เรากับสามีอยู่กินกันมาเกือบ 6ปี แล้วค่ะ อาชีพของเขาคือขายของในตลาด อาชีพของเราคือเป็นลูกจ้างบริษัทเอกชนทั่วไป
เวลาเลิกงานหรือเสา-อาทิตย์ เราจะไปช่วยเขาขายของ บางวันเราเหนื่อยเรากลับก่อน เขาก็จะกลับดึกกว่าปกติ
และเงินกำไรที่ขายของได้ เขาก็ไปซื้อบุหรี่บ้าง เหล้าเบียร์บ้าง ทุกวันย้ำทุกวัน
กลับบ้านไปเขาก็นั่งดื่มอีก ถึง ตี1ตี2 เราเริ่มเบื่อค่ะ เบื่อที่เค้าดื่มทุกวัน เศรษฐกิจแบบนี้เขาก็ยังไม่คิดจะช่วยกันเก็บเงิน
บางครั้งเสาร์-อาทิตย์วันหยุดเรา เราคิดว่าจะได้พักผ่อนตื่นสายๆช่วยกันทำ แล้วเขาก็ไม่ลุกขึ้นเตรียมของเลย เดี๋ยวป่วยเป็นนั่นเป็นนี้
นอนอย่างเดียวชวนไปหาหมอก็ไม่ไป ไม่ทำอะไรสักอย่าง เป็นบ่อยมากแบบนี้เราเหนื่อยค่ะ ทะเลาะกันบ่อยมากเรื่องนี้ และนั่งคุยกันแล้วตกลงกันเค้าก็เหมือนเดิม เหนื่อยแบบช่วยกันทำช่วยกันเก็บมันยังมีกำลังใจนะคะ
นี่เหมือนเหนื่อยตัวคนเดียวแล้วอีกคนไม่คิดอะไรเลย รายรับก็ไม่พอหมุนรายจ่ายแต่ละเดือน เราอยากเลิกแล้วค่ะ แต่เราไม่กล้าเดินออกไป
ในใจลึกๆก็ยังสงสารเค้าแต่บางครั้งมันก็ไม่ไหว มันลนวูปเป็นแบบนี้ทุกเดือนๆ มันสะสมมานานมากแล้วค่ะ เราคิดว่าเค้าไม่คิดที่จะปรับตัวเพื่อสร้างครอบครัวกับเราเลย ถ้าเราเดินออกไปเราเห็นแก่ตัวมากไหมคะ?
จะไปต่อหรือพอแค่นี้?
เวลาเลิกงานหรือเสา-อาทิตย์ เราจะไปช่วยเขาขายของ บางวันเราเหนื่อยเรากลับก่อน เขาก็จะกลับดึกกว่าปกติ
และเงินกำไรที่ขายของได้ เขาก็ไปซื้อบุหรี่บ้าง เหล้าเบียร์บ้าง ทุกวันย้ำทุกวัน
กลับบ้านไปเขาก็นั่งดื่มอีก ถึง ตี1ตี2 เราเริ่มเบื่อค่ะ เบื่อที่เค้าดื่มทุกวัน เศรษฐกิจแบบนี้เขาก็ยังไม่คิดจะช่วยกันเก็บเงิน
บางครั้งเสาร์-อาทิตย์วันหยุดเรา เราคิดว่าจะได้พักผ่อนตื่นสายๆช่วยกันทำ แล้วเขาก็ไม่ลุกขึ้นเตรียมของเลย เดี๋ยวป่วยเป็นนั่นเป็นนี้
นอนอย่างเดียวชวนไปหาหมอก็ไม่ไป ไม่ทำอะไรสักอย่าง เป็นบ่อยมากแบบนี้เราเหนื่อยค่ะ ทะเลาะกันบ่อยมากเรื่องนี้ และนั่งคุยกันแล้วตกลงกันเค้าก็เหมือนเดิม เหนื่อยแบบช่วยกันทำช่วยกันเก็บมันยังมีกำลังใจนะคะ
นี่เหมือนเหนื่อยตัวคนเดียวแล้วอีกคนไม่คิดอะไรเลย รายรับก็ไม่พอหมุนรายจ่ายแต่ละเดือน เราอยากเลิกแล้วค่ะ แต่เราไม่กล้าเดินออกไป
ในใจลึกๆก็ยังสงสารเค้าแต่บางครั้งมันก็ไม่ไหว มันลนวูปเป็นแบบนี้ทุกเดือนๆ มันสะสมมานานมากแล้วค่ะ เราคิดว่าเค้าไม่คิดที่จะปรับตัวเพื่อสร้างครอบครัวกับเราเลย ถ้าเราเดินออกไปเราเห็นแก่ตัวมากไหมคะ?