[CR] Alone In Kelantan Singapore and Hong kong เมื่อ เด็ก 19 (ตอนนี้ 22) นั่งรถไฟต่อเครื่องบิน ไป 2 ประเทศ 1 เมือง Part II

ต่อจากกระทู้แรกเลยนะครับ https://pantip.com/topic/39812034

Day 3 : Singapore 

หลังจากผมนั่งรถไฟข้ามมาฝั่ง Woodlands ประเทศสิงคโปร์ พอถึง ตม. สิงคโปร์ ผมเปลียนรองเท้าเป็นผ้าใบ (ก่อนหน้านั้นใส่แตะ) แต่งตัวให้เรียบร้อยขึ้นหวังที่จะรอดจากห้องเย็น ผมเดินไปเขียนใบ ตม. เสร็จเป็นคนท้ายๆ พอเข้า ช่องพาสปอร์ตไป ผมใจกล้า หยิบ ตั๋วกลับประเทศไทยมาให้เขาดู (แต่ผมไม่มีแผนการเที่ยวสิงคโปรเลยมีแต่ ตั๋วบินจากชางงีไปฮ่องกงและจากฮ่องกงไปไทย) เขาก็ถามหลายอย่าง จนกระทั่งเขาบอกว่า follow me ปรากฎว่าเขาพาไปห้องเย็นครับ เนื่องจากสาเหตุ ผมเข้าสิงคโปรเป็นครั้งแรกและพาสปอร์ตขาว โพ้น เพราะเพิ่งทำมา พอเข้าไปนั่งห้องเย็น ผมด้วยความที่ไม่เคยสัมผัส ห้องเย็นเลย หยิบโทรศัพท์มาเล่น (แอบถ่ายห้องเย็นมาด้วยนะครับ ทักมาขอรูปได้ อิอิ) เขาเลยตะโกนมาว่า ให้เก็บโทรศัพท์ แล้วก็มี เจ้าหน้าที่ ตม. มาเรียกผมให้เข้าไปในห้อง พอเขาไปในห้องเขาก็สัมภาษณ์ผมว่า มาทำไม บ้านอยู่ไหน ขอดูพาสปอร์ต ดูเงิน pocket money ดูบัตรประชาชนด้วยนะครับ  แล้วก็ถามผมว่า ทำไมถึงไปฮ่องกง ดูตั๋วกลับ ไปไทย  ทุกอย่าง่ที่ผมมี ค้นกระเป๋า แต่ทุกอย่างที่เขาทำ ทำแบบนุ่มนวลมากครับ ไม่ได้ตะคอกหรืออะไรเลย ผมก็ให้ดูทุกอย่าง ตอบสิ่งที่เขาถาม และก็เอา เงิน pocket money ให้ดู จนกระทั่งเสร็จก็บอกว่า welcome to singapore แล้วก็พาผมไปปั้มพาสปอร์ต แล้วก็ให้เจ้าหน้าที่ ตม. อีกท่านหนึ่งไปส่งผมถึงที่ รอรถเมล์เลยครับ ดีใจมาก เจ้าหน่าที่ ตม. ที่นี้นุ่มนวล ไม่ตะโกน ไม่ตะคอกเลยใจดีอีกตั้งหาก หลังจากนั้นผมก็ขึ้นรถบัสมาที่ สถานี woodlands ครับ


บนสถานีรถไฟฟ้าวู้ดแลนด์ 

หลังจากนั้นก็นั่งรถไฟฟ้าไปลงสถานี lavander เพื่อไปเช็คอินเข้า Hostel ครับ 
ที่สิงคโปรผมจอง Hostel ชื่อ Dream Lodge ไว้ครับ (ได้ที่นอนเตียงบน) 

เดินจากสถานีรถไฟฟ้า ลาวินเดอร์ มาในซอย ประมาณ 900 เมตร ก็ถึงครับ อยู่ หน้าถนนเลย



ไอนี่หน้าโรงแรมนะครับ ข้างๆซ้าย จะเป็นโรงแรม ข้างขวาเป็นผับ กลางคืนนี้รถสปอร์ตจอดเต็ม หน้าโรงแรมเลย แต่ผับที่นี่เก็บเสียงเงียบมากเลยครับ แถบไม่มีเสียงลอดออกมาเลยตอนนอนก็ไม่ได้ยินเลยครับ ผมเข้าเช็คอินใน Hostel เสร็จขึ้นไปเก็บของ ทักทายฝรั่งใน โฮลเตล ชักเริ่มหิว เลยเดินออกมาหาไรกิน จากหน้าโฮลเตล เดินไปทางซ้ายจะมี food center อยู่ครับ เดินไปไม่ไกลมาก
พอเจอ ผมก็เข้าไปเลือกอาหาร เลยได้กินอาหารเวียดนามในดินแดนสิงคโปร ครับฃ


เป็นเฝอ เนื้อ ราคา 7$ และโค้กอีก 1$

การเดินทางในสิงคโปร์ ผมใช้บัตร EZ Link นะครับ ผมได้มาจากเพื่อนสมาชิกชาวกลุ่ม เที่ยวสิงคโปร์ เขามาขายในราคาเท่าๆกับซื้อที่ สิงคโปร ผมเลยตัดสินใจซื้อมาก่อนเดินทางครับ บัตร EZ Link ใช้ได้แถบทุกอย่างในสิงคโปรเลยนะครับ ทั้งเซเว่น รถไฟฟ้า รถเมล์ ร้านค้าที่มีสัญลักษณ์  EZ Link ครับ 

พอทานเสร็จก็กลับมาโรงแรมเพราะอากาศเริ่มครึมๆเหมือนฝนจะตก เข้ามาโรงแรม มาดูรูปในกล้องเล่นโทรศัพท์ จนกระทั่งฝนตกผมเลยขึ้นที่นอนเพื่อหลับครับ ผมหลับไปได้แปปเดียวตืนมา ฝนหยุด ลงเม็ดแค่ปรอยๆ ดูนาฬิกา ก็ผ่านไม่นานมาก เลยตัดสินใจว่าจะไปเที่ยว แถวๆโรงแรมก่อน เลยแต่งตัวเดินมาจากโรงแรม แต่ผมตัดสินใจไม่เอากล้องไปเลย ไม่ได้ถ่ายรูปมาครับ ผมเดินไปเที่ยวซุปเปอร์มาร์เก็ต เลยได้ซื้อนํ้าเก๊กฮวยมากิน หลังจากนั้นก็เดินเที่ยวแถวๆโรงแรมและก็กลับมาโรงแรมครับ พอถึงกลางคืน ผมไม่ได้นอน เลยมานั่งดูทีวีและเดินๆอยู่ชั้นหนึ่ง จนกระทั่งเพื่อนผมโทรมาผมเลยออกมาคุยโทรศัพท์ หน้า Hostel แต่ผมคุยได้ไปหน่อย เลยโดนฝรั่งที่นั่งอยู่ข้างๆบนเลย ผมเลย ขอโทษ และเดินไปหาที่นั่งคุยที่อื่น จนกระทั่งคุยเสร็จ ผมก็ขึ้นไปนอนครับ

ตื่นมาตอนเช้า ผมลงมาข้างล่าง เจอฝรั่งมากมาย กำลังนั่งดูทีวี ผมตะลึงมาก เพราะ ไม่เคยเห็นเลย คือ



ในทีวีเป็นข่าว คิมจองอึน เดินข้ามชายแดนเพิ่งเข้าไปในฝั่งเกาหลีใต้ ที่ DMZ ครับ ฝรั่งก็ฮือฮานั่งขำกันบ้าง ตะลึงบ้าง ผมก็ตะลึงครับ เพราะบ้านเราแถบไม่มีข่าวแบบนี้เลย

พอดูเสร็จผมก็ไปชงกาแฟ แล้วขึ้นไปอาบนํ้า พออาบเสร็จผมก็ลงมานั่งกินขนมและกาแฟตอนเช้าที่ Hostel มีให้ครับ

หลังจากทานเสร็จก็เริ่มหาข้อมูลเพื่อเดินเที่ยว ผมเลยตัดสินใจไปเที่ยว ลิตเติ้ลอินเดียเป็นที่แรกครับ เพราะ อยู่ใกล้กับโรงแรมที่สุด
เดินออกมาจากโรงแรมทางซ้าย
เดินมาที่ตรงผ่านนี้ ข้างหลังผมเป็นครอบครัวชาวไทยครับ ผมเห็นเขาคุยภาษาไทย กับลูกเขา ผมเลยยิ้มให้ แต่ก็ไม่ได้พูดกับเขา ท่านใดเป็นครอบครัวๆนั้น มารายงานตัวได้นะครับอิอิ

เดินมาเรื่อยๆจนถึงสถานีรถไฟฟ้าเลยขึ้นรถไฟฟ้าไปลงลิตเติ้ลอินเดียนครับ เดินขึ้นมาจากสถานีเดินมาเรื่อยๆก็เจอไอนี้เลย


จากในรูปฟ้าเริ่มครึมอีกแล้วนะครับ ฝนจะตกอีกแล้วววว

แต่ความสำคัญที่ผมมาลิตเติ้ลอินเดียคือ ผมอยากกินอาหารอินเดียมากครับ ไปมาเลย์รอบที่แล้วไม่ได้ลอง เลยอยากกินอาหารอินเดียมาก ก่อนออกมาจาก Hostel ก็ถามเข้าของ Hostel เหมือนกันว่า มี ร้านอาหารอินเดียแนะนำไม เขาบอกว่า ไม่อยากแนะนำร้านที่เป็น ร้านเล็กๆ เพราะอาจจะท้องเสีย หรือ ไม่ชินกับกลิ่นเครื่องเทศ เขาเลยแนะนำ ร้านอาหารอินเดียให้ผมเลย ผมเลยโอเค แต่ผมก็ไม่ได้ไปครับ เพราะ มันเกินงบที่ผมตั้งไว้ อีกทั้งผมอยากกินแบบที่คนอินเดียกินกันจริงๆครับ

ผมเลยเดินมาทางหลัง เพื่อหาอาหารอินเดียทาน เดินมาเรื่อยๆจนกระทั่งเจอเหมือน Food Center เล็ก และตรงข้ามกันก็มี สิ่งนี้ครับ


ผมจำไม่ได้แล้วว่าคืออะไรแต่ผมจำได้ลางๆว่า เป็นบ้านของชาวอินเดียครับ
หลังจากนั้นผมก็เข้าไป Food Center ตรงข้ามกัน ไปเจอเหมือนของคาว ของอินเดีย ที่ใช้แป้ง เหมือนแป้งกรอบๆ แล้วกินกับ นํ้าแกง ผมไปยืนถ่ายคลิป รวมๆกับฝรั่งท่านอื่นๆ เขาสั่งผมก็เลยสั่งด้วยเลย สนนราคา 1$ ครับ (ไม่มีรูป มีแต่คลิป TT) ตอนกินไม่มีช้อนนะครับ Hand ล้วนๆ

พอทานเสร็จผมก็เริ่มเดินจาก ตรงนั้นและเดินมาเรื่อยๆ จนกระทั่งเจอวัดอินเดียครับ ซึ่งผมเลยหยุดแวะ เพราะตอนนั้นฝนเริ่มลงแล้ว 


รูปภาพในวัด (ก่อนเข้าวัดถอดรองเท้าด้วยนะครับ)

พอถ่ายรูปถ่ายคลิปเสร็จ เดินออกมา ฝนลงหนักกว่าเดิม ผมเลยตัดสินใจ ว่าจะไปหลบฝนที่ ห้าง Orchard ผมเลยเดินหลบฝนเลาะไปเรื่อยๆ จนเจอห้าง เดินอยู่ในห้าง มันไม่ค่อยมีอะไรเลยครับ เพราะผมก็ไม่ใช้สายช้อปปิ้งอะไรเลย เลยเดินกลับมาที่ลิตเติ้ลอินเดียเพื่อที่จะหาอาหารอินเดียทาน เดินไปเรื่อยๆ จนเจอร้าน อาหารอินเดียครับ เดินเข้าไป สั่งอาหารทั้งๆที่งงๆว่าเขาสั่งยังไง ผมเลยสั่งมาแค่อย่างเดียว  คือแกงไก่ รถชาติเหมือนแกงไก่ขนมจีนอะครับ แต่หอมเครื่องเทศ และนํ้าข้นกว่า และอีกเช่นเคยครับ กินกับมือ!  อีกอย่างหนึ่งผมขอยกคำคำหนึ่งจาก ช่องยูทูปช่องหนึ่งนะครับว่า Dont you dare ask for spoon in indian restaurant เพราะที่นี้เขาไม่มีช้อนให้ครับ กินใช้มือกินข้าวไม่เป็นก็ เสียดายไปเลย พกช้อนไว้ก็ดีครับ


สวาปาม กับมือ ไป เอ่อออเขามีมะนาวมาให้ด้วยนะครับ และบนโต๊ะก็มีมะนาวตั้งไว้ให้ด้วย ผมก็งงเหมือนกันว่ามีให้ทำไม 
พอกินเสร็จ หลังร้านจะมีที่ล้างมือให้ครับ แต่ผมเห็นคนอินเดียที่กินในร้าน จะเอานํ้าจากแก้วนั้นแหละครับ เทลงบนมือและนำจานมารอง 
หลังจากนั้นผมก็ หาที่เที่ยวต่อ เลยตัดสินใจไป China Town ครับ เดินไปขึ้นรถไฟฟ้าสถานี Litte india ไปลง China Town ได้เลยครับ ไม่ต้องเปลี่ยนสาย หลังจากนั้นผมก็เดินเที่ยวครับ จนกระทั่งผมเดินไปเจอ Food Center อีกและ ผมเลยมันปากอยากกิน Nasi Lemak ขึ้นมา (เป็นเมนูที่ผมชอบมากในมาเลเซีย) แต่ผมหายังไงก็หาไม่เจอครับ เลยตัดสินใจกิน โรตีมะตะบะแทน 


ในภาพคือเดินลงมาจากสถานีรถไฟฟ้านะครับ


food center ที่ผมบอก อยู่ที่ China Town 



เมื่ออยากกิน Nasi Lamak แต่ไม่มีเลยกินมะตะบะแทน 

ในรูปคือราคา ถ้าผมจำไม่ผิดคือ 7$ แต่ อร่อยมากครับ กินไม่หมดเลยที่เดียว เพราะอิ่มข้าวอินเดียมาแล้ว กินได้ประมาณ 2ชิ้น ก็เลย ให้เขาใส่กล่องให้ เพื่อเอากลับไปโรงแรม เพราะที๋โรงแรมมีเวฟ และตู้เย็นให้ครับ หลังจากนั้นผมก็เดินเที่ยวอยู่ใน China Town และเริ่มเหนื่อย เลยตัดสินใจกลับโรงแรมเผื่ออาบนํ้าและตอนเย็นจะได้ไป สิงโตพ่นนํ้าต่อ พอกลับมาถึงโรงแรม ก็ชาตแบตกล้อง แบตโทรศัพท์ จนกระทั่งฝนตกครับ ฝนตกหนักมาก ผมคิดว่า ยิ้มแหละ ไม่ได้ไปแน่แต่เหมือนฟ้าดนใจให้ฝนซ่าลงแต่ก็ยัง ปรอยๆอยู่ ผมเลยแต่งตัวที่จะรีบไป เพราะกลัวว่าจะฝนตกหนัก พอลงมา เจ้าของคนที่ผมถามเรื่อง อาหารอินเดียก็ถามผมว่าจะไปไหนจนกระทั่ง ได้เริ่มคุยกันเพราะตอนนั้นฝนกำลังลงปรอยๆ และเริ่มหนักขึ้น คุยไปคุยมา เขาเคยมาไทยและบอกว่า ไทยนี่ดีนะ และผมก็บอกว่า ผมชอบสิงคโปรมาก แต่เขาก็ยังคงบอกว่า ไทยดีกว่าสิงคโปร์มาก คุยสัมเพเหระ ทั้งๆที่ เรียงคำไม่ค่อยถูกจนกระทั่งลามไปเรื่อง การเมือง และแล้วโชคก็ช่วยผม ฝนหยุด แต่ฟ้ายังครึมอยู่ และ ก็มีฝรั่งท่านหนึ่งเขามาเช็คอินพอดี เจ้าของก็เลยขอตัวไปหน้าฟอน แล้วก็บอกผมว่า เอาร่มไปได้นะคะ ผมเลยหยิบร่มของ Hostel ไป 

ไปขึ้นรถไฟสถานีเดิมครับ ลาเวนเดอร์ ไปลง สถานี Clarke Quay แต่ผมมาทราบที่หลังว่า สถานี Raffles Place ใกล้กว่าาาา เดินกันไปสิ (แต่ผมชอบเดินอยู่แล้วครับ)

พอถึงเมอร์ไลออน ก็ถ่ายรูปอัพเฟส อวดเพื่อน อวดสาวๆในเฟส 

ผมขออนุญาตให้เครดิตพี่คนหนึ่งหน่อยนะครับ เพราะผมได้ไปโพสต์เฟสในกลุ่มเที่ยวสิงคโปร แล้วพี่เขาก็บอกว่ากำลังมาพอดี เลยเจอกัน ขออนุญาตเซ็นเซอร์หน้านะครับ


ปัจจุบัน ปี 63 ผมอ้วนขึ้น รูปนี้คงไม่เหมือนผมในตอนนี้ครับ เศร้า TT



เมอร์ไลออน ตอนกลางคืน 

และแล้วผมก็เที่ยวจนเริ่มเบื่อ เพราะรอชมโชว์แสงสีด้วย ก็เลยเตรียมตัวที่จะไปท่องราตรี ผมสงสัยอยู่อย่างหนึ่งเกี่ยวกับเรื่อง สโภณีในสิงคโปร์ เพราะเคยอ่านข้อมูลมาเข้าบอกว่า แถวๆ เกลัง จะถูกกฎหมาย ผมเลยตัดสินใจ ไปเกลังเลยครับ ผมขึ้นรถไฟฟ้า ที่สถานี Raffles Place เพื่อกลับไปที่ ลาเวนเดอร์และนั่งรถบัสไปลง เกลัง นั่งไปถึงเกลังก็เดินครับ 



ลงรถบัสมา เริ่มหาสิ่งที่เราสงสัยมานานแล้ว ผมอัพรูปนี้ลงเฟสด้วย ให้เพื่อนๆได้รู้ว่าเรามาทำอะไร 5555+

เดินอยู่แถวเกลังอยู่นานครับ เดินไปด้วยหาข้อมูลไปด้วย แต่ผมไม่เจอเลย เจอแต่ร้านอาหาร แล้วก็ร้านอาหาร ตามในซอยที่เขาบอกมีโคมแดงแขวนอยู่ก็ไม่มี เดินอยู่นานเกือบชั่วโมงครับ ดูนาฬิกา เกือบ 4 ทุ่มแล้วเลยตัดสินใจเดินกลับ ไปขึ้นรถไฟ และเดินกลับโรงแรมครับ (ทำไมผมไม่เจออออ เดี้ยวไปรอบหน้าต้องไปหาใหม่ครับ)

พอถึงโรงแรม ผมมานั่งดูหนังอยู่ เพราะมีฝรั่งเปิดหนัง มีป้าชาวออสเตรเลียคนหนึ่ง เขามานั่งคุยกับผม ด้วยความที่ผมฟังได้บ้างไม่ได้บ้าง แต่จับใจความได้ว่า เขาเพิ่งมาจากเที่ยวรอบสิงคโปรเนี่ยและเป็นทัวร์ และเขาก็มีบัตรเหลืออยู่ อยากจะให้ผม เขาบอกว่า ฉันเห็นทุกๆอย่างในสิงคโปรเลยนะ เผื่อเธอจะสนใจ ผมบอกขอบคุณมากครับ แต่ผมเสียดายมากเพราะพรุ่งนี้ผมมีเที่ยวบินไปฮ่องกง
ชื่อสินค้า:   สิงคโปร์
คะแนน:     

CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้

  • - จ่ายเงินซื้อเอง หรือได้รับจากคนรู้จักที่ไม่ใช่เจ้าของสินค้า เช่น เพื่อนซื้อให้
  • - ไม่ได้รับค่าจ้างและผลประโยชน์ใดๆ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่