คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 37
เรื่องพวกนี้ มันไม่ได้มีกฏเกณฑ์ตายตัว ขึ้นอยู่กับปัจจัยทางเศรษฐกิจของแต่ละครอบครัว แนวคิดของแต่ละครอบครัวเป็นหลัก
เพราะเงินแต่ละคน แต่ละครอบครัวมีไม่เท่ากัน มีความจำเป็นไม่เหมือนกัน
แล้วแต่ว่าครอบครัวไหน คนไหนจะพึงพอใจแบบไหน ถ้าพอแม่ฐานะไม่ได้ดี ยังลำบาก ก็ควรเจือจุนตามสมควร กี่% นั้นบอกยาก
แต่ถ้าพ่อแม่ฐานะดี ร่ำรวย มีอันจะกินอยู่แล้ว บางทีก็ไม่ได้จำเป็นต้องให้เป็นตัวเงิน อาจจะให้เป็นรูปแบบอื่น
เช่นให้เป็นของฝาก ของขวัญ ให้เวลาไปมาหาสู่ไปพบปะสังสรรค์ไม่ให้เหงา พาไปเที่ยว หรือช่วยเหลือและให้ความสุขในด้านอื่นๆ แทน
นอกจากนี้ยังขึ้นอยู่กับความพึงพอใจส่วนบุคคลของแต่ละคนอีก อย่างตัวผมเอง ก็ไม่ได้หวังว่ามีลูกมีเต้าแล้วเขาจะต้องมาเลี้ยง
หรือต้องมาให้เงินให้ทอง แค่ดูแลตัวเองให้อยู่รอดปลอดภัยได้ก็ดีที่สุดแล้ว ตัวผมเองหวังพึ่งแค่ตัวเองจนถึงที่สุดนั่นแหละ อยู่ได้แค่ไหนก็แค่นั้น
ไม่อยากให้คนอื่นต้องมาลำบาก
เพราะเงินแต่ละคน แต่ละครอบครัวมีไม่เท่ากัน มีความจำเป็นไม่เหมือนกัน
แล้วแต่ว่าครอบครัวไหน คนไหนจะพึงพอใจแบบไหน ถ้าพอแม่ฐานะไม่ได้ดี ยังลำบาก ก็ควรเจือจุนตามสมควร กี่% นั้นบอกยาก
แต่ถ้าพ่อแม่ฐานะดี ร่ำรวย มีอันจะกินอยู่แล้ว บางทีก็ไม่ได้จำเป็นต้องให้เป็นตัวเงิน อาจจะให้เป็นรูปแบบอื่น
เช่นให้เป็นของฝาก ของขวัญ ให้เวลาไปมาหาสู่ไปพบปะสังสรรค์ไม่ให้เหงา พาไปเที่ยว หรือช่วยเหลือและให้ความสุขในด้านอื่นๆ แทน
นอกจากนี้ยังขึ้นอยู่กับความพึงพอใจส่วนบุคคลของแต่ละคนอีก อย่างตัวผมเอง ก็ไม่ได้หวังว่ามีลูกมีเต้าแล้วเขาจะต้องมาเลี้ยง
หรือต้องมาให้เงินให้ทอง แค่ดูแลตัวเองให้อยู่รอดปลอดภัยได้ก็ดีที่สุดแล้ว ตัวผมเองหวังพึ่งแค่ตัวเองจนถึงที่สุดนั่นแหละ อยู่ได้แค่ไหนก็แค่นั้น
ไม่อยากให้คนอื่นต้องมาลำบาก
แสดงความคิดเห็น
"ทำงานเก็บเงินไว้ ไม่ต้องส่งให้ เพราะไม่มีอะไรจะให้เหมือนกัน" แม่เคยบอกตอนที่เอาเงินเดือนเดือนแรกไปให้
ผ่านมา 3 ปี ผมยังไม่เคยให้ตังแม่ใช้เลย -*-
เคยมีเพื่อนมายืมเงิน ถามเพื่อนว่ายืมไปทำอะไร เพื่อนตอบมาว่า ยืมไปให้แม่ ผมรู้สึกเหมือนโดนเอามีดมาแทงกัน
ก็รู้สึกผิดตลอดที่ไม่เคยให้ตังแม่เลย
มีใครไม่ส่งตังให้ที่บ้านเลยไหมครับ
หรือถ้าส่ง ให้กี่เปอร์เซ็นของเงินเดือนครับ