เห็นหลายคนตั้งกระทู้ ทำไมปิดเมืองหุ้นจะยังขึ้นได้ไง?? ทำไมมีคนติดโรคทุกวันหุ้นยังขึ้นได้ไง?? ทำไมคนชั้นกลางกับล่างลำบากจะไม่ไหวแล้วหุ้นยังขึ้นได้ไง??
..ต้องบอกตามตรงแบบเป็นกลางในแบบชินจังละนะ และให้ทำความเข้าใจกันใหม่ว่า ตรรกกะแบบมองตรงๆเพียงด้านเดียว ไม่สามารถใช้ได้ในตลาดหุ้น การลงทุน ที่ส่วนใหญ่เป็นของคนระดับกลางไปจนถึงระดับบน ที่จะมองไปข้างหน้า มองนำเหตุการณ์เสมอ
...
สำหรับวิกฤตโควิด19 ตลาดหุ้นทั่วโลกจะตกต่ำพีคสุดเมื่อสถานการณ์ ข่าวโลกเลวร้ายที่สุด.. และจะเด้งเมื่อผ่านเหตุการณ์จุดพีคแย่สุดๆไปแล้ว..
เช่นกันกับ เหตุการณ์ ราคาน้ำมัน oil price war จะต่ำที่สุดในช่วงที่รับรู้ข่าวร้ายที่พีคสุดๆไปแล้วตั้งแต่ตอนช่วงเดือนมีนาคมแล้ว นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมน้ำมันถึงไม่ลงไปต่ำกว่า 20$ แล้ว.. และเช่นกัน เมื่อผ่านข่าวร้ายที่สุดไปแล้ว ก็จะมีแต่ทรงกับเด้ง และเมื่อไรที่ข่าวดีมากระทบมันก็จะเด้งรุนแรง เหมือนในช่วงที่มีข่าวร้ายมากระทบนั้นแหละ..
เรื่องโควิด19 อย่ามองแค่ประเทศไทย ประเทศอื่น ยุโรป อเมริกา เขาติดเชื้อเยอะกว่า หลายประเทศก็ปิดประเทศเหมือนกัน แล้วทำไมหุ้นเขายังขึ้นได้?? นี่จึงไม่ใช่ข้ออ้าง แก้ตัว คำระบาย ของคนตกรถ ขาแช่ง ว่าเหตุการณ์ยังดูไม่ดี แต่ทำไมหุ้นไทยจะขึ้นบ้างไม่ได้ละ..??
..ครับ ดูไม่ดี แต่ก็ดูไม่แย่ ไม่worst ไปกว่าที่เป็นอยู่แล้วไง แล้วการที่ตลาดเด้ง เพราะตอบรับว่าเหตุการณ์มันจะดีขึ้นในอนาคต ยิ่งมีมาตรการเข้มงวด ไม่ใช่ว่าตลาดจะร่วง แต่ตลาดหุ้นยิ่งชอบ เพราะเห็นทางแก้ปัญหา เห็นว่าเริ่มมีแสงสว่าง.. ตลาดหุ้นก็จะเด้งรับเหตุการณ์ไปก่อน..
เพราะงั้น สรุปได้เลยว่า.. ตลาดไทยจะกลับมาร่วงแรง ให้ขาแช่ง ขาS ขากำเงินรอ 900 จุด ได้สมหวัง.. จะต้องมีเหตุการณ์ ข่าวร้ายที่แย่ worst กว่าปัจจุบันเท่านั้น!! เช่น ไทยติดโรคหนักแบบอิตาลี อเมริกา (ขนาดบ้านเขาหนักหน่วง หุ้นยังเด้งเลย เหอ เหอ..)
ซึ่งเหล่าขาแช่งอาจต้องรอในสิ่งที่ไม่มีวันเป็นจริง..!! เพราะ หมอไทยเก่ง อัตรารักษาโรคโควิด หายเป็นอันดับต้นๆของโลก และ คนไทยยังมีการตื่นตัวในการป้องกันโรคนี้มากกว่าฝรั่งมาก แม้ในต่างจังหวัดก็ตาม และ อัตราการติดเชื้อในแต่ละวัน ก็เริ่มทรงๆคือเพิ่มแค่ในระดับ +100 กว่าๆ ทุกวัน ยังไม่มีการเพิ่มทวีคูณ.. และก็หวังว่ามาตรการต่างๆที่เข้มงวดจะทำให้สถานการณ์ดีขึ้นไปเรื่อยๆนะครับ..
เอาเป็นว่าเหตุผลนี้ก็พอจะอธิบายได้ว่า ภาพแนวโน้มตลาดในอนาคตจะเป็นยังไง ถ้าผ่านจุดพีคในข่าวร้ายที่ตลาดรับรู้ไปแล้ว ต่อไปก็จะดีขึ้นเรื่อยๆ.. และรอจุดพีคในข่าวดีกันต่อไป..
โชคดี
ตอบให้ขาแช่งSตกรถคลายสงสัย.. ทำไมตลาดยังขึ้นได้ >> อย่าลืมว่า.. ตลาดหุ้นเป็นตัวนำ!! ไม่ใช่ตัวตาม!! <<ชินจัง talk talk>>
..ต้องบอกตามตรงแบบเป็นกลางในแบบชินจังละนะ และให้ทำความเข้าใจกันใหม่ว่า ตรรกกะแบบมองตรงๆเพียงด้านเดียว ไม่สามารถใช้ได้ในตลาดหุ้น การลงทุน ที่ส่วนใหญ่เป็นของคนระดับกลางไปจนถึงระดับบน ที่จะมองไปข้างหน้า มองนำเหตุการณ์เสมอ
...
สำหรับวิกฤตโควิด19 ตลาดหุ้นทั่วโลกจะตกต่ำพีคสุดเมื่อสถานการณ์ ข่าวโลกเลวร้ายที่สุด.. และจะเด้งเมื่อผ่านเหตุการณ์จุดพีคแย่สุดๆไปแล้ว..
เช่นกันกับ เหตุการณ์ ราคาน้ำมัน oil price war จะต่ำที่สุดในช่วงที่รับรู้ข่าวร้ายที่พีคสุดๆไปแล้วตั้งแต่ตอนช่วงเดือนมีนาคมแล้ว นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมน้ำมันถึงไม่ลงไปต่ำกว่า 20$ แล้ว.. และเช่นกัน เมื่อผ่านข่าวร้ายที่สุดไปแล้ว ก็จะมีแต่ทรงกับเด้ง และเมื่อไรที่ข่าวดีมากระทบมันก็จะเด้งรุนแรง เหมือนในช่วงที่มีข่าวร้ายมากระทบนั้นแหละ..
เรื่องโควิด19 อย่ามองแค่ประเทศไทย ประเทศอื่น ยุโรป อเมริกา เขาติดเชื้อเยอะกว่า หลายประเทศก็ปิดประเทศเหมือนกัน แล้วทำไมหุ้นเขายังขึ้นได้?? นี่จึงไม่ใช่ข้ออ้าง แก้ตัว คำระบาย ของคนตกรถ ขาแช่ง ว่าเหตุการณ์ยังดูไม่ดี แต่ทำไมหุ้นไทยจะขึ้นบ้างไม่ได้ละ..??
..ครับ ดูไม่ดี แต่ก็ดูไม่แย่ ไม่worst ไปกว่าที่เป็นอยู่แล้วไง แล้วการที่ตลาดเด้ง เพราะตอบรับว่าเหตุการณ์มันจะดีขึ้นในอนาคต ยิ่งมีมาตรการเข้มงวด ไม่ใช่ว่าตลาดจะร่วง แต่ตลาดหุ้นยิ่งชอบ เพราะเห็นทางแก้ปัญหา เห็นว่าเริ่มมีแสงสว่าง.. ตลาดหุ้นก็จะเด้งรับเหตุการณ์ไปก่อน..
เพราะงั้น สรุปได้เลยว่า.. ตลาดไทยจะกลับมาร่วงแรง ให้ขาแช่ง ขาS ขากำเงินรอ 900 จุด ได้สมหวัง.. จะต้องมีเหตุการณ์ ข่าวร้ายที่แย่ worst กว่าปัจจุบันเท่านั้น!! เช่น ไทยติดโรคหนักแบบอิตาลี อเมริกา (ขนาดบ้านเขาหนักหน่วง หุ้นยังเด้งเลย เหอ เหอ..)
ซึ่งเหล่าขาแช่งอาจต้องรอในสิ่งที่ไม่มีวันเป็นจริง..!! เพราะ หมอไทยเก่ง อัตรารักษาโรคโควิด หายเป็นอันดับต้นๆของโลก และ คนไทยยังมีการตื่นตัวในการป้องกันโรคนี้มากกว่าฝรั่งมาก แม้ในต่างจังหวัดก็ตาม และ อัตราการติดเชื้อในแต่ละวัน ก็เริ่มทรงๆคือเพิ่มแค่ในระดับ +100 กว่าๆ ทุกวัน ยังไม่มีการเพิ่มทวีคูณ.. และก็หวังว่ามาตรการต่างๆที่เข้มงวดจะทำให้สถานการณ์ดีขึ้นไปเรื่อยๆนะครับ..
เอาเป็นว่าเหตุผลนี้ก็พอจะอธิบายได้ว่า ภาพแนวโน้มตลาดในอนาคตจะเป็นยังไง ถ้าผ่านจุดพีคในข่าวร้ายที่ตลาดรับรู้ไปแล้ว ต่อไปก็จะดีขึ้นเรื่อยๆ.. และรอจุดพีคในข่าวดีกันต่อไป..
โชคดี