ธรรมชาติที่ถูกซ่อนอยู่ในธรรมชาติ

“รอยแยกใต้น้ำซิลฟรา”(Silfra)


รอยแยกใต้น้ำซิลฟรา เป็นรอยแยกระหว่างแผ่นทวีปอเมริกาเหนือกับทวีปยุโรป  ที่นี่เป็นรอยแยกใต้น้ำเพียงแห่งเดียว ที่มนุษย์สามารถดำน้ำลงไปชมได้ด้วยตาตนเอง   รอยแยกนี้เกิดขึ้นในปี พ.ศ. 2332 โดยแผ่นดินไหวที่เกิดจากการเคลื่อนที่ของแผ่นเปลือกโลกทั้งสองทำให้เกิดช่องว่างนี้ ซึ่งจะมีระยะห่างเพิ่มขึ้นปีละ 2 เซนติเมตรในทุกๆ ปี

โดย รอยแยกใต้น้ำซิลฟรา ตั้งอยู่ในอุทยานแห่งชาติ Pingvellir ในประเทศ Iceland สิ่งที่โดดเด่นของรอยแยกแห่งนี้คือ น้ำที่มีความใสมาก จนสามารถมองเห็นจากใต้น้ำในระยะทางเกือบ 100 เมตร ส่วนที่ลึกที่สุดของรอยแยกแห่งนี้ ที่มนุษย์สามารถดำลงไปได้ มีความลึกประมาณ 18 เมตร แต่ปกติแล้ว ความลึกที่นักประดาน้ำส่วนมากดำกัน ก็จะอยู่ที่ราวๆ 7-12 เมตรเท่านั้น และอุณหภูมิของน้ำในบริเวณนี้ อยู่ที่ประมาณ 2-4 องศาเซลเซียสทุกปี
ที่มา dive
Cr.https://www.catdumb.com/silfra-crack-diving-064/ By อดีตเหมียว

พบเกาะแห่งใหม่ขึ้นในแอนตาร์กติกา


ในช่วงเวลาที่น้ำแข็งขั้วโลกกำลังละลายไปในอัตราที่น่ากังวลเช่นนี้ นักวิทยาศาสตร์และนักวิจัยจำนวนมากก็ได้เริ่มเดินทางไปยังทวีปแอนตาร์กติกากันเพื่อศึกษาผลกระทบของน้ำแข็งที่หายไป
และในบรรดาเหล่าผู้เชี่ยวชาญจำนวนมากเหล่านี้ กลุ่มผู้เชี่ยวชาญจาก คณะวิจัยธารน้ำแข็งทเวทส์ (Thwaites Glacier Offshore Research) หรือที่พวกเขาเรียกตัวเองว่า “THOR”   ได้ทำการค้นพบเกาะแห่งใหม่ที่เราไม่เคยเห็นมาก่อน ซึ่งถูกเผยโฉมออกมา จากการละลายของธารน้ำแข็ง
 
อ้างอิงจากรายงานของทาง THOR พวกเขาพบเกาะแห่งใหม่นี้ ในระหว่างที่ทีมงานกำลังโดยสารเรือเจาะน้ำแข็ง RV Nathaniel B Palmer ซึ่งมีกำหนดการจะเดินทางจากสหรัฐอเมริกาไปยังอังกฤษ ภายใต้โครงการศึกษาการละลายของธารน้ำแข็งทเวทส์ หนึ่งในธารน้ำแข็งที่ได้ชื่อว่าไม่เสถียรที่สุดในแอนตาร์กติกา
เกาะแห่งใหม่นี้ ถูกตั้งชื่อโดยทีมนักวิจัยว่า “Sif” อ้างอิงจากภรรยาของเทพธอร์ โดยมันตั้งอยู่ระหว่างธารน้ำแข็งทเวทส์ และเกาะไพน์ซึ่งตั้งอยู่ในพื้นที่ใกล้เคียงกัน

จากข้อมูลจากภาพถ่ายดาวเทียม นักวิทยาศาสตร์ก็ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า เกาะ Sif ที่ถูกพบ มีความเป็นไปได้ว่าจะเป็นส่วนหนึ่งของเกาะไพน์อีกที เพียงแค่ที่ผ่านมามันซ่อนอยู่ใต้ธารน้ำแข็งเท่านั้น
ที่มา iflscience และ nature
Cr.https://www.catdumb.tv/sif-island-378/  By เหมียวศรัทธา

"สิ่งประดิษฐ์โบราณ" กับปริศนาที่ซ่อนอยู่ข้างใน


สิ่งประดิษฐ์ชิ้นนี้ มีอายุยาวนานกว่า 500 ปี ซึ่งทางผู้เชียวชาญและนักวิจัยต่างพยายามที่จะไขความลับของมัน โดยพวกเขาเชื่อว่าสิ่งของพวกนี้ถูกสร้างขึ้นเมื่อประมาณปี ค.ศ. 1500 - 1530 แต่สำหรับสถานที่สร้างนั้นยังไม่แน่นอน

ซึ่งความละเอียดของมันนั้นถ้ามองด้วยตาเปล่าจะไม่สามารถรู้ได้ ทางนักวิจัยจึงต้องให้เครื่องเอ็กซเรย์เพื่อหาความผิดปกติ  จากการใช้เครื่องเอ็กซเรย์ทำให้นักวิจัยได้พบว่า สิ่งประดิษฐ์พวกนี้มีชิ้นส่วนข้อต่อเล็ก ๆ อยู่ด้วย   แต่ด้วยข้อจำกัดทางเทคโนโลยีในปัจจุบันจึงทำให้ไม่สามารถที่จะเห็นทุกอย่างได้
 
สิ่งที่พอจะทราบได้จากการตรวจพบก็คือ สิ่งประดิษฐ์พวกนี้เป็นของชนชั้นสูงในแถบยุโรปอย่างแน่นอน แต่ประโยชน์และเหตุผลที่ต้องสร้างเจ้าสิ่งนี้ขึ้นมานั้นยังคงเป็นปริศนาอยู่ 
ข้อมูลและภาพจาก baabin
Cr.http://www.liekr.com/post_151800.html

ความลับทวีปที่ 8 Zealandia


โลกของเรานั้นมีอยู่ 7 ทวีป แต่เมื่อไม่นานมานี้ได้มีการค้นพบทวีปใหม่เป็นทวีปที่ 8 ชื่อว่า Zealandia  โดยในอดีตมันเป็นส่วนหนึ่งของทวีปออสเตรเลียและเกิดการแยกตัวของเปลือกโลกเมื่อประมาณ 60 ถึง 80 ล้านปีก่อน พื้นที่ประมาณ 94% ของทวีปนี้จมอยู่ภายใต้มหาสมุทร และพื้นที่ส่วนที่เหลือเป็นพื้นที่ที่เชื่อมกันของเกาะ New Zealand และหมู่เกาะ New Caledonia

ด้านกลุ่มของนักวิทยาศาสตร์ 32 คนจาก 12 ประเทศทั่วโลก ได้ออกมาเปิดเผยความลับของทวีปที่ 8 นี้ โดย Jamie Allan ผู้อำนวยการโครงการนี้กล่าวว่า ‘การศึกษาครั้งนี้จะนำเสนอเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ของโลก เกี่ยวกับการสร้างตัวของแนวเขาในประเทศ New Zealand และการเคลื่อนตัวของเปลือกโลกที่มีผลต่อกระแสน้ำและการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศ’

ทีมสำรวจได้ใช้เวลาในการลงพื้นที่เป็นเวลานานถึง 9 สัปดาห์ พวกเขาเก็บตัวอย่างหินและตะกอนมาเป็นจำนวนมาก เพื่อหวังว่าจะสามารถไขความลับเกี่ยวกับธรณีวิทยาของทวีป Zealandia และเหตุผลที่พื้นที่ส่วนใหญ่ของมันจมอยู่ใต้ทะเล
 
ศาสตราจารย์ Gerald Dickens  จาก Rice University หนึ่งในทีมค้นคว้าครั้งนี้กล่าวว่า ‘มีการศึกษาตัวอย่างมากกว่า 8,000 ชนิด พวกเราพบซากฟอสซิลหลายร้อยชนิดที่นี่ นอกจากนี้เรายังพบซากสิ่งมีชีวิตเล็กๆ อีกจำนวนมากที่อาศัยอยู่ในทะเลน้ำตื้นในเขตอบอุ่น พวกเราพบละอองเกสรของพืชอีกมากมาย 
ซึ่งแสดงให้เห็นว่าทวีป Zealandia นั้นมีสภาพอากาศที่แตกต่างกับปัจจุบันมาก’ 

นอกจากนี้การศึกษาครั้งนี้ยังช่วยอธิบายถึงสิ่งมีชีวิตที่พบอยู่ในประเทศ New Zealand และหมู่เกาะ New Caledonia อีกด้วยอย่างไรก็ตามขณะนี้กำลังมีการผลักดันให้มีการประกาศว่า Zealandia นั้นเป็นทวีปที่ 8 อย่างเป็นทางการ อีกทั้งข้อมูลที่ตีพิมพ์ในวารสาร Geological Society of America’s Journal ยังได้เผยว่าทวีปดังกล่าวมีพื้นดินที่ไม่รวมในส่วนที่จมอยู่ใต้มหาสมุทรมากกว่า 2 ใน 3 ของทวีปออสเตรเลียเสียอีก

ตอนนี้ Zealandia ได้ผ่านเงื่อนไขบางข้ออย่างเช่น ความสูงเหนือระดับน้ำทะเล ความหลากหลายทางธรณีวิทยา และความหนาของพื้นผิว สำหรับการขึ้นทะเบียนในการเป็นทวีปใหม่แล้ว 
Cr. https://sea-musa.blogspot.com/2018/01/8-zealandia.html / By musa

แม่น้ำลึกลับที่ซ่อนตัวอยู่


แม้จะอยู่ไกลและหนาวเหน็บ แต่ เกาะกรีนแลนด์ ได้กลายเป็นจุดสนใจที่เพิ่มขึ้นในการศึกษาวิทยาศาสตร์ ที่ผ่านๆมามีงานวิจัยมากมายเผยถึงภาวะวิกฤติของกรีนแลนด์ โดยเฉพาะน้ำแข็งที่ละลายลงอย่างรวดเร็ว บรรดานักวิจัยจึงมุ่งศึกษาด้านสภาพภูมิอากาศและธรณีวิทยา แต่ก็มีเรื่องการขุดค้นซากดึกดำบรรพ์หรือฟอสซิลของสิ่งมีชีวิตในยุคโบราณแทรกแซมให้รู้บ้างเป็นครั้งคราว เช่น การพบซากฟอสซิลสัตว์อายุนับพันล้านปี ที่บ่งชี้ว่าเกาะแห่งนี้มีความลับซ่อนอยู่อย่างมากมายและหลากหลาย

ล่าสุด นักวิทยาศาสตร์จากมหาวิทยาลัยฮอกไกโด ในญี่ปุ่น และมหาวิทยาลัยออสโล ในนอร์เวย์ เผยว่า อาจพบแม่น้ำซ่อนตัวอยู่ใต้ธารน้ำแข็งในเกาะกรีนแลนด์ และนี่อาจเป็นสิ่งที่ช่วยพยากรณ์ความแตกต่างของการเปลี่ยนระดับน้ำแข็งของโลกในอนาคตก็เป็นได้

นักวิทยาศาสตร์กลุ่มดังกล่าวเผยว่า จากการใช้ข้อมูลเรดาร์ในการวิเคราะห์ความสูงของพื้นผิวหินใต้น้ำแข็ง เพื่อมาสร้างแบบจำลองคอมพิวเตอร์แสดงพื้นที่ที่น่าจะเป็นสิ่งที่พวกเขาค้นพบก็คือหุบเขายาวที่เต็มไปด้วยน้ำซึ่งเป็นของเหลวไหลออกสู่ชายฝั่ง โดยช่วยในการตั้งสมมติฐานว่านี่คือการค้นพบแม่น้ำที่อาจมีขนาดยาวประมาณ 1,600 กิโลเมตรไหลลึกอยู่ข้างใต้เกาะกรีนแลนด์

แม้จะยังต้องค้นหาข้อมูลที่แม่นยำเพื่อยืนยันการมีอยู่จริงของแม่น้ำที่ซ่อนตัวอยู่นี้แต่ทีมนักวิทยาศาสตร์ก็ตั้งชื่อแม่น้ำสายนี้ว่า “ดาร์ก ริเวอร์” (Dark river) ในช่วงที่นำเสนอสิ่งที่พวกเขาค้นพบต่อที่ประชุมของสหภาพธรณีวิทยาอเมริกา (American Geophysical Union)
 
มีการคาดคะเนว่าสิ่งที่ค้นพบนี้จะช่วยให้นักวิจัยในอนาคตเกิดความเข้าใจได้ดีขึ้นว่าสสารในน้ำแข็งกรีนแลนด์นั้นอาจถูกถ่ายโอนจากระบบของสิ่งมีชีวิตเข้าสู่สิ่งแวดล้อม หรือเรียกง่ายๆ ว่าเป็นการเปลี่ยนแปลงของสารหนึ่งไปอีกสารหนึ่ง อันเป็นกระบวนการที่รู้จักในชื่อ “วัฏจักรชีวธรณีเคมี” (biogeochemical)
ซึ่งหมายความว่าแม่น้ำอาจมีอิทธิพลต่อการไหลของน้ำแข็ง และทำให้ตะกอนก๊าซและสารอาหารถูกเคลื่อนย้ายจากภายในแผ่นน้ำแข็งไปสู่มหาสมุทรอย่างรวดเร็ว.
Cr.https://www.thairath.co.th/news/foreign/1735573 / By ภัค เศารยะ

น้ำตกช่องลมดินแดนในฝันที่หลบซ่อนอยู่ในเขื่อนขุนด่านปราการชล


น้ำตกช่องลม อยู่ไม่ไกลจากกรุงเทพ เรียกได้ว่าเป็นความสวยงามที่อยู่แค่ปลายจมูกแต่หลายๆ คนอาจจะยังไม่รู้จัก ที่น้ำตกช่องลม คือ ดินแดนในฝันที่หลบซ่อนอยู่ในเขื่อนขุนด่านปราการชล

โดยการเดินทางไปน้ำตกช่องลม นั้นจะต้องนั่งเรือเข้าไปด้านในเขื่อน โดยเรือจะพาไปชมน้ำตก 3 แห่ง จุดไฮไลท์ อยู่ที่น้ำตกช่องลม ที่นี่ถือว่าเป็นต้นน้ำตามธรรมชาติที่สวยงามมากๆ   บรรยากาศโดยรอบเต็มไปด้วยความเขียวขจีของต้นไม้มีสายน้ำไหลผ่านตรงกลาง แบ็คกราวด์ด้านหลังคือภูเขาหินสีน้ำตาลที่คั่นกลางระหว่างสายน้ำและแผ่นดินช่วยเพิ่มให้ภาพที่เห็นตรงหน้ามีสีสันยิ่งขึ้น

ไม่น่าเชื่อว่าจะมีสถานที่ที่สวยงามขนาดนี้อยู่ในประเทศไทยด้วย และที่สำคัญอยู่ใกล้ๆ แค่นครนายกนี้เอง รับรองได้เลยว่าหากมาเที่ยวที่นี่จะต้องได้รูปภาพสวยๆแน่นอน  ความธรรมชาติของที่ น้ำตกช่องลม ยังคงดิบและสมบูรณ์มากๆ ในวันที่ฝนเพิ่งตกจะมีหมอกจางๆ ลอยอยู่เหนือพื้นด้วย เป็นดินแดนในฝันที่ควรมาเห็นด้วยตาตนเองสักครั้ง   ที่ตั้งน้ำตกช่องลม นครนายก : ด้านในเขื่อนขุนด่านปราการชล ตำบลนาหินลาด อำเภอปากพลี จังหวัดนครนายก 
ขอขอบคุณ
ภาพ :Thitinun Chamsalee
บทความโดยPeeranut P.
Cr. https://www.sanook.com/travel/1411173/  
 

 "แม่น้ำซ่อนอยู่ในแม่น้ำ"


ในแม่น้ำส่วนใหญ่ หากดำดิ่งลึกลงไปก็มักจะพบเจอกับท้องแม่น้ำอันเป็นพื้นดิน ทับถมไปด้วยซากไม้ซากฟอสซิลต่างๆ ที่ทับถมกันเป็นพื้นของแม่น้ำ แต่มีนักประดาน้ำรายหนึ่ง ได้พบแม่น้ำประหลาด คือ มีแม่น้ำที่ซ่อนอยู่ในแม่น้ำอีกที 

แม่น้ำสุดประหลาดนี้ถูกค้นพบโดย "Anatoly Beloshchin" นักประดาน้ำมืออาชีพ และเป็นผู้มีฝีมือในการถ่ายภาพ เขาได้เดินทางไปเที่ยวที่เม็กซิโก และได้ไปดำน้ำที่ "Cenote Angelita" ซึ่งเป็นร่องหินปูนมีลักษณะเป็นหลุมยุบลงไป

 โดยปกติแล้วคนที่ไปดำน้ำที่นี่ส่วนใหญ่จะดำลงไปประมาณแค่ 30 เมตร แต่นักประดาน้ำรายนี้เขาลงทุนดำดิ่งลึกลงไปถึง 60 เมตร ด้วยความอยากรู้ว่าข้างล่างนั้นมีอะไร และสิ่งที่เขาได้ก็ทำให้เขาอึ้งเลยทีเดียว เพราะเขาได้เจอกับน้ำเค็มและกิ่งก้านซากไม้ไม้ต่างๆ มันมีลักษณะคล้ายแม่น้ำที่อยู่ใต้แม่น้ำอีกที แต่มันไม่ใช่แม่น้ำจริงๆอย่างที่เขาคิด แท้จริงมันเป็นไฮโดรเจนซัลไฟด์ (H2S) ซึ่งมีรูปร่างคล้ายกับแม่น้ำที่ไหลอยู่ข้างล่าง ถึงมันจะเป็นก๊าซที่ไม่มีสี แต่มันก็มีพิษและสามารถติดไฟได้ เพราะมันเกิดจากกระบวนการทางชีวภาพนั่นเอง 

คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ

ขอบคุณคลิปจาก : TecdiveTV
เรียบเรียง : Suya ทีนิวส์
เรียบเรียงโดย  สุกันยา บุญซ้วน
Cr.https://www.tnews.co.th/headshot/301489/ฮือฮา!!-พบ-แม่น้ำซ่อนอยู่ในแม่น้ำ-สิ่งอัศจรรย์แห่งเดียวของโลก-แต่เมื่อมองใกล้ๆอัศจรรย์หนักกว่าไปอีก!!-%28คลิป%29

(ขอขอบคุณที่มาของข้อมูลทั้งหมดและขออนุญาตนำมา)
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่