[CR] อยากสวยต้องรู้จักประหยัด มาดูกันดีกว่าว่าสกินแคร์ตัวไหนบ้างที่ซื้อไซส์ใหญ่แล้วประหยัด+ใช้คุ้มกว่า!!

ปรับตัวกันหน่อยช่วงนี้เศรษฐกิจไม่ค่อยดี แต่เราก็ยังต้องสวยเช่นเดิม สำหรับกระทู้นี้คิดว่าน่าจะเป็นประโยชน์กับสาวๆที่รักสวยรักงามนะคะ เพราะนอกจากจะเป็นสกินแคร์ข้าวของที่ช่วยประทินโฉมแล้ว ยังเป็นสกินแคร์ที่เราคัดมาแล้วด้วยว่าลงทุนซื้อไซส์ใหญ่บิ๊กเบิ้มไปเลยค่ะ เพราะของเค้าสารพัดประโยชน์ ใช้คุ้มทุกบาท ทุกสตางค์ที่จ่ายไปอย่างแน่นอนเพี้ยนเย้
 
หลายชิ้นที่เราคัดมา ส่วนใหญ่จะเป็นชิ้นที่สามัญประจำโต๊ะเครื่องแป้งเลยนะคะ สำหรับเราแล้ว ขาดเธอ เหมือนขาดใจ เพราะฉะนั้นถ้าตุนได้ก็จะตุนประจำเลยค่ะ หลังจากที่เราเกริ่นมาพอหอมปากหอมคอ เดี๋ยวจะพาไปดูรีวิวแต่ละตัวกันเลยดีกว่า ว่าจะคุ้มค่า เกินราคา แบบเราที่โม้ไว้มั้ยนะ!

สายเป็นสิว ผิวแพ้ง่าย คงคุ้นตากับ Cetaphil Gentle Skin Cleanser เพราะเป็นคลีนเซอร์สูตรอ่อนโยนที่สู้ดดดด ที่เหมาะสำหรับคนผิวบอบบาง และเราเองก็เป็นคนที่บอบบางคนนั้น คนที่สอยมาใช้ซ้ำซากนับขวดไม่ถ้วน จนเพิ่งมารู้ว่าเข้ามีขวดใหญ่เบิ้มใช้ได้นานแรมปี ขนาด 1 ลิตรแหน่ะ ตัวนี้ใช้คุ้มอีกเช่นกัน เพราะใช้ได้ทั้งผิวหน้า ผิวกายเลย หลักๆแล้วเค้าก็จะมีคุณสมบัติล้างทำความสะอาดผิวที่บอบบาง โดยที่ตัวนี้จะไม่มีส่วนผสมของสบู่ และน้ำหอม แถมผ่านการทดสอบการระคายเคืองจากแพทย์ผิวหนังมาแล้วด้วย เพราะฉะนั้นใครที่แพ้ง่ายก็สามารถใช้ได้แบบสบายใจหายห่วงเลยค่ะ นอกจากจะทำความสะอาดแล้ว เค้าก็ยังช่วยเติมความชุ่มชื้นด้วยน้า แต่เดี๋ยวไปดูกันดีกว่าว่านอกจากคุณสมบัติทั่วไปที่เราใช้กันเป็นประจำแล้ว เค้ายังสามารถทำอะไรได้อีกบ้าง

Cetaphil Gentle Skin Cleanser + สำลี ทำเป็น Cleansing เช็ดทำความสะอาดผิวหน้า หรือทำความสะอาดเครื่องสำอาง ข้อดีก็คือเราไม่ต้องเสียเงินสองต่อไปซื้อ Cleansing ขวดนึง แล้วก็ไปซื้อเจลล้างหน้าอีกขวดนึง การใช้วิธีนี้จะเป็นทั้งการประหยัดเวลา พร้อมทั้งประหยัดเงิน โดยที่ขั้นตอนเดียวก็สะอาดแล้ว ไม่ต้องล้างเจลซ้ำอีกรอบ แต่ต้องเช็ดจนสำลีสะอาดไม่มีสิ่งสกปรกติดเลยนะคะ จุดเด่นของตัวนี้ก็คือ สามารถล้างโดยไม่ต้องล้างน้ำก็ได้ ส่วนใหญ่แล้วเราจะใช้เช็ดพวกคราบครีมกันแดด และเครื่องสำอางอื่นๆที่ไม่กันน้ำ บางทีไปต่างจังหวัด ก็บีบใส่สำลี ใส่ถุงซิปล็อคติดไปด้วย ไม่ต้องไปซื้อ Clensing Tissue ให้เปลือง อ้อ สามารถใช้นวดแล้วล้างออกโดยไม่ใช้สำลีก็ได้นะ แต่เราว่าใช้เวลานานกว่าเยอะเลย เราเลยชอบใช้กับสำลี 

Cetaphil Gentle Skin Cleanser ถ้าใครแพ้สบู่ ตัวนี้ก็สามารถใช้ฟอกผิวกายได้เช่นกัน แต่ข้อเสียคือเค้าจะไม่มีฟองน้า อาจจะต้องใช้ปริมาณเยอะนิดนึง ส่วนใหญ่แล้วเราจะใช้วันที่รู้สึกคันๆผิว ตัวนี้อาบแล้วชุ่มชื้นดีเลยแหละ อาบเสร็จคอนเฟิร์มว่าผิวไม่เอี๊ยด สำหรับบ้านไหนที่มีเด็กอ่อน ใช้อาบน้ำให้เด็กๆก็ได้ด้วยนะคะ อ่อนโยนมาก ล้างจุดซ่อนเร้นยังไม่มีอาการระคายเคืองเลยแม้แต่น้อย
 
หรือจะใช้ทำสูตรสครับขัดผิว โดยใช้ Cetaphil Gentle Skin Cleanser + ข้าวโอ๊ต + น้ำตาล เป็นสครับที่ช่วยผลัดเซลล์ผิวแบบอ่อนๆ แล้วก็ยังบำรุงผิวให้นุ่ม ชุ่มชื้นไปในตัว โดยที่ใช้กับสครับสูตรไหนก็ได้นะคะ เราแค่ยกตัวอย่างเฉยๆ ใครมีสูตรอื่นๆก็สามารถผสมเจลล้างหน้าลงไปได้เลยค่ะ
 
สำหรับ Cetaphil Gentle Skin Cleanser เรามองว่าเป็นอะไรที่คุ้มค่ามากๆเลยนะ เพราะเป็น Cleanser ที่ใช้แล้ว play safe จริงๆ เป็นความอ่อนโยนที่ใช้เมื่อไหร่ก็รู้สึกสบายผิว สบายใจ เพราะชั้นอยู่ใน Safe zone ทุกที คนที่แพ้ง่าย หรือมีปัญหาผิวหนังต่างๆ ไม่ต้องการอะไรที่รบกวนผิว ยิ่งช่วงนี้ฮิตการใช้แปรงล้างหน้า เครื่องล้างหน้า ก็สามารถเอาเจลล้างหน้าตัวนี้หยดลงไปที่แปรงล้างหน้า ก็จะช่วยลดการเสียดสี แต่ยังคงทำความสะอาดรูขุมขนได้ดี โดยที่ไม่เป็นการทำร้ายผิวมากเกินไปอีกด้วย เราว่าตัวนี้ยังไงก็ต้องมีติดบ้านไว้ค่ะ ขวดเดียวเรื่องงานล้าง เรื่องการทำความสะอาด ทำได้ครบวงจรจริงจริ๊งงง เพี้ยนชอบ

หลังจากที่เราใช้ขวดจิ๋วหมดไปเป็นโหลๆ ตอนนี้ก็ค้นพบทางสว่างแล้วว่าเค้ามีขนาดใหญ่ด้วย สำหรับ sos hyaluron x3 concentrate serum ขวดขนาด 30 มิลลิลิตร ซื้อแล้วคุ้มแน่นอน เพราะเป็นหัวเชื้อไฮยาลูรอนเข้มข้นสารพัดประโยชน์จริงๆ ทาได้ตั้งแต่ปลายผม จรดปลายเล็บเท้า ทาตรงไหนก็เนียนนุ่ม ชุ่มชื้นตรงนั้นจริงๆนะตัวนี้ หลักๆแล้วเค้าคือไฮยาลูรอนเข้มข้น 3 ชนิดผสมรวมกันในขวดเดียว มีตั้งแต่นาโนไฮยาลูรอน ที่เป็นไฮยาลูรอนโมเลกุลที่เล็กมาก ช่วยกักเก็บน้ำให้ผิว และซึมเข้าผิวได้ล้ำลึกกว่าไฮยาลูรอนชนิดอื่นๆ ก็จะเน้นเรื่องของการทำให้รูขุมขนกระชับ ผิวหน้าฉ่ำน้ำ สุขภาพดี ทำให้ผิวสมดุล ลดหน้ามัน เลยทำให้สิวขึ้นน้อยลง รวมไปถึงชะลอการเกิดริ้วรอยด้วย คุณสมบัติถือว่าครบนะ จะทาเพียวๆก็บำรุงได้ดี แต่เราเองยังประยุกต์ใช้อีกหลายๆอย่างด้วยค่ะ เดี๋ยวขอยกตัวอย่างประมาณนึงละกันเนอะ

 
sos hyaluron x3 concentrate serum + รองพื้นที่เนื้อเข้มข้น วิธีการนี้จะทำให้เนื้อรองพื้นบางเบาลง เกลี่ยง่ายมากขึ้น รวมถึงทำให้รองพื้นทั่วไปกลายเป็น Tinted Moisturizer นั่นก็คือเป็นเมคอัพที่บำรุงผิวไปด้วยในตัวนั่นเอง สำหรับเราแล้วชอบผสมมาก เพราะผสมแล้วรองพื้นมีความบางเบา สบายผิวมากขึ้น ที่สำคัญคือทาแล้วได้ลุคผิวอิ่มน้ำ มีความติดทนทานมากขึ้นด้วย

sos hyaluron x3 concentrate serum + ครีมบำรุงที่มีเนื้อค่อนข้างเข้มข้น เวลาที่เราทาครีมบำรุงที่มีความเข้มข้นสูง ในบางสถานการณ์ บางสภาพอากาศ อาจทำให้เราไม่สบายผิว เราก็จะผสมหัวเชื้อไฮยาลูรอนลงไปซักเล็กน้อยค่ะ เนื้อครีมก็จะมีความบางเบาขึ้น จากเดิมที่ใช้ทาได้แค่ก่อนเข้านอน ก็สามารถใช้ครีมกระปุกนี้ทาก่อนแต่งหน้าได้ด้วย อย่างของเราบางทีก็ผสมลงในครีมตอนกลางวันที่เนื้อหนักๆ เพราะยิ่งผสมจะยิ่งทำให้เนื้อบางเบา และช่วยทำให้ควบคุมความมันได้ดีขึ้น ตัวไฮยาลูรอนจะไปปรับสมดุลผิวให้ไม่แห้ง ไม่มัน ผิวก็เลยไม่ผลิตน้ำมันส่วนเกิน พอผสมแล้วไม่ได้ทำให้หน้ามันเยิ้มแต่อย่างใดค่ะ ตัวนี้สามารถผสมลงได้ทั้งครีมประเภทเนื้อเจล และเนื้อครีมเลย ผสมง่ายมาก ไม่แยกตัวเป็นชั้นๆด้วย

 
sos hyaluron x3 concentrate serum + ครีมบำรุงทั่วไป วิธีการนี้ใช้สำหรับการเพิ่มประสิทธิภาพการกักเก็บความชุ่มชื้น และเติมน้ำให้ผิว โดยที่หากยังรู้สึกว่าต้องการเติมความชุ่มชื้นแบบแน่นๆจัดเต็ม เราก็จะผสมลงไปเลยค่ะ เท่านี้จากเซรั่ม ก็จะสามารถกลายเป็น เซรั่ม + Moisturizer ไปได้เลยในตัวเดียว 

sos hyaluron x3 concentrate serum + ครีมบำรุงผิวกายที่มีเนื้อเข้มข้น ในบางครั้งครีมบางตัวให้การบำรุงแบบเข้มข้นล้ำลึก ก็จะออกแบบมาโดยมีเนื้อเข้มข้นเช่นเดียวกัน ถ้าวันไหนอากาศร้อนๆ ต้องการความสบายผิว เราก็จะหยดเจ้าหัวเชื้อไฮยาลูรอนเข้มข้นนี้เข้าไป ก็จะทำให้เนื้อโลชั่นบางเบาลง ซึมเข้าผิวไวมากขึ้น เพิ่มความชุ่มชื้น พร้อมทั้งกักเก็บน้ำให้ผิวเพิ่มมากขึ้นด้วย 

sos hyaluron x3 concentrate serum + แชมพู หรือครีมนวดผม เราชอบใช้แชมพูที่ไม่เน้นให้ความชุ่มชื้นซักเท่าไหร่ เพราะไม่อย่างนั้นจะยิ่งทำให้ผมลีบแบน เราเลยแก้ไขโดยการผสมหัวเชื้อไฮยาลูรอนเข้าไปซักเล็กน้อย ทำให้แชมพูมีความชุ่มชื้นมากขึ้น วิธีการนี้ทำให้หลังสระ ผมมีความชุ่มชื้น โดยที่ยังคงความสบายหนังศีรษะอยู่ ไม่ทำให้ผมลีบแบน ผมไม่มันไวด้วย ส่วนในครีมนวดผมก็เช่นกัน ในบางครั้งที่เรารู้สึกว่าผมแห้งกรอบ เราก็จะผสมหัวเชื้อไฮยาลูรอนตัวนี้ลงไปด้วย เพื่อทำให้มีความชุ่มชื้นเคลือบปลายผมซักเล็กน้อย โดยคงคอนเซ็ปท์เดิมก็คือ ต้องไม่ทำให้ผมมันเพิ่ม หรือว่าเหนียว ซึ่งหัวเชื้อไฮยาลูรอนตัวนี้ไม่เหนียวอยู่แล้ว เคลือบปลายผมแล้วผมไม่ค่อยพันกันดี 

sos hyaluron x3 concentrate serum + ครีมอาบน้ำ ช่วงนี้ฝุ่น PM2.5 ยังคงมาแรง ในบางวันถ้าผิวแห้งผิดปกติ ผด ผื่นคันต่างๆจะขึ้นง่ายมาก เราก็เลยเอาหัวเชื้อไฮยาลูรอนเนี่ยแหละ ผสมลงไปในครีมอาบน้ำซักเล็กน้อย จะบอกว่าเวิร์คมาก เพราะทำให้ผิวมีความเนียนนุ่มชุ่มชื้นมากขึ้น ออกจากห้องน้ำไม่ต้องทาโลชั่นก็ยังรอด วิธีการนี้เด็ดจริง อยากให้ลองมากๆ หยด 2 หยดก็พอนะคะ ไม่ต้องเยอะจ้า

sos hyaluron x3 concentrate serum + ทินท์สีเข้มๆ จะบอกว่าถ้าคนไหนที่รูขุมขนกว้าง แต่อยากให้หน้าฉ่ำโดยไม่ใช้ชิมเมอร์ หรือว่าเป็นมือใหม่ในการใช้ทินท์ทาแก้ม อยากให้ลองวิธีนี้มากๆเลยค่ะ เพราะพอผสมแล้ว เนื้อทินท์มีความบางเบา เกลี่ยง่าย ไม่เป็นปื้น และให้ความเป็นธรรมชาติมากเลย ทาแล้วแก้มดูมีความอิ่มน้ำ แต่ไม่เหนอะ ไม่เหนียว ช่วยควบคุมความมันระหว่างวันเพิ่มขึ้นด้วย เป็นทั้งเมคอัพและบำรุงไปในตัว

sos hyaluron x3 concentrate serum + สำลี สามารถทำเป็นมาส์กบำรุงผิวหน้าได้ เราทำบ่อยนะ เพราะหารราคาออกมาแล้วไม่แพงเท่ามาส์กแผ่นๆ แล้วหลังมาส์กหน้าก็ชุ่มชื้น นุ่มๆ เด้งๆดี ถ้าวันไหนหน้าลอกนะ เราจะมาส์กตลอดเลย เพราะกู้หน้าที่ลอกเป็นขุยให้หายลอกได้
ชื่อสินค้า:   Cetaphil , sos , น้ำมันมะพร้าว , วาสลีน , FixnTox , Hatomugi
คะแนน:     

CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้

  • - จ่ายเงินซื้อเอง หรือได้รับจากคนรู้จักที่ไม่ใช่เจ้าของสินค้า เช่น เพื่อนซื้อให้
  • - ไม่ได้รับค่าจ้างและผลประโยชน์ใดๆ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่