เราเป็นคุณแม่เลี้ยงเดี่ยวคะ ลูกสาวเราอายุ 12 อยู่ ม1เขา
อยู่กับยายที่ต่างจังหวัด ตอนเด็กเขาเลี้ยงง่ายมาก พูดสอน
เขาฟังเขารู้เรื่อง เราเลี้ยงเขาตอนเด็กคือสบายใจมาก
ไม่ดื้อเหมือนเด็กคนอื่น ยกตัวอย่าง ถ้าเราจะพาเขาไปเที่ยว
ไหน ก่อนไปเราจะสอนเขาว่า ไม่เอาของเล่นนะ
แต่ถ้าจะกินอะไรแม่ไห้ได้ แต่ของเล่นไม่เอา เราต้อง
เก็บเงินไว้กิน ซึ่งลูกก็เชื่อ เขาเดินผ่านร้านของเล่น
เขาได้แต่มองจนเหลียวหลังตาม
พอโตขึ้นมาการเรียนดีถือว่าผ่าน เราก็สบายใจ
ไม่ห่วงเรื่องเรียน ได้แต่สอนเขาว่าหน้าที่ของเขา
ตอนนี้คือเรียน และเล่น ทำทุกอย่างไห้เหมาะสมตามเวลา
พอเขาขึ้น ม1 เทอม 2ครูบอกว่าเขา มีนิสัยก้าวร้าว
โดดเรียน ตบตีกับเพื่อน คบเพื่อนกลุ่มไหญ่ จนถูกพักการเรียน
ถ้ามีอีกครั้งก็ต้องออกจาก รร เราช็อคมาก นี่เรา
ไม่เคยรู้จักนิสัยลูกเราเลยเหรอ ตอนเทอมแรกเขาดีมาก
สอบได้ เกรดเฉลี่ย 3กว่า
เราไม่เคยคิดว่าจะเจอแบบนี้ มันไวไปแค่ ม2เองนะ
เราเลี้ยงเขาไม่ใช้ความรุนแรง พูดดีด้วยเหตุและผล
ไม่ได้ตามใจ จะไห้อะไรเขาจะดูด้วยว่าถึงเวลา
ที่เขาสมควรจะได้ไหม ตอนนี้ถามตัวเองว่า
เขาเอานิสัยแบบนี้มาจากไหน. พอเกิดเรื่อง
เราถามเขา ว่าเกิดอะไรขึ้นพูดดีนะไม่ดุหรือ
ด่าเลย เขาก็เล่าว่า มองหน้ากันไม่พอใจ
ซึ่งเราก็เคยผ่านจุดนี้มา เราเข้าใจ แต่ดี
ตรงที่เราอยู่ในกลุ่มเพื่อนที่ดีเลยไม่เกิดเรื่อง
สรุปเราบอกลูกว่า ออกมาจากเพื่อนกลุ่มนี้
เขาก็รับปาก แต่เราก็คิดว่ายากนะที่จะออก
จากกลุ่มเพื่อน เขาก็บอกจะทำตัวใหม่
เรายื่นคำขาดเลย ถ้าโดนไล่ออกจาก รร
เราจะไห้เขาหยุดเรียน 1ปี ไห้ออกมาเลี้ยง
ควายอยู่บ้าน ไห้เขารู้สึกอยากเรียนมากๆ
ค่อยไห้เขาเรียน รร ไกล้บ้านนี่แหละ
ไปอยู่ รร ดีๆที่ต้องสอบเข้าได้ แต่กลับไม่รักดี
ก็ต้องใจร้ายกันบ่าง ตอนนี้เราเครียด
ไม่รู้จะรับมือยังใงดี ยายเขาก็เครียดกินข้าวไม่ได้
เขาก้าวร้าวกับยายเขา และครูยังเอยปากว่า
เขาก้าวร้าว ตรงนี้แหละที่เราเครียดมาก
ใครเคยเจอปัญหาแบบเรา ช่วงแนะนำเรา
หรือเล่าไห้ฟังบ่างว่า คุณพ่อคุณแม่รับมือ
กับลูกอย่างไร เราคิดว่าถ้าเกิดเรื่องขึ้นอีก
คงต้องปรึกษาจิตแพทย์แล้วแหละ แต่ตอนนี้
ต้องลองแก้ปัญหาเองไปก่อน พิมพ์ยาวเลย
ใครอ่านจบก็ขอบคุณนะคะ
ลูกมีอารมณ์รุนแรง ก้าวร้าว จะรับมืออย่างไรได้
อยู่กับยายที่ต่างจังหวัด ตอนเด็กเขาเลี้ยงง่ายมาก พูดสอน
เขาฟังเขารู้เรื่อง เราเลี้ยงเขาตอนเด็กคือสบายใจมาก
ไม่ดื้อเหมือนเด็กคนอื่น ยกตัวอย่าง ถ้าเราจะพาเขาไปเที่ยว
ไหน ก่อนไปเราจะสอนเขาว่า ไม่เอาของเล่นนะ
แต่ถ้าจะกินอะไรแม่ไห้ได้ แต่ของเล่นไม่เอา เราต้อง
เก็บเงินไว้กิน ซึ่งลูกก็เชื่อ เขาเดินผ่านร้านของเล่น
เขาได้แต่มองจนเหลียวหลังตาม
พอโตขึ้นมาการเรียนดีถือว่าผ่าน เราก็สบายใจ
ไม่ห่วงเรื่องเรียน ได้แต่สอนเขาว่าหน้าที่ของเขา
ตอนนี้คือเรียน และเล่น ทำทุกอย่างไห้เหมาะสมตามเวลา
พอเขาขึ้น ม1 เทอม 2ครูบอกว่าเขา มีนิสัยก้าวร้าว
โดดเรียน ตบตีกับเพื่อน คบเพื่อนกลุ่มไหญ่ จนถูกพักการเรียน
ถ้ามีอีกครั้งก็ต้องออกจาก รร เราช็อคมาก นี่เรา
ไม่เคยรู้จักนิสัยลูกเราเลยเหรอ ตอนเทอมแรกเขาดีมาก
สอบได้ เกรดเฉลี่ย 3กว่า
เราไม่เคยคิดว่าจะเจอแบบนี้ มันไวไปแค่ ม2เองนะ
เราเลี้ยงเขาไม่ใช้ความรุนแรง พูดดีด้วยเหตุและผล
ไม่ได้ตามใจ จะไห้อะไรเขาจะดูด้วยว่าถึงเวลา
ที่เขาสมควรจะได้ไหม ตอนนี้ถามตัวเองว่า
เขาเอานิสัยแบบนี้มาจากไหน. พอเกิดเรื่อง
เราถามเขา ว่าเกิดอะไรขึ้นพูดดีนะไม่ดุหรือ
ด่าเลย เขาก็เล่าว่า มองหน้ากันไม่พอใจ
ซึ่งเราก็เคยผ่านจุดนี้มา เราเข้าใจ แต่ดี
ตรงที่เราอยู่ในกลุ่มเพื่อนที่ดีเลยไม่เกิดเรื่อง
สรุปเราบอกลูกว่า ออกมาจากเพื่อนกลุ่มนี้
เขาก็รับปาก แต่เราก็คิดว่ายากนะที่จะออก
จากกลุ่มเพื่อน เขาก็บอกจะทำตัวใหม่
เรายื่นคำขาดเลย ถ้าโดนไล่ออกจาก รร
เราจะไห้เขาหยุดเรียน 1ปี ไห้ออกมาเลี้ยง
ควายอยู่บ้าน ไห้เขารู้สึกอยากเรียนมากๆ
ค่อยไห้เขาเรียน รร ไกล้บ้านนี่แหละ
ไปอยู่ รร ดีๆที่ต้องสอบเข้าได้ แต่กลับไม่รักดี
ก็ต้องใจร้ายกันบ่าง ตอนนี้เราเครียด
ไม่รู้จะรับมือยังใงดี ยายเขาก็เครียดกินข้าวไม่ได้
เขาก้าวร้าวกับยายเขา และครูยังเอยปากว่า
เขาก้าวร้าว ตรงนี้แหละที่เราเครียดมาก
ใครเคยเจอปัญหาแบบเรา ช่วงแนะนำเรา
หรือเล่าไห้ฟังบ่างว่า คุณพ่อคุณแม่รับมือ
กับลูกอย่างไร เราคิดว่าถ้าเกิดเรื่องขึ้นอีก
คงต้องปรึกษาจิตแพทย์แล้วแหละ แต่ตอนนี้
ต้องลองแก้ปัญหาเองไปก่อน พิมพ์ยาวเลย
ใครอ่านจบก็ขอบคุณนะคะ