อยากผ่อนรถ คอนโด แต่รู้สึกไม่มั่นใจกับงานที่ทำอยู่

เคยไหมค่ะ ทำงานมาได้สักระยะหนึ่ง คิดว่าอยู่ตัวมั่นคงแล้ว เราต้องมีทรัพสินบ้างแล้วละ 
รถกับบ้านก็เป็นปัจจัยของใครหลายๆคน ใครจะอยากไปเช่าหอพักอยู่ตลอดเวลาหรือจะนั่งรถไปกลับตลอดชีวิตกันหละ 
มีรถจะได้ขับไปเที่ยวกับครอบครัวหรือขับกลับบ้างต่างจังหวัด คลิปนี้จะนำเสนอ อยากผ่อนรถ บ้านหรือคอนโด 
แต่รู้สึกไม่มั่นใจกับงานที่ทำอยู่ จะทำอย่างไงดี

คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ

ฉันอายุก็เข้าเลข3แล้ว ทำงานที่นี่มาเกือบ3ปีแล้วค่ะ เป็นบ.ต่างชาติ สวัสดิการ และเงินเดือนค่อนข้างดี 
แต่กดดันมาก งานก็เยอะมาก ตั้งแต่ทำงานที่นี่ตั้งแต่วันแรก เรารู้สึกว่าตัวเองเป็นชนชั้นสอง มันทำให้เราอยากเรียนต่อ ตปท.มาก 
ไม่ใช้เพื่อหาความรู้เพิ่มแต่เพื่อได้โอกาสดีๆ เงินเดือนเยอะๆ และไม่ต้องทำงานเอกสาร เราสังเกตว่าคนส่วนใหญ่ที่ได้โปรโมตหรือได้โอกาสดีๆมักเป็นกลุ่มคนจบนอก เรายอมรับว่าคนกลุ่มนี้เก่งนะ แต่ก็ไม่ใช่ทุกคน  คนจบไทย รวมถึงเรา ก็เลยต้องทำงานเอกสารเป็นส่วนใหญ่ 
พี่ที่เราว่าเก่งมากพอๆกับเด็กนอกกับไม่ได้โปรโมต คนมาทีหลังนำหน้าไปก่อน หลายๆคนก็ตกใจ ล่าสุดมีโปรเจกตกถึงเรา (เพราะคนก่อนลาออก) พอทำจะเสร็จคนใหม่มาทำต่อ ก็ได้หน้าไปเต็มๆ เรากลายเป็นคน support เฉยๆ เราแอบเสียความรู้สึกมาก เพราะเราตั้งใจมาก 
แล้วก่อนหน้านี้เจ้านายก็ชื่นชมผลงานตลอด แรกๆเราก็พยายามไม่คิดเยอะ เพราะเจ้านายก็น่าจะรู้ว่าเราทำอะไรไปบ้าง แต่การให้คนใหม่จบนอก มารับช่วงต่อตอนใกล้เสร็จแล้วเพื่ออะไรเราไม่เข้าใจ วันดีคืนดีเราก็คิดว่าหรือเราควรทำงานไปวันๆ ไม่ต้องกระตือรือร้น ไม่ต้องคิดจะก้าวหน้าเพื่อที่จะได้ไม่ต้องเครียด กดดันตัวเอง หรือน้อยใจต่างๆนาๆ แต่เพราะเรื่องเงินและความมั่นคงทำให้เราอยากเติบโตในหน้าที่การงาน อยากมีงานที่ทำแล้วเห็นผลงาน เรารู้สึกไม่มั่นใจในตัวเองเลยว่าจะทนได้นานแค่ไหน หรืออะไรๆจะดีขึ้นหลังจากนี้มั้ย 
เราอยากผ่อนรถกับคอนโดแต่ก็ไม่กล้าเพราะรู้สึกไม่มั่นใจกับงาน

จากเรื่องนี้ถ้าอยากผ่อนจริงๆ ควรจะดูเงินเก็บเป็นหลักก่อน สมมุติ เกิดเรามีเหตุการณ์จำเป็นต้องออกจากงานจริงๆ 
ไม่ว่าจะกรณีไหนก็ตาม เราต้องมีเงินเก็บที่ใว้ใช้สำรองอย่างน้อย 6 เดือน เงินเก็บนี้เราควรคิดว่า
ถ้าเราผ่อนรถ ผ่อนคอนโดและค่าใช้จ่ายประจำวัน โดยเราใช้เงินเก็บใน 6 เดือนโดยที่เราไม่เดือนร้อนในระหว่าเรารองานใหม่ครับ เราอาจจะไม่มีประสบการณ์โดยตรงกับการซื้อรถ คอนโด บ้าน แต่ก็คิดว่าจ้องมีแผนสำรองไว้เสมอก่อนนะคะ

“แค่คิด…ชีวิตก็เปลี่ยนแล้ว"

ที่มาข้อมูลดีๆ https://pantip.com/topic/39657628
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่