เห็นหลายๆคนธุรกิจกำลังย่ำแย่ มีธุรกิจไหนบ้างที่ยังพอไปได้ ครอบครัวผมเรียกได้ว่าโชคดีพอสมควร ที่ธุรกิจในครอบครัวเกือบทั้งหมด ได้รับผลกระทบเพียงเล็กน้อยเท่านั้น (ลดไม่ถึง 20% เกือบทุกธุรกิจและบางธุรกิจดีขึ้น)
.
ธุรกิจในครอบครัวของผมมีทั้งหมด 4 ธุรกิจ เรามาดูกันว่า ธุรกิจอะไรบ้างที่ยังเหลือรอด
.
ธุรกิจที่ 1. ธุรกิจอพาตเม้น+บ้านเช่า ~ สิ่งที่กระทบของธุรกิจนี้ ก็คือชั้นล่างสุด ที่ไว้ให้เช่าสำหรับคนขายของ ซึ่งคนเช่าชั้นล่างได้รับผลกระทบ ดังนั้น อพาตเม้น จึงช่วยลดค่าเช่าช่วงนี้ให้ แต่ในภาพรวม คิดเป็นรายได้เพียง 10% จากรายได้ทั้งหมดนั่นเอง ( ปัจจุบันยังไม่มีคนออกห้องเช่าเพราะวิกฤตนี้เท่าไหร่ครับ เนื่องจากเป็นอพาตเม้นเช่า ราคาถูก 2000-3000 บาท/เดือน)
.
ธุรกิจที่ 2. ขายอุปกรณ์ก่อสร้าง ประปา ไฟฟ้า ~ ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่า ตอนนี้ขายดีขึ้น แต่ที่ขายดีขึ้น มีเหตุผลหลักๆ 2 สาเหตุ นั่นคืออย่างแรก โมเดิร์นเทรดได้หยุดทำการ ทำให้ช่างส่วนใหญ่ต้องหาร้านด้านนอกมากขึ้น กับสอง เวลาคนอยู่บ้านนานๆ หนึ่งในสิ่งที่คนส่วนใหญ่คิด นั่นคือ ซ่อมบ้าน ทำให้มีการใช้จ่ายซื้อของซ่อมบ้านมากขึ้น
.
ธุรกิจที่ 3. ขายเคมีภัณฑ์ ~ ธุรกิจอันนี้ สินค้าบางตัวกระทบอย่างแรง แต่ก็มีสินค้าบางตัวที่เด่นขึ้นมาในช่วงนี้ หลักๆเลยคือ แอลกอฮอร์ (แต่ปัจจุบันรัฐห้ามโรงงานมาขายให้แล้ว เพราะรัฐต้องการแจกจ่ายเอง) แต่ยังพอมีเคมีบางตัวเช่น น้ำยาที่เกี่ยวกับการฆ่าเชื้อ ที่ขายดีอยู่ โดยรวมถือว่ายอดลดลง แต่ไม่ถึงกับแย่
ปล. แอลกอฮอร์ ที่ร้านขายถูกมากนะครับ 400-500ml แค่ 40 บาท เท่านั้น แต่ตอนนี้รัฐบอกจะขายเอง ทำให้ตอนนี้ แอลกอฮอร์ น่าจะโดนคนฉวยโอกาสโก่งราคาแน่ๆเลย (หวังว่ารัฐจะนำไปแจกจริงๆ)
.
ธุรกิจที่ 4 ธุรกิจร้านแว่น ~ ใครอ่านธุรกิจนี้ แล้วบอกว่าไม่กระทบ คงหาว่าผมโกหกแน่ๆ แต่ธุรกิจร้านแว่นของครอบครัวผมจะไม่เหมือนร้านแว่นอื่น นั่นคือ เป็นร้านแว่นเฉพาะทาง (ตรวจสายตา 1-2 ชั่วโมง ต่อ 1 ท่าน และรับวันละ 3-4 คน เท่านั้น ลูกค้าส่วนใหญ่จะเป็นคนที่สายตามีปัญหาเยอะๆ) หลายคนอาจจะ งงๆ ว่าเกี่ยวอะไรกัน ทุกทีร้านของครอบครัวผม จะจองคิวล่วงหน้าร่วม 1 เดือน เพราะคิวค่อนข้างไกล แต่ปัจจุบัน มีคิวล่วงหน้าเพียง 2-3 วันเท่านั้น เรียกได้ว่า กำลังจะกระทบต่อรายได้แล้ว เพราะใกล้จะไม่มีลูกค้ามาจองแล้ว แต่ถ้านับปัจจุบัน ก็ยังมีลูกค้าอยู่ทุกวัน เพียงแต่ไม่มีล่วงหน้าเป็นเดือนๆเหมือนสมัยก่อนแล้วนั่นเอง (อีกส่วนหนึ่ง คนจองช่วงนี้เพราะว่า ว่างจากการอยู่บ้านนั่นเอง และร้านแว่นของเรา เป็นแบบส่วนตัว(ระบบนัด) จึงไม่ต้องไปเจอคนแออัดอยู่แล้ว ) (เนื่องจากเป็นร้านเฉพาะทาง จึงยังพออยู่รอดได้บ้าง แต่ร้านแว่นทั่วประเทศตอนนี้ ปาดเหงื่อ กันเป็นแถบ เพราะถ้าไม่จำเป็นจริงๆ คนยังไม่ออกมาทำแว่นช่วงนี้แน่นอน + ห้างปิดด้วย)
.
หลังจากอ่านทั้งหมด ทุกคนคงคิดเป็นอย่างเดียวกัน นั่นคือ ธุรกิจพวกนี้ต้องการเงินทุนทั้งนั้น จะไปทำตามได้ยังไง !?!? ซึ่งการที่ผมมาพิมพ์ไม่ได้จะให้ทำธุรกิจตามครอบครัวผมนะครับ(แน่นอนหล่ะใครจะอยากให้คนมาทำตามธุรกิจตัวเอง) แต่อยากให้มองกว้างๆว่ายังมีธุรกิจที่ไม่ต้องใช้เงินลงทุน แต่ยังเหลือรอดอยู่ ถ้าคุณวิเคราะห์ธุรกิจที่ผมอธิบายไปดีๆ
.
เช่น ถ้าอ่านดีๆ ธุรกิจก่อสร้างครอบครัวผม รายได้ดีขึ้น นั่นหมายถึง ตอนนี้มีคนต้องการคนซ่อมบ้านจำนวนหนึ่ง ซึ่งคือ ตอนนี้ตลาดกำลังต้องการช่าง มาซ่อมบ้านนั่นเอง ฉะนั้น อาชีพช่างซ่อมบ้าน เดินประปา ไฟฟ้า ตอนนี้ยังพอไปได้อยู่ (ใช้คำว่าพอไปได้นะครับ อาจจะไม่ได้ดีมาก) เป็นต้น
.
บางทีเราก็ต้องวิเคราะห์ให้กว้างๆว่า ถ้าธุรกิจอันนี้ดี ธุรกิจที่อยู่ในเครือๆธุรกิจอันนี้ ก็ยังพอไปรอด ดังนั้นอาจจะต้องลองวิเคราะห์กันดูน้าาา
.
เข้าใจกว่าตอนนี้มากกว่า 90% กระทบเกือบทั้งหมด อยากให้ผ่านไปได้ด้วยดีนะครับ
.
แล้วมีเพื่อนๆคนไหนที่ธุรกิจยังพอไปได้บ้าง มาแชร์กันบ้างจ้าาา
เรามาดูธุรกิจที่ไม่กระทบหรือกระทบน้อย กับวิกฤต COVID-19 :)
.
ธุรกิจในครอบครัวของผมมีทั้งหมด 4 ธุรกิจ เรามาดูกันว่า ธุรกิจอะไรบ้างที่ยังเหลือรอด
.
ธุรกิจที่ 1. ธุรกิจอพาตเม้น+บ้านเช่า ~ สิ่งที่กระทบของธุรกิจนี้ ก็คือชั้นล่างสุด ที่ไว้ให้เช่าสำหรับคนขายของ ซึ่งคนเช่าชั้นล่างได้รับผลกระทบ ดังนั้น อพาตเม้น จึงช่วยลดค่าเช่าช่วงนี้ให้ แต่ในภาพรวม คิดเป็นรายได้เพียง 10% จากรายได้ทั้งหมดนั่นเอง ( ปัจจุบันยังไม่มีคนออกห้องเช่าเพราะวิกฤตนี้เท่าไหร่ครับ เนื่องจากเป็นอพาตเม้นเช่า ราคาถูก 2000-3000 บาท/เดือน)
.
ธุรกิจที่ 2. ขายอุปกรณ์ก่อสร้าง ประปา ไฟฟ้า ~ ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่า ตอนนี้ขายดีขึ้น แต่ที่ขายดีขึ้น มีเหตุผลหลักๆ 2 สาเหตุ นั่นคืออย่างแรก โมเดิร์นเทรดได้หยุดทำการ ทำให้ช่างส่วนใหญ่ต้องหาร้านด้านนอกมากขึ้น กับสอง เวลาคนอยู่บ้านนานๆ หนึ่งในสิ่งที่คนส่วนใหญ่คิด นั่นคือ ซ่อมบ้าน ทำให้มีการใช้จ่ายซื้อของซ่อมบ้านมากขึ้น
.
ธุรกิจที่ 3. ขายเคมีภัณฑ์ ~ ธุรกิจอันนี้ สินค้าบางตัวกระทบอย่างแรง แต่ก็มีสินค้าบางตัวที่เด่นขึ้นมาในช่วงนี้ หลักๆเลยคือ แอลกอฮอร์ (แต่ปัจจุบันรัฐห้ามโรงงานมาขายให้แล้ว เพราะรัฐต้องการแจกจ่ายเอง) แต่ยังพอมีเคมีบางตัวเช่น น้ำยาที่เกี่ยวกับการฆ่าเชื้อ ที่ขายดีอยู่ โดยรวมถือว่ายอดลดลง แต่ไม่ถึงกับแย่
ปล. แอลกอฮอร์ ที่ร้านขายถูกมากนะครับ 400-500ml แค่ 40 บาท เท่านั้น แต่ตอนนี้รัฐบอกจะขายเอง ทำให้ตอนนี้ แอลกอฮอร์ น่าจะโดนคนฉวยโอกาสโก่งราคาแน่ๆเลย (หวังว่ารัฐจะนำไปแจกจริงๆ)
.
ธุรกิจที่ 4 ธุรกิจร้านแว่น ~ ใครอ่านธุรกิจนี้ แล้วบอกว่าไม่กระทบ คงหาว่าผมโกหกแน่ๆ แต่ธุรกิจร้านแว่นของครอบครัวผมจะไม่เหมือนร้านแว่นอื่น นั่นคือ เป็นร้านแว่นเฉพาะทาง (ตรวจสายตา 1-2 ชั่วโมง ต่อ 1 ท่าน และรับวันละ 3-4 คน เท่านั้น ลูกค้าส่วนใหญ่จะเป็นคนที่สายตามีปัญหาเยอะๆ) หลายคนอาจจะ งงๆ ว่าเกี่ยวอะไรกัน ทุกทีร้านของครอบครัวผม จะจองคิวล่วงหน้าร่วม 1 เดือน เพราะคิวค่อนข้างไกล แต่ปัจจุบัน มีคิวล่วงหน้าเพียง 2-3 วันเท่านั้น เรียกได้ว่า กำลังจะกระทบต่อรายได้แล้ว เพราะใกล้จะไม่มีลูกค้ามาจองแล้ว แต่ถ้านับปัจจุบัน ก็ยังมีลูกค้าอยู่ทุกวัน เพียงแต่ไม่มีล่วงหน้าเป็นเดือนๆเหมือนสมัยก่อนแล้วนั่นเอง (อีกส่วนหนึ่ง คนจองช่วงนี้เพราะว่า ว่างจากการอยู่บ้านนั่นเอง และร้านแว่นของเรา เป็นแบบส่วนตัว(ระบบนัด) จึงไม่ต้องไปเจอคนแออัดอยู่แล้ว ) (เนื่องจากเป็นร้านเฉพาะทาง จึงยังพออยู่รอดได้บ้าง แต่ร้านแว่นทั่วประเทศตอนนี้ ปาดเหงื่อ กันเป็นแถบ เพราะถ้าไม่จำเป็นจริงๆ คนยังไม่ออกมาทำแว่นช่วงนี้แน่นอน + ห้างปิดด้วย)
.
หลังจากอ่านทั้งหมด ทุกคนคงคิดเป็นอย่างเดียวกัน นั่นคือ ธุรกิจพวกนี้ต้องการเงินทุนทั้งนั้น จะไปทำตามได้ยังไง !?!? ซึ่งการที่ผมมาพิมพ์ไม่ได้จะให้ทำธุรกิจตามครอบครัวผมนะครับ(แน่นอนหล่ะใครจะอยากให้คนมาทำตามธุรกิจตัวเอง) แต่อยากให้มองกว้างๆว่ายังมีธุรกิจที่ไม่ต้องใช้เงินลงทุน แต่ยังเหลือรอดอยู่ ถ้าคุณวิเคราะห์ธุรกิจที่ผมอธิบายไปดีๆ
.
เช่น ถ้าอ่านดีๆ ธุรกิจก่อสร้างครอบครัวผม รายได้ดีขึ้น นั่นหมายถึง ตอนนี้มีคนต้องการคนซ่อมบ้านจำนวนหนึ่ง ซึ่งคือ ตอนนี้ตลาดกำลังต้องการช่าง มาซ่อมบ้านนั่นเอง ฉะนั้น อาชีพช่างซ่อมบ้าน เดินประปา ไฟฟ้า ตอนนี้ยังพอไปได้อยู่ (ใช้คำว่าพอไปได้นะครับ อาจจะไม่ได้ดีมาก) เป็นต้น
.
บางทีเราก็ต้องวิเคราะห์ให้กว้างๆว่า ถ้าธุรกิจอันนี้ดี ธุรกิจที่อยู่ในเครือๆธุรกิจอันนี้ ก็ยังพอไปรอด ดังนั้นอาจจะต้องลองวิเคราะห์กันดูน้าาา
.
เข้าใจกว่าตอนนี้มากกว่า 90% กระทบเกือบทั้งหมด อยากให้ผ่านไปได้ด้วยดีนะครับ
.
แล้วมีเพื่อนๆคนไหนที่ธุรกิจยังพอไปได้บ้าง มาแชร์กันบ้างจ้าาา