4 เดือนใช้ตอนคบ ตอนลบ ใช้ 6 ปี เคยอยากมูฟออนไหม?

เคยมั้ย...อยากมูฟออน ทำใจแล้วว่าฉัน จะ มูฟ ออน สุดท้าย มูฟออนเป็นวงกลมบ้าง สามเหลี่ยมบ้าง กี่ทรงๆก็ยังคงวนกลับมาที่เดิม

ประสบการณ์ของเราก็.. เราเคยมี pupy love กับรุ่นพี่คนนึง ก็..ไม่ได้หวือหวาอะไรมากมาย ด้วยความพี่เค้าโตกว่า 1 ปี เพราะงั้น แปลว่าเค้าต้องจบก่อน ระหว่างที่คบกัน เป็นช่วงใกล้จะปิดเทอมแล้วแหละ พี่เค้าเป็นกรรมการโรงเรียน เป็นคนตีกลองวงดุริยางค์ ส่วนเราเป็นนางรำ และดรัมเมเยอร์ ตอนนั้นเราอยู่ไม้ 2 หรือ 3 นี่แหละ เราจะสไตล์ไปทางภาษาอังกฤษ แข่งดีเบตบ้าง บลาๆ จนพี่เค้าเรียกเราว่าฝรั่งน้อย

ระหว่างคบกันนอกจากเจอกันที่โรงเรียนก็มีแค่ในแชทของแอพพลิเคชั่นหนึ่ง เพราะทางบ้านเราไม่สนับสนุนให้มีแฟน ในโรงเรียนก็เจอกันแบบผ่านๆ เวลาจะไปห้องน้ำคือ ต้องเดินผ่านห้องพี่เค้า..ฟิลแบบเรื่องสิ่งเล็กๆที่เรียกว่ารักอ่ะ ฉากนั้นเลย 55

จนแบบวันนึง เราขอห่างกับเค้า สาเหตุคือ เรารู้สึกเราอยากสวย อยากแบบดูดีกว่านี้อ่ะ เพราะคนรอบข้างเค้าแบบสวยสมวัย เราแบบเด๋อมากแม่ ผมสั้นโรงเรียนรัฐเด๋อๆ แต่สุดท้ายก็ไม่ได้ห่าง กะจะปรับปรุงตัวเองซะหน่อย 😅

เวลาตั้งวงดุริยางค์งี้พี่เค้าก็จะมายืนข้างหลังเรา ก็...เขินจนเกร็งบ้างนะ จนวันที่พี่เค้าจบ เราเลยพับนกให้เค้า คลุมโปงพับให้ถึงตี 3 อ่ะตอนนั้น ก็มีเขียนเสื้อให้บลาๆ ใกล้ชิดสุดก็ตอนนั้นแหละ หลังจากนั้น พอปิดเทอม พี่เค้าก็โทรมานะ แต่เราไม่ได้รับสาย เน้นการพิม จนพี่เค้าจะไปเรียนที่อื่นแล้ว ก็ขับมอไซมาบ้านเรา ด้วยความเป็นรุ่นน้องพี่สาวเราด้วย สุดท้าย พี่เค้าเอาเสื้อมาให้เรา เสื้อนักเรียนวันจบที่เต็มไปด้วยข้อความของเราและเพื่อนเค้านั่นแหละ

หลังจากนั้น เราจำไม่ได้ว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง แต่มันจบลงแบบไม่มีคำว่าเลิกกัน มีแค่คำว่า "โชคดีนะ" ที่มาจากปากของเรา(ในแชท) ด้วยความคิดตอนนั้น ... เราอยากให้เค้าไปเจอคนที่ดีกว่า ณ จุดนั้น ความรู้สึกเราอ่ะ เพื่อนในแอพพลิเคชั่นนึงของเค้าคือ มีผู้หญิงสวยแบบ สาวสวยอ่ะ เยอะมาก มีการแท็กด้วย ยิ่งห่างกัน สุดท้าย เราก็เอามาเทียบกับตัวเองและผลคือ เราสู้คนรอบข้างเค้าไม่ได้ เราไม่ได้สวยอะไร ไม่ได้โดดเด่นเป็นพิเศษ เราอยากยืนข้างเค้าแล้วมีคนอิจฉาที่มีเรา เราอยากเป็นดี คนเก่ง แต่ก็ทำไม่ได้ เพราะงั้น มันจึงเป็นสิ่งที่เราเลือกว่าอยากให้เค้าเจอคนที่ดีกว่าเรา และบอกตัวเองว่า นี่..มันคงไม่ใช่ความรัก

จนผ่านมา 2-3 ปี ต่างฝ่ายต่างไม่มีคนใหม่ วันนึงพี่เค้าก็ทักมาคุยปกติ เราก็ตอบไป แต่ก็จบลงเพราะต่างฝ่ายต่างวุ่นกับที่เรียน พี่เค้าก็วุ่นกับรับน้องของมหาลัย เราก็ฟอร์มจัด และมัน..ก็จบลงอีกครั้ง

จนเมื่อปีที่แล้ว ปีที่ 5 ของเรื่องราวที่ผ่านมานับตั้งแต่วันที่เราบอกออกไปว่าโชคดี เพื่อนที่สนิทก็ส่งข้อความมาบอกว่า เนี่ย เห็นสถานะของพี่เค้ารึยัง เราก็ยังงงๆเลยกดเข้าไปดู "มีแฟนแล้ว" ณ ตอนนั้นเราก็ตอบเพื่อนไปนะว่า ดีแล้วหนิ เราไม่ได้รู้สึกอะไรแล้ว เค้ามีคนที่ดีก็ดีไป

แต่เอาเข้าจริงมันเป็นที่เราเองยังวนอยู่ลูปเดิม เป็นเราเองที่ยังอยากกลับไปแก้ไข ไปทำอะไรให้ดีกว่าเดิม ไปสร้างความทรงจำให้เพิ่มขึ้น เราเคยบอกกับเพื่อนอีกคนครั้งนึงว่า ถ้ารู้ว่าตอนนั้นจะเป็นครั้งสุดท้ายที่ได้คุยกัน เราจะชวนเค้าคุย จะไม่ฟอร์ม บางทีมันอาจจะกลับมาก็ได้

จนตอนนี้เค้าคบกันได้ 1 ปีกว่าแล้ว แรกๆมีส่องแฟนใหม่เค้านะ เทียบกัน เค้าสวย แต่งตัวเก่งกว่าเรา มีโมเม้นหวาน บลาๆ ก็จุกๆไปกับคลิปที่เค้าลง ตอนนี้เราเชื่อแล้วว่าเค้ารักกันจริงๆ เค้าไม่ได้ต้องการรีเทิร์นกับเราอีกแล้ว ถามว่าเราทนได้ไง 6 ปี มันเป็นเพราะเรายังเชื่อ ยังหวังว่าวันหนึ่งเราอาจจะวนมาเจอกัน

ทุกครั้งที่มีคนมาจีบ หน้าพี่เค้าจะลอยมา และเกิดการเปรียบเทียบ สุดท้ายแล้วไม่มีใครดีเท่าเค้า บวกกับเราเรียน เลยไม่ได้โฟกัสคนมาจีบท่าไหร่ เค้าเป็นเหมือนเกราะที่ป้องกันคนเข้ามา ถ้าไม่ดีกว่าเค้า เราก็ไม่ได้สนใจ เค้าทำให้เกรดเราพุ่งกระฉูดขึ้นรัวๆ  เพราะในหัวมีแค่เรื่องเรียน เพื่อน ครอบครัว จนเราได้ฉายาว่า "แม่ชีของรุ่น"

ตอนที่เค้าคบกับแฟนใหม่เรายังมีความหวังนิดนึงนะ ใจมันยังหวัง แต่สุดท้ายแล้ว ปี 2020 เค้าคบกันปีกว่าแล้ว ใจเรามันก็มูฟออกมาได้แล้ว มูฟมา 6 ปี แพ้ตรงที่เค้ามีแฟนแค่ปีเดียว 😂😂 สำหรับเรา การมูฟออนคือการยอมรับความจริง ความจริงที่ว่าเรื่องมันจบไปแล้ว ประกอบกับตอนนี้เค้ามีแฟนใหม่ไปแล้ว แปลว่ามันจบแล้วจริงๆ ไม่มีความหวังใดเลย  สิ่งที่ค้างคาที่เป็นความหวังที่เราแบกมาด้วยตลอดมันก็จบลง ก็ยินดีกับพี่เค้านะ ยินดีจริงๆ เค้าเจอกันคนที่อยากดูแลแล้ว ของเราเดี๋ยวก็เจอเหมือนกัน วันหน้าถ้าเจอกัน เราอาจจะเป็นรุ่นพี่รุ่นน้องกันได้ มั้งนะ 55 

เอ้อ ปลายปีที่แล้วเราลงสถานะว่ามีแฟนด้วยแหละเพราะตอนนั้นมีคนมาจีบแบบถามไปสู่ขอเลี้ยงดูเรา เราเลยกลัวจนขึ้นสถานะว่ามีแฟนแล้วให้เค้าไปสนใจคนอื่น อีกเหตุผลคือ เราอยากให้พี่เค้ารู้และเข้าใจว่าเรามีแฟนแล้วเหมือนกัน เค้าจะได้มองเราว่าเป็นรุ่นน้องได้อย่างสนิทใจ มองว่าเราลืมเค้าได้แล้วเหมือนกัน

สุดท้ายนี้ สำหรับเราแล้ว พี่เค้าอาจจะเหมาะที่จะอยู่เพียงแค่ในช่วงเวลานั้น เป็นความสุข เป็นรอยยิ้มเมื่อเรานึกถึงมัน มันดีที่สุดแล้วล่ะ และเราก็เชื่อว่าพี่เค้าก็คิดแบบเดียวกัน ให้มันเป็นเรื่องราวที่เกิดขึ้น ครั้งหนึ่งในชีวิตของกันและกันก็เพียงพอแล้ว ..

ความลับอย่างหนึ่งของเรา ..ตอนเปิดเทอมใหม่ เรารีบมาเลือกที่นั่งเพราะจะได้นั่งโต๊ะเดียวกับที่พี่เค้าใช้เรียนตอนนั้นด้วยแหละ

สุดท้ายจริงๆ เราจะบอกว่า poppy love ของเรามันอาจจะไม่ใช่ความรักที่หวือหวา แต่มันก็ได้อยู่กับเรามา 6 ปี ต่อจากนี้คงเก็บเข้ากรุจริงๆแล้วแหละ ตกใจเหมือนกันนะที่เราสามารถอยู่กับมันได้ถึง 6 ปี ขอบคุณที่อ่านจนจบนะ และหวังว่าเธอที่มาอ่านจะมูฟออนได้แบบเรา ยิ้ม
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่