไม่ได้ทำอะไรผิด เราก็เข้ายิมกันได้ 1 วันถ้วน
วันรุ่งขึ้น แฟนโดนยึดรถเรียบร้อย แม่แฟนจะเป็นคนขับรถรับ-ส่ง แฟนเอง โดยมีเหตุผลที่กลัวว่าแฟนจะมารับเราอีก เป็นอย่างงี้ประมาณอาทิตย์นึง ทางเรานี่วุ่นวายเลย ต้องโทรไปขอร้องทางยิมให้รักษาสิทธิไว้ให้เพราะช่วงนี้ไม่สะดวก เครียดกันมาก หลังๆแม่แฟนเริ่มเบื่อ ก็ให้น้องชายแฟนทำหน้าที่แทน จนเราสงสารแฟนมาก จะไปไหนก็ไม่ได้ไปเลย เหมือนโดนล่ามโซ่ แล้วจากนั้นแม่แฟนก็ไม่อะไรกับเราเลยนะ ไม่คุยด้วย เราก็งงๆ แต่ก็ทำตัวเฉยๆ เราก็เลยให้แฟนโกหกแม่ว่าเราไปต่างจังหวัด 2 อาทิตย์ แต่จริงๆเราไปแค่วันเดียว เพื่อจะให้แม่แฟนคืนรถให้ จากนั้นก็คืนจริงๆ
เรางงมากนะกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นพยามหาสาเหตุ จนวันนึงแฟนมาเล่าให้ฟังว่า แกไม่ชอบและไม่อยากให้แฟนมาหาเราที่บ้าน เพราะคนเราเจ็บแล้วต้องจำ ครอบครัวเราเกลียดแฟนมาก อย่าไปเลย ทั้งๆที่ความจริงแล้วแกก็รู้แล้วนะคะว่าครอบครัวเราทุกคนโอเคกับแฟนมาก เหมือนเป็นครอบครัวไปแล้ว เราส่าเหตุผลนี่น่าจะฟังไม่ขึ้น เราคิดอีกแบบมากกว่า เราคิดว่า แกคงไม่อยากเสียแฟนเราไปให้กับครอบครัวเรา กลัวแฟนเราจะมาทำอะไรดีๆให้ครอบครัวเรา เหมือนที่แฟนทำที่บ้าน ก็คือ หวง นั่นแหละค่ะ แต่เค้าไม่เคยสนใจเลยอ่ะ ว่าแฟนเรามีความสุขมั้ย
จากนั้นแฟนก็ไม่ยอมแพ้นะคะ ยังแอบมาหาเราเรื่อยๆ แต่ไม่บ่อยเพราะแทบไม่มีโอกาสเลย แต่พอช่วงอีไวรัสมหาภัยนี่สิคะ พอต้องกักตัวแฟนก็ Work from home สบายเลย อยู่บ้านทั้งวัน ปรากฎว่าหนักกว่าเดิมค่ะ แฟนนั่งทำงานทั้งวัน โดยมีเราคอลค้างกันไว้ในคอมตลอดเพราะรู้แล้วว่าคงไม่ได้เจอกันอีกแน่นอน ทั้งเรื่องแม่และเรื่องปิดตำบลในจังหวัด เราก็มีสิทธิอยู่ด้วยกันแค่นี้
มีอยู่วันนึงค่ะ แม่กับแฟนมีปากเสียงกันหนักมาก จำสาเหตุไม่ได้เหมือนกันค่ะ แต่รู้แน่ๆเลยว่าไม่เกี่ยวกับเราโดยสิ้นเชิง แต่อยู่ๆแกก็ด่ามาถึงเรา ว่าคบกับเราทำไมไม่เห็นจะดีขึ้น ตั้งแต่คบกับเรานี่เปลี่ยนไป เริ่มเถียงแม่ (แต่จริงๆแล้วบ้านนี้เค้าพูดกันแรงอยู่แล้วนะคะ แฟนเองก็เถียงแม่อยู่ๆบ่อยๆ เราเองก็ยังทั้งเตือน ทั้งด่า) แล้วก็เริ่มด่าหนักขึ้น ด่าว่าแฟนเห็น -ี ดีกว่าแม่ และขนมาทั้งสวนสัตว์เลยค่ะ แฟนทนไม่ไหว เดินออกจากบ้านเลยค่ะ แล้วโทรหาเรา เล่าทุกอย่างให้ฟัง ทันใดนั้นแม่แฟนก็โทรหาเรา เราเลยกดรวมสายแล้วให้แฟนเงียบเพื่อแอบฟัง เล่านู่นนี่เหมือนกัน ด่าแฟนสารพัด แต่พูดกับเราดี ปกดิ ในใจคือคิด อ้าว แล้วที่ด่ากูเมื่อกี้นี่ร่างไหน? จุดประสงค์คือแค่ต้องการโทรมาถามค่ะ ว่ารู้มั้ยแฟนอยูไหน แฟนบอกให้บอกไปว่าไม่รู้ พอแฟนกลับบ้านไป น้องชายบอกว่า แม่แฟนได้ฉีกรูปเราที่อยู๋หน้าคอมแฟนไปแล้ว พอเราร็อ่ะเราเจ็บมาก แค้นมาก ว่าเห้ย เราทำไรผิดว้ะ ทำไมต้องทำขนาดนี้ แฟนก็คือยิ่งรู้สึกแย่กับแม่ตัวเองมากขึ้น ที่อยู่ทุกวันคือเหมือนแฟนแค่ทนอยู่ แต่จะไปไหนก็ไม่ได้ ในเมื่อเอาเงินแฟนไปหมดแล้ว รถก็ชื่อแม่แฟน คือไม่มีไรติดตัวเลย และหลังจากนั้นค่ะ เราและแฟนโดนด่าเรื่อยๆเลย ทุกวันๆ เราเองที่อยู่กับแฟนในสายคือได้ยินตลอดว่าเค้าด่าอะไรเราบ้าง เราเจ็บมาก พ่อแม่เรา ยังไม่เคยด่าขนาดนี้ ในใจถามตลอดว่า เราแย่ขนาดนั้นเลยเหรอ เราทำอะไรผิด จนได้มารู้ว่าแฟนเก่า 2 คนของแฟนก็โดน แต่โโนสั่งให้เลิกเลย ตอนนั้นแฟนยังเด็ก และเพราะกลัวแม่มาก เลยยอมเลิก ทั้งๆที่ยังรัก ส่วนอีกคนคือให้ญาติผญ ปลอมเสียงเป็นแฟนใหม่ของแฟน แล้วบอกให้เลิกกัน แฟนก็ยอมเหมือนเคย
แต่ครั้งนี้แฟนไม่ยอมแล้วไงคะ เพราะเราเหมือนเป็นทุกอย่างของแฟนไปแล้ว สิ่งที่เราให้แฟนอ่ะ มันมากกว่าที่แม่เค้าให้เยอะ ถ้าลงรายละเอียดคือ ต้องตั้งอีกสัก 2-3 กะทู้
ทุกคนอาจจะคิดว่า ทำไมต้องคอลสายทั้งสันทั้งคืนขนาดนั้น ไม่มีไรทำรึไง ตัวเราอ่ะตอนเช้าสอนภาษาอังกฤษให้แฟน ตอนบ่ายแฟนก็ทำงาน ส่วนเราก็ว่าง และนั่งเล่นไรไปเรื่อยๆ คือเอาๆตรงๆนะ มันก็เหมือนแฟนฝึกงานที่ออฟฟิศเลย แค่มีเราแปะไว้แต่ไม่ยุ่ง ไม่กวนกัน แค่มีพออุ่นใจ แต่แม่แฟนอ่ะ รู้ทั้งร็ว่าลูกทำงานอ่ะ แกก็ยังใช้ไม่หยุดเลย เชื่อมั้ยว่าในขณะที่พิมอยู่ แกกำลังตะโกนเรียกแฟนอยู่ โคตรหลอนเลย
ต่อมาเราเก็บแฟนก็ทนใช้ชีวิตกันแบบนี้มาเรื่อยๆ อยู่ด้วยกันก็ยิ้มแฮปปี้ดี แต่ทุกคนเชื่อมั้ยคะว่าเราเครียดมาก นอนไม่หลับเลย นอนเช้าตลอด เพราะคิดแต่เรื่องนี้ กินข้าวก็ไม่ค่อยลง ไม่ค่อยเป็นเวลา และก็ยังได้ยินเสียงด่า แบบนี้ทุกวันเลย เราเลยออกไปเดินข้างนอกบ้าง หานู่นนี่ทำบ้าง กลับมาก็ได้ยินอีก มันวนอยู่แบบนี้เรื่อยๆ ถ้ามันเป็นอารมณ์แบบแม่บ่นไรงี้อ่ะ เราจะไม่อะไรเลย แต่นี่คือด่าเราเสียๆ หายๆเลย ดูถูกเรา อย่างนู้นนี้ ใช่ เราไม่ได้เป็นแบบนั้น แต่มันก็ค้านในใจ ไปทำไรให้ว้ะ แล้วทำไมต้องมาทน
แล้วล่าสุดเมื่อไม่มีวันก่อนก็มีปากเสียงกันอีกด้วยเรื่องอื่นที่ไม่เกี่ยวกับเรา แต่สุดท้ายก็แว้งมาด่าเราจนได้ ครั้งนี้แม่แฟนยึดรถแฟน ตัดเน็ตบ้าน คือแกทำทุกอย่างเลยเพื่อให้เราเลิกกัน เนื่องจากสองแม่ลูกเริ่มสัมพันธ์แย่ลงรื่อยๆ เราเลยคุยกับแฟนว่าเราลองห่างกันดูมั้ย เผื่อแฟนจะดีกับครอบครัวมากขึ้น เราก็คิดว่าที่เป็นแบบนี้เพราะเราคนเดียวเลย เรายอมถอยมาคนเดียวมันน่าจะดีที่สุด แต่ก็คิดว่า ตอนเรากับครอบครัวอ่ะ แฟนเรายังสู้เลย แต่ครอบครัวเราไม่ได้แรงขนาดนี้ไง ฮัลโหล คำตอบที่ได้จากแฟนคือ นางไม่ยอมห่าง นางบอกทำไมเราต้องยอมด้วย เราสอนภาษอังกฤษแฟนตอนเช้าแกก็ไม่ยอมแล้ว เดินมาแซะ มาด่า แล้วสั่งแฟนว่าห้ามเรียน แล้วดูถูกเราว่า ไม่มีประสบการณ์ ไม่เคยเจอฝรั่ง ทั้งๆที่สาขาที่เราเรียนอยู่เป็นอินเตอร์ เรียนเป็นอิ้งค์หมดเลย และเราเคยผ่านการฝึกงาน หน้าฟร้อน เอฟบี แม่บ้าน ในครัว คือฝึกมาหมดแล้ว เจอฝรั่งเป็นพันๆคน
ประเด็นคือตอนนี้เรากับแฟนไม่มีความสุขเลยค่ะ โดนกีดกันตลอด โดนตัดทุกทาง ล่าสุดแฟนโดนสั่งห้ามเปิดคอมอีกอีก อ้างว่าค่าไปขึ้นเพราะแฟนเปิดคอม ทั้งๆที่แฟนเปิดโดน๊ตบุ้คมันกินไปไม่เท่าไหร่เลย แต่คือแกพยามมากๆจริงค่ะ เพื่อให้เราเลิกกัน ใครพอจะมีทางออกมั้ยคะ เราสองคนทรมานมาก ขอบคุณล่วงหน้านะคะ