ค่อนข้างยาว+ซับซ้อน ครับ แต่พยายามสรุปให้สั้นแล้วครับ
ที่บ้านผมปล่อยให้เช่าอาคารเพื่อเปิดร้านอาหาร สมัยก่อนรุ่นพ่อเป็นคนดูแลครับ
สัญญาเช่าส่วนใหญ่ระยะเวลา 2-3 ปี
เริ่มปล่อยให้นาย A เช่า เดือนละ หมื่นสอง โดยเก็บเงินประกัน 2 เดือน
ในสัญญาเช่า มีบอกไว้ประมาณว่า ห้ามเช่าช่วง ห้ามเซ้งกิจการ ห้ามขายกิจการ ฯลฯ
ถ้าอยู่ไม่ครบสัญญาเช่า ผู้ให้เช่ามีสิทธิ์หักเงินประกันทั้งหมด
อะไรประมาณนี้
หลายปีผ่านไป
นาย A ไปไม่รอด ก็แก้ปัญหาด้วยการแอบเซ้งร้านให้นาย B (นาย B จ่ายเงินให้นาย A)
นาย A และนาย B บอกผู้ให้เช่าว่า นาย B เป็นหุ้นส่วนใหม่ โดยทุกสิ้นเดือนนาย A เป็นคนเอาค่าเช่ามาจ่ายให้ผู้ให้เช่า
หลายปีผ่านไปก็เหมือนเดิมครับ
นาย B ไปไม่รอด ก็ใช้มุขเดิม แอบเซ้งร้านให้นาย C (นาย C จ่ายเงินให้นาย B)
นาย B และนาย C บอกผู้ให้เช่าว่า นาย C เป็นหุ้นส่วนใหม่ โดยนาย B เป็นคนเอาค่าเช่ามาจ่ายให้ และบอกว่านาย A ถอนหุ้นไปแล้ว
ตอนต่อสัญญาเช่าก็มาบอกผู้ให้เช่าว่า นาย C เป็นหุ้นส่วนใหญ่ ดังนั้น นาย C ขอเป็นคนเซ็นต์สัญญาเช่าแทนนาย B
และก็เหมือนเดิมครับ ผ่านไปซักช่วง นาย C ไปไม่รอด ก็แอบเซ้งร้านให้นาย D
นาย D ไปไม่ไหว ก็มีนาย E มาเซ้งต่อ
นาย E ไปไม่ไหว ก็มีนาย F มาเซ้งต่อ พอหมดสัญญาเช่าจะต่อสัญญาเช่า ก็จะใช้มุข ว่าเป็นหุ้นส่วนใหญ่ขอเป็นคนเซ็นต์สัญญาเช่า
ก็เป็นวงจรนี้ไปเรื่อยๆ ครับ G H I ฯลฯ
ที่ผมรู้ว่าเค้าใช้วิธีนี้ คือ มีคนมาบอกหลายคนครับ และผมเคยหลอกถามจากคนใกล้ชิดผู้เช่าหลายคน
เหตุผลที่ผู้เช่าใช้มุขนี้ คือ
- ผู้เช่ารายเก่าไม่ต้องการเสียเงินประกัน 2 เดือนให้ผู้ให้เช่า (เพราะอยู่ไม่ครบสัญญาเช่า)
- ผู้เช่ารายเก่าได้เงินก้อนจากผู้เช่ารายใหม่ (จากค่าเซ้งฯ)
- ผู้เช่ารายใหม่ไม่ต้องจ่ายเงินประกันใหม่ 2 เดือนให้ผู้ให้เช่า
ผู้ให้เช่าเคยคุยเรื่องเซ้งกิจการกับผู้เช่า ผู้เช่าทุกรายก็ไม่ยอมรับว่าเซ้งกิจการ อ้างว่าเป็นหุ้นส่วนกันทุกครั้ง อ้างว่าเป็นเรื่องธรรมดาของการถือหุ้นร้าน ใครๆ เค้าก็เข้าหุ้นกันทำร้าน
ผู้ให้เช่ามองว่า
- ก็ดีไม่ต้องไปหาผู้เช่าเอง มีคนหาผู้เช่ารายใหม่มาให้ ได้ค่าเช่าทุกเดือนไม่ขาด
- จะเอาผิดกับผู้เช่าได้อย่างไรในกรณี ผิดสัญญาเช่า เรื่อง ผู้เช่าแอบเซ้งกิจการ หรือแอบขายกิจการ เพราะผู้เช่าจะอ้างว่า เป็นหุ้นส่วนใหม่ เป็นเรื่องปกติของธุรกิจที่มี ถอนหุ้น มีหุ้นใหม่ มีคนมาถือหุ้นใหญ่
ตอนนี้ผมเริ่มมาดูแลแทนรุ่นพ่อครับ
สถานการณ์ล่าสุดมันไม่เป็นไปเหมือนก่อนครับ คือ
- ตอนนี้ผู้เช่ารายล่าสุดไปไม่ไหวครับ สถานการณ์ต่างออกไปจากเดิม คือ จากเดิมผู้เช่าจะหาคนมาเซ้งร้าน แต่ผู้เช่ารายนี้มาบอกผมว่า คงอยู่ได้อีกไม่นาน (แต่ไม่บอกว่าจะไปเดือนไหน) ถ้ามีอะไรเสียหายก็ให้ผมหักจากเงินประกัน 2 เดือน (เงินประกันตั้งแต่สมัยนาย A)
- อาคารปล่อยเช่านี้หมดสัญญาเช่ามาแล้วประมาณ 1 ปี แต่ผู้เช่าก็ยังจ่ายค่าเช่าตรงเวลา (จริงๆ กำลังจะต่อสัญญาเช่าครับ แต่ผู้เช่ารายล่าสุดมาบอกลาเสียก่อน)
- ผมตรวจสอบค่าไฟฟ้า พบว่า ผู้เช่ารายล่าสุดค่าไฟสูงมาก (แอร์ทั้งหลัง) เดือนนึงสองหมื่นหกพันบาท (ค่าเช่าแค่หมื่นสอง)
ที่กังวลคือ เค้าออกไปแบบดื้อๆ เลยเนี่ยแหละครับ เพราะผมอยู่คนละที่กับอาคารปล่อยเช่า เค้าไปตอนไหนผมอาจจะไม่รู้ครับ สัญญาเช่าก็หมดไปแล้ว (สัญญาเช่าเป็นชื่อคนเช่าก่อนหน้าคนนี้)
- แบบนี้ผมควรแก้ปัญหาในตอนนี้อย่างไรดีครับ
- และผมจะป้องกันวงจรการเซ้งร้าน (แต่อ้างว่าเป็นหุ้นส่วนใหม่) อย่างไรดีครับ
- ถ้าหากต้องมีการฟ้องร้องกันเกิดขึ้น คงไม่คุ้มครับ (ค่าทนาย + เสียเวลา)
ขอบคุณครับ
แก้ปัญหาผู้เช่าแอบเซ้งร้านอย่างไรดีครับ เป็นวงจรที่คาราคาซังมากครับ (ผู้ให้เช่าควรมาอ่านจะได้ไม่โดนแบบเดียวกัน)
ที่บ้านผมปล่อยให้เช่าอาคารเพื่อเปิดร้านอาหาร สมัยก่อนรุ่นพ่อเป็นคนดูแลครับ
สัญญาเช่าส่วนใหญ่ระยะเวลา 2-3 ปี
เริ่มปล่อยให้นาย A เช่า เดือนละ หมื่นสอง โดยเก็บเงินประกัน 2 เดือน
ในสัญญาเช่า มีบอกไว้ประมาณว่า ห้ามเช่าช่วง ห้ามเซ้งกิจการ ห้ามขายกิจการ ฯลฯ
ถ้าอยู่ไม่ครบสัญญาเช่า ผู้ให้เช่ามีสิทธิ์หักเงินประกันทั้งหมด
อะไรประมาณนี้
หลายปีผ่านไป
นาย A ไปไม่รอด ก็แก้ปัญหาด้วยการแอบเซ้งร้านให้นาย B (นาย B จ่ายเงินให้นาย A)
นาย A และนาย B บอกผู้ให้เช่าว่า นาย B เป็นหุ้นส่วนใหม่ โดยทุกสิ้นเดือนนาย A เป็นคนเอาค่าเช่ามาจ่ายให้ผู้ให้เช่า
หลายปีผ่านไปก็เหมือนเดิมครับ
นาย B ไปไม่รอด ก็ใช้มุขเดิม แอบเซ้งร้านให้นาย C (นาย C จ่ายเงินให้นาย B)
นาย B และนาย C บอกผู้ให้เช่าว่า นาย C เป็นหุ้นส่วนใหม่ โดยนาย B เป็นคนเอาค่าเช่ามาจ่ายให้ และบอกว่านาย A ถอนหุ้นไปแล้ว
ตอนต่อสัญญาเช่าก็มาบอกผู้ให้เช่าว่า นาย C เป็นหุ้นส่วนใหญ่ ดังนั้น นาย C ขอเป็นคนเซ็นต์สัญญาเช่าแทนนาย B
และก็เหมือนเดิมครับ ผ่านไปซักช่วง นาย C ไปไม่รอด ก็แอบเซ้งร้านให้นาย D
นาย D ไปไม่ไหว ก็มีนาย E มาเซ้งต่อ
นาย E ไปไม่ไหว ก็มีนาย F มาเซ้งต่อ พอหมดสัญญาเช่าจะต่อสัญญาเช่า ก็จะใช้มุข ว่าเป็นหุ้นส่วนใหญ่ขอเป็นคนเซ็นต์สัญญาเช่า
ก็เป็นวงจรนี้ไปเรื่อยๆ ครับ G H I ฯลฯ
ที่ผมรู้ว่าเค้าใช้วิธีนี้ คือ มีคนมาบอกหลายคนครับ และผมเคยหลอกถามจากคนใกล้ชิดผู้เช่าหลายคน
เหตุผลที่ผู้เช่าใช้มุขนี้ คือ
- ผู้เช่ารายเก่าไม่ต้องการเสียเงินประกัน 2 เดือนให้ผู้ให้เช่า (เพราะอยู่ไม่ครบสัญญาเช่า)
- ผู้เช่ารายเก่าได้เงินก้อนจากผู้เช่ารายใหม่ (จากค่าเซ้งฯ)
- ผู้เช่ารายใหม่ไม่ต้องจ่ายเงินประกันใหม่ 2 เดือนให้ผู้ให้เช่า
ผู้ให้เช่าเคยคุยเรื่องเซ้งกิจการกับผู้เช่า ผู้เช่าทุกรายก็ไม่ยอมรับว่าเซ้งกิจการ อ้างว่าเป็นหุ้นส่วนกันทุกครั้ง อ้างว่าเป็นเรื่องธรรมดาของการถือหุ้นร้าน ใครๆ เค้าก็เข้าหุ้นกันทำร้าน
ผู้ให้เช่ามองว่า
- ก็ดีไม่ต้องไปหาผู้เช่าเอง มีคนหาผู้เช่ารายใหม่มาให้ ได้ค่าเช่าทุกเดือนไม่ขาด
- จะเอาผิดกับผู้เช่าได้อย่างไรในกรณี ผิดสัญญาเช่า เรื่อง ผู้เช่าแอบเซ้งกิจการ หรือแอบขายกิจการ เพราะผู้เช่าจะอ้างว่า เป็นหุ้นส่วนใหม่ เป็นเรื่องปกติของธุรกิจที่มี ถอนหุ้น มีหุ้นใหม่ มีคนมาถือหุ้นใหญ่
ตอนนี้ผมเริ่มมาดูแลแทนรุ่นพ่อครับ
สถานการณ์ล่าสุดมันไม่เป็นไปเหมือนก่อนครับ คือ
- ตอนนี้ผู้เช่ารายล่าสุดไปไม่ไหวครับ สถานการณ์ต่างออกไปจากเดิม คือ จากเดิมผู้เช่าจะหาคนมาเซ้งร้าน แต่ผู้เช่ารายนี้มาบอกผมว่า คงอยู่ได้อีกไม่นาน (แต่ไม่บอกว่าจะไปเดือนไหน) ถ้ามีอะไรเสียหายก็ให้ผมหักจากเงินประกัน 2 เดือน (เงินประกันตั้งแต่สมัยนาย A)
- อาคารปล่อยเช่านี้หมดสัญญาเช่ามาแล้วประมาณ 1 ปี แต่ผู้เช่าก็ยังจ่ายค่าเช่าตรงเวลา (จริงๆ กำลังจะต่อสัญญาเช่าครับ แต่ผู้เช่ารายล่าสุดมาบอกลาเสียก่อน)
- ผมตรวจสอบค่าไฟฟ้า พบว่า ผู้เช่ารายล่าสุดค่าไฟสูงมาก (แอร์ทั้งหลัง) เดือนนึงสองหมื่นหกพันบาท (ค่าเช่าแค่หมื่นสอง)
ที่กังวลคือ เค้าออกไปแบบดื้อๆ เลยเนี่ยแหละครับ เพราะผมอยู่คนละที่กับอาคารปล่อยเช่า เค้าไปตอนไหนผมอาจจะไม่รู้ครับ สัญญาเช่าก็หมดไปแล้ว (สัญญาเช่าเป็นชื่อคนเช่าก่อนหน้าคนนี้)
- แบบนี้ผมควรแก้ปัญหาในตอนนี้อย่างไรดีครับ
- และผมจะป้องกันวงจรการเซ้งร้าน (แต่อ้างว่าเป็นหุ้นส่วนใหม่) อย่างไรดีครับ
- ถ้าหากต้องมีการฟ้องร้องกันเกิดขึ้น คงไม่คุ้มครับ (ค่าทนาย + เสียเวลา)
ขอบคุณครับ