ถุงยางอนามัยแบบบาง 0.01 oho และ olo

สวัสดีครับ ขออนุญาติ สอบถามหรือขอความเห็นครับ พอดีผมเจอโฆษณาถุงยางยี่ห้อหนึ่งยี่ห้อ OHO ในเฟชบุคก็เลยสมัครเป้นตัวแทนขายเพราะเห็นว่าน่าสนใจดี ขายปลีกในราคา 390 บาทมี 12 ชิ้น เห็นว่าน่าสนใจจึงสมัครตัวแทนและซื้อมาขาย 
ผมก็ ขายผ่านช่องทาง Market Place ทั่วไปปกติ จนกระทั่งวันหนึ่ง มีลูกค้าทักแชตมาว่า ผมหลอกลวง เพราะที่ซองถุงยางแปะด้วยสติ๊กเกอร์ยี่ห้อ OHO ทับไว้  ใต้สติ๊กเกอร์เป็น สินค้า แบรนด์ olo ซึ่งมีราคาถูกกว่ากันครึ่งต่อครึ่ง ผมจึงสอบถามไปทางผู้แทนจำหน่าย ก็มี คำชี้แจงออกมา แบบนี้ครับ
.....
สินค้า oHo คือสินค้าที่นำเข้าเพื่อมาจำหน่ายในประเทศไทย โดยเฉพาะ เนื่องจากสินค้า แบรนด์ olo ในท้องตลาด มีการทำราคาเสีย และมีการนำเข้า เข้ามาอย่างไม่ถูกต้อง เรามองเห็นแล้วว่า ถ้าเอามาทำตลาด ในไทย 
จะไม่สามารถ ยื่นขอ อย มอก ได้  จึงขอให้ทาง โรงงาน ทำแบรนด์ขึ้นมาใหม่ ที่อยู่ภายใต้การควบคุมการผลิตจากโรงงาน เดิมที่ผลิต oLo โดย แบรนด์ oHo เราจะเป็นผู้นำเข้าแต่เพียงเจ้าเดียว  แต่ด้วย สินค้า ถุงยาง จำเป็นต้องส่งตรวจ iso ทุกครั้ง เมื่อมีการเปลี่ยนแพ็กเกจสินค้า จึงทำให้ สินค้า ( แพ็กเกจใหม่ oho ) จะตรวจเสร็จพร้อมส่ง ใน กลางเดือนกุมภา บริษัท จึงทำเอกสารชี้แจงเข้ามา เพื่อขอโทษ และได้เสนอ ให้ใช้แพ็กเกจ เก่า ( oLo ) ก่อน โดยทางโรงงาน จะติดสติ๊กเกอร์ที่ ฉลากให้ และได้ออก หนังสือประกาศ รับรองสินค้าให้ 

ทั้งนี้ สินค้าภายใน เป็นสินค้า ของ oHo ทุกอย่าง เพียงแต่ แพ็กเกจ จะยังคงเป็น oLo แค่นั้น


ผมก็ตอบลูกค้าไป แบบนี้ ครับ แต่ยังไม่จบ ผมก็ไม่ได้ติดใจอะไร กับเรื่องนี้เพระาก็ อธิบายลูกไป แต่ผมไม่อยากให้ปัญหาเกิดซ้ำและก็ยังต้องการจะขายสินค้านี้ต่อ แต่ทีมงานที่ต้นสายหรือทีมงานซัพพอร์ต ตอบคำถามได้ห่วยแตกที่สุด 

ผมถาม อย. ก็ไม่มี บอกว่า กำลังดำเนินการ แล้วไปบอกคนอื่นว่านำเข้าผิดกฎหมาย ทั้งๆที่ตังเองก็ยังไม่มี อย.
ผมถามชื่อบริษัทก็ไม่ยอมบอก ย้อนถามผมว่า รู้ไปแล้วได้ประโยชน์อะไร นี่คือคำตอบของคนที่จำธุรกิจด้วยกันเหรอครับ 
แล้วก็แก้ปัญหาด้วยการจะขอซื้อของคืน แล้วให้รอของล็อตใหม่ มันใช่วิธีที่ถูกต้องเหรอครับ  อ้างว่าช่วยเหลือผม ผมบอกแล้ววาผมไมไ่ด้ซีเรียสแค่เตรียมตัวไว้เผื่อว่าวันหนึ่งเจอลูกค้าที่ จะเล่นงานเราจริงจัง 
ผมไม่ได้ติดใจเลยเรื่องสินค้าแต่ผม ติดใจตรงนี้
1.ในเมื่อรู้ว่าสินค้ามีปัญหา ทำw,ยังเอามาขาย ทำไมไม่นำเนินการให้เสร็จสรรพก่อน ไม่คำนึงถึงปัญหาที่จะเกิดขึ้น
2.สินค้าผลิตจากที่เดียวกัน แค่คนละแบรนด์  OHO และ OLO แล้วไปบอกว่า OLO ไม่มีคุณภาพ
3.ทีมซัพออร์ตห่วยแตก บล็อดการสื่อสารทุกช่องทาง ตอบคำถามแบบไม่แคร์ลูกค้า ไม่อยากขายก็เลิกขายไปซะ ไม่ไหวก็เลิก 
4.ไม่เปิดเผยข้อมูลบริษัท ทั้งๆ ที่จะเป้นพาร์ทเนอร์กัน (บริษัทที่ขาย olo ที่ไปว่าเขาว่านำเข้าผิดกฎหมาย เขาบอกชื่อบริษัทผมนะ )

แบบนี้ถือเป้นการหลอกลวงไหมครับ แล้วถ้าลูกค้าจะเอาผิดจริงๆ  จะเอาผิดกับตัวแทนหรือบริษัท แล้วตัวแทน ย่อยๆอย่างผมเนี่ยจะโดนไหม 
แล้วที่ทำแบบนี้เอาสติ๊กเกอร์แปะมันถูกต้องไหมครับ

สุดท้ายผมไม่ได้แคปเจอการสนทนากับ ตัวแทนเลย เขาถีบผมออกจากกกลุ่มไลน์ แต่มี การสนทนากับใครก็ไม่รู้ที่เข้าใจว่าน่าจะเป้น ซัพพอร์ต
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่