"ชีวิตมันเป็นของเรา อย่าเดินตามเงาของใคร"
คำพูดที่เจ้าพ่อแห่งมาเก๊า "โจเซฟ โจว" พร่ำสอนลูกชายคนเล็ก "เจย์ โจว" เป็นประจำ ไม่เว้นแม้กระทั่งวาระสุดท้ายในชีวิตของเจ้าพ่อแห่งเกาะมาเก๊า
ผู้กุมบังเหียนแก๊งเขี้ยวกิเลน และยังดำรงตำแหน่งสมาคมมังกรห้าหัว มีธุรกิจในมือมูลค่านับหมื่นล้าน เขามีลูกชายทั้งหมดสามคน
ได้แก่ "แจ็คสัน โจว"ลูกชายคนโต "จัสติน โจว"ลูกชายคนกลาง และ "เจย์ โจว"ลูกชายคนสุดท้อง
ก่อนที่เจ้าพ่อแห่งเกาะมาเก๊าจะดับลมหายใจลง เขาได้สั่งเสียให้แจ็คสัน รับตำแหน่งทุกอย่างแทนเขา และช่วยดูแลกิจการที่ทำอยู่ทั้งหมดในฐานะพี่ชายคนโต และหัวหน้าครอบครัวคนต่อไป โดยได้พูดกับแจ็คสันไว้ว่า "จงจำไว้นะลูกชาย การได้ขึ้นเป็นผู้ปกครอง ไม่เพียงแต่จะยึดมั่นเชื่อในตัวเอง ลูกยังต้องเชื่อในคนของเราด้วย" ก่อนสัญญาณชีพจรจะค่อยๆแผ่วเบาแล้วดับลงไปในที่สุด
วันถัดมา
งานศพของเจ้าพ่อมาเก๊า ได้ถูกจัดขึ้นอย่างใหญ่โต มีผู้เข้าร่วมแสดงความอาลัยนับร้อย ประกอบไปด้วย ลูกชายทั้งสาม ภรรยา สมาชิกสมาคมมังกรห้าหัว
และบรรดาผู้คนที่เจ้าพ่อได้เคยช่วยเหลือไว้ด้วยความเมตตา ต่างร่วมมาแสดงความเสียใจและซาบซึ้งในสิ่งที่เจ้าพ่อเคยมอบให้
"แล้วงานเลี้ยงฉลองเจ้าพ่อคนใหม่จะมีขึ้นเมื่อไหร่หละ?" แอนดรูว เฉียง หัวหน้าแก๊งพยัคฆ์ฟ้า กล่าวถามแจ็คสันเพื่อนสนิทร่วมสาบาน
"อีก7วันข้างหน้า ฉันขอจัดการงานของพ่อให้เสร็จเรียบร้อยก่อน"แจ็คสันตอบ "นายรีบทำให้มันเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้เถอะ ฉันไม่ค่อยไว้ใจไอ้พวก3แก๊งนั้นสักเท่าไหร่ ไม่รู้ว่ามันจะเล่นสกปรกชิงเก้าอี้จากนายเมื่อไหร่ ว่าแต่ เรื่องที่ว่าจะส่งเจย์ไปอยู่ประเทศไทย ฉันจัดการเตรียมที่อยู่ รถ โรงเรียนไว้ให้เรียบร้อยแล้ว
จริงๆนายไม่จำเป็นต้องส่งเจย์ไปก็ได้นี่ อยู่ที่นี่คงไม่มีใครกล้าทำอะไรไอเด็กบ้านั่นอยู่แล้วหละ" แจ็คสันได้ยินเช่นนั้นก็หัวเราะออกมา "ฉันทำเพื่อความปลอดภัยของเจย์นั่นแหละ ถึงเจ้านั่นจะโวยวายดื้อดึงไม่ยอมไปก็เถอะ ขอบใจนายมากนะที่จัดการดูแลเรื่องที่ประเทศไทยให้ ส่วนเรื่องค่าใช้จ่ายของเจย์ เดี๋ยวฉันให้คุณโอ เลขาของฉันจ่ายคืนให้นาย" แอนดรูวตอบกลับเจย์อย่างรวดเร็ว "ไม่ต้องหรอก เรื่องเงินน่ะเรื่องเล็ก แต่สภาพจิตใจตอนนี้ของเจย์พร้อมแล้วหรือยัง กำหนดเดินทางก่อนที่งานเลี้ยงจะเริ่มขึ้นนะ" แอนดรูวหันไปมองเจย์ที่กำลังนั่งเหม่อลอยไปที่รูปหน้าศพของพ่อ "พี่มองผมทำไม หน้าผมเหมือนพ่อพี่นักหรอ"เจย์ตะโกนหยอกล้อแอนดรูวที่กำลังมองมา "พ่อฉันหล่อกว่านายตั้งเยอะ อย่าคิดมาเทียบเลย" ทั้งคู่หัวเราะกันด้วยความขบขัน
แจ็คสันมองไปที่ทั้งคู่พร้อมกับยิ้มและส่ายหน้า จู่ๆก็มีเสียงปืนดังขึ้น ปัง! ปัง! "ช่วยด้วย มีคนถูกยิง" เสียงผู้คนในงานตะโกนลั่น
ทั้งแจ็คสันและแอนดรูววิ่งมาดูชายที่ถูกยิง "คุณโอ!"เลขาชายวัยกลางคนของว่าที่เจ้าพ่อคนใหม่ ถูกยิงที่ร่างกายสองนัด
"ทำใจดีๆไว้ก่อนนะคุณโอ"แจ็คสันพูด สักพักรถพยาบาลก็มา และสามารถช่วยชีวิตคุณโอไว้ได้อย่างเฉียดฉิว แต่อาการก็สาหัสมาก
"ไปคุ้มกันคนในงานให้กลับบ้านให้หมด แล้วแยกอีกส่วนไปดูแลครอบครัวฉัน"แจ็คสันสั่งลูกน้อง "เรื่องไอมือปืนฉันสั่งให้ลูกน้องไล่ตามแล้ว ไม่ต้องห่วง" แอนดรูวพูดกับแจ็คสัน และทุกคนในงานก็แยกย้ายกันกลับกันไปจนหมด
ณ คฤหาสน์ตระกูลโจว
"ทำไมมันมีแต่เรื่องไปหมดเลย ฉันล่ะอยากเป็นลมซะจริงๆ"นลิน โจว คุณนายใหญ่ตระกูลโจวตัดพ้อด้วยความท้อใจ "แล้วจัสตินไปไหน งานก็ไม่ยอมไปร่วม บ้านก็ยังไม่กลับ มีอันตรายอะไรหรือป่าวแจ็คสัน" "พี่ไลน์มาบอกว่าอยู่คาสิโนแกรนด์ไดม่อน"เจย์พูดแทรก "คาสิโนแกรนด์ไดม่อนนั่นมันของแก๊งสิงโต คู่แข่งเรานี่ มันคงสติเพี้ยนไปแล้วหละมั้งลูกชายคนนี้ ว่าแต่ แกต้องบินไปประเทศไทยอีกสามวันถัดไปใช่ไหมเจย์? อาหารการกินดีหรือป่าว? อยู่สบายไหม? ถ้าไม่สบายตรงไหนก็ต้องรีบบอกแม่เลยนะ แล้วสังคมเพื่อนน่ะจะมีปัญหาหรือป่าว? อยู่คนเดียวได้ไหม? บลาๆๆ" "โอ๊ยแม่ ทำตัวเว่อร์ตลอดเลยนะ เจย์ก็เคยอยู่ไทยมาก่อนตอนที่แม่พาไป ไม่ต้องกังวลหรอก สบายๆอยู่แล้ว"เจย์ตอบด้วยความหงุดหงิดแม่ "ฉันจัดการเรื่องเครื่องบินให้แกแล้วนะ พรุ่งนี้เช้าต้องออกเดินทาง"แจ็คสันพูดกับเจย์ "อะไร ไหนบอกอีก3วันไง แล้วไปหาตั๋วมาจากไหนไวขนาดนี้ ทำไมต้องรีบถึงขนาดนั้นด้วยหละพี่แจ็คสัน"เจย์ถามด้วยความสับสน
"ที่ต้องรีบมันก็เพื่อความปลอดภัยของตัวแก ส่วนเรื่องเครื่องบิน ฉันจะให้นั่งเครื่องบินส่วนตัวไป จะได้ไม่ต้องเรื่องมากจองตั๋ว" "อวดรวยกันสุดๆไปเลย"เจย์ตอบอย่างทะเล้นแฝงความกังวลที่ต้องเดินทางไปใช้ชีวิตอยู่เพียงลำพัง
รุ่งเช้าของวันถัดมา
"เดินทางปลอดภัยนะลูก ถ้าว่างก็ติดต่อแม่กับพวกพี่แกมาบ่อยๆ ถ้ามีปัญหาเดือดร้อนอะไรให้รีบบอกเลยนะ ดูแลตัวเองดีๆ รักลูกนะ"คุณนายโจวบอกลาลูกชายก่อนจะขึ้นรถยนต์ส่วนตัวเดินทางไปยังสนามบิน "พี่จัดการเรื่องที่อยู่ รถ โรงเรียนให้เรียบร้อยแล้วนะ ถ้าขาดเหลืออะไรก็บอกอีกทีละกัน จะได้จัดหาให้"แจ็คสันกล่าวขณะขับรถมุ่งไปยังสนามบิน "ไม่มีปัญหาเรื่องการใช้ชีวิตหรอกหน่า ไม่ต้องเป็นห่วง ไว้เรียนจบจะพาสาวไทยมาฝากนะ ฮ่าๆ"ทั้งสองหัวเราะ
"แล้วแกคิดไว้หรือยัง ว่าเรียนไฮสคูลที่ไทยจบ จะไปต่อมหาลัยที่ประเทศไหน?"แจ็คสันถาม "ไม่รู้สิ แต่ถามอะไรหน่อยได้ไหม" "ว่าไงหละ"แจ็คสันตอบ
"ที่ว่าจัสตินหายไปเพราะไปเข้ากับแก๊งสิงโตนี่จริงหรือเปล่า?" "ก็คงจะจริง แต่พี่ก็ไม่มีสิทธิ์อะไรไปห้ามเลย ได้แค่เตือนเพราะไอนั่นมันหัวรั้นน่ะ ไม่รู้เลยว่ากำลังคิดอะไรอยู่"แจ็คสันตอบด้วยความกังวล ทั้งคู่นั่งสนทนาจนกระทั่งไปถึงสนามบิน "ตั้งใจเรียนให้จบ ถ้าแกพิสูจน์ตัวเองว่าเหมาะสมได้ คาสิโนนิวเวกัสจะเป็นของแก"แจ็คสันพูดจูงใจเจย์ "เจอกันไอพี่ชายจอมเย็นชา" เจย์ยืนมองแจ็คสันที่กำลังขับรถออกจากสนามบิน ส่วนตัวเองนั้นก็เดินทางไปขึ้นเครื่องบิน
การเดินทางของอีกาเดียวดาย ได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว..
ณ ประเทศไทย
เครื่องบินส่วนตัวของตระกูลโจวได้ลงจอดโดยสวัสดิภาพ รถยนต์เบนซ์สีดำจอดรอรับเจย์อยู่ที่ด้านหน้าสนามบิน ชายแต่งกายด้วยชุดสูทดูภูมิฐานเดินมาเปิดประตูรถให้เจย์และขับรถเพื่อพาเจย์ไปยังที่พักอาศัยใหม่ ที่เขาต้องอยู่ระหว่างอยู่ที่ประเทศไทย "Good Morning sir,How are you?" คนขับกล่าวทักทาย
"ผมชื่อเจย์ สบายดีครับ ผมพูดไทยได้ครับ"เจย์ตอบอย่างทะเล้น คนขับทำหน้าตกใจเล็กน้อย และก็ขำในความไม่รู้ของตนเอง ทั้งคู่สนทนากันอย่างสนุกสนานด้วยความอัธยาศัยดีของเจย์จนกระทั่งถึงตึกแห่งหนึ่งในกลางกรุงเทพมหานคร ตึกสูงตั้งตระหง่านอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา เป็นโรงแรมระดับ5ดาวที่ตระกูลโจวเป็นเจ้าของอยู่นั่นเอง เมื่อลงจากรถ พนักงานทั้งหมดและผู้จัดการโรงแรมต่างยืนรอต้อนรับเจย์ น้องชายคนเล็กของผู้ถือหุ้นใหญ่แห่งโรงแรมนี้
"เอาแบบเรียบง่ายเถอะครับ ผมอึดอัด"เจย์กระซิบบอกผู้จัดการ "ขออภัยด้วยค่ะ เดี๋ยวดิฉันจะพาขึ้นไปที่เพ้นท์เฮาส์ของคุณท่านนะคะ"ผู้จัดการตอบด้วยความเคารพ "เรียกแทนผมว่าเจย์ก็ได้ ส่วนพี่แทนตัวเองว่าพี่ ไม่ต้องสุภาพขนาดนั้นหรอก มันเว่อร์ไปมั้ง ฮ่าๆ"เจย์ตอบพร้อมหัวเราะ
ผู้จัดการโรงแรมพาเจย์ขึ้นมายังเพ้นท์เฮาส์ของเขาด้วยลิฟท์ส่วนตัว มีทั้งสระว่ายน้ำ ห้องฟิตเนส ห้องนอนใหญ่โตโอ่โถ่ง สิ่งอำนวยความสำดวกครบครันและเป็นส่วนตัวสามารถเรียกใช้บริการรูมเซอร์วิสได้ตลอดเวลา "จะว่าไปอยู่ที่นี่ก็สบายดีนะ ไม่อยากกลับมาเก๊าแล้วถ้าจะสบายขนาดนี้"เจย์พูด
"พี่ลืมบอกไปค่ะ ลิฟท์สามารถไปยังชั้นจอดรถส่วนตัวได้นะคะ คุณแอนดรูวสั่งให้คนนำรถมาจอดไว้ให้เรียบร้อยแล้วค่ะ" "ไอบ้าแอนดรูวมันจะเอารถซาเล้งมาแกล้งเรารึป่าววะเนี่ย"เจย์แอบคิดในใจ ก่อนที่จะลงลิฟท์เพื่อไปดูที่ชั้นจอดรถ
"ปอร์เช่เลยหรอวะเนี่ย แอนดรูวมันจะเว่อร์เกินไปแล้ว"เจย์ตกตะลึงเมื่อมองไปที่รถคันใหม่รุ่นใหม่ล่าสุดของเขา และยังมีมอไซค์บิ๊กไบค์อีกหนึ่งคันจอดอยู่
"จะว่าไปอย่างน้อยพี่แอนดรูวมันก็ยังมีดีนอกจากปากหมาล่ะนะ ดีล่ะ จะได้มีขับไปอวดสาว" เจย์ไม่รอช้า รีบหยิบกุญแจรถเพื่อไปลองรถสปอร์ตคันใหม่ของตัวเอง เจย์ขับไปตามถนนอย่างสนุกใจ ขับไปเรื่อยๆอย่างไม่มีจุดหมาย เอี๊ยดดดด!! รถยนต์เบรคอย่างกระทันหัน "ขับรถจะรีบไปไหนวะ นี่มันทางม้าลายนะเว้ย! ใบขับขี่ซื้อมาหรือไงวะ!!"หญิงสาวปริศนาตะโกนใส่เจย์ด้วยความโมโห "แล้วทำไมจะข้ามถนนไม่หัดมองรถก่อนข้ามหละ ใครมันจะไปหยุดทัน?"เจย์ถามกลับด้วยความรำคาญ หญิงสาวแต่งตัวเซอร์ๆ ผมยาว ผิวขาว หน้าตาดี กำลังตรงปรี่เข้ามาที่กระจกข้าง พร้อมกับเจย์ที่เปิดกระจกเพื่อจะพูดคุย "หน้าตาก็ยังดูเด็กอยู่ มีใบขับขี่รึป่าวเถอะ ไหนเอามาดูหน่อยดิ?"หญิงสาวพูด "ชิบเป๋งละใบขับขี่ก็ไม่มี หงุดหงิดกลบเกลื่อนไปละกัน"เจย์คิดในใจ
พร้อมพูดออกไปว่า"เป็นตำรวจหรือไงจะมาดูใบขับขี่ หรือเป็นมาเฟียเจ้าถิ่น? ฉันไม่เสียเวลาคุยกับเธอหรอก ไปดีกว่า" เจย์พูดจบประโยคพร้อมปิดกระจกและเหยียบคันเร่งออกมาจากจุดนั้น "เฮ้ยอะไรกันเนี่ย หนีหรอ ไม่แน่จริงนี่หว่าโถ่ ลงมาต่อยกันดิแน่จริงอะ!"หญิงสาวตะโกนไล่หลังพร้อมทำท่าอวดเก่ง
"ชิ ยัยบ้านั่น หน้าตาก็พอใช้ แต่นิสัยไม่ไหวเลยจริงๆ"เจย์บ่นพึมพำ พร้อมขับรถกลับห้องพัก
3วันถัดมา
เจย์ตื่นแต่เช้าตรู่เพราะต้องไปโรงเรียนวันแรกด้วยความเบื่อหน่าย เขารีบทำธุระส่วนตัวก่อนจะขับรถออกไปยังโรงเรียนเอกชนชื่อดังแห่งหนึ่งของกรุงเทพ
"แกดูดิ เด็กใหม่ที่แทรกชั้นมาม.6ที่นี่อะ หล่อเนอะ" "ใช่ๆแก เห็นเขาว่ามาจากมาเก๊า รวยมากด้วย"บรรดานักเรียนหญิงในโรงเรียนต่างตื่นเต้นกับเด็กใหม่ที่เข้ามา "โรงเรียนที่ไหนก็น่าเบื่อเหมือนกันหมดจริงๆ"เจย์บ่นในใจ ก่อนที่จะร่วมทำกิจกรรมเข้าแถวจนเสร็จสิ้น และแยกย้ายเข้าห้องเรียน
"วันนี้มีเพื่อนใหม่จะมาเรียนกับพวกเราด้วย อ่ะมาแนะนำตัวทำความรู้จักเพื่อนๆหน่อยสิเจย์"ครูประจำชั้นกล่าว "ก็สวัสดีเพื่อนๆทุกคน เราชื่อเจย์นะ พึ่งย้ายมาจากมาเก๊า ฝากเนื้อฝากตัวด้วย"เจย์แนะนำตัวอย่างเขินอายสายตานักเรียนหญิงทั้งห้องที่มองมาและหันไปพูดคุยกันคิกคักๆ และบรรดานักเรียนชาย
นำโดยหัวโจกชื่อมาร์คก็ไม่ค่อยชอบหน้าเด็กใหม่คนนี้สักเท่าไหร่ "ที่นั้นว่างไปนั่งได้เลย เพื่อนที่นั่งข้างๆยังไม่มา"ครูชี้ไปยังที่ว่างหลังห้องสองที่นั่ง
เจย์วางของพร้อมกับนั่งลง ทันใดนั้นก็มีนักเรียนหญิงคนหนึ่งวิ่งเข้ามาในห้องพร้อมอาการหอบเหนื่อย "จูเนียร์ เธอมาสายอีกแล้วนะ!"ครูกล่าวดุเด็กหญิงสาว "ขอโทษค่ะครู" หญิงสาวค่อยๆมองไปที่เก้าอี้นั่งของตนเอง "เฮ้ยนาย!!" "เฮ้ยเธอ!!!"เจย์สบถด้วยความตกใจ "เคยเจอกันมาก่อนด้วยหรอ?"ครูถาม
"เปล่าค่ะ/ครับ" ทั้งสองตอบพร้อมกันเปนเสียงเดียว ก่อนที่หญิงสาวจะค่อยๆเดินมานั่งที่นั่งของตัวเอง "มาสายอีกแล้วหรอจูเนียร์"เจย์พูดล้อเลียนอย่างสนุกสนาน "หุบปากไปเลยนะ"จูเนียร์ตอบกลับด้วยความหงุดหงิดใจ "เธอนี่มันเจ้ากรรมนายเวรจริงๆเลยว่ะ" "นายน่ะสิเจ้ากรรมนายเวร!"ทั้งคู่ต่างโต้เถียงกันไปมา "เหอะ ไอเด็กใหม่หน้าติ๋มเข้ามาก็ม่อยัยเลสเบี้ยนเลยว่ะ"มาร์คเด็กหัวโจกพูดขึ้น "เมื่อกี้บอกว่าใครหน้าติ๋มวะ?"เจย์โพล่งถามด้วยความหัวร้อน
"เฮ้ย เข้ามาวันแรกจะปากหมาหาเรื่องเลยหรอ จะปากหมาทั้งชีวิตเลยหรือไง?"จูเนียร์ดุเจย์ "เธอนี่ก็บ้าเนอะ ยอมให้มันมาพูดหมาๆใส่ ทำไมกับมันไม่เห็นปากเก่งเหมือนกับเราเลย"เจย์ถามจูเนียร์ "เราเตือนนะ แกอย่าไปยุ่งกับมันเลย ผู้ชายทั้งห้องก็พวกมันหมดนั่นแหละ" เจย์ฟังแล้วหันไปมอง "ทั้งหมดมันก็แค่5คน จะกลัวอะไรเนี่ย" "ถึงเวลาเก่งให้ได้แบบปากละกัน"จูเนียร์ตอบด้วยความหน่ายใจ
ถึงเวลาเลิกเรียน
มาร์คเดินตรงเข้ามาหาเจย์พร้อมพวกอีก4คนด้วยท่าทีไม่เป็นมิตร "กูไม่ชอบหน้าเลยว่ะ เห็นแล้วโคตรสะอิดสะเอียน"มาร์คพูดท้าทาย "แล้วจะเอายังไง?"เจย์ถาม "วัดกับกูหลังโรงเรียน กล้าป่าว?" "ไม่มีเดิมพันหน่อยหรอ?"เจย์ท้าทาย "ถ้าชนะ กูจะยอมเป็นลูกน้อง แต่ถ้าแพ้ ต้องมาเป็นเบ๊แล้วยอมรับใช้กูทุกอย่าง"มาร์คยื่นข้อเสนอด้วยความมั่นใจในชัยชนะ "งั้นไปหลังโรงเรียนเลย" เจย์ตอบด้วยความรู้สึกเดือดพล่านของอะดรีนาลีน
เจ้าพ่อมาเก๊า : อีกาเดียวดาย ตอนที่1
คำพูดที่เจ้าพ่อแห่งมาเก๊า "โจเซฟ โจว" พร่ำสอนลูกชายคนเล็ก "เจย์ โจว" เป็นประจำ ไม่เว้นแม้กระทั่งวาระสุดท้ายในชีวิตของเจ้าพ่อแห่งเกาะมาเก๊า
ผู้กุมบังเหียนแก๊งเขี้ยวกิเลน และยังดำรงตำแหน่งสมาคมมังกรห้าหัว มีธุรกิจในมือมูลค่านับหมื่นล้าน เขามีลูกชายทั้งหมดสามคน
ได้แก่ "แจ็คสัน โจว"ลูกชายคนโต "จัสติน โจว"ลูกชายคนกลาง และ "เจย์ โจว"ลูกชายคนสุดท้อง
ก่อนที่เจ้าพ่อแห่งเกาะมาเก๊าจะดับลมหายใจลง เขาได้สั่งเสียให้แจ็คสัน รับตำแหน่งทุกอย่างแทนเขา และช่วยดูแลกิจการที่ทำอยู่ทั้งหมดในฐานะพี่ชายคนโต และหัวหน้าครอบครัวคนต่อไป โดยได้พูดกับแจ็คสันไว้ว่า "จงจำไว้นะลูกชาย การได้ขึ้นเป็นผู้ปกครอง ไม่เพียงแต่จะยึดมั่นเชื่อในตัวเอง ลูกยังต้องเชื่อในคนของเราด้วย" ก่อนสัญญาณชีพจรจะค่อยๆแผ่วเบาแล้วดับลงไปในที่สุด
วันถัดมา
งานศพของเจ้าพ่อมาเก๊า ได้ถูกจัดขึ้นอย่างใหญ่โต มีผู้เข้าร่วมแสดงความอาลัยนับร้อย ประกอบไปด้วย ลูกชายทั้งสาม ภรรยา สมาชิกสมาคมมังกรห้าหัว
และบรรดาผู้คนที่เจ้าพ่อได้เคยช่วยเหลือไว้ด้วยความเมตตา ต่างร่วมมาแสดงความเสียใจและซาบซึ้งในสิ่งที่เจ้าพ่อเคยมอบให้
"แล้วงานเลี้ยงฉลองเจ้าพ่อคนใหม่จะมีขึ้นเมื่อไหร่หละ?" แอนดรูว เฉียง หัวหน้าแก๊งพยัคฆ์ฟ้า กล่าวถามแจ็คสันเพื่อนสนิทร่วมสาบาน
"อีก7วันข้างหน้า ฉันขอจัดการงานของพ่อให้เสร็จเรียบร้อยก่อน"แจ็คสันตอบ "นายรีบทำให้มันเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้เถอะ ฉันไม่ค่อยไว้ใจไอ้พวก3แก๊งนั้นสักเท่าไหร่ ไม่รู้ว่ามันจะเล่นสกปรกชิงเก้าอี้จากนายเมื่อไหร่ ว่าแต่ เรื่องที่ว่าจะส่งเจย์ไปอยู่ประเทศไทย ฉันจัดการเตรียมที่อยู่ รถ โรงเรียนไว้ให้เรียบร้อยแล้ว
จริงๆนายไม่จำเป็นต้องส่งเจย์ไปก็ได้นี่ อยู่ที่นี่คงไม่มีใครกล้าทำอะไรไอเด็กบ้านั่นอยู่แล้วหละ" แจ็คสันได้ยินเช่นนั้นก็หัวเราะออกมา "ฉันทำเพื่อความปลอดภัยของเจย์นั่นแหละ ถึงเจ้านั่นจะโวยวายดื้อดึงไม่ยอมไปก็เถอะ ขอบใจนายมากนะที่จัดการดูแลเรื่องที่ประเทศไทยให้ ส่วนเรื่องค่าใช้จ่ายของเจย์ เดี๋ยวฉันให้คุณโอ เลขาของฉันจ่ายคืนให้นาย" แอนดรูวตอบกลับเจย์อย่างรวดเร็ว "ไม่ต้องหรอก เรื่องเงินน่ะเรื่องเล็ก แต่สภาพจิตใจตอนนี้ของเจย์พร้อมแล้วหรือยัง กำหนดเดินทางก่อนที่งานเลี้ยงจะเริ่มขึ้นนะ" แอนดรูวหันไปมองเจย์ที่กำลังนั่งเหม่อลอยไปที่รูปหน้าศพของพ่อ "พี่มองผมทำไม หน้าผมเหมือนพ่อพี่นักหรอ"เจย์ตะโกนหยอกล้อแอนดรูวที่กำลังมองมา "พ่อฉันหล่อกว่านายตั้งเยอะ อย่าคิดมาเทียบเลย" ทั้งคู่หัวเราะกันด้วยความขบขัน
แจ็คสันมองไปที่ทั้งคู่พร้อมกับยิ้มและส่ายหน้า จู่ๆก็มีเสียงปืนดังขึ้น ปัง! ปัง! "ช่วยด้วย มีคนถูกยิง" เสียงผู้คนในงานตะโกนลั่น
ทั้งแจ็คสันและแอนดรูววิ่งมาดูชายที่ถูกยิง "คุณโอ!"เลขาชายวัยกลางคนของว่าที่เจ้าพ่อคนใหม่ ถูกยิงที่ร่างกายสองนัด
"ทำใจดีๆไว้ก่อนนะคุณโอ"แจ็คสันพูด สักพักรถพยาบาลก็มา และสามารถช่วยชีวิตคุณโอไว้ได้อย่างเฉียดฉิว แต่อาการก็สาหัสมาก
"ไปคุ้มกันคนในงานให้กลับบ้านให้หมด แล้วแยกอีกส่วนไปดูแลครอบครัวฉัน"แจ็คสันสั่งลูกน้อง "เรื่องไอมือปืนฉันสั่งให้ลูกน้องไล่ตามแล้ว ไม่ต้องห่วง" แอนดรูวพูดกับแจ็คสัน และทุกคนในงานก็แยกย้ายกันกลับกันไปจนหมด
ณ คฤหาสน์ตระกูลโจว
"ทำไมมันมีแต่เรื่องไปหมดเลย ฉันล่ะอยากเป็นลมซะจริงๆ"นลิน โจว คุณนายใหญ่ตระกูลโจวตัดพ้อด้วยความท้อใจ "แล้วจัสตินไปไหน งานก็ไม่ยอมไปร่วม บ้านก็ยังไม่กลับ มีอันตรายอะไรหรือป่าวแจ็คสัน" "พี่ไลน์มาบอกว่าอยู่คาสิโนแกรนด์ไดม่อน"เจย์พูดแทรก "คาสิโนแกรนด์ไดม่อนนั่นมันของแก๊งสิงโต คู่แข่งเรานี่ มันคงสติเพี้ยนไปแล้วหละมั้งลูกชายคนนี้ ว่าแต่ แกต้องบินไปประเทศไทยอีกสามวันถัดไปใช่ไหมเจย์? อาหารการกินดีหรือป่าว? อยู่สบายไหม? ถ้าไม่สบายตรงไหนก็ต้องรีบบอกแม่เลยนะ แล้วสังคมเพื่อนน่ะจะมีปัญหาหรือป่าว? อยู่คนเดียวได้ไหม? บลาๆๆ" "โอ๊ยแม่ ทำตัวเว่อร์ตลอดเลยนะ เจย์ก็เคยอยู่ไทยมาก่อนตอนที่แม่พาไป ไม่ต้องกังวลหรอก สบายๆอยู่แล้ว"เจย์ตอบด้วยความหงุดหงิดแม่ "ฉันจัดการเรื่องเครื่องบินให้แกแล้วนะ พรุ่งนี้เช้าต้องออกเดินทาง"แจ็คสันพูดกับเจย์ "อะไร ไหนบอกอีก3วันไง แล้วไปหาตั๋วมาจากไหนไวขนาดนี้ ทำไมต้องรีบถึงขนาดนั้นด้วยหละพี่แจ็คสัน"เจย์ถามด้วยความสับสน
"ที่ต้องรีบมันก็เพื่อความปลอดภัยของตัวแก ส่วนเรื่องเครื่องบิน ฉันจะให้นั่งเครื่องบินส่วนตัวไป จะได้ไม่ต้องเรื่องมากจองตั๋ว" "อวดรวยกันสุดๆไปเลย"เจย์ตอบอย่างทะเล้นแฝงความกังวลที่ต้องเดินทางไปใช้ชีวิตอยู่เพียงลำพัง
รุ่งเช้าของวันถัดมา
"เดินทางปลอดภัยนะลูก ถ้าว่างก็ติดต่อแม่กับพวกพี่แกมาบ่อยๆ ถ้ามีปัญหาเดือดร้อนอะไรให้รีบบอกเลยนะ ดูแลตัวเองดีๆ รักลูกนะ"คุณนายโจวบอกลาลูกชายก่อนจะขึ้นรถยนต์ส่วนตัวเดินทางไปยังสนามบิน "พี่จัดการเรื่องที่อยู่ รถ โรงเรียนให้เรียบร้อยแล้วนะ ถ้าขาดเหลืออะไรก็บอกอีกทีละกัน จะได้จัดหาให้"แจ็คสันกล่าวขณะขับรถมุ่งไปยังสนามบิน "ไม่มีปัญหาเรื่องการใช้ชีวิตหรอกหน่า ไม่ต้องเป็นห่วง ไว้เรียนจบจะพาสาวไทยมาฝากนะ ฮ่าๆ"ทั้งสองหัวเราะ
"แล้วแกคิดไว้หรือยัง ว่าเรียนไฮสคูลที่ไทยจบ จะไปต่อมหาลัยที่ประเทศไหน?"แจ็คสันถาม "ไม่รู้สิ แต่ถามอะไรหน่อยได้ไหม" "ว่าไงหละ"แจ็คสันตอบ
"ที่ว่าจัสตินหายไปเพราะไปเข้ากับแก๊งสิงโตนี่จริงหรือเปล่า?" "ก็คงจะจริง แต่พี่ก็ไม่มีสิทธิ์อะไรไปห้ามเลย ได้แค่เตือนเพราะไอนั่นมันหัวรั้นน่ะ ไม่รู้เลยว่ากำลังคิดอะไรอยู่"แจ็คสันตอบด้วยความกังวล ทั้งคู่นั่งสนทนาจนกระทั่งไปถึงสนามบิน "ตั้งใจเรียนให้จบ ถ้าแกพิสูจน์ตัวเองว่าเหมาะสมได้ คาสิโนนิวเวกัสจะเป็นของแก"แจ็คสันพูดจูงใจเจย์ "เจอกันไอพี่ชายจอมเย็นชา" เจย์ยืนมองแจ็คสันที่กำลังขับรถออกจากสนามบิน ส่วนตัวเองนั้นก็เดินทางไปขึ้นเครื่องบิน
การเดินทางของอีกาเดียวดาย ได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว..
ณ ประเทศไทย
เครื่องบินส่วนตัวของตระกูลโจวได้ลงจอดโดยสวัสดิภาพ รถยนต์เบนซ์สีดำจอดรอรับเจย์อยู่ที่ด้านหน้าสนามบิน ชายแต่งกายด้วยชุดสูทดูภูมิฐานเดินมาเปิดประตูรถให้เจย์และขับรถเพื่อพาเจย์ไปยังที่พักอาศัยใหม่ ที่เขาต้องอยู่ระหว่างอยู่ที่ประเทศไทย "Good Morning sir,How are you?" คนขับกล่าวทักทาย
"ผมชื่อเจย์ สบายดีครับ ผมพูดไทยได้ครับ"เจย์ตอบอย่างทะเล้น คนขับทำหน้าตกใจเล็กน้อย และก็ขำในความไม่รู้ของตนเอง ทั้งคู่สนทนากันอย่างสนุกสนานด้วยความอัธยาศัยดีของเจย์จนกระทั่งถึงตึกแห่งหนึ่งในกลางกรุงเทพมหานคร ตึกสูงตั้งตระหง่านอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา เป็นโรงแรมระดับ5ดาวที่ตระกูลโจวเป็นเจ้าของอยู่นั่นเอง เมื่อลงจากรถ พนักงานทั้งหมดและผู้จัดการโรงแรมต่างยืนรอต้อนรับเจย์ น้องชายคนเล็กของผู้ถือหุ้นใหญ่แห่งโรงแรมนี้
"เอาแบบเรียบง่ายเถอะครับ ผมอึดอัด"เจย์กระซิบบอกผู้จัดการ "ขออภัยด้วยค่ะ เดี๋ยวดิฉันจะพาขึ้นไปที่เพ้นท์เฮาส์ของคุณท่านนะคะ"ผู้จัดการตอบด้วยความเคารพ "เรียกแทนผมว่าเจย์ก็ได้ ส่วนพี่แทนตัวเองว่าพี่ ไม่ต้องสุภาพขนาดนั้นหรอก มันเว่อร์ไปมั้ง ฮ่าๆ"เจย์ตอบพร้อมหัวเราะ
ผู้จัดการโรงแรมพาเจย์ขึ้นมายังเพ้นท์เฮาส์ของเขาด้วยลิฟท์ส่วนตัว มีทั้งสระว่ายน้ำ ห้องฟิตเนส ห้องนอนใหญ่โตโอ่โถ่ง สิ่งอำนวยความสำดวกครบครันและเป็นส่วนตัวสามารถเรียกใช้บริการรูมเซอร์วิสได้ตลอดเวลา "จะว่าไปอยู่ที่นี่ก็สบายดีนะ ไม่อยากกลับมาเก๊าแล้วถ้าจะสบายขนาดนี้"เจย์พูด
"พี่ลืมบอกไปค่ะ ลิฟท์สามารถไปยังชั้นจอดรถส่วนตัวได้นะคะ คุณแอนดรูวสั่งให้คนนำรถมาจอดไว้ให้เรียบร้อยแล้วค่ะ" "ไอบ้าแอนดรูวมันจะเอารถซาเล้งมาแกล้งเรารึป่าววะเนี่ย"เจย์แอบคิดในใจ ก่อนที่จะลงลิฟท์เพื่อไปดูที่ชั้นจอดรถ
"ปอร์เช่เลยหรอวะเนี่ย แอนดรูวมันจะเว่อร์เกินไปแล้ว"เจย์ตกตะลึงเมื่อมองไปที่รถคันใหม่รุ่นใหม่ล่าสุดของเขา และยังมีมอไซค์บิ๊กไบค์อีกหนึ่งคันจอดอยู่
"จะว่าไปอย่างน้อยพี่แอนดรูวมันก็ยังมีดีนอกจากปากหมาล่ะนะ ดีล่ะ จะได้มีขับไปอวดสาว" เจย์ไม่รอช้า รีบหยิบกุญแจรถเพื่อไปลองรถสปอร์ตคันใหม่ของตัวเอง เจย์ขับไปตามถนนอย่างสนุกใจ ขับไปเรื่อยๆอย่างไม่มีจุดหมาย เอี๊ยดดดด!! รถยนต์เบรคอย่างกระทันหัน "ขับรถจะรีบไปไหนวะ นี่มันทางม้าลายนะเว้ย! ใบขับขี่ซื้อมาหรือไงวะ!!"หญิงสาวปริศนาตะโกนใส่เจย์ด้วยความโมโห "แล้วทำไมจะข้ามถนนไม่หัดมองรถก่อนข้ามหละ ใครมันจะไปหยุดทัน?"เจย์ถามกลับด้วยความรำคาญ หญิงสาวแต่งตัวเซอร์ๆ ผมยาว ผิวขาว หน้าตาดี กำลังตรงปรี่เข้ามาที่กระจกข้าง พร้อมกับเจย์ที่เปิดกระจกเพื่อจะพูดคุย "หน้าตาก็ยังดูเด็กอยู่ มีใบขับขี่รึป่าวเถอะ ไหนเอามาดูหน่อยดิ?"หญิงสาวพูด "ชิบเป๋งละใบขับขี่ก็ไม่มี หงุดหงิดกลบเกลื่อนไปละกัน"เจย์คิดในใจ
พร้อมพูดออกไปว่า"เป็นตำรวจหรือไงจะมาดูใบขับขี่ หรือเป็นมาเฟียเจ้าถิ่น? ฉันไม่เสียเวลาคุยกับเธอหรอก ไปดีกว่า" เจย์พูดจบประโยคพร้อมปิดกระจกและเหยียบคันเร่งออกมาจากจุดนั้น "เฮ้ยอะไรกันเนี่ย หนีหรอ ไม่แน่จริงนี่หว่าโถ่ ลงมาต่อยกันดิแน่จริงอะ!"หญิงสาวตะโกนไล่หลังพร้อมทำท่าอวดเก่ง
"ชิ ยัยบ้านั่น หน้าตาก็พอใช้ แต่นิสัยไม่ไหวเลยจริงๆ"เจย์บ่นพึมพำ พร้อมขับรถกลับห้องพัก
3วันถัดมา
เจย์ตื่นแต่เช้าตรู่เพราะต้องไปโรงเรียนวันแรกด้วยความเบื่อหน่าย เขารีบทำธุระส่วนตัวก่อนจะขับรถออกไปยังโรงเรียนเอกชนชื่อดังแห่งหนึ่งของกรุงเทพ
"แกดูดิ เด็กใหม่ที่แทรกชั้นมาม.6ที่นี่อะ หล่อเนอะ" "ใช่ๆแก เห็นเขาว่ามาจากมาเก๊า รวยมากด้วย"บรรดานักเรียนหญิงในโรงเรียนต่างตื่นเต้นกับเด็กใหม่ที่เข้ามา "โรงเรียนที่ไหนก็น่าเบื่อเหมือนกันหมดจริงๆ"เจย์บ่นในใจ ก่อนที่จะร่วมทำกิจกรรมเข้าแถวจนเสร็จสิ้น และแยกย้ายเข้าห้องเรียน
"วันนี้มีเพื่อนใหม่จะมาเรียนกับพวกเราด้วย อ่ะมาแนะนำตัวทำความรู้จักเพื่อนๆหน่อยสิเจย์"ครูประจำชั้นกล่าว "ก็สวัสดีเพื่อนๆทุกคน เราชื่อเจย์นะ พึ่งย้ายมาจากมาเก๊า ฝากเนื้อฝากตัวด้วย"เจย์แนะนำตัวอย่างเขินอายสายตานักเรียนหญิงทั้งห้องที่มองมาและหันไปพูดคุยกันคิกคักๆ และบรรดานักเรียนชาย
นำโดยหัวโจกชื่อมาร์คก็ไม่ค่อยชอบหน้าเด็กใหม่คนนี้สักเท่าไหร่ "ที่นั้นว่างไปนั่งได้เลย เพื่อนที่นั่งข้างๆยังไม่มา"ครูชี้ไปยังที่ว่างหลังห้องสองที่นั่ง
เจย์วางของพร้อมกับนั่งลง ทันใดนั้นก็มีนักเรียนหญิงคนหนึ่งวิ่งเข้ามาในห้องพร้อมอาการหอบเหนื่อย "จูเนียร์ เธอมาสายอีกแล้วนะ!"ครูกล่าวดุเด็กหญิงสาว "ขอโทษค่ะครู" หญิงสาวค่อยๆมองไปที่เก้าอี้นั่งของตนเอง "เฮ้ยนาย!!" "เฮ้ยเธอ!!!"เจย์สบถด้วยความตกใจ "เคยเจอกันมาก่อนด้วยหรอ?"ครูถาม
"เปล่าค่ะ/ครับ" ทั้งสองตอบพร้อมกันเปนเสียงเดียว ก่อนที่หญิงสาวจะค่อยๆเดินมานั่งที่นั่งของตัวเอง "มาสายอีกแล้วหรอจูเนียร์"เจย์พูดล้อเลียนอย่างสนุกสนาน "หุบปากไปเลยนะ"จูเนียร์ตอบกลับด้วยความหงุดหงิดใจ "เธอนี่มันเจ้ากรรมนายเวรจริงๆเลยว่ะ" "นายน่ะสิเจ้ากรรมนายเวร!"ทั้งคู่ต่างโต้เถียงกันไปมา "เหอะ ไอเด็กใหม่หน้าติ๋มเข้ามาก็ม่อยัยเลสเบี้ยนเลยว่ะ"มาร์คเด็กหัวโจกพูดขึ้น "เมื่อกี้บอกว่าใครหน้าติ๋มวะ?"เจย์โพล่งถามด้วยความหัวร้อน
"เฮ้ย เข้ามาวันแรกจะปากหมาหาเรื่องเลยหรอ จะปากหมาทั้งชีวิตเลยหรือไง?"จูเนียร์ดุเจย์ "เธอนี่ก็บ้าเนอะ ยอมให้มันมาพูดหมาๆใส่ ทำไมกับมันไม่เห็นปากเก่งเหมือนกับเราเลย"เจย์ถามจูเนียร์ "เราเตือนนะ แกอย่าไปยุ่งกับมันเลย ผู้ชายทั้งห้องก็พวกมันหมดนั่นแหละ" เจย์ฟังแล้วหันไปมอง "ทั้งหมดมันก็แค่5คน จะกลัวอะไรเนี่ย" "ถึงเวลาเก่งให้ได้แบบปากละกัน"จูเนียร์ตอบด้วยความหน่ายใจ
ถึงเวลาเลิกเรียน
มาร์คเดินตรงเข้ามาหาเจย์พร้อมพวกอีก4คนด้วยท่าทีไม่เป็นมิตร "กูไม่ชอบหน้าเลยว่ะ เห็นแล้วโคตรสะอิดสะเอียน"มาร์คพูดท้าทาย "แล้วจะเอายังไง?"เจย์ถาม "วัดกับกูหลังโรงเรียน กล้าป่าว?" "ไม่มีเดิมพันหน่อยหรอ?"เจย์ท้าทาย "ถ้าชนะ กูจะยอมเป็นลูกน้อง แต่ถ้าแพ้ ต้องมาเป็นเบ๊แล้วยอมรับใช้กูทุกอย่าง"มาร์คยื่นข้อเสนอด้วยความมั่นใจในชัยชนะ "งั้นไปหลังโรงเรียนเลย" เจย์ตอบด้วยความรู้สึกเดือดพล่านของอะดรีนาลีน