สวัสดีค่ะ หลังจากที่เคยตั้งกระทู้ถามเรื่องการต่อเวลาทดลองงานของบริษัท
เลยตัดสินใจลาออก และหางานใหม่
ไม่นานนัก ก็ได้งานใหม่ค่ะ
อาจจะยาวนิดนึงนะคะ
ตอนนี้ก็ทำมาได้ 2 ปี แล้ว แต่เป็นบริษัทเล็กๆ
ตอนแรกทำแผนกขาออก โดนย้ายไปแผนกขาเข้า
โดนย้ายไปแผนกขนส่ง และปัจจุบันโดนยายมาทำขาเข้าแบบเดิม ให้ทำอะไร ก็คือทำได้หมด แต่ไม่เคยถามเรานะ ว่าเราอยากทำงานแผนกไหน
จับย้ายก็ย้ายเลย
ตอนหลังบริษัทมีการขยายองค์กร
มีผู้จัดการเข้ามาใหม่ สักพักเค้าพาแฟนเค้ามาทำด้วยเป็น ผจก.ขาออก และพาน้องคนสนิทมาทำ ผจก.ขาเข้า
ทั้งสามคนคือทำงานหนักมาก ต่างกับเรามากเลยค่ะ
1.เราเข้างาน 08.30-17.00 แต่เดินเข้าออฟฟิศ 7 โมงกว่าๆ
คือถามงานแล้ว แล้วก็ตามงานแล้ว อันนี้มันปกติของที่อื่นไหมคะ
2.เลิกงาน 17.00 เรากลับ 6 โมงบ้าง 5 โมงบ้าง ถ้าไม่มีเคสแบบต้องแก้ปัญหา
ถ้ามีก็ทุ่ม สองทุ่ม เราก็อยู่เคลียร์ แต่ถ้าไม่มีก็ 17.05 กลับเลย เพราะไม่มีค่าโอที ไม่มีไรทำ
ก็จะโดนสายตาแบบกลับแล้วเหรอ เราผิดเหรอคะ?
3.ให้ทำงานผ่านไลน์ หลังเลิกงาน จนดึกดื่นสามสี่ทุ่ม ให้ตอบไลน์ลูกค้า วีแชท ไลน์กลุ่มบริษัทตลอด
อันนี้ผิดกฏหมายไหม? เพราะเราไม่อยากทำ เรารู้สึกว่าเลิกงานคือเวลาส่วนตัว
4.เราทำโลจิสติกส์ สายเรือก็จะหยุดวันเสาร์ แต่ ผจก ก็ยังให้ลูกค้าบรรจุสินค้าวันที่ออฟฟิศหยุด
แล้วพอเกิดตู้รั่ว บรรจุไม่ได้ ก็ให้เราทำงานวันเสาร์ ซึ่งโดยปกติเราหยุดเสาร์ อาทิตย์
สมมุติออกไปข้างนอกในวันหยุดเราเองก็ต้องมานั่งเคลียร์ให้ทุกเสาร์ ดูหนังอยู่ก็ต้องออกมาแก้เคสบ่อยๆ
ละเราก็เกรงใจสายเรือ ที่ต้องโทรไปรบกวนวันหยุดคนอื่น
5.ชอบให้เราทำงานจุกจิก ป้ายบริษัท นามบัตร ออกแบบนั่นนี่ เคสยากๆ
พวกขอคืนอากรขาเข้า ขออนุญาตส่งออก ทั้งๆ ที่หน้าที่เราตอนนี้คือแผนกขาเข้าอ่ะ
6.ผจก.ใหญ่ กะ ผจก.ขาเข้า บอกว่าเราแบ่งลูกค้ากันทำ
แต่เอาจริงๆ พอมีงานมาเราทำให้หมด แต่พอเป็นลูกค้าเรา เค้าไม่ทำอะไรเลยอ่ะ
ให้เราดำเนินงานเอง แต่พอเป็นลูกค้าเค้า เค้าให้ งเราช่วยทำนะ
7.เงินเดือน ผจก.ขาเข้าเยอะกว่าเรามาก แต่เนื้องานคือเราเยอะกว่ามากๆ
เรามีบัตรกรมศุล เราออกไปติดต่อราชการ ทำแต่เคสยากๆ เราตัดสินใจแก้เคสยากๆ
ขอใบอนุญาตนำเข้า ส่งออก ขอคืนอากร ขอลดหย่อนภาษี ออกแบบนามบัตร
สั่งออฟฟิศเมสประจำเดือน ปิดงานให้วางบิลลูกค้า รับบิลจากแผนกอื่นๆ ตรวจสอบค่าใช้จ่ายตรวจสอบโปรแกรม
ส่งรายงานเวลาทำงานของพนักงาน ทำทุกอย่างที่เจ้าของบริษัทสั่ง คือเค้าทำแต่งานรูทีนอ่ะ เอกสารนำเข้า มัดจำตู้คอนเทนเทนเนอร์ ไม่กี่อย่างเอง
8.เงินเดือนออกไม่ตรงเวลา ออกสิ้นเดือนเลยแบบทุ่มสองทุ่ม ฟิลเลิกงานวันศุกร์สิ้นเดือน ฝันสลายหลายรอบละค่ะ เพราะเงินออกไม่ตรง สวัสดิการมีโบนัส ประกันสังคม เงินเดือนแบบบริษัทฝากเข้านะ โนเพลโรลอะไรทั้งนั้น
9.ปีใหม่แล้ว ยังไม่คุยเรื่องพิจารณาปรับเงินเดือนเลย เงินเท่าเดิมเลย ขึ้นไม่ขึ้น ก็ไม่มีชี้แจงแถลงไข
10.วันหยุดก้ต้องพกโน้ตบุ้คตอบอีเมล์ล ตอบไลน์ตลอด รับโทรศัพท์ตลอด ต่อให้ป่วยจนลุกไม่ได้ก็เถอะ ก็ต้องทำงานผ่านเมล์ล และบริษัทไม่มีพักร้อนให้นะ มีแค่ลาป่วยกับลากิจ
11.ล่าสุดมีประเด็น รถคอนเทนเนอร์เสีย แล้ว ผจก.ถามน้องในทีมเรา ว่าใครจะรับผิดชอบค่าโอทีของโรงงานลูกค้า
เพราะวันเสาร์ลูกค้าเค้าเลิกเร็ว เราเลยบอกไปว่าแล้วทำไมทำงานวันเสาร์
ทำไมถึงเอาความเสี่ยงค่าใช้จ่ายมาไว้กับบริษัทตัวเอง ทำไมก่อนหน้านี้ไม่แจ้งทีมตัวเองเรื่องเวลา ไม่คุยกันก่อน น้องจะได้กำชับรถ
แล้วนี่แอ็คซิเดน มันควบคุมไม่ได้ น้องในทีมไม่ได้ผิด รถมันเสีย แค่นั้นแหละ
เจ้าของบริษัทแกอ่านไทยไม่ออก ผ่านไปสี่สิบนาที แกไลน์มาว่าเราว่าโลจิสติกส์ต้องทำงานตลอด หยุดไม่ได้
เคยเห็นเรือไหนยุดหวิ่งเหรอ?
ประเด็นคือเค้าไม่ถามเราเลย เค้าฟังแต่ ผจก. เราสื่อว่าความเสี่ยงที่บริษัทต้องแบกรับ
ถ้ารับแพลนบรรจุวันเสาร์มากไป บริษัทต้องมารับภาระจ่ายค่าโอทีให้ลูกค้าตลอดเหรอ
ผจก.อาจจะไปเล่าอะไรรึป่าวอะ แบบนี้ แล้วเราไม่ชอบที่มาถามน้องว่าใครจะจ่ายเงิน
ใครรับผิดชอบ เราว่าเค้าเป็นผจก. น่าจะมีวิธีการพูดสอนน้องได้ดีกว่านี้
12.เวลามีปัญหา ผจก.หาตัวคนผิดก่อนเลย ละนั่งด่า คนที่แก้คือเรากะน้องๆซะส่วนใหญ่
สงสารน้องๆ มาก บางทีเรื่องนิดเดียว แก้ก็จบ ต้องมานั่งฟัง
13.บริษัทเล็กมากๆ เราเข้ามาเป็นพนักงานคนที่ 2 ตั้งแต่มีงานนิดเดียว ตอนนี้มีสิบกว่าคน และก็มีผจก.และผองเพื่อนเข้ามา
14.ทุกวันนี้ทนทำได้เพราะน้องในทีมสนิทกัน เหมือนเพื่อน เลยพอทนได้
15.เค้าเคยจะย้าย ผจก.ขาเข้าไปอยุ่แผนกเดียวกับแฟนเค้า และให้น้องที่เราสนิท สลับมาอยุ่กะเรา
แต่เราไม่เอา น้องก็ไม่ชอบงานด้านขาเข้า คือเหมือนเค้าจะเอื้อประโยชน์ให้ทีมเค้าอ่ะ เราคิดว่า
เราแค่จะถามว่า เราเป็นคนไม่มีความอดทนในการทำงานเหรอ หรือแบบทำงานไม่เต็มที่รึป่าว ในมุมมองของคนอื่น
เราแค่รู้สึกว่าหลายๆ อย่าง มันไม่แฟร์กับเรา เราไม่มีความสุขเลย ตั้งแต่ ผจก.คนนี้เข้ามา
เหมือนวัฒนธรรมองค์กรเปลี่ยน แล้วเราไม่ค่อยโอเค เราว่าเราก็ทุ่มเทกับงานนะ แต่ไม่ได้ทำตลอดเวลา
เราอายุ 25 เราอยากแบบทำงานด้วยและใช้ชีวิตไปด้วย ไม่ได้โหมงานมากเกินไป
ที่อื่นเค้าเป็นแบบนี้กันไหมคะ หรือเรา no power เอง เราจะออกรอบนึงแล้ว
แต่เจ้าของบริษัทขอไว้ จนเกิดเคสที่เค้าว่าเราโดยไม่ฟังเรานี่แหละ สับสนไปหมดแล้ว
ควรออกดีไหม สงสานนาย แต่ก็สงสารตัวเอง -__________-
เป็นแบบนี้คือเราไม่ทนงานรึป่าว
เลยตัดสินใจลาออก และหางานใหม่
ไม่นานนัก ก็ได้งานใหม่ค่ะ
อาจจะยาวนิดนึงนะคะ
ตอนนี้ก็ทำมาได้ 2 ปี แล้ว แต่เป็นบริษัทเล็กๆ
ตอนแรกทำแผนกขาออก โดนย้ายไปแผนกขาเข้า
โดนย้ายไปแผนกขนส่ง และปัจจุบันโดนยายมาทำขาเข้าแบบเดิม ให้ทำอะไร ก็คือทำได้หมด แต่ไม่เคยถามเรานะ ว่าเราอยากทำงานแผนกไหน
จับย้ายก็ย้ายเลย
ตอนหลังบริษัทมีการขยายองค์กร
มีผู้จัดการเข้ามาใหม่ สักพักเค้าพาแฟนเค้ามาทำด้วยเป็น ผจก.ขาออก และพาน้องคนสนิทมาทำ ผจก.ขาเข้า
ทั้งสามคนคือทำงานหนักมาก ต่างกับเรามากเลยค่ะ
1.เราเข้างาน 08.30-17.00 แต่เดินเข้าออฟฟิศ 7 โมงกว่าๆ
คือถามงานแล้ว แล้วก็ตามงานแล้ว อันนี้มันปกติของที่อื่นไหมคะ
2.เลิกงาน 17.00 เรากลับ 6 โมงบ้าง 5 โมงบ้าง ถ้าไม่มีเคสแบบต้องแก้ปัญหา
ถ้ามีก็ทุ่ม สองทุ่ม เราก็อยู่เคลียร์ แต่ถ้าไม่มีก็ 17.05 กลับเลย เพราะไม่มีค่าโอที ไม่มีไรทำ
ก็จะโดนสายตาแบบกลับแล้วเหรอ เราผิดเหรอคะ?
3.ให้ทำงานผ่านไลน์ หลังเลิกงาน จนดึกดื่นสามสี่ทุ่ม ให้ตอบไลน์ลูกค้า วีแชท ไลน์กลุ่มบริษัทตลอด
อันนี้ผิดกฏหมายไหม? เพราะเราไม่อยากทำ เรารู้สึกว่าเลิกงานคือเวลาส่วนตัว
4.เราทำโลจิสติกส์ สายเรือก็จะหยุดวันเสาร์ แต่ ผจก ก็ยังให้ลูกค้าบรรจุสินค้าวันที่ออฟฟิศหยุด
แล้วพอเกิดตู้รั่ว บรรจุไม่ได้ ก็ให้เราทำงานวันเสาร์ ซึ่งโดยปกติเราหยุดเสาร์ อาทิตย์
สมมุติออกไปข้างนอกในวันหยุดเราเองก็ต้องมานั่งเคลียร์ให้ทุกเสาร์ ดูหนังอยู่ก็ต้องออกมาแก้เคสบ่อยๆ
ละเราก็เกรงใจสายเรือ ที่ต้องโทรไปรบกวนวันหยุดคนอื่น
5.ชอบให้เราทำงานจุกจิก ป้ายบริษัท นามบัตร ออกแบบนั่นนี่ เคสยากๆ
พวกขอคืนอากรขาเข้า ขออนุญาตส่งออก ทั้งๆ ที่หน้าที่เราตอนนี้คือแผนกขาเข้าอ่ะ
6.ผจก.ใหญ่ กะ ผจก.ขาเข้า บอกว่าเราแบ่งลูกค้ากันทำ
แต่เอาจริงๆ พอมีงานมาเราทำให้หมด แต่พอเป็นลูกค้าเรา เค้าไม่ทำอะไรเลยอ่ะ
ให้เราดำเนินงานเอง แต่พอเป็นลูกค้าเค้า เค้าให้ งเราช่วยทำนะ
7.เงินเดือน ผจก.ขาเข้าเยอะกว่าเรามาก แต่เนื้องานคือเราเยอะกว่ามากๆ
เรามีบัตรกรมศุล เราออกไปติดต่อราชการ ทำแต่เคสยากๆ เราตัดสินใจแก้เคสยากๆ
ขอใบอนุญาตนำเข้า ส่งออก ขอคืนอากร ขอลดหย่อนภาษี ออกแบบนามบัตร
สั่งออฟฟิศเมสประจำเดือน ปิดงานให้วางบิลลูกค้า รับบิลจากแผนกอื่นๆ ตรวจสอบค่าใช้จ่ายตรวจสอบโปรแกรม
ส่งรายงานเวลาทำงานของพนักงาน ทำทุกอย่างที่เจ้าของบริษัทสั่ง คือเค้าทำแต่งานรูทีนอ่ะ เอกสารนำเข้า มัดจำตู้คอนเทนเทนเนอร์ ไม่กี่อย่างเอง
8.เงินเดือนออกไม่ตรงเวลา ออกสิ้นเดือนเลยแบบทุ่มสองทุ่ม ฟิลเลิกงานวันศุกร์สิ้นเดือน ฝันสลายหลายรอบละค่ะ เพราะเงินออกไม่ตรง สวัสดิการมีโบนัส ประกันสังคม เงินเดือนแบบบริษัทฝากเข้านะ โนเพลโรลอะไรทั้งนั้น
9.ปีใหม่แล้ว ยังไม่คุยเรื่องพิจารณาปรับเงินเดือนเลย เงินเท่าเดิมเลย ขึ้นไม่ขึ้น ก็ไม่มีชี้แจงแถลงไข
10.วันหยุดก้ต้องพกโน้ตบุ้คตอบอีเมล์ล ตอบไลน์ตลอด รับโทรศัพท์ตลอด ต่อให้ป่วยจนลุกไม่ได้ก็เถอะ ก็ต้องทำงานผ่านเมล์ล และบริษัทไม่มีพักร้อนให้นะ มีแค่ลาป่วยกับลากิจ
11.ล่าสุดมีประเด็น รถคอนเทนเนอร์เสีย แล้ว ผจก.ถามน้องในทีมเรา ว่าใครจะรับผิดชอบค่าโอทีของโรงงานลูกค้า
เพราะวันเสาร์ลูกค้าเค้าเลิกเร็ว เราเลยบอกไปว่าแล้วทำไมทำงานวันเสาร์
ทำไมถึงเอาความเสี่ยงค่าใช้จ่ายมาไว้กับบริษัทตัวเอง ทำไมก่อนหน้านี้ไม่แจ้งทีมตัวเองเรื่องเวลา ไม่คุยกันก่อน น้องจะได้กำชับรถ
แล้วนี่แอ็คซิเดน มันควบคุมไม่ได้ น้องในทีมไม่ได้ผิด รถมันเสีย แค่นั้นแหละ
เจ้าของบริษัทแกอ่านไทยไม่ออก ผ่านไปสี่สิบนาที แกไลน์มาว่าเราว่าโลจิสติกส์ต้องทำงานตลอด หยุดไม่ได้
เคยเห็นเรือไหนยุดหวิ่งเหรอ?
ประเด็นคือเค้าไม่ถามเราเลย เค้าฟังแต่ ผจก. เราสื่อว่าความเสี่ยงที่บริษัทต้องแบกรับ
ถ้ารับแพลนบรรจุวันเสาร์มากไป บริษัทต้องมารับภาระจ่ายค่าโอทีให้ลูกค้าตลอดเหรอ
ผจก.อาจจะไปเล่าอะไรรึป่าวอะ แบบนี้ แล้วเราไม่ชอบที่มาถามน้องว่าใครจะจ่ายเงิน
ใครรับผิดชอบ เราว่าเค้าเป็นผจก. น่าจะมีวิธีการพูดสอนน้องได้ดีกว่านี้
12.เวลามีปัญหา ผจก.หาตัวคนผิดก่อนเลย ละนั่งด่า คนที่แก้คือเรากะน้องๆซะส่วนใหญ่
สงสารน้องๆ มาก บางทีเรื่องนิดเดียว แก้ก็จบ ต้องมานั่งฟัง
13.บริษัทเล็กมากๆ เราเข้ามาเป็นพนักงานคนที่ 2 ตั้งแต่มีงานนิดเดียว ตอนนี้มีสิบกว่าคน และก็มีผจก.และผองเพื่อนเข้ามา
14.ทุกวันนี้ทนทำได้เพราะน้องในทีมสนิทกัน เหมือนเพื่อน เลยพอทนได้
15.เค้าเคยจะย้าย ผจก.ขาเข้าไปอยุ่แผนกเดียวกับแฟนเค้า และให้น้องที่เราสนิท สลับมาอยุ่กะเรา
แต่เราไม่เอา น้องก็ไม่ชอบงานด้านขาเข้า คือเหมือนเค้าจะเอื้อประโยชน์ให้ทีมเค้าอ่ะ เราคิดว่า
เราแค่จะถามว่า เราเป็นคนไม่มีความอดทนในการทำงานเหรอ หรือแบบทำงานไม่เต็มที่รึป่าว ในมุมมองของคนอื่น
เราแค่รู้สึกว่าหลายๆ อย่าง มันไม่แฟร์กับเรา เราไม่มีความสุขเลย ตั้งแต่ ผจก.คนนี้เข้ามา
เหมือนวัฒนธรรมองค์กรเปลี่ยน แล้วเราไม่ค่อยโอเค เราว่าเราก็ทุ่มเทกับงานนะ แต่ไม่ได้ทำตลอดเวลา
เราอายุ 25 เราอยากแบบทำงานด้วยและใช้ชีวิตไปด้วย ไม่ได้โหมงานมากเกินไป
ที่อื่นเค้าเป็นแบบนี้กันไหมคะ หรือเรา no power เอง เราจะออกรอบนึงแล้ว
แต่เจ้าของบริษัทขอไว้ จนเกิดเคสที่เค้าว่าเราโดยไม่ฟังเรานี่แหละ สับสนไปหมดแล้ว
ควรออกดีไหม สงสานนาย แต่ก็สงสารตัวเอง -__________-