จขกท. ยังคงต้องทำงาน อีกทั้งยังมีลูกเล็กยังไม่ถึงขวบอยู่ในบ้าน
ลูกนอนกับแม่ กลางวันพี่เลี้ยงดูแล คือมันยากมากที่จะให้พี่เลี้ยงรับผิดชอบลูกเราทั้งหมด
จนกว่าโรคระบาดจะหายใช้เวลานานแค่ไหนเราไม่ทราบ
ตอนนี้ที่ทำอยู่คืออกนอกบ้านใส่แมส ล้างมือด้วยสบู่บ่อยเท่าที่จะทำได้
การเดินทางใช้รถส่วนตัว ทำงาน-บ้าน ยกเว้นซื้อของใช้และอาหาร โดยจะซื้ออาทิตย์ละ 1-2 ครั้ว
ก่อนเข้าบ้านฉีดแอลกอฮอล์ทั้งหมด ตัวและกระเป๋า เครื่องใช้รวมถึงของที่ซื้อมา
เข้าห้องน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าทันที อาบน้ำสระผม แล้วค่อยมาเจอลูก
แต่เราไม่รู้ว่าวันไหนที่เราจะได้เชื้อมา เพราะที่ออฟฟิศไม่ค่อยป้องกันเท่าไหร่
ไม่ใส่แมสเวลาอยู่ออฟฟิส บางคนอย่างต้องเข้า ๆ ออกตลอด
คือเราต้องป้องกันตัวจากคนเหล่านี้มากพอสมควร
มีหลายคนที่ไม่ได้ตระหนักว่าผลกระทบมันหนักขนาดไหน
เราไม่อยากให้คนในบ้านติดเพราะเราอยู่กันแค่ 3 คน
เรา ลูก พี่เลี้ยง เป็นไม่ได้ยากที่จะไม่มีสัมพันธ์กับคนที่บ้านโดยเฉพาะลูก
ใจเราไม่อยากทำงานแล้วแต่ที่ทำงานไม่มีแนวโน้มเลยที่จะ Work for home
*ตอนนี้ที่กำลังจะทำคือแยกห้องน้ำใช้ ระหว่างเรากับของคนในบ้าน
ต่อไปว่าจะแยกนอนกับลูกและไม่สัมผัสกับเขาซึ่งมันยากมากข้อนี้เพราะไม่เคยนอกแยกกันเลยตั้งต่แเกิด
ต่อไปคงต้องใส่แมสในบ้าน ล้างมือบ่อย ๆ ไม่หอมลูก
เวลากินข้าวแยกช้อนใครช้อนมัน แต่ต่อไปอาจจะแยกกันกินเลย แต่ไม่รู้จะทำได้มากแค่ไหน
แค่คิดก็เศร้าแล้วค่ะ ไม่อยากให้ถึงขั้นเหล่านี้เพราะความสัมพันธ์และความรู้สึกลูกก็อาจจะแย่ตาม
เพราะลูกมีแค่เรา พี้เลี้ยงแม้จะดูแลได้แต่ความสัมพันธ์มันไม่เหมือนกันละไม่รู้ว่าต้องทำไปยาวนานขนาดไหน
ขอไอเดียสำหรับคนทำงานที่ต้องเว้นระยะห่างในครอบครัวอย่างไรในสถากาณณ์โรคระบาดแบบนี้(มีลูกเล็ก)
ลูกนอนกับแม่ กลางวันพี่เลี้ยงดูแล คือมันยากมากที่จะให้พี่เลี้ยงรับผิดชอบลูกเราทั้งหมด
จนกว่าโรคระบาดจะหายใช้เวลานานแค่ไหนเราไม่ทราบ
ตอนนี้ที่ทำอยู่คืออกนอกบ้านใส่แมส ล้างมือด้วยสบู่บ่อยเท่าที่จะทำได้
การเดินทางใช้รถส่วนตัว ทำงาน-บ้าน ยกเว้นซื้อของใช้และอาหาร โดยจะซื้ออาทิตย์ละ 1-2 ครั้ว
ก่อนเข้าบ้านฉีดแอลกอฮอล์ทั้งหมด ตัวและกระเป๋า เครื่องใช้รวมถึงของที่ซื้อมา
เข้าห้องน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าทันที อาบน้ำสระผม แล้วค่อยมาเจอลูก
แต่เราไม่รู้ว่าวันไหนที่เราจะได้เชื้อมา เพราะที่ออฟฟิศไม่ค่อยป้องกันเท่าไหร่
ไม่ใส่แมสเวลาอยู่ออฟฟิส บางคนอย่างต้องเข้า ๆ ออกตลอด
คือเราต้องป้องกันตัวจากคนเหล่านี้มากพอสมควร
มีหลายคนที่ไม่ได้ตระหนักว่าผลกระทบมันหนักขนาดไหน
เราไม่อยากให้คนในบ้านติดเพราะเราอยู่กันแค่ 3 คน
เรา ลูก พี่เลี้ยง เป็นไม่ได้ยากที่จะไม่มีสัมพันธ์กับคนที่บ้านโดยเฉพาะลูก
ใจเราไม่อยากทำงานแล้วแต่ที่ทำงานไม่มีแนวโน้มเลยที่จะ Work for home
*ตอนนี้ที่กำลังจะทำคือแยกห้องน้ำใช้ ระหว่างเรากับของคนในบ้าน
ต่อไปว่าจะแยกนอนกับลูกและไม่สัมผัสกับเขาซึ่งมันยากมากข้อนี้เพราะไม่เคยนอกแยกกันเลยตั้งต่แเกิด
ต่อไปคงต้องใส่แมสในบ้าน ล้างมือบ่อย ๆ ไม่หอมลูก
เวลากินข้าวแยกช้อนใครช้อนมัน แต่ต่อไปอาจจะแยกกันกินเลย แต่ไม่รู้จะทำได้มากแค่ไหน
แค่คิดก็เศร้าแล้วค่ะ ไม่อยากให้ถึงขั้นเหล่านี้เพราะความสัมพันธ์และความรู้สึกลูกก็อาจจะแย่ตาม
เพราะลูกมีแค่เรา พี้เลี้ยงแม้จะดูแลได้แต่ความสัมพันธ์มันไม่เหมือนกันละไม่รู้ว่าต้องทำไปยาวนานขนาดไหน