Daytrade Ep.8
เจ้ามือในตลาดForexมีจริงหรือไม่
ในหลายๆEpที่ผ่านมาผมพูดถึงเจ้ามือมาหลายครั้ง จนมีบางคนสงสัยและตั้งคำถามมาว่าเจ้ามือที่พูดถึงเป็นใคร และมีอยู่จริงไหม และถ้ามีอยู่จริงเขาทำยังงัยในการสร้างทิศทางราคา และใครร่วมมือบ้าง
ก่อนเข้าสู่ตลาดForexผมเคยมีประสบการณ์ในตลาดหุ้นมาระยะหนึ่งเมื่อสมัยยี่สิบปีที่แล้วจะเอามาเล่าสู่กันฟัง
ถ้าพูดถึงเจ้ามือหุ้นปั่นในตลาดหุ้นบ้านเราหลายๆคนที่เคยผ่านวงการหุ้นมาน่าจะพอรู้ว่ามันมีอยู่จริง มีข่าวมาหลายครั้งที่ถูกจับได้ถูกดำเนินคดีบ้าง หอบเงินหนีไปต่างประเทศบ้าง
ข้อแตกต่างของหุ้นกับForexคือหุ้นจะเล่นในทิศทางทางเดียวคือทำราคาให้สูงขึ้นเพื่อไปขายในราคาที่แพงกว่าตอนซื้อ แต่Forexจะเล่นทั้ง2ทางคือทั้งขึ้นและลง กระบวนการทำราคาจึงซับซ้อนกว่า
ผมขออธิบายแค่กระบวนการปั่นหุ้นนะแล้วลองคิดต่อกันเองว่าวงการForexจะมีเจ้ามือไหม
การปั่นหุ้นต้องมีการร่วมมือกันของหลายๆองค์ประกอบในการปั่นหุ้นแต่ละตัวจึงเรียกว่ากระบวนการ องค์ประกอบที่ต้องมีคือ
1.เจ้ามือปั่นหุ้นต้องมีทุนหนาพอ
2.เจ้าของบริษัทหุ้นตัวที่ปั่นต้องร่วมมือด้วย
3.โบรคต้องร่วมมือ
4.ต้องมีพ็อตนอมินีหลายๆพ็อต
5.สภาวะตลาดต้องเป็นใจ
ขั้นตอนการปั่นหุ้นแต่ละตัว
1.เจ้ามือจะหาหุ้นแต่ละตัวที่มีจำนวนหุ้นในตลาดน้อยและราคาที่ถูก เพื่อที่เงินทุนของตัวเองจะสามารถควบคุมทิศทางราคาได้ เรียกว่าขั้นตอนการนับหุ้น
2.เจรจากับเจ้าของบริษัทแบ่งผลประโยชน์กันโดยมีเงื่อนไขว่าห้ามเจ้าของบริษัทห้ามโยนหุ้นในมือตัวเองลงมาในตลาดช่วงที่ทำราคา(โดยปกติแล้วหุ้นในมือเจ้าของบริษัทจะมี51%ขึ้นไป ตามที่แจ้งกับตลาด)จะมีเจ้าของบริษัทที่รับข้อเสนอบางบริษัทเท่านั้น เราจึงได้ยินคำว่าธรรมาภิบาลของเจ้าของบริษัทบ่อยๆในวงการหุ้น
3.โบรคต้องร่วมมือในการเปิดพ็อตนอมินีซื้อขายหุ้น ต้องไม่แจ้งกลต.ว่ามีการซื้อขายผิดปกติในช่วงทำราคา
4.ช่วงเก็บของพอเจ้ามือหาองค์ประกอบที่1 2 3ครบแล้วก็จะทำการเก็บหุ้นตัวนั้นที่มีอยู่ในตลาดผ่านพ็อตนอมินีที่ต้องมีหลายๆพ็อต เพื่อจะได้ไม่ผิดกฏ กลต. เอาไว้โยนหุ้นกันไปมาขณะทำราคา ช่วงเวลาการเก็บหุ้นนี้อาจกินเวลายาวนานหลายเดือนหรือเป็นปีๆ สังเกตุได้จากกราฟหุ้นจะเป็นเส้นตรงแนวนอนอยู่ในกรอบราคาแคบๆไปยาวนานหลายเดือนหรือเป็นปีๆ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับโอกาสและรอให้สภาวะตลาดเป็นใจ
4.ช่วงทำราคาหลังจากเจ้ามือมีจำนวนหุ้นมากพอในอัตราส่วนมากกว่ส2/3ของจำนวนหุ้นที่มีในตลาด และเมื่อสภาวะตลาดเป็นใจคือเริ่มมีข่าวเศรษฐกิจที่ดีขึ้น เจ้ามือก็จะเริ่มทำราคาหุ้นตัวนั้นขึ้นมาโดยแบ่งหน้าที่กันดังนี้
4.1พ็อตนอมินี มีหน้าที่สร้างvolumเพื่อดึงความสนใจ โดยการโยนหุ้นกันไปมาระหว่างพ็อตในvolumที่สูงขึ้นผิดปกติจากเดิมทำให้เหมือนเริ่มมีการซื้อขายหุ้นตัวนี้ขึ้นมา จริงๆแล้วเป็นการโยนหุ้นกันไปมาระหว่างพ็อตนอมินีของเจ้ามือเองจำนวนหุ้นของเจ้ามือจะเหลือเท่าเดิมตรงนี้จะมีการนับหุ้นทุกวันเมื่อตลาดปิด สังเกตุได้จากvolumจะสูงขึ้นผิดปกติและราคาขยับขึ้น
4.2เจ้าของบริษัทมีหน้าที่ออกข่าวสนับสนุน เช่นออกงบการเงินที่สวยงาม มีโปรเจคใหม่ที่สามารถสร้ากำไรได้มหาศาล บลาๆ
4.3โบรคเกอร์มีหน้าที่ ให้นักวิจารณ์นำหุ้นตัวนั้นออกมาเขียนเชียร์ไปในทางที่ดีทำให้คนรู้จักหุ้นตัวนั้นเป็นวงกว้าง
5.ช่วงออกของทำกำไร ช่วงนี้หลังจากทำราคามาถึงจุดๆหนึ่งแล้วเจ้ามือจะต้องการดึงvolumเข้าสู่ตลาดเพื่อปล่อยของในมือตัวเองที่มีอยู่ปริมาณมากต้องยัดใส่มือรายย่อยให้ได้มากที่สุด สังเกตุได้จาก volumจะพีคราคาจะพีคสุดช่วงนี้ ทุกๆคนจะพูดถึงเรื่องหุ้นกันช่วงนี้ แม้แต่แท็กซี่ มอไซด์รับจ้างก็จะชวนเราคุยเรื่องหุ้น มีข่าวลือต่างๆนาๆออกมาให้ได้ยินเกี่ยวกับหุ้นตัวนี้ ข่าววงนอก วงใน คำพูดที่จะได้ยินบ่อยๆคืออย่าไปบอกใครนะได้ข่าววงในมาว่าหุ้นตัวนี้จะขึ้นไปที่ อันนี้แหละตัวดีเลยคนจะตามเข้าไปซื้อและติดดอยกันประจำ5555
เมื่อvolumในตลาดสูงขึ้นจากนักลงทุนรายย่อยที่เข้ามาในตลาดด้วยความโลภเจ้ามือและเจ้าของบริษัทก็จะรินขายของในมือตัวเองใส่รายย่อยจนหมด ช่วงนี้จะกินเวลาสั้นๆนะเพราะเจ้าของบริษัทต้องเก็บหุ้นตัวเองคืนในราคาที่ต่ำก่อนที่โบรคต้องส่งรายงานจำนวนผู้ถือหุ้นเข้ากลต.
6.จบกระบวนการปั่นหุ้น หลังจากเจ้ามือยัดหุ้นในมือตัวเองใส่รายย่อยหมดแล้วในราคาที่สูง volumก็จะเริ่มเบาบางลงและราคาไหลลงเรื่อยๆจากvolumพีคราคาพีคก็จะกลับมาสู่ภาวะปกติ และก็มีเม่าติดดอยออกมาบ่นกันให้ได้ยินทั่วบ้านทั่วเมือง โดยเจ้ามือก็หอบเงินออกจากตลาดเจ้าของบริษัทได้เงินและเหลือจำนวนหุ้นเท่าเดิมจากการซื้อกลับในราคาถูก win win กันทั้งคู่ ปล่อยให้เม่านอนกอดหุ้นไว้ในฐานะนักลงทุนสายVi (ถือรอไปเถอะบางคนถือจนลูกโตยังไม่กลับเลย)
ลองนึกภาพตามว่าในวงการForexจะมีเจ้ามือไหมคิดกันเอาเอง ขนาด จอร์จ โซลอส คนเดียวยังสามารถโจมตีค่าเงินเยนของญี่ปุ่นได้เลย(หาอ่านขาวดูเมื่อหลายปีมาละ) หรือเหตุการณ์เงินบาทลอยตัว หรือเหตุการปรับค่าเงินฟรังสวิต ทั้งหมดน่าจะเกี่ยวกับเจ้ามือ
***เจ้ามือมันหากินจากความโลภของคน***
สุดท้ายนี้ผมอยากให้เพื่อนๆนักลงทุนมองตัวเองว่าเราอยู่ส่วนไหนของตลาด ควรจะมีวิธีการเล่นแบบไหนให้อยู่รอดและสร้างกำไรจากตลาดได้แบบยั่งยืน
EPต่อไปผมจะเขียนเกี่ยวกับการเล่นตามทิศทางเจ้ามือ แบบเข้าทีหลังออกก่อนเจ้ามือ
ขอบคุณมากครับ
ปล.เรื่องเจ้ามือปั่นหุ้นผมเขียนขึ้นมาจากแบบจำลองความคิดไม่ได้พาดพิงบุคคลหรือหุ้นตัวไหนโปรดใช้วิจารณญานในการอ่านและชั่งน้ำหนักเหตุด้วยตัวเอง
แชร์ได้ให้วงการปั่นหุ้นสะเทือนให้มันทำงานลำบากขึ้น
Credit:เพจเรื่องเล่านักลงทุนForex
เจ้ามือวงการปั่นหุ้นมีจริงไหม?
เจ้ามือในตลาดForexมีจริงหรือไม่
ในหลายๆEpที่ผ่านมาผมพูดถึงเจ้ามือมาหลายครั้ง จนมีบางคนสงสัยและตั้งคำถามมาว่าเจ้ามือที่พูดถึงเป็นใคร และมีอยู่จริงไหม และถ้ามีอยู่จริงเขาทำยังงัยในการสร้างทิศทางราคา และใครร่วมมือบ้าง
ก่อนเข้าสู่ตลาดForexผมเคยมีประสบการณ์ในตลาดหุ้นมาระยะหนึ่งเมื่อสมัยยี่สิบปีที่แล้วจะเอามาเล่าสู่กันฟัง
ถ้าพูดถึงเจ้ามือหุ้นปั่นในตลาดหุ้นบ้านเราหลายๆคนที่เคยผ่านวงการหุ้นมาน่าจะพอรู้ว่ามันมีอยู่จริง มีข่าวมาหลายครั้งที่ถูกจับได้ถูกดำเนินคดีบ้าง หอบเงินหนีไปต่างประเทศบ้าง
ข้อแตกต่างของหุ้นกับForexคือหุ้นจะเล่นในทิศทางทางเดียวคือทำราคาให้สูงขึ้นเพื่อไปขายในราคาที่แพงกว่าตอนซื้อ แต่Forexจะเล่นทั้ง2ทางคือทั้งขึ้นและลง กระบวนการทำราคาจึงซับซ้อนกว่า
ผมขออธิบายแค่กระบวนการปั่นหุ้นนะแล้วลองคิดต่อกันเองว่าวงการForexจะมีเจ้ามือไหม
การปั่นหุ้นต้องมีการร่วมมือกันของหลายๆองค์ประกอบในการปั่นหุ้นแต่ละตัวจึงเรียกว่ากระบวนการ องค์ประกอบที่ต้องมีคือ
1.เจ้ามือปั่นหุ้นต้องมีทุนหนาพอ
2.เจ้าของบริษัทหุ้นตัวที่ปั่นต้องร่วมมือด้วย
3.โบรคต้องร่วมมือ
4.ต้องมีพ็อตนอมินีหลายๆพ็อต
5.สภาวะตลาดต้องเป็นใจ
ขั้นตอนการปั่นหุ้นแต่ละตัว
1.เจ้ามือจะหาหุ้นแต่ละตัวที่มีจำนวนหุ้นในตลาดน้อยและราคาที่ถูก เพื่อที่เงินทุนของตัวเองจะสามารถควบคุมทิศทางราคาได้ เรียกว่าขั้นตอนการนับหุ้น
2.เจรจากับเจ้าของบริษัทแบ่งผลประโยชน์กันโดยมีเงื่อนไขว่าห้ามเจ้าของบริษัทห้ามโยนหุ้นในมือตัวเองลงมาในตลาดช่วงที่ทำราคา(โดยปกติแล้วหุ้นในมือเจ้าของบริษัทจะมี51%ขึ้นไป ตามที่แจ้งกับตลาด)จะมีเจ้าของบริษัทที่รับข้อเสนอบางบริษัทเท่านั้น เราจึงได้ยินคำว่าธรรมาภิบาลของเจ้าของบริษัทบ่อยๆในวงการหุ้น
3.โบรคต้องร่วมมือในการเปิดพ็อตนอมินีซื้อขายหุ้น ต้องไม่แจ้งกลต.ว่ามีการซื้อขายผิดปกติในช่วงทำราคา
4.ช่วงเก็บของพอเจ้ามือหาองค์ประกอบที่1 2 3ครบแล้วก็จะทำการเก็บหุ้นตัวนั้นที่มีอยู่ในตลาดผ่านพ็อตนอมินีที่ต้องมีหลายๆพ็อต เพื่อจะได้ไม่ผิดกฏ กลต. เอาไว้โยนหุ้นกันไปมาขณะทำราคา ช่วงเวลาการเก็บหุ้นนี้อาจกินเวลายาวนานหลายเดือนหรือเป็นปีๆ สังเกตุได้จากกราฟหุ้นจะเป็นเส้นตรงแนวนอนอยู่ในกรอบราคาแคบๆไปยาวนานหลายเดือนหรือเป็นปีๆ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับโอกาสและรอให้สภาวะตลาดเป็นใจ
4.ช่วงทำราคาหลังจากเจ้ามือมีจำนวนหุ้นมากพอในอัตราส่วนมากกว่ส2/3ของจำนวนหุ้นที่มีในตลาด และเมื่อสภาวะตลาดเป็นใจคือเริ่มมีข่าวเศรษฐกิจที่ดีขึ้น เจ้ามือก็จะเริ่มทำราคาหุ้นตัวนั้นขึ้นมาโดยแบ่งหน้าที่กันดังนี้
4.1พ็อตนอมินี มีหน้าที่สร้างvolumเพื่อดึงความสนใจ โดยการโยนหุ้นกันไปมาระหว่างพ็อตในvolumที่สูงขึ้นผิดปกติจากเดิมทำให้เหมือนเริ่มมีการซื้อขายหุ้นตัวนี้ขึ้นมา จริงๆแล้วเป็นการโยนหุ้นกันไปมาระหว่างพ็อตนอมินีของเจ้ามือเองจำนวนหุ้นของเจ้ามือจะเหลือเท่าเดิมตรงนี้จะมีการนับหุ้นทุกวันเมื่อตลาดปิด สังเกตุได้จากvolumจะสูงขึ้นผิดปกติและราคาขยับขึ้น
4.2เจ้าของบริษัทมีหน้าที่ออกข่าวสนับสนุน เช่นออกงบการเงินที่สวยงาม มีโปรเจคใหม่ที่สามารถสร้ากำไรได้มหาศาล บลาๆ
4.3โบรคเกอร์มีหน้าที่ ให้นักวิจารณ์นำหุ้นตัวนั้นออกมาเขียนเชียร์ไปในทางที่ดีทำให้คนรู้จักหุ้นตัวนั้นเป็นวงกว้าง
5.ช่วงออกของทำกำไร ช่วงนี้หลังจากทำราคามาถึงจุดๆหนึ่งแล้วเจ้ามือจะต้องการดึงvolumเข้าสู่ตลาดเพื่อปล่อยของในมือตัวเองที่มีอยู่ปริมาณมากต้องยัดใส่มือรายย่อยให้ได้มากที่สุด สังเกตุได้จาก volumจะพีคราคาจะพีคสุดช่วงนี้ ทุกๆคนจะพูดถึงเรื่องหุ้นกันช่วงนี้ แม้แต่แท็กซี่ มอไซด์รับจ้างก็จะชวนเราคุยเรื่องหุ้น มีข่าวลือต่างๆนาๆออกมาให้ได้ยินเกี่ยวกับหุ้นตัวนี้ ข่าววงนอก วงใน คำพูดที่จะได้ยินบ่อยๆคืออย่าไปบอกใครนะได้ข่าววงในมาว่าหุ้นตัวนี้จะขึ้นไปที่ อันนี้แหละตัวดีเลยคนจะตามเข้าไปซื้อและติดดอยกันประจำ5555
เมื่อvolumในตลาดสูงขึ้นจากนักลงทุนรายย่อยที่เข้ามาในตลาดด้วยความโลภเจ้ามือและเจ้าของบริษัทก็จะรินขายของในมือตัวเองใส่รายย่อยจนหมด ช่วงนี้จะกินเวลาสั้นๆนะเพราะเจ้าของบริษัทต้องเก็บหุ้นตัวเองคืนในราคาที่ต่ำก่อนที่โบรคต้องส่งรายงานจำนวนผู้ถือหุ้นเข้ากลต.
6.จบกระบวนการปั่นหุ้น หลังจากเจ้ามือยัดหุ้นในมือตัวเองใส่รายย่อยหมดแล้วในราคาที่สูง volumก็จะเริ่มเบาบางลงและราคาไหลลงเรื่อยๆจากvolumพีคราคาพีคก็จะกลับมาสู่ภาวะปกติ และก็มีเม่าติดดอยออกมาบ่นกันให้ได้ยินทั่วบ้านทั่วเมือง โดยเจ้ามือก็หอบเงินออกจากตลาดเจ้าของบริษัทได้เงินและเหลือจำนวนหุ้นเท่าเดิมจากการซื้อกลับในราคาถูก win win กันทั้งคู่ ปล่อยให้เม่านอนกอดหุ้นไว้ในฐานะนักลงทุนสายVi (ถือรอไปเถอะบางคนถือจนลูกโตยังไม่กลับเลย)
ลองนึกภาพตามว่าในวงการForexจะมีเจ้ามือไหมคิดกันเอาเอง ขนาด จอร์จ โซลอส คนเดียวยังสามารถโจมตีค่าเงินเยนของญี่ปุ่นได้เลย(หาอ่านขาวดูเมื่อหลายปีมาละ) หรือเหตุการณ์เงินบาทลอยตัว หรือเหตุการปรับค่าเงินฟรังสวิต ทั้งหมดน่าจะเกี่ยวกับเจ้ามือ
***เจ้ามือมันหากินจากความโลภของคน***
สุดท้ายนี้ผมอยากให้เพื่อนๆนักลงทุนมองตัวเองว่าเราอยู่ส่วนไหนของตลาด ควรจะมีวิธีการเล่นแบบไหนให้อยู่รอดและสร้างกำไรจากตลาดได้แบบยั่งยืน
EPต่อไปผมจะเขียนเกี่ยวกับการเล่นตามทิศทางเจ้ามือ แบบเข้าทีหลังออกก่อนเจ้ามือ
ขอบคุณมากครับ
ปล.เรื่องเจ้ามือปั่นหุ้นผมเขียนขึ้นมาจากแบบจำลองความคิดไม่ได้พาดพิงบุคคลหรือหุ้นตัวไหนโปรดใช้วิจารณญานในการอ่านและชั่งน้ำหนักเหตุด้วยตัวเอง
แชร์ได้ให้วงการปั่นหุ้นสะเทือนให้มันทำงานลำบากขึ้น
Credit:เพจเรื่องเล่านักลงทุนForex