[CR] [CR] Christmas Trip EP. 4 | อัมสเตอร์ดัม (Amsterdam)

30.12.19
.

ความเดิมตอนที่แล้วจาก https://pantip.com/topic/39563473 ที่เราพูดถึง overall ของทริป 5 ประเทศ​ 8 คืน 
ตอนนี้ก็เดินทางมาถึงประเทศที่ 4 ของทริปแล้ว ซึ่งก็คือ อัมสเตอร์ดัม (Amsterdam) นั่นเอง
.
เรามีเวลากระชั้นชิดมากสำหรับอัมสเตอร์ดัม และแพลนก็ดูเหมือนจะแน่นไปหมด เราเดินทางด้วยรถไฟจากบรัสเซลเข้าไปถึงอัมสเตอร์ดัมประมาณบ่ายสามโมง มีนัดดินเนอร์กับเพื่อนคนไทยตอนหกโมงเย็น ต่อด้วย light festival cruise ตอนสามทุ่มครึ่งจนถึงเกือบเที่ยงคืน และวันถัดมามีนัดกับเพื่อนชาวเนเธอร์แลนด์สิบโมงเช้ามาพาเราเที่ยวตามสไตล์ไกด์ท้องถิ่น จบด้วยไปสนามบินประมาณสี่โมงเพื่อขึ้นเครื่องบินต่อตอนหกโมงเย็น แค่คิดก็สนุกแล้ว ตามไปกันดูว่าจะสนุกอย่างที่คิดหรือไม่!
.

.

ทันทีที่เดินออกมาจากสถานี Amsterdam Central ก็พบกับผู้คนมหาศาล ขอย้ำว่ามหาศาลจริงๆ ไม่ได้เว่อร์ นึกถึงช่วงสงกรานต์แถวสีลมเลยทีเดียว แทบจะไม่มีทางให้เดิน เราค่อยๆพยายามหลบหลีกเหล่านักท่องเที่ยวที่ทั้งยืนถ่ายรูป ต่อคิวซื้อเฟรนช์ฟราย (ที่เดี๋ยวเราจะมาต่อคิวบ้าง) หรือบางทีก็มาเป็นแก๊งจักรยาน วุ่นวายยิ่งกว่ากรุงเทพฯเสียอีก! ในที่สุดเราก็เข้ามาถึงที่พัก Airbnb ของเราจนได้ ซึ่งจริงๆก็ถือว่าไกลจากสถานีหลักพอสมควรนะ แต่ก็ยังอยู่ในระยะเดินเท้า ที่สำคัญคือบริเวณหน้าที่พักไม่วุ่นวายเป็นอันว่าใช้ได้ หลังจากทักทายพูดคุยกับโฮส เก็บสัมภาระ เปลี่ยนเสื้อผ้าเล็กน้อย ก็พร้อมออกไปลุยเมืองก่อนจะถึงเวลาดินเนอร์
.

.

เรามีแพลนว่าจะไปถ่ายรูปกับจักรยานริมแม่น้ำ เพราะอยากได้แสงช่วงพระอาทิตย์ใกล้จะตก จากนั้นก็เดินไปหาเฟรนช์ฟรายชื่อดัง ที่เพื่อนชาวเนเธอร์แลนด์ถามว่ายูจะกินจริงๆหรอ มันเป็น Belgian Frenchfries นะ แต่ด้วยความอยากลองและก็ไม่เจอสิ่งนี้ที่เบลเยียม เลยต้องแอบมาแวะชิมกันสักหน่อย เราเดินลัดเลาะไปตามซอกซอยจนเจอร้านชื่อดังซึ่งคนต่อคิวเต็มหน้าร้านเลย ระหว่างต่อคิวก็เหลือบไปเห็นความน่ารักๆของร้านรอบๆ ร้านด้านขวาเป็นร้านจิวเวอรี่ เขียนไว้ว่าห้ามยืนกินหน้าร้าน ส่วนร้านฝั่งตรงข้ามเป็นร้านเครื่องดื่ม เขียนว่าถ้าซื้อเครื่องดื่มสามารถเอาเฟรนช์ฟรายเข้ามากินได้ฟรี แสดงว่าร้านเฟรนช์ฟรายเจ้าปัญหานี่ก็คงรบกวนร้านข้างๆไม่น้อยเลยทีเดียว
.

.

มารีวิวเฟรนช์ฟรายกันสักนิด โดยรวมถือว่ายอดเยี่ยมเลย เราเลือกเป็น curry sauce มาหลังจากติดใจ curry sauce ในไส้กรอกที่ลักเซ็มเบิร์ก ซอสอร่อยเหาะไปเลย ส่วนเฟรนช์ฟรายก็คือเนื้อแน่น กรอบ แต่เหมือนจะอมน้ำมันไปนิดนึง จริงๆที่ร้านมีซอสให้เลือกมากมาย เลือกได้หลายซอส แต่เค้าก็จะแนะนำประมาณ 2 ซอสก็พอ ใครชอบกินเฟรนช์ฟรายแนะนำให้ลองกันนะ
.

.

เริ่มอิ่มท้องก็เดินไปดูเมืองกันต่อ อีกสถานที่ที่โด่งดังของอัมสเตอร์ดัมก็หนีไม่พ้น Red light district เลย แน่นอนว่าเราต้องไปตอนนี้ไม่อย่างนั้นก็จะไม่มีโอกาสได้ไปแล้ว เพราะต้องไปช่วงกลางคืนเท่านั้น ส่วนตัวเรามองว่ามันเป็นโซนสำหรับนักท่องเที่ยวสุดๆไปเลย ถ้ามีโอกาสเราก็แนะนำให้ไปกันนะ ไปให้เห็นให้รู้ว่ามันเป็นอย่างไร ส่วนร้านกัญชานั้น เท่าที่พูดคุยกับคนเนเธอร์แลนด์ มันก็เป็นสินค้าที่สร้างขึ้นมาเพื่อการท่องเที่ยวเป็นหลักแหละ ถ้าไม่ได้รู้จริงว่าควรเข้าร้านไหน ซื้อร้านไหน ก็อาจจะไม่ได้ตามที่ต้องการ เอาเป็นว่ามันเป็นมุมนึงของการท่องเที่ยวแล้วกัน
.

Red Light District
.

เรามุ่งหน้าไปยังร้านอาหารที่นัดกับเพื่อนไว้ แน่นอนว่าต้องจองล่วงหน้า ซึ่งจริงๆแล้วนี่ไม่ใช่ร้านที่ตั้งใจแต่แรก แต่เราจองร้านที่เล็งไว้ไม่ทัน แนะนำเลยว่าถ้าจะไปช่วงเทศกาล ไม่ว่าจะที่ไหนในยุโรป (แม้แต่อังกฤษ) ก็ต้องจองล่วงหน้ากันนะ ไม่ได้ถ่ายรูปไว้เลยเพราะว่ามัวแต่พูดคุยและดื่มด่ำกับอาหารมื้อค่ำแสนอร่อย ใกล้เวลา light festival cruise ก็ต้องรีบจ้ำออกจากร้าน เพื่อไปถึงท่าเรือให้ทันเวลา
.

.

เราเลือกเป็น light festival cruise เนื่องจากการล่องเรือเป็นสิ่งที่โด่งดังมากสำหรับอัมสเตอร์ดัม และช่วงเวลาที่เรามาก็เป็นช่วงเวลาเดียวของปีที่จะมีจัด Amsterdam Light Festival นอกจากนี้ราคาตั๋วช่วงดึก (late night cruise) ก็ถูกกว่าปกติ เรียกได้ว่าประจวบเหมาะเลยทีเดียว สำหรับ Amsterdam Light Festival ของปี 2019-2020 จะเป็นธีม Disrupt ซึ่งจริงๆเราสามารถเดินชมผลงานศิลปะเหล่านี้ได้เช่นกัน แต่การล่องเรือชมก็ให้มุมมองที่แตกต่างออกไป พร้อมทั้งมีคนบรรยายเรื่องราวของผลงานแต่ละชิ้น ถือว่าเป็นอีกประสบการณ์ที่ดีเลยทีเดียว
.

.

วันรุ่งขึ้นเราเก็บสัมภาระและเอาไปฝากไว้ที่ Central Station เพื่อจะไปเที่ยวชมเมืองกับเพื่อนชาวดัตช์ของเรา การเก็บของในล็อกเกอร์ที่นี่เราจะต้องซื้อตั๋วรถไฟก่อน เพื่อจะผ่านประตูเข้าไปในโซนล็อกเกอร์ หลังจากจัดการของเรียบร้อยเราก็ออกเดินทางไปกับไกด์ท้องถิ่นของเรา เป็นประสบการณ์ในรูปแบบที่เราชอบเลยแหละ เพราะเพื่อนจะเล่าเกร็ดเล็กเกร็ดน้อย เช่น เรื่องราวของ airbnb ที่ทำให้มีกลุ่มคนท้องถิ่นไม่พอใจและต่อต้านเกิดขึ้น แนวความคิดของธุรกิจเองเป็นสิ่งที่ดี แต่ก็มีคนเห็นช่องว่างและหาผลประโยชน์เกินควรจากสิ่งนี้ ทำให้วิถีชีวิตดั้งเดิมของคนที่นี่ค่อยๆหายไป
.

.

ถ้าสังเกตดีๆตึกของที่นี่จะเอียงๆ ซึ่งเพื่อนชาวดัตช์ของเราบอกว่าเกิดจากการที่พื้นดินมันยุบตัว ด้วยความที่สภาพภูมิประเทศเดิมเป็นพื้นที่ต่ำกว่าระดับน้ำทะเล จึงมีการถมทะเลเพื่อสร้างตึกที่อยู่อาศัยต่างๆ นอกจากนี้เราจะมองเห็นตะขอที่อยู่บนหลังคาบ้าน ซึ่งมีไว้สำหรับแขวนรอกไว้สำหรับขนสิ่งของเข้าบ้านทางหน้าต่าง โดยบางบ้านก็ยังใช้วิธีการนี้อยู่ในปัจจุบัน
.

.

เราเดินชมเมืองไปเรื่อยๆจนท้องเริ่มหิว และแน่นอนว่าอาหารมื้อเที่ยงที่นี่จะต้องเป็น Dutch Pancake เราตัดสินใจสั่งกันคนละอย่างแล้วจะได้แบ่งกันชิม เป็นคาว 2 จาน และหวาน 1 จาน จานคาวก็จะเป็น แซลมอน และเบคอนชีส ส่วนจานหวานเป็นแอปเปิ้ลซินนาม่อน ลักษณะของ Dutch Pancake จะหน้าตาคล้ายๆกับเครปของฝรั่งเศส แป้งจะไม่หนาหรือบางเกินไป อร่อยใช้ได้ ค่อนข้างประทับใจกับจานแฮมชีสและแอปเปิ้ลซินนาม่อนเป็นพิเศษ แนะนำให้มาลองกันนะคะ เป็นของขึ้นชื่อของที่นี่เลยก็ว่าได้ จริงๆแล้วตรงนี้มีเกร็ดอีกอย่างนึงคือคนที่นี่เวลากินแพนเค้กจะตัดเป็นซีกคล้ายๆพิซซ่าแล้วม้วนให้เป็นแท่งถึงค่อยกินจะทำให้กินง่ายขึ้น
.

.

ได้เวลาบอกลากับเพื่อนไกด์ของเรา แต่เรายังพอมีเวลาอีกประมาณ 1-2 ชั่วโมง จึงตัดสินใจเดินไปดู Flower market ซึ่งเป็นตลาดที่เต็มไปด้วยดอกทิวลิปมากมาย นอกจากนี้ยังมีร้านชีสที่อยู่ใต้ดินตลอดทาง เพื่อนชาวดัตช์แนะนำให้เราลองชีสที่นี่เพราะเป็นอีกอย่างที่ขึ้นชื่อ ซึ่งร้านชีสที่นี่มีให้เราชิมก่อนจะซื้อกลับ เพราะมันมีมากมายหลากหลายรสมากๆ ถ้าไม่ชิมก่อนก็อาจจะได้สิ่งที่ไม่ถูกใจกลับไป สำหรับเราเราชอบตัวทรัฟเฟิลชีสมากๆ หอมและไม่แรงจนเกินไป
.

.
ระหว่างทางเดินกลับไปยัง Central Station เราแวะไปดู Anne Frank Museum ซึ่งเรารู้อยู่แล้วว่าไม่มีโอกาสได้เข้าชมเพราะต้องจองตั๋วออนไลน์ ที่สำคัญเลยคือคิวยาวมาก ถ้ามีโอกาสจะกลับมาใหม่เพราะชื่อเสียงโด่งดังมากว่าเค้าทำ interpretation ออกมาค่อนข้างดี
.

.

หมดเวลาแล้วสำหรับอัมสเตอร์ดัม เรานั่งรถไฟไปยังสนามบินใช้เวลาประมาณ 15 นาที รวดเร็วมากๆ ถือว่าเป็นอีกสนามบินที่เราประทับใจมากๆเลย น่าประหลาดใจคือสนามบินที่นี่ให้เราเอาขวดน้ำที่ยังมีน้ำเข้าไปได้ เรื่องของเรื่องก็คือเราไปยืนอยู่หน้า security check แล้วก็จัดแจงพวกน้ำดื่ม เจ้าหน้าที่ก็เดินมาโบกไม้โบกมือบอกว่าเอาขวดน้ำเข้าไปได้ มีน้ำอยู่ก็เอาเข้าไปได้ (ไม่แน่ใจจริงๆว่าเป็นปกติของที่นี่รึเปล่า ถ้าใครไปแล้วมาคอมเมนท์บอกกันหน่อยนะฮะ) ยิ่งไปกว่านั้นคือขั้นตอนทุกอย่างผ่านไปอย่างรวดเร็วมากๆ รู้ตัวอีกทีก็ไปนั่งรอหน้าเกทซะแล้ว เดี๋ยวเราจะบินไปเคาท์ดาวน์กันที่ออสโล มาดูกันว่าการฉลองปีใหม่ครั้งแรกที่ยุโรปจะเป็นอย่างไร เหมือนกับที่คิดไว้รึเปล่า ไว้เดี๋ยวเราจะมาเล่าให้ฟัง ~
.


ฝากติดตามตอนต่อไปด้วยนะคะ เราจะเดินทางต่อไปยังออสโล ประเทศนอร์เวย์ค่ะ
ถ้าใครสนใจทริป 5 ประเทศ 8 คืนของเรา สามารถเข้าไปอ่านได้ที่..

EP 0 | overall https://pantip.com/topic/39563473
EP 1 | สตราสบูร์ก Strasbourg https://pantip.com/topic/39579119
EP 2 | ลักเซมเบิร์ก (Luxembourg) https://pantip.com/topic/39593414
EP. 3 | บรัสเซลส์ (Brussels) https://pantip.com/topic/39627549

แล้วก็ขออนุญาตฝากเพจ https://www.facebook.com/hareung/ ไว้ในอ้อมอกอ้อมใจด้วยนะคะ
ชื่อสินค้า:   อัมสเตอร์ดัม (Amsterdam)
คะแนน:     

CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้

  • - จ่ายเงินซื้อเอง หรือได้รับจากคนรู้จักที่ไม่ใช่เจ้าของสินค้า เช่น เพื่อนซื้อให้
  • - ไม่ได้รับค่าจ้างและผลประโยชน์ใดๆ
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่