ตัวดิชั้นทำงานตำแหน่งผู้จัดการ มีลูกน้อง 3 คนทุกคนตำแหน่งระดับอาวุโสหมด คือถ้าโปรโมทอีกขั้นก็ตำแหน่งเดียวกับดิชั้น
คนแรก - ผู้ชาย อายุเยอะกว่า ดื้อ มั่นใจในการทำงานสูง ชอบทำงานแบบมีความลับคือต้องรู้คนเดียว ให้คนในแผนกรู้เยอะไม่ได้เดี๋ยวไม่เจ๋ง ชอบเก็บงานเป็นความลับไม่ค่อยแชร์ใคร แต่ ไม่มีความระเอียดรอบคอบ! ในการทํางาน แล้วยังจะฟอร์มเยอะ มักจะกลัวเสียฟอร์มถ้าต้องมาถามงานเรา
ปัญหาคือ ทำให้เป็นเรื่องใหญ่ แล้วถึงมาหา ซึ่งก็ทำให้เราลำบากมากเวลาต้องไปตามแก้งานให้
คนที่ 2 - ผู้ชาย อายุเยอะกว่า ไม่มีความมั่นใจในการทำงานเลย ทำอะไรก็ไม่ได้ เข้าใจยาก ต้องคอยประกบตัวตลอด พอปล่อยให้ทำเองงานง่ายๆ ก็ยังไม่ยอมทำ พอถามว่า พี่ติดอะไรไหมมีอะไรถามไหม เขาก็จะบอกว่าเขาไม่มั่นใจให้มาดูให้หน่อยได้ไหม ไม่กล้าทำไม่กล้าส่งเมล ต้องให้นั่งรีวิวให้ก่อนถึงจะยอมกดส่งเมล ส่งเมลออกเป็นชื่อเขานะแต่เราต้องไปรีวิวให้ นั่งอึนอยู่นั่นทั้งวัน เหมือนทำงาน แต่ ไม่รู้ทำอะไร งานไม่เสร็จซักอย่าง... จนบางทีสงสัยว่า โง่จริงๆหรือแกล้งโง่ เพื่อให้คนอื่นทำงานให้ (หมายถึงดิชั้นแหละที่ต้องทำ) *ขออภัยที่ใช้คำไม่สุภาพนิดนึงนะคะ คนนี้ทำงานไม่ค่อยได้แต่พอเราสอนอะไรชอบเอาข้อมูลไปอวดแผนกอื่นประมาณว่าชั้นฉลาดนะ ชั้นรู้ ...
คือพอรู้อะไรใหม่ๆมา รีบเอาไปอวดคนอื่นงานไม่ทำ
คนที่ 3 - ผู้หญิงอายุไล่เลี่ยกัน ทำงานแผนกนี้มานานที่สุดตั้งแต่เข้างานมา 10 กว่าปีจนถึงวันนี้ไม่เคยย้ายไปไหนเลย
ผ่านมาสิบกว่าปีทำได้แค่ไหนก็ทำได้เหมือนเดิม งานจะมากขึ้นงานจะน้อยลงก็ทำได้เท่าเดิม ไม่มีการเปลี่ยนแปลงพัฒนาปรับปรุง งานตัวไหนมีปัญหา ก็จะมีปัญหาแบบเดิมๆ ทุกครั้งไป บอกวิธี แก้ไขบอกทางออกให้ บอกวิธีการปรับปรุง เสนอแนะให้น้อง พยายามทำทุกอย่าง น้องก็ไม่ทำอะไรเลย ก็เลยลองขอข้อเสนอแนะจากน้อง น้องก็จะตอบมาเสมอว่า "มันก็เป็นแบบนี้แหละพี่มันเป็นแบบนี้ทุกปีเดี๋ยวก็ชินเอง"....
> ทุกคนชอบที่จะโชว์พาวเวอร์ คือชอบ present ตัวประมาณว่าเก่งเหมือนซุปเปอร์ฮีโร่ กอบกู้วิกฤต (ปัญหา)ได้ทั้งๆไม่ได้ทำอะไรเลย
( Present กับนายใหญ่อีกทีนึงที่ใหญ่กว่าดิฉันนะคะ กับดิฉัน หลังจากเธอคุยโม้เสร็จ หันมาเจอหน้าดิฉัน ทุกคนก็จะทำหน้าเจื่อนไม่กล้าสบตา)
> ใช้เกรดเป็นตัววัดผลงานได้ไหม ?
การประเมินผลประจำปีหรือการขึ้นเงินเดือน?
ตอบได้อย่างเต็มปากเลยค่ะว่าไม่ได้! เพราะว่าเกรดที่ตัดไปจะถูกนายใหญ่สกรีนอีกทีนึง แล้วแก้ผลงานที่เราส่งไปให้ในระบบ โดยไม่ขอความเห็นจากเราเลย เป็นแบบนี้ทุกครั้ง ซึ่งขอใช้คำว่า ใช้ความพึงพอใจส่วนบุคคล ในการตัดเกรดก็ว่าได้ (รู้สึกสะเทือนใจทุกครั้งพยายามทำใจให้ชินก็ยังไม่ชินสักทีทำใจไม่ค่อยได้)
> บางทีเวลาเราสั่งงาน คนในทีมก็พูดบอกเรามา ประมาณว่า จะทำอะไรให้เยอะทำไม อยู่มาทำแค่นี้ก็ได้เงินขึ้นปกติ ทำไม่ทำก็ได้เงินเท่าเดิม อันนี้ไม่ได้แอบพูดนะคะพูด ก็พูดตรงๆกับเราเลย เพราะไม่ต้องมีอะไรให้เกรงกลัว มีนายใหญ่หนุนหลังทุกคน ทุกวันนี้ที่เขาทำงานก็เพราะว่าเห็นใจและยังให้เกียรติเราอยู่บ้าง เพราะเห็นว่าเราทำงานหนัก ก็เลยสงสาร .....
(ควรดีใจมั้ย... ก็แอบดีใจนะ ที่ยังบอก.. )
พนักงานในแผนกของดิชั้น :
- เป็นเด็กฝาก
- เป็นคนที่ย้ายมาจากแผนกอื่น คือเป็นคนที่เขาคัดแล้วว่าเขาไม่เอา คืออ่อนสุดในแผนกแล้ว ก็เลยเอามาให้
- เป็นคนที่ถูกเลือกให้ถูกจ้างออก แต่ด้วยภาระของครอบครัว ได้ไปขอนายใหญ่ไว้นายใหญ่ก็เลยเอามาฝากไว้อีกเช่นเคย
ตัวดิฉันเอง :
- สอบเข้ามาทำงาน ทั้งข้อเขียนและสัมภาษณ์
- เป็นคนพูดจาห้วนๆ ชอบทำผลงานไม่ชอบพูดมาก เป็นผู้หญิงแต่ไม่ชอบจ๊ะจ๋า ( ปกติก็ไม่ค่อยชอบพูดมาก จ๊ะจ๋า คุยเล่น หยอกล้ออยู่แล้ว ยิ่งมาเจองานเยอะๆยิ่งจิตแตกเลยไม่มีเวลาไปจ้ะจ๋าสมาคมกับใคร สภาวะหนักกว่าเดิมอีก แต่ก็มีเพื่อนมีกลุ่มคนคุยด้วยกันนะเป็นคนที่ทำงานเหมือนกัน ไม่มากแต่มีค่ะ 555+)
- เป็นคนค่อนข้างเข้มงวด บางทีก็เข้มงวดเกินไปไหม พยายามถามตัวเองตลอด จะพยายามเบาๆลง แต่มักจะจิตตกตอนที่ลูกน้องทำงานผิดหรือทำงานไม่ทัน
- เป็นคนจริงจังกับการทำงานมาก
- เป็นคนทำงานต้องรอบคอบและถูกต้องมาก ( พอเจองานที่ส่งมาแบบผิดๆต้องนั่งแก้จนถูกต้องทำให้หลายๆครั้งพอเราทำงานช้า ทำงานหนักก็รู้สึก แย่ กับตัวเอง) พอเราส่งงานหัวหน้าใหญ่ช้าหรือไม่ทันก็โดนด่าอยู่คนเดียว
*แน่นอนว่า เขาไม่ได้มีหน้าที่ถามว่าทำไมเราทำงานช้า ช้าก็คือช้า ผิดที่เราในการ manage งานเองเข้าใจอยู่
- แต่

มา แทรกแซงการทำงานของตูทำไมวะ

แซงเรื่องลูกน้อง ทำให้ระบบตูเสีย พอผลงานไม่ได้

ไม่หันกลับมามอง หรือถามตูสักคำ
- เคยเดินเข้าไปปรึกษาเรื่องลูกน้องไหม
ยอมรับว่าพยายามอดทนเหมือนกันแต่มีถึงจุดนึงที่เดินเข้าไปคุยขอคำปรึกษา
หัวหน้าตอบมาว่า
ก็รับมาแล้ว อดทนค่อยๆสอนงานไปนะ...
คงไม่มึนขนาดนั้นมั้งงานก็ไม่ได้ยาก คิดมากไปเองหรือเปล่า...
ยกตัวอย่างจริงให้ดู ให้เห็นของจริงกับตา ก็เงียบไปแป๊บนึง
แล้วตอบมาว่า ก็ช่วยแก้ให้มันหน่อย เอ็งก็อยากเข้มงวดเกินไป... อันไหนปล่อยไปได้บ้างก็ปล่อยไป
( แต่พอเอางานกับตูไม่พูดแบบนี้)
ทางเลือกตอนจบ :
- มีจ้างออกรอบก่อน ยกมือขอออก

บอกว่าโควต้าเต็มออกไม่ได้ ให้กูอยู่ทำงานต่อ
- เตรียมลาออกเองหางานใหม่ วางแผนมาดิบดี

covid-19 มา ออกไปก็เสี่ยงช่วงนี้ ( OK ใจเย็นทนๆไปก่อน สติ สติ)
- เครียดมากๆก็โทรสายด่วน ไม่อยากปรึกษาเพื่อนๆ หรือญาติพี่น้อง เดี๋ยวเขาจะเครียดตามเราไปด้วย
- วันนี้โทรสายด่วนไม่ติด พิมพ์กระทู้ระบายออกมา เพื่อลดความเครียด ไม่มีใครตอบ ไม่มีกำลังใจที่ไหน ไม่มีใครแนะนำอะไร ไม่เป็นไรค่ะ ได้พิมพ์ออกมาแล้วสบายใจ
ข้อดีของชีวิตช่วงนี้ :
ยังมีงานทำ ยังมีเงินเดือน ยังมีประกันสังคม ยังมีข้าวกิน ยังมีที่อยู่อาศัย (มีเงินผ่อน/เช่า) ยังมีเงินส่งไปให้แม่ที่บ้านเป็นค่าใช้จ่าย ในชีวิตแต่ละวัน ไม่ให้ขาด ยังพอแบ่งปันเงินเล็กๆน้อยๆ ทำบุญทำทาน ตามศรัทธาได้บ้าง (สาธุ)
ตกลงแล้วเราเครียดเนื่องจากอะไร :
เครียดเนื่องจากทำงานไม่ได้ดั่งใจ งานมีปัญหาเยอะ ลูกน้องทำงานผิดเยอะ ลูกน้องสร้างปัญหาให้ตามแก้เยอะ โหลดงานมากเกินไปงานล้นมือจนต้องเอากลับมาทำที่บ้านต่อทุกวัน ไม่ทำก็ไม่ได้ วันนี้เหนื่อยล้ามาก พอคิดถึงสาเหตุที่เหนื่อยล้าก็ยิ่งทำให้รู้สึกท้อใจ ตอนนี้มือชาเจ็บเอวเจ็บหลังไปหมด ปวดตา สุขภาพแย่รู้สึกไม่ดีกับสภาพชีวิตตัวเอง รู้สึกผิด รู้สึกไม่แฟร์กับชีวิตตัวเอง
แล้วจะแก้ไขยังไง :
พอเครียดมากๆก็ทำงานไม่ได้ พอทำงานไม่ได้ ก็ทำงานต่อไม่เสร็จ
ก็เลยหาทางระบายความเครียด โดยการพิมพ์ระบายออกมาหรือการพูดกับตัวเอง ก็ทำให้ได้ระบายออกบ้างเพื่อลดความเครียดของตัวเอง (ลดได้บ้าง)
พิมพ์เสร็จ ขอนอนหลับสักแป๊บ แล้วก็กลับไปทำงานต่อ 555+
สู้ๆนะตัวเราเอง ตั้งสติให้ดี
ปวดหัวเครียด แค่ต้องการระบายออก พิมพ์เพื่อทบทวนตัวเองว่าเครียดเนื่องจากอะไรจะได้ลดความเครียดออกจากตัวเองบ้างค่ะ
คนแรก - ผู้ชาย อายุเยอะกว่า ดื้อ มั่นใจในการทำงานสูง ชอบทำงานแบบมีความลับคือต้องรู้คนเดียว ให้คนในแผนกรู้เยอะไม่ได้เดี๋ยวไม่เจ๋ง ชอบเก็บงานเป็นความลับไม่ค่อยแชร์ใคร แต่ ไม่มีความระเอียดรอบคอบ! ในการทํางาน แล้วยังจะฟอร์มเยอะ มักจะกลัวเสียฟอร์มถ้าต้องมาถามงานเรา
ปัญหาคือ ทำให้เป็นเรื่องใหญ่ แล้วถึงมาหา ซึ่งก็ทำให้เราลำบากมากเวลาต้องไปตามแก้งานให้
คนที่ 2 - ผู้ชาย อายุเยอะกว่า ไม่มีความมั่นใจในการทำงานเลย ทำอะไรก็ไม่ได้ เข้าใจยาก ต้องคอยประกบตัวตลอด พอปล่อยให้ทำเองงานง่ายๆ ก็ยังไม่ยอมทำ พอถามว่า พี่ติดอะไรไหมมีอะไรถามไหม เขาก็จะบอกว่าเขาไม่มั่นใจให้มาดูให้หน่อยได้ไหม ไม่กล้าทำไม่กล้าส่งเมล ต้องให้นั่งรีวิวให้ก่อนถึงจะยอมกดส่งเมล ส่งเมลออกเป็นชื่อเขานะแต่เราต้องไปรีวิวให้ นั่งอึนอยู่นั่นทั้งวัน เหมือนทำงาน แต่ ไม่รู้ทำอะไร งานไม่เสร็จซักอย่าง... จนบางทีสงสัยว่า โง่จริงๆหรือแกล้งโง่ เพื่อให้คนอื่นทำงานให้ (หมายถึงดิชั้นแหละที่ต้องทำ) *ขออภัยที่ใช้คำไม่สุภาพนิดนึงนะคะ คนนี้ทำงานไม่ค่อยได้แต่พอเราสอนอะไรชอบเอาข้อมูลไปอวดแผนกอื่นประมาณว่าชั้นฉลาดนะ ชั้นรู้ ...
คือพอรู้อะไรใหม่ๆมา รีบเอาไปอวดคนอื่นงานไม่ทำ
คนที่ 3 - ผู้หญิงอายุไล่เลี่ยกัน ทำงานแผนกนี้มานานที่สุดตั้งแต่เข้างานมา 10 กว่าปีจนถึงวันนี้ไม่เคยย้ายไปไหนเลย
ผ่านมาสิบกว่าปีทำได้แค่ไหนก็ทำได้เหมือนเดิม งานจะมากขึ้นงานจะน้อยลงก็ทำได้เท่าเดิม ไม่มีการเปลี่ยนแปลงพัฒนาปรับปรุง งานตัวไหนมีปัญหา ก็จะมีปัญหาแบบเดิมๆ ทุกครั้งไป บอกวิธี แก้ไขบอกทางออกให้ บอกวิธีการปรับปรุง เสนอแนะให้น้อง พยายามทำทุกอย่าง น้องก็ไม่ทำอะไรเลย ก็เลยลองขอข้อเสนอแนะจากน้อง น้องก็จะตอบมาเสมอว่า "มันก็เป็นแบบนี้แหละพี่มันเป็นแบบนี้ทุกปีเดี๋ยวก็ชินเอง"....
> ทุกคนชอบที่จะโชว์พาวเวอร์ คือชอบ present ตัวประมาณว่าเก่งเหมือนซุปเปอร์ฮีโร่ กอบกู้วิกฤต (ปัญหา)ได้ทั้งๆไม่ได้ทำอะไรเลย
( Present กับนายใหญ่อีกทีนึงที่ใหญ่กว่าดิฉันนะคะ กับดิฉัน หลังจากเธอคุยโม้เสร็จ หันมาเจอหน้าดิฉัน ทุกคนก็จะทำหน้าเจื่อนไม่กล้าสบตา)
> ใช้เกรดเป็นตัววัดผลงานได้ไหม ?
การประเมินผลประจำปีหรือการขึ้นเงินเดือน?
ตอบได้อย่างเต็มปากเลยค่ะว่าไม่ได้! เพราะว่าเกรดที่ตัดไปจะถูกนายใหญ่สกรีนอีกทีนึง แล้วแก้ผลงานที่เราส่งไปให้ในระบบ โดยไม่ขอความเห็นจากเราเลย เป็นแบบนี้ทุกครั้ง ซึ่งขอใช้คำว่า ใช้ความพึงพอใจส่วนบุคคล ในการตัดเกรดก็ว่าได้ (รู้สึกสะเทือนใจทุกครั้งพยายามทำใจให้ชินก็ยังไม่ชินสักทีทำใจไม่ค่อยได้)
> บางทีเวลาเราสั่งงาน คนในทีมก็พูดบอกเรามา ประมาณว่า จะทำอะไรให้เยอะทำไม อยู่มาทำแค่นี้ก็ได้เงินขึ้นปกติ ทำไม่ทำก็ได้เงินเท่าเดิม อันนี้ไม่ได้แอบพูดนะคะพูด ก็พูดตรงๆกับเราเลย เพราะไม่ต้องมีอะไรให้เกรงกลัว มีนายใหญ่หนุนหลังทุกคน ทุกวันนี้ที่เขาทำงานก็เพราะว่าเห็นใจและยังให้เกียรติเราอยู่บ้าง เพราะเห็นว่าเราทำงานหนัก ก็เลยสงสาร .....
(ควรดีใจมั้ย... ก็แอบดีใจนะ ที่ยังบอก.. )
พนักงานในแผนกของดิชั้น :
- เป็นเด็กฝาก
- เป็นคนที่ย้ายมาจากแผนกอื่น คือเป็นคนที่เขาคัดแล้วว่าเขาไม่เอา คืออ่อนสุดในแผนกแล้ว ก็เลยเอามาให้
- เป็นคนที่ถูกเลือกให้ถูกจ้างออก แต่ด้วยภาระของครอบครัว ได้ไปขอนายใหญ่ไว้นายใหญ่ก็เลยเอามาฝากไว้อีกเช่นเคย
ตัวดิฉันเอง :
- สอบเข้ามาทำงาน ทั้งข้อเขียนและสัมภาษณ์
- เป็นคนพูดจาห้วนๆ ชอบทำผลงานไม่ชอบพูดมาก เป็นผู้หญิงแต่ไม่ชอบจ๊ะจ๋า ( ปกติก็ไม่ค่อยชอบพูดมาก จ๊ะจ๋า คุยเล่น หยอกล้ออยู่แล้ว ยิ่งมาเจองานเยอะๆยิ่งจิตแตกเลยไม่มีเวลาไปจ้ะจ๋าสมาคมกับใคร สภาวะหนักกว่าเดิมอีก แต่ก็มีเพื่อนมีกลุ่มคนคุยด้วยกันนะเป็นคนที่ทำงานเหมือนกัน ไม่มากแต่มีค่ะ 555+)
- เป็นคนค่อนข้างเข้มงวด บางทีก็เข้มงวดเกินไปไหม พยายามถามตัวเองตลอด จะพยายามเบาๆลง แต่มักจะจิตตกตอนที่ลูกน้องทำงานผิดหรือทำงานไม่ทัน
- เป็นคนจริงจังกับการทำงานมาก
- เป็นคนทำงานต้องรอบคอบและถูกต้องมาก ( พอเจองานที่ส่งมาแบบผิดๆต้องนั่งแก้จนถูกต้องทำให้หลายๆครั้งพอเราทำงานช้า ทำงานหนักก็รู้สึก แย่ กับตัวเอง) พอเราส่งงานหัวหน้าใหญ่ช้าหรือไม่ทันก็โดนด่าอยู่คนเดียว
*แน่นอนว่า เขาไม่ได้มีหน้าที่ถามว่าทำไมเราทำงานช้า ช้าก็คือช้า ผิดที่เราในการ manage งานเองเข้าใจอยู่
- แต่
- เคยเดินเข้าไปปรึกษาเรื่องลูกน้องไหม
ยอมรับว่าพยายามอดทนเหมือนกันแต่มีถึงจุดนึงที่เดินเข้าไปคุยขอคำปรึกษา
หัวหน้าตอบมาว่า
ก็รับมาแล้ว อดทนค่อยๆสอนงานไปนะ...
คงไม่มึนขนาดนั้นมั้งงานก็ไม่ได้ยาก คิดมากไปเองหรือเปล่า...
ยกตัวอย่างจริงให้ดู ให้เห็นของจริงกับตา ก็เงียบไปแป๊บนึง
แล้วตอบมาว่า ก็ช่วยแก้ให้มันหน่อย เอ็งก็อยากเข้มงวดเกินไป... อันไหนปล่อยไปได้บ้างก็ปล่อยไป
( แต่พอเอางานกับตูไม่พูดแบบนี้)
ทางเลือกตอนจบ :
- มีจ้างออกรอบก่อน ยกมือขอออก
- เตรียมลาออกเองหางานใหม่ วางแผนมาดิบดี
- เครียดมากๆก็โทรสายด่วน ไม่อยากปรึกษาเพื่อนๆ หรือญาติพี่น้อง เดี๋ยวเขาจะเครียดตามเราไปด้วย
- วันนี้โทรสายด่วนไม่ติด พิมพ์กระทู้ระบายออกมา เพื่อลดความเครียด ไม่มีใครตอบ ไม่มีกำลังใจที่ไหน ไม่มีใครแนะนำอะไร ไม่เป็นไรค่ะ ได้พิมพ์ออกมาแล้วสบายใจ
ข้อดีของชีวิตช่วงนี้ :
ยังมีงานทำ ยังมีเงินเดือน ยังมีประกันสังคม ยังมีข้าวกิน ยังมีที่อยู่อาศัย (มีเงินผ่อน/เช่า) ยังมีเงินส่งไปให้แม่ที่บ้านเป็นค่าใช้จ่าย ในชีวิตแต่ละวัน ไม่ให้ขาด ยังพอแบ่งปันเงินเล็กๆน้อยๆ ทำบุญทำทาน ตามศรัทธาได้บ้าง (สาธุ)
ตกลงแล้วเราเครียดเนื่องจากอะไร :
เครียดเนื่องจากทำงานไม่ได้ดั่งใจ งานมีปัญหาเยอะ ลูกน้องทำงานผิดเยอะ ลูกน้องสร้างปัญหาให้ตามแก้เยอะ โหลดงานมากเกินไปงานล้นมือจนต้องเอากลับมาทำที่บ้านต่อทุกวัน ไม่ทำก็ไม่ได้ วันนี้เหนื่อยล้ามาก พอคิดถึงสาเหตุที่เหนื่อยล้าก็ยิ่งทำให้รู้สึกท้อใจ ตอนนี้มือชาเจ็บเอวเจ็บหลังไปหมด ปวดตา สุขภาพแย่รู้สึกไม่ดีกับสภาพชีวิตตัวเอง รู้สึกผิด รู้สึกไม่แฟร์กับชีวิตตัวเอง
แล้วจะแก้ไขยังไง :
พอเครียดมากๆก็ทำงานไม่ได้ พอทำงานไม่ได้ ก็ทำงานต่อไม่เสร็จ
ก็เลยหาทางระบายความเครียด โดยการพิมพ์ระบายออกมาหรือการพูดกับตัวเอง ก็ทำให้ได้ระบายออกบ้างเพื่อลดความเครียดของตัวเอง (ลดได้บ้าง)
พิมพ์เสร็จ ขอนอนหลับสักแป๊บ แล้วก็กลับไปทำงานต่อ 555+
สู้ๆนะตัวเราเอง ตั้งสติให้ดี